Soulmate 7 : แค่กับเธอ

2968 คำ
“ฉันกินอะไรไม่อร่อยมาเป็นอาทิตย์แล้ว เพราะเธอ เธอต้องรับผิดชอบ” “รับผะ..ผิด ชะ..ชอบยังไง” ฉันเริ่มกลัวนิดๆ แต่ก็ไม่อาจจะละสายตานี้ได้เลย สายตาแบบนี้มันหมายความว่ายังไงนะ ไม่มีคำตอบใดๆจากคนตรงหน้า มีเพียงริมฝีปากที่ป้อนใส่ปากฉันเท่านั้น ถึงจะไม่เข้าใจแต่ฉันกลับรับจูบของเขาเป็นอย่างดี “อ้าปากหน่อย” ฉันเผยอปากน้อยๆ ตามคำสั่งคนตรงหน้า ลิ้นอุ่นๆถูกดันเข้ามาเข้ามาช้าๆ ไม่ไหวจูบแบบนี้เหมือนถูกดูดวิญญาณเลย นายรุกล้ำพื้นที่ในปากของฉันแบบนี้ ฉันจะเอาลิ้นของฉันไปที่ไว้ที่ไหนล่ะ “จูบไม่ได้เรื่องเลย” “งั้นก็ไม่ต้องจูบแล้ว” ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ “เดี๋ยวฉันสอนเอง” ฉันถูกพลิกขึ้นมานั่งอยู่บนตัก ของคนตรงหน้าก่อนที่ริมปากเขาจะประกบลงมาอีก ฉันรีบเอามือดันเขาออกนิดๆ “อย่ามาเล่นกับความรู้สึกฉันแบบนี้นะ นายจะมาจูบคนอื่นมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้” เมื่อสิ้นเสียงของฉัน คนตรงหน้าหยุด เพื่อฟังในสิ่งที่ฉันพูด “ต่อไปฉันจะจูบแค่เธอ” คำตอบที่ทำเอาหัวใจเต้นรัวอย่างกับตีกลอง เป็นการบอกชอบหรือเปล่า จะจูบแค่ฉันอย่างงั้นเหรอ “นายชอบฉันแล้วหรอ” “เปล่า แค่จูบใครไม่อร่อยมาเป็นอาทิตย์แล้ว มันรู้สึกแค่กับเธอ” เขาพยายามจะดึงฉันลงไปจูบอีก แต่ฉันก็ดันเขาออก อยากได้คำสัญญามากกว่านี้ก่อน “คบกับฉันสิคะ แบบจริงจัง” ฉันร้องขอสิ่งที่ฉันต้องการ “มากไป” “ปฏิเสธ งั้นฉันกลับละ” ฉันลุกขึ้นจากตักของเขาทันที อยากดูปฏิกิริยาว่าจะทำยังไง เขาดูครุ่นคิดนิดๆ “ขอคิดดูก่อน ฉันแค่ยังไม่พร้อมจะมีใคร แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสนใจเธอมากกว่าคนอื่น” ภาพของเขาที่กำลังพูดโดยไม่สบตาฉันแบบนี้มันดูน่ารักจังเลยนะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวันนี้ ฉันคิดว่าฉันควรจะกลับได้แล้ว “ก็ยังดี ที่นายไม่ปฏิเสธฉันอีกแล้ว ไม่ว่านายปฏิเสธฉันกี่ครั้งมันก็ยังเป็นนาย เพราะนายเป็นคนเดียวที่ทำให้หัวใจของฉันมันเต้นแรง” ฉันเองไม่สามารถมองใคร นอกจากนายเช่นกัน ……. ภาพที่หญิงสาวค่อยๆหันมา ถึงมันจะอยู่ในแสงไฟหรี่ๆ แต่เขากลับมองว่ามันช่างสวยเหลือเกิน เขาไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แต่เพียงแค่เขามีผู้หญิงอีกคนอยู่ในใจอยู่แล้ว ====================== ในวันถัดมา..... วันนี้เราต้องมาทำงานที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง ในปริมณฑลไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เป็นฟาร์มที่สวยแล้วใหญ่มาก แต่จุดสำคัญของฟาร์มที่นี่คือวิวที่สวย พร็อพน่ารักๆ ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพ แต่การทำงานนอกสถานที่นี่มันไม่ง่ายเลย แดดประเทศไทยที่แสนจะร้อน กับอารมณ์ที่รุนแรงของพี่ตากล้อง จะเอาร้อนฉ่าถึงไหน แค่นี้แดดก็แรงจะแย่แล้ว แล้วต้องใส่ชุดแบบนี้ ต่อหน้าเขาแบบนี้ ทั้งที่เมื่อวานเพิ่งจะจูบกันไป ริมฝีปากของฉันยังจำรสจูบนั้นได้อยู่เลย “ยืนหันหลัง แล้วหันหน้ามาหากล้องครับ” ฉันทำตามที่พี่ตากล้องบอก แต่ชุดแบบนี้มันพาอายจังเลย แถมเติร์ดยังมองอยู่ด้วย ทำไมต้องมาอายเขาแบบนี้ด้วยนะ อาจจะเพราะจูบเมื่อคืน หรือจะเป็นเพราะที่เขาไม่ปฏิเสธฉันกันนะ “ดีครับ สวย!! ผมขออีกนิดเดี๋ยวเปลี่ยนชุดได้เลยนะครับ” เมื่อพี่ตากล้องได้ภาพที่พอใจ ก็ให้ฉันไปเปลี่ยนชุด ทั้งเหนื่อยทั้งร้าเลย เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันก็ถือของพะรุงพะรัง เดินออกมาจากห้องแต่งตัว “เหนื่อยสุดๆ มีอะไรเหนื่อยกว่านี้อีกไหม” ฉันบ่นพึมพำออกมา ระหว่างเดินออกมาห้องแต่งตัว แม่บอกต้องเลี้ยวซ้ายสินะ แต่ทำไมไม่คุ้นทางเลย ทั้งๆที่ฉันเพิ่งจะเดินผ่านมาเมื่อกี้ หรือต้องเดินไปทางนี้นะ แย่ละสิ ทางมันเริ่มไม่คุ้นไปเรื่อยๆ โทรศัพท์มือถือก็ไม่ได้พกมา ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเลยนะ ฉันยังคงเดินไปเลื่อยๆ แต่ทำไมยิ่งเดินมันยิ่งไกลออกไป ทำยังไงดี เดินกลับไปทางเดิมก็แล้วกัน แต่พอจะคิดกลับไปทางเดิม ทางมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทำยังไงดี กลัวจัง ทำไมโรคหลงทิศของฉันมันได้รุนแรงแบบนี้ แค่เดินผ่านมาก็จำทางไม่ได้ซะแล้ว แม่จะกำลังตามหาฉันอยู่ไหมนะ ฉันยังคงเดินไปเรื่อยๆ อยู่ไหนกันนะ ยิ่งเดินไปแบบนี้ ความกลัวในวัยเด็กมันเริ่มทำงาน กลไกลของสมองมันทำให้ฉันเริ่มคิดไปเอง ถ้าเขากลับไปหมดแล้วทิ้งฉันที่นี่ล่ะ ฉันทรุดตัวนั่งลงที่จุดเดิม ที่ฉันเดินผ่านมา 2 แล้ว ทำไมมันถึงกลับมาที่เดิมวะ “สาวสวยทำไมมาคนเดียวจ๊ะ” ชายกลุ่มนึงเดินเข้ามาทัก “เห็นกองถ่าย มาถ่ายงานแถวนี้ไหมคะ” “เห็นสิ มาสิพี่พาไป” ท่าไม่ดีแล้ว ฉันเลยรีบเดินหนีไปอีกทาง จนไปชนกับใครคนนึงเข้า “ผมเห็นคุณถามหากองถ่าย มันอยู่คนละฝั่งเลยนะครับ ทำไมถึงมาถึงนี่” ชายหนุ่มคนนึง พูดกับฉันด้วยท่าทีเป็นมิตร “ขอโทษค่ะ ฉันหลง” “ผมพาไปเอง หลงมาไกลนะครับ ฝั่งตรงนี้น่าจะเป็นบ้านพักคนงาน” ผู้ชายคนนั้นมองพิจารณาไปรอบๆ “แล้วคุณผ่านมาแถวนี้ได้ไง” “ เอาจริงๆ ผมตามคุณมา ผมเห็นคุณเดินไปเดินมาหลายรอบเลย คนปกติคงไม่เดินวนทางเดิมหลายๆรอบ ผมเลยคิดว่าคุณอาจจะกำลังมีปัญหา” “เดาถูกเป๊ะเลยค่ะ” ฉันหันไปยิ้มเจื่อนๆให้เขา “ คุณยิ้มสวย” ฉันอึ้งกับคำชมของคนตรงหน้านิดๆ ก่อนจะพยายามเปลี่ยนเรื่อง “ต้องขอบคุณนะคะ ที่ช่วย” “เรียกผมคิม ก็ได้นะ แล้วผมจะเรียกคุณว่าอะไรดี” ทำไมเขาถึงได้ดูเจิดจ้าจังเลยนะ ดูมีเสน่ห์เกินคนปกติ “มินิทค่ะ” คุณคิมเดินมาส่งฉันจนถึงกองถ่าย ทุกคนกำลังร้อนใจที่ฉันหายไป จึงรีบเดินเข้ามาหาฉันด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะแม่ของฉันเอง “พาเด็กหลงมาส่งกลับครับ” “บอสไปเจอน้องมินิทที่ไหนครับ” พี่ตากล้องเรียกคุณคิมว่าบอสงั้นหรอ มันทำให้ฉันต้องหันไปมองคุณคิม นี่ฉันให้ระดับผู้บริหารมาตามหาเลยเหรอ “ไปหลงที่ไหนมา เพราะแบบนี้ไงถึงไม่อยากให้ไปไหน” แม่เอามือมาแนบแก้มทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ แล้วพลิกหน้าฉันไปมาด้วยความเป็นห่วง “คุณคิมเค้าช่วยหนูไว้ ไม่งัั้นป่านนี้หนูคงยังเดินไปเดินมา” แม่ลูบผมฉันเบาๆ เหมือนจะปลอบว่าไม่เป็นไรแล้วนะ “พี่ขอบคุณคุณคิมมากนะคะ ที่พาลูกพี่มาส่ง” แม่กล่าวขอบคุณ แต่ดูเหมือนแม่จะรู้จักคุณคิมอยู่แล้ว “ที่แท้ก็ลูกสาวพี่มิล่า เปลี่ยนจากคำขอบคุณ เป็นให้ผมเลี้ยงข้าวน้องสักมื้อ” คุณคิมส่งยิ้มให้เป็นมิตรเหมือนเช่นเคย ยิ้มของผู้ชายคนนี้ทำไมมันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆนะ ฉันมองภาพของคนที่ต้องเนียบอยู่ตลอดเวลา แต่ตอนนี้กลับถอดเสื้อนอกพาดแขนเอาไว้ แล้วเก๊กหน้านิ่งๆ เดินช้าๆเข้ามาถามว่าฉันกลับมาตอนไหน “กลับมานานแล้วหรอ” เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้า แสดงว่าไปตามหาฉันมาสินะ “คุณคิมพามาส่งค่ะ ถ้าไม่ได้คุณคิมฉันคงหลงไปไกล” “ปลอดภัยก็ดีแล้ว จะให้นางแบบมาหายไปในงานของฉัน มันคงดูไม่ดี” จะพูดว่าเป็นห่วงสักคำไม่ได้เลยรึไง แล้วไปวิ่งที่ไหนมา ทำไมเหงื่อแตกขนาดนี้ “สงสัยกองนี้ ผมต้องมาฝากตัวซะแล้ว” คุณคิมยื่นหน้าเข้ามายิ้มใกล้ๆฉัน แต่ฉันกลับโดนดึงให้ถอยออกมา ฉันหันไปมองตามคนที่ดึงแขนฉัน สายตาดุๆที่มองคุณคิม นี่เติร์ดกำลังหึงงั้นหรอ พอเรื่องวุ่นวายจบ เราก็นั่งรถตู้ที่ทางแบรนด์จัดหาให้กลับกรุงเทพ ทีมงานทุกคนเข้าไปนั่งที่ด้านหลัง เติร์ด ฉัน และแม่ ที่นั่งเบาะหลังคนขับ เหนื่อยจังเลย ฉันหันไปมองคนข้างๆ ที่นั่งทำเป็นไม่สนใจอะไร เย็นชาจังเลยนะ รู้สึกดูเหมือนตัวเองคิดไปเองอยู่คนเดียวเลย ทั้งที่บอกสนใจฉัน แต่ทำไมฉันกลับไม่รู้สึกเลย ฉันหลับไปโดยไม่รู้ตัวเพราะความเหนื่อยล้าจากงาน และที่หลงในฟาร์มนานสองนาน ========= หญิงสาวนอนหลับ หัวเอียงซ้ายที ขวาที บางทีก็หน้าทิ่มลงไปข้างหน้า ทำให้ชายหนุ่มอดแอบขำไม่ได้ เขาเลยต้องเอามือจับหัวเธอตั้งตรงอีกครั้ง แต่พอเอามือออก หัวของเธอก็เอียงอีก แต่ครั้งนี้มันกลับซบมาที่ไหล่ของเขา แต่เขานั้นก็ไม่ได้ผลักหัวเธอออกแต่อย่างใด ปล่อยให้เธอซบอยู่แบบนั้น เวลาที่รถเบรกแรง เขาก็ยังจับหัวสาวตัวน้อยลงมาซบที่ไหล่เหมือนเดิม การกระทำของชายหนุ่ม ไม่อาจจะผ่านสายตาของคนเป็นแม่ที่นั่งถัดไปได้เลย ================ วันถัดมา.. ตอนเช้าคุณคิมโทรเข้าหาแม่ฉัน เพื่อมาทวงคำขอบคุณ แน่นอนว่าเมื่อวานเขาช่วยฉันไว้ จะให้ปฏิเสธก็คงไม่ได้ ก็เลยต้องยอมนั่งรถไปกินข้าวแต่โดยดี โดยแม่ตั้งกฏเหล็กว่าห้ามปล่อยฉันไว้คนเดียวเด็ดขาด ซึ่งคุณคิมก็รับปากเป็นอย่างดี พอมองนานๆเข้า ฉันกลับรู้สึกไม่ชอบยิ้มของเขาเลย มันเหมือนว่าเขาแค่กำลังซ่อนอยู่ใต้หน้ากาก มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด เพราะเขาจะยิ้มทุกครั้งที่ฉันหันไป แม้ไม่ได้คุยอะไรกันก็ยังยิ้ม “ฉันอึดอัดค่ะ” “รถพี่แคบไปหรอ” “เพราะคุณยิ้มอยู่ตลอดเวลาค่ะ” ฉันพูดออกไปตรงๆ เพราะรอยยิ้มของคุณคิมนั้นมันน่าอึดอัด “แล้วมินิทชอบแบบไหนล่ะคะ” คุณคิมหยุดยิ้มแล้วหันมองมาที่ฉัน “เป็นตัวเองมั้งคะ” ฉันไม่ได้สานความสัมพันธ์ เพียงแค่อยากจะจบความอึดอัดนี้เท่านั้น แล้วมันก็ได้ผล คุณคิมยิ้มน้อยลง ไม่ยิ้มเลยดีกว่า หรือจะช็อค หรือฉันจะพูดแรงไป “เป็นการทำลายความเงียบที่น่าสนใจนะ” “ฉันเสียมารยาทไปหรือเปล่า” กว่าจะรู้ตัว ว่าตัวเองพูดอะไรที่เสียมารยาทออกไป “แล้วถ้าไอ้การเป็นตัวเอง แล้วมันไม่ใช่คนดีแบบที่เธอชอบล่ะ” ทำไมจะต้องมาสนใจว่าฉันชอบไม่ชอบ แค่กินข้าว “จีบฉันหรือคะ” “ได้ปะ” “ฉันมีคนที่ชอบแล้วค่ะ” ตัดจบไปเลยก็แล้วกัน “พี่ไม่แคร์หรอก พี่แค่ชอบหน้าเธอตอนกำลังจะร้องไห้อะ” ประโยคของคุณคิมทำเอาฉันหันควับ คนบ้าอะไร มาชอบหน้าคนตอนจะร้องไห้ “พี่นี่ก็แปลก มาชอบอะไรหน้าฉันตอนจะร้องไห้” คำถามของฉันที่ตอนนี้ไร้คำตอบ รถเลี้ยวเข้าลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เราวนหาที่จอดรถกันอยู่นานกว่าจะได้ที่จอดในชั้นบนๆหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่จะวนขึ้นมาไม่ถึง ในขณะที่ฉันจะลงรถ คุณคิมกลับเอี้ยวตัวมาดึงประตูของฉันไว้ไม่ให้เปิด มันทำให้ฉันและเขาห่างกันเพียงแค่นิดเดียว “ใกล้ไปแล้วค่ะ” “ อยากใกล้มากกว่านี้นะ” ฉันพยายามหันหนีคนตรงหน้า “ฉันมีคนที่ชอบแล้วค่ะ” “มันไม่ได้แปลว่าเค้าก็ชอบเธอ แล้วพี่ดันชอบเธอเข้าแล้วสิ” ฉันไม่เคยเจอคนรุกแรงแบบนี้เลย ต้องรีบออกจากรถให้ได้ก่อน “ฉันว่าเราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ ฉันหิวจังเลย” ฉันฉีกยิ้มกว้าง ใจดีสู้เสือเอาไว้มินิท “มองตาพี่ก่อน แล้วจะให้ลง เธอบอกให้พี่เป็นตัวเองเองนะ” “แค่มองตาก็พอใช่ไหมคะ” ฉันหันไปมองตาคุณคิมที่อยู่ในระยะใกล้ๆ ถึงจะไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนนอกจากเติร์ด แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้แบบนี้ ทำไมมันถึงใกล้เข้ามาอีก ร่างกายมันทำงานอัตโนมัติ มือถูกยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้ การกระทำของฉันทำเอาคนตรงข้ามปล่อยหัวเราะก๊ากออกมา “โทษที ๆ น่ารักนะเธอเนี่ย ปะ กินข้าวกัน เอาเบอร์เธอมาด้วย” “เอาไปทำไมคะ” “เผื่อหลงไง พี่จะได้ตามหาเธอได้ถูก” คุณคิมพูดพร้อมส่งโทรศัพท์มาให้ฉันเพื่อกดเบอร์ แต่เพราะเหตุผลของเขามันได้ ฉันเลยยอมกดเบอร์ของฉันให้แต่โดยดี เขากดโทรออกทันที ฉันเลยต้องโชว์ให้ดูว่าสายมันเข้าแล้ว วันนี้ที่ห้างสรรพสินค้า มีคนเยอะเป็นพิเศษ มีคอนเสิร์ต หรือมีดาราคนไหนมารึไงนะ คนเยอะจัง พอยิ่งลงมาชั้นล่างๆคนก็ยิ่งเยอะ ฉันพยายามมองหลังของคุณคิมเอาไว้ จะได้ไม่คาดกัน แต่เพราะคนที่เยอะมันทำเอาฉันโฟกัสที่หลังคุณคิมคนเดียวไม่ได้เลย “เดินแบบนี้ไง ถึงได้หลง” พี่คิมจับข้อมือของฉันไว้แน่น แล้วจูงเดินไปเรื่อยๆ ผ่านผู้คนมากมาย ทำไมฉันกลับรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาทำ มันเป็นครั้งแรกที่โดนผู้ชายจูงมือเดินแบบนี้ ถึงมันจะไม่ต่างอะไรจากการลากก็เถอะ “พี่คิมคะ ปล่อยก่อนดีไหมคะ ฉันเจ็บ ตรงนี้คนก็โล่งแล้วด้วย” สิ้นเสียงของฉันคุณคิมค่อยๆปล่อยข้อมือเล็กๆของฉันที่ตอนนี้แดงเป็นรอยมือเลย “พี่ขอโทษนะ พี่คงจับแรงไป พี่กลัวเธอหายไป ถ้าคนเยอะแบบนั้น เธออาจจะแย่” พี่คิมพูดพรางถูข้อมือให้ฉันเบา ๆ กลัวฉันหายไปอย่างงั้นหรอ เมื่อทุกอย่างกลับสู่ปกติ ปัญหาที่สองที่ตามมาคือ โต๊ะเต็มทุกร้าน เพราะวันนี้มีคอนเสิร์ตของศิลปินเกาหลี คนเลยแห่กันมาเพียบ ทำให้ตามร้านอาหารคนเต็มไปหมด สงสัยวันนี้ฉันคงไม่ได้กินข้าวแล้วล่ะ “ถ้าเธอไม่ติดว่าต้องกินในห้างเท่านั้น พี่พาไปกินข้างนอกได้นะ” “ไปค่ะ” ฉันตอบแบบไม่คิดเลยเพราะหิวมากๆ เพราะว่าจะออกจากบ้าน ขับรถมา วนหาที่จอด ผ่าฝูงชน มันก็จะบ่ายแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า พี่คิมจูงมือฉันผ่าฝูงชนอีกครั้งเพื่อที่จะขึ้นไปที่ลานจอดรถชั้นเดิม แล้วอยู่ดีๆพี่เขาก็ขำออกมา “55555 ตลกอะ ขับมาทำไมวะ อย่างที่เธอบอก เป็นตัวเองตั้งแต่แรกก็จบละ” รถคันหรูคับมาจอดแถวเยาวราช แล้วจบที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนึง เมื่ออาหารมาเสริฟฉันก็ไม่รอช้า รีบจัดการมันทันที “เบาอีหนู เดี๋ยวติดคอ” “อร่อยอะ” “ไม่กินผัก ???“ “ค่ะ ทำไมคะ” “งั้นพี่กินเอง ป้อนหน่อยๆ” พี่คิมชี้ไปที่ผักในชามของฉัน คนอะไรแบบนี้เนี่ย ก่อนจะเร่งด้วยสายตาให้เร็วๆ ฉันเลยต้องจำใจคีบผักบุ้งใส่ปากของคนที่นั่งตรงข้าม คนประหลาด “คนที่เธอชอบเค้าเป็นยังไงอะ” ฉันคีบผักบุ้งใส่ปากคนที่กำลังตั้งคำถาม “เค้าเป็นคนที่เคยช่วยฉันจากลูกบาส ตอนมัธยมค่ะ หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่มองผู้ชายคนไหนอีกเลย ถึงตอนนี้จะขี้เก๊ก มาดเยอะ ยิ้มยาก ปากร้าย แถมตอนนี้ยังปากแข็งด้วย” “พี่ก็ช่วยเธอ แสดงว่าพี่ก็อาจจะมีสิทธิ์” พี่คิมสรุปเองด้วยหน้าตาที่เฉยมาก ฉันเลยคีบผักบุ้งใส่ปากเขาไปอีกที จะได้หยุดพูด “ไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้หัวใจฉันเต้นตึกตักได้อีกแล้วล่ะค่ะ” “การที่เธอปิดกั้นตัวเอง จากผู้ชายทุกคน ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนทำได้” ฉันอึ้งคำพูดของคุณคิม เพราะฉันเองไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย คุณคิมเรียกเก็บตัง ก่อนจะพาฉันเดินซื้อขนมและไปส่งที่บ้านในเวลาหัวค่ำ “ขอโทษนะครับพี่มิล่า ที่พาน้องมาส่งช้า พอดีมีเปลี่ยนแผนกันกลางทาง ต่อจากนี้ไปผมขอฝากตัวด้วยนะครับ” ฝากตัวคืออะไร ทำไมต้องฝากตัว จะมีครั้งหน้าหรอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม