ตอนที่ไม่มีชื่อ

1369 คำ
ป้อนด้วยรัก อันน์เดินออกมาจากห้องใต้ดิน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอาศัยอยู่ในเรือนไม้สองชั้นหลังใหญ่ อาหารเช้าถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆ แต่ยังโชคดีมีผลไม้ กล้วย และส้ม อันน์เลือกกินผลไม้มากกว่าอาหารตรงหน้า เขาไม่ไว้ใจธรรศ หากอีกฝ่ายไม่ใช้ยาพิษก็อาจผสมบางสิ่งที่กระตุ้นให้เขาหลงเสน่ห์ หรือขั้นร้ายแรงกว่านั้นคือพวกยาปลุกเซ็กซ์!! “รับรองไม่มียาเบื่อ แกควรกินให้เยอะๆ เดี๋ยวต้องใช้แรงทั้งวันเพื่อเล่นสนุกกับฉัน” อันน์มองจานอาหารข้างหน้า เป็นแพนเค้กหอมกรุ่นราดน้ำผึ้ง มีไส้กรอก มันม่วงบด ไข่คนกับเบคอน มองแล้วต้องประหลาดใจ ผู้ชายท่าทางดิบเถื่อนอย่างธรรศปรุงอาหารพวกนี้เป็นด้วยหรือ “ผมไม่ชอบกินอาหารฝรั่งตอนเช้า” อันน์ตอบออกไปอย่างที่ใจคิด “เอาสิ ถ้าไม่กินเดี๋ยวฉันเทให้หมาแดกเอง” เขาว่าจบจึงผิวปากเสียงดังจากนั้นสุนัขตัวโตสีดำและน้ำตาลเข้มก็วิ่งมาประจบธรรศ อันน์มองไปที่สุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูลเทอร์เรีย ท่าทางมันดูเหมือนไม่ไว้ใจเขา และยังคำรามขู่ชวนให้ขวัญเสีย “พวกมันคงหวงฉัน ฮ่าๆๆ แกควรระวังตัวไว้อย่าทำให้มันผิดใจแล้วกัน”ธรรศว่าพร้อมดึงจานอาหารตรงหน้าอันน์ไปให้สุนัขสองตัวรับประทานแทน อันน์มองอย่างเสียดาย ท้องเขาร้องหิวอยู่มาก แต่ไม่รู้ทำไมถึงทำอวดดีอวดเก่งกับธรรศ “ไม่อยากกินก็ไปรอฉันที่ห้องหนังสือ และอย่าเที่ยวจับนั่นจับนี่ให้วุ่นวาย” ธรรศออกคำสั่ง ก่อนเก็บจานบนโต๊ะเขาเดินหายไปที่ห้องครัว อันน์ก้าวช้าๆ ไปยังห้องหนังสือตามที่ธรรศบอก เรือนไม้หลังนี้บรรยากาศคล้ายอยู่ในรีสอร์ตกลางป่า ภายในบ้านเย็นสบาย หน้าต่างถูกเปิดรับลมที่โชยเข้ามา เขาสูดอากาศเต็มปอด รู้สึกโล่งสบายใจเป็นครั้งแรกที่ได้มาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ และจะดียิ่งขึ้นหากไม่มีใครบางคนที่ทำหน้ายักษ์ คอยมองเขาด้วยสายตาวาววับอยู่ตลอดเวลา เมื่อก้าวเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มมองภาพวาดสีน้ำมันซึ่งที่ติดอยู่บนฝาผนัง บางส่วนวางบนหลังตู้เขามองด้วยความเพลิดเพลิน รูปเหล่านั้นเป็นภาพเหมือนของคนดูมีชีวิตชีวา จากนั้น อันน์จึงเดินไปที่ชั้นหนังสือ เขาอมยิ้มชอบใจ บนชั้นมีหนังสือที่เขาชอบอยู่หลายเล่ม ทั้งวรรณกรรมเยาวชน นิยายแนวผจญภัย รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับป่า และนิยายลึกลับสยองขวัญ เขาเลือกหยิบหนังสือแนวลึกลับออกมาเล่มหนึ่ง รีบเปิดอ่านบทแรก โดยไม่ทันรู้ว่ากิริยานั้นกำลังถูกสายตาคมๆ จับจ้อง “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาอ่านหนังสือบ้าบอ มานี่ เดี๋ยวฉันจะดูแผลให้” ธรรศเรียกอันน์เข้าไปหา “ผมไม่ได้เป็นอะไร” ชายหนุ่มปฏิเสธ “อย่ามาเถียง แกยังปวดหัวอยู่ไม่ใช่เหรอ” อันน์ยอมรับเขายังรู้สึกปวดหนึบๆ อยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าเมื่อคืน “เป็นเพราะคุณนั่นแหละที่ทำร้ายผม”เขาย้ำคำพูดตัวเอง โดยไม่ยอมมองร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีเทาอ่อน และกางเกงยีนสีดำซีด อีกฝ่ายดูดีมาก ช่วงขายาว แผงอกกว้างและแน่น หนวดเคราบนใบหน้าขับให้เขาดูเหมือนจอมวายร้ายที่พร้อมกระชากใจทุกคนที่พบเห็น “ฮึ ถ้าเป็นคนฟาดหัวแก ป่านนี้แกไม่ได้มายืนเสนอหน้าอย่างนี้หรอก” ธรรศกล่าวจบก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา ก่อนบีบปากอันน์เพื่อให้เปิดออก “คะ คุณจะทำอะไร” อันน์ตื่นตระหนก และส่งเสียงอู้อี้ น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ ภาพเมื่อคืนยังอยู่ในหัว บางสิ่งที่อุ่นจัดของธรรศผ่านเข้าไปในโพรงปาก ทำให้ร่างกายอันน์ตอบสนองต่อความดิบเถื่อน ที่น่าเกลียดน่ากลัวยิ่งกว่าคือการที่ธรรศข่มเหงเขาทางประตูหลังด้วยแตงกวา “ป้อนยาไง อยากให้ป้อนด้วยมือ หรือปากดีล่ะ แต่สำหรับแกคงอยากให้ป้อนด้วยดุ้นดุ้นใหญ่มากกว่ามั้ง” อันน์เหลืออดแล้วในวินาทีนั้น เขาโมโหเป็นทุน เลยดิ้นขลุกขลักอย่างแรง ภาพต่อมาคือกำปั้นเขาส่งไปที่ปลายคางธรรศอย่างจัง คนตัวโตหนังหนา เพียงแต่คำรามออกมาหนึ่งคำ ก่อนโยนร่างของอันน์ลงไปกองบนพื้น “ไม่อยากกินก็ตามใจ คิดว่าฉันอยากยุ่งด้วยหรือ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!” อันน์ไม่กล้าเงยหน้ามองธรรศ เขาเพียงแต่ลงไปนั่งชันเขาและกอดตัวเองเอาไว้ กลัวอีกฝ่ายเข้ามาทำร้าย แต่เวลาผ่านไปนานร่วมครึ่งชั่วโมงธรรศยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น กระทั่งเขารู้สึกปลอดภัยจึงลุกขึ้นยืน และสืบเท้าออกจากห้องหนังสือ แต่แรกเขาไม่ได้อยากหาเรื่องใส่ตัว แต่การอยู่เพียงลำพังเช่นนั้นพลอยทำให้ฟุ้งซ่าน จึงคิดอยากพูดคุยกับธรรศ อย่างน้อยได้ปรับความเข้าใจกับอีกฝ่ายคงทำให้เขาอยู่ที่นี่ง่ายขึ้น ชายหนุ่มสืบเท้าไปกระทั่งถึงด้านหลังเรือนไม้ เขาพบว่ามีห้องใต้ดิน คงเป็นสถานที่อีกฝ่ายจับเขามาขังเมื่อคืน แต่ไม่ทันที่อันน์เปิดประตูห้องใต้ดิน เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง!! เขาหันขวับไปมอง มองแล้วนึกฉงน คนที่ยืนอยู่ไม่ใช่ธรรศ เป็นหนุ่มรูปงามร่างเพรียวผิวขาวเหลือง และส่งยิ้มกว้างให้เขาราวกับสนิทสนมกัน “จุ๊ๆ อย่าหาเรื่องให้ตนเองเจ็บตัวดีกว่า รีบกลับไปที่ห้องหนังสือซะ นายกำลังมา ขืนช้ากว่านี้คุณอาจถูกจับมัดแล้วโบยด้วยแส้ และตามด้วยน้ำตาเทียน แถมท้ายด้วยดิลโด้ยักษ์ทะลวงตูด!” “คะ คุณเป็นใคร ชะ ช่วยผมได้ไหม ผมกลัว”อันน์ละล่ำละลักถามเสียงตื่น พร้อมโผเข้ามาหาอีกฝ่ายใกล้ๆ ชายคนนั้นอายุคงห่างจากเขาไม่กี่ปี แต่ท่าทางดูพิลึกสักหน่อย “ผมช่วยได้นะ แต่คุณต้องยอมตกเป็นของผมเสียก่อน กล้าไหมล่ะ ยอมเป็นเมียและผัวของผม... ฮิๆ” อีกฝ่ายเอ่ยจบจึงยื่นมือมาลูบต้นขาอันน์ สัมผัสเย็นชืดจากคนตรงหน้าทำให้อันน์ถอยกรูด เขามองชายคนนั้นด้วยความตื่นตะลึง “ตะ ตัวคุณเย็นมาก” “ตัวผมเย็นก็จริง แต่ไอ้นั่นโคตรอุ่น” เขาว่าแล้วจึงล้วงเข้าไปในกางเกง ภาพนั้นทำให้อันน์ช็อก พอตั้งสติได้จึงรีบวิ่งกลับไปห้องหนังสือทันที เขาวิ่งอย่างเร็ว การเคลื่อนไหวของเขาทำให้สุนัขสองตัวตกใจ พวกมันเห่ากรรโชกเสียงดัง และวิ่งไล่ฟัดเขาราวกับเห็นเป็นศัตรู อันน์พุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต เขาไม่อยากถูกพวกมันขย้ำ จึงสาวเท้ายาวๆ ด้วยใจเต้นระทึก แต่เท้าดันไปสะดุดพรมขนสัตว์ เขาจึงกลิ้งไปบนพื้นจนจุกเจ็บ เป็นจังหวะนั้นที่สายรัดข้อเท้ามีสัญญาณสีแดงโร่ ก่อนส่งเสียงหวีดแหลมลั่น ชายหนุ่มตกใจมาก กลัวมันส่งกระแสไฟฟ้าช็อตเขา วินาทีต่อมาที่สุนัขทั้งสองตัวตามเขาพบ พวกมันแสยะยิ้มกว้างจ้องเขาเขม็ง อันน์พยายามไม่ขยับตัว และมองพวกมันกลับพลางยื่นมือสะเปะสะปะเพื่อหาสิ่งป้องกันตัวแต่ไม่พบสิ่งใด เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ตั้งใจหลบไปยังห้องซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด เมื่อลุกยืนได้จึงทะยานเข้าไปในห้องฝั่งซ้ายมือที่ประตูเปิดแง้มไว้ อึดใจต่อมาอันน์ต้องสะดุ้งเมื่อชนโครมเข้ากับบางสิ่งซึ่งเย็นชืด สิ่งนั้นล้มลงฟาดพื้นและเสียหายอย่างหนัก อันน์ร้องด้วยความตกใจ สิ่งที่เขาชนคือหุ่นปั้นขนาดครึ่งตัว และใบหน้าของหุ่นคล้ายถอดแบบมาจากเขาอย่างไม่ผิดเพี้ยน!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม