Soulmate 8 : ภาพเบลอ

2426 คำ
พี่คิมมาที่บ้านฉันอีกครั้งในวันต่อมา อะไรของเขาเนี่ย มาพร้อมขนมเต็มสองมือ ฉันหันไปมองหน้าแม่ที่ยิ้มแฉ่ง คืออะไรอะ ชอบผู้ชายเข้าหางั้นเหรอ แบบอารมณ์จีบเปิดเผย อะไรแบบนี้นะเหรอ “มินิทไปเอาจานมาใส่ขนมให้พี่เค้าหน่อยสิลูก” “ค่ะ” ฉันชำเลืองดูแม่กับพี่คิมนิดๆ ว่าวันนี้จะออกไปหาเติร์ดนะเนี่ย เฮ้ออออ ไว้รอพี่คิมกลับก่อนก็ได้ ไม่รับแขกอาจจะดูเสียมารยาทเกินไป “ได้ยังนังหนู” เสียงพี่คิมตะโกนเร่ง แขกอะไรเนี่ยมาเร่งเจ้าของบ้านด้วย ฉันยกจานมาวางบนโต๊ะ แล้วเหล่ตามองพี่คิมนิดๆ “ลองดู ร้านนี้อร่อย” แม่จัดขนมจีบใส่จานราดน้ำจิ้มให้เรียบร้อย “กินกันไปก่อนนะ พี่ไปคุยงานก่อน” ใครก็ดูออกว่าแม่ตั้งใจเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่กับฉันสองคน “ลองดู อร่อยจริง” พี่คิมหยิบส้อมมาจิ้มขนมจีบ แล้วยื่นมาให้ฉัน แต่พอฉันจะหยิบส้อมจากมือเขา เขาก็ชักมือออก สรุปคือจะป้อนสินะ “อ้าาาม” ขนมจีบถูกป้อนเข้ามาในปากของฉัน อุ้วววว อร่อยจริงๆด้วย กัดเข้าไปมีแต่หมู งุมๆ “วันนี้แต่งตัวน่ารัก” “น่ารักอะไรคะ หน้าสด” “ก็น่ารักแบบของเธอ ไม่เห็นต้องแต่งอะไรเลย เธอเป็นเธอแบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว” ให้มันได้อย่างงี้สิ หยอดเก่ง เอาซะเขินเลย พอไม่มียิ้มที่น่าอึดอัด มันทำให้เห็นความเป็นธรรมชาติ ความกวนๆที่ส่งทางสายตา รอยยิ้มอะไรก็ดูเป็นธรรมชาติไปหมด ฉันมองคนตรงหน้าที่กำลังเขี้ยวขนมจีบคำใหญ่ ติ๊งต่องงงง ~* เสียงกดออดหน้าประตู มันทำให้ฉันต้องละจากขนมจีบตรงหน้าออกไปดู อ๊าาา เติร์ด มาหาถึงบ้านเลย เป็นไปได้ยังไง!!! “คิดถึงหรอ” ฉันฉีกยิ้มหวานด้วยความดีใจ “แค่มาคุยเรื่องงานอะ” ฉันยิ้มให้คนที่มาคุยเรื่องงานในวันหยุด “แค่นั้นจริงๆหรอคะ” “ทำไมหายไป เดี๋ยวนี้โทรก็ไม่ยอมโทรมา” เสียงที่อ่อนลง กับอาการพูดที่ไม่กล้าสบตา แบบนี้มันน่ารักมากเลย “บอกคิดถึงฉันสิ ฉันจะโทรหาทุกวันเลย” “ช่างเถอะ คิดซะว่าไม่ได้พูดละกัน” เติร์ดหลบสายตาฉัน แล้วกำลังเดินหนีกลับบ้าน “มีอะไรเปล่ามินิท" เสียงของผู้ชายอีกคนที่เดินออกมาจากบ้าน ทำให้ขาของเขาชะงัก หันกลับมาทันควัน สายตาเย็นๆ ที่มองฉันอย่างผิดหวัง มันทำให้ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นความสัมพันธ์มันจะถอยหลังไปอีก “พี่คิมขอโทษค่ะ แต่ฉันชอบเค้า ชอบมานานแล้ว เขาคือคนที่ฉันบอกพี่ ว่าฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” ฉันพูดดังพอที่ให้คนที่หัวร้อนที่อยู่ไม่ไกลได้ยิน ฉันไม่ได้ชอบพี่คิมสักหน่อย แล้วฉันจะไม่ให้คนที่ฉันชอบเข้าใจผิดด้วย เติร์ดเดินกลับมาที่หน้าบ้านฉัน “ถ้าชอบฉัน ก็มากับฉัน” สายตาแบบนี้คืออะไร ไม่เชื่อใจฉันงั้นเหรอ “ได้ไงเจ้าหนู วันนี้พี่เป็นแขก” “ฉันคิดถึงเธอ” คำพูดที่ทำเอาฉันใจเต้นไม่ยอมหยุด ถึงตัวจะอยู่ในบ้าน แต่ใจของฉันเปิดประตูบ้าน ตามเขาออกไปแล้ว “ที่บอกคิดถึง เพราะคิดถึงจริงๆ หรือแค่อยากชนะครับ คุณณณ” “ผมยังใช้บริการบริษัทของคุณอยู่” “ก็นึกว่าเจ๋ง ที่แท้ก็เด็กที่แยกไม่ออก ว่างานหรือส่วนตัว” พี่คิมมองเติร์ดด้วยสายตากวนๆ ดูก็รู้ว่าตอนนี้เติร์ดกำลังหงุดหงิด “เฮ้อออออ ให้มันได้แบบนี้สิ ฉันควรจะทำยังไงดี” ฉันมองตาดุๆของคนตรงหน้า “ไปกับฉัน” “แต่ฉันมีแขก ถึงจะอยากไปแต่มันเสียมารยาท รอพี่คิมกลับก่อนเดี๋ยวเดินไปหาที่บ้านได้ไหม ฉันไม่อยากทะเลาะกับแม่อะนาย” ฉันต่อรองกับคนที่คิ้วผูกโบว์ด้วยความหงุดหงิด “ทั้งคู่คบกันอยู่หรือไง” พี่คิมยิงคำถามที่แม้แต่ตัวฉันเองก็อยากรู้ “เปล่า แต่จะเป็นอะไรกัน มันสำคัญหรือไง” คำตอบที่ทำเอาฉันจุกเหมือนกัน นั่นสิ สถานะของเรามันไม่เคยชัดเจนมาตั้งแต่แรก มีแต่เราที่คิดไปเองรึเปล่า ว่าความสัมพันธ์มันคืบหน้า ที่ผ่านมามันอาจจะเป็นแค่เซอร์วิสของเขาก็ได้ ฉันไม่ได้ชอบพี่คิม แต่แค่หงุดหงิดในความไม่ชัดเจนของคนตรงหน้า ความรักมันทำให้ความอยากของฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้วสินะ อยากได้ความชัดเจน “ฉันชัดเจนมาตลอดเลย แต่สำหรับนายแล้ว ฉันคงเป็นแค่ภาพเบลอสินะ แบบนี้ ถ้าฉันเจอคนที่มองเห็นฉันชัดเจน ฉันก็ควรจะให้โอกาสเค้าใช่ไหม” ฉันเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจ สองคนข้างนอกนั่นอีก อยากทำอะไรก็ทำก็แล้วกัน ความรักนี่มันนำมาซึ่งความเห็นแก่ตัวจริงๆ มันผิดด้วยหรอที่ฉันอยากได้ความชัดเจนจากนายบ้าง คุยกัน กอดกัน จูบกัน ในสถานะอะไรวะ มันผิดที่ฉันง่ายเองด้วยแหละ ฉันมันก็เป็นผู้หญิง 1 เดือน ที่ทำตัวงี่เง่า และอยากได้เขามาครอบครองไว้คนเดียว งี่เง่าชิบ “ขนมจีบพี่จืดเลย” “ฉันว่าพี่ถอดใจเถอะค่ะ ฉันมองคนอื่นไม่ได้หรอก” อารมณ์แบบนี้ไม่พร้อมจะปฏิเสธใครเลย ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม กับขนมจีบที่มันเคยอร่อย “เธอยังไม่เคยลองด้วยซ้ำ เธอจะยอมเป็นภาพเบลอตลอดไปเลยหรือยังไง” นั่นขยี้แผลฉันอีก นี่เราสนิทกันถึงกับมายุ่งเรื่องส่วนตัวกันเลยรึยังไง ไวไปไหม เราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นกับที่ฉันจะตอบคำถามพี่คิมทุกคำถามซะหน่อย ฉันเลือกที่จะเงียบ แต่คำถามของเขามันก็เหมือนเหล็กร้อนๆที่กำลังนาบมาที่ตัวฉัน “ไม่เอา ไม่ทำหน้าแบบนี้ คนที่ทำให้เธอหน้าเป็นแบบนี้ ต้องเป็นพี่คนเดียวเท่านั้น” พี่คิมนั่งคุกเข่า แล้วใช้มือประคองหน้าฉันเอาไว้ มันทำให้ฉันต้องสบตาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ เราเจอกันแค่ 3 วันเองนะ แถมยังโดนปฏิเสธยังไง ก็ไม่ยอมไปด้วย นี่มันเรื่องอะไรกัน เขาไม่จำเป็นต้องมาทำแบบนี้ก็ได้ หน้าตาแบบเขา สาวๆไม่น้อยคงต่อคิวกันยาวแน่ๆ ใกล้จัง ฉันรีบผลักพี่คิมออกทันที เพราะหัวใจมันกำลังสั่นหรือเปล่า แย่แล้ว มันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน “เธอหน้าแดง” “ไม่ใช่ ไม่ใช่นะ” “แดงยันหูเลย” ฉันรีบเอามือปิดหูเอาไว้ทันที ไม่นานแม่ก็เดินลงมาจากชั้นสอง ทำไมถึงคุยงานนานนัก รอยยิ้มกวนๆของพี่คิมทำเอาฉันต้องหลบตา “มีอะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ” “แม่คะ ฝากส่งแขกด้วยนะคะ หนูรู้สึกไม่ค่อยสบาย” ฉันเดินขึ้นไปบนห้องทันที ไม่ได้หนีนะ แต่รอยยิ้มกวนๆนั้นทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ มันไม่ใช่ยิ้มเสแสร้งแบบเมื่อวาน ถึงตอนนี้จะไม่เข้าใจ แต่แน่นอนคือใจมันสั่น ถึงจะไม่ได้รัว หรือเร็วขึ้นมากมาย แต่มันผิดจังหวะแน่นอน คนคนนี้อยู่ใกล้ไม่ได้แล้ว ต้องห่างให้มากที่สุดแล้วสิ ฉันรอจนได้ยินเสียงรถขับออกไปจนถึงยอมลงมาข้างล่าง กลับไปซะที แบบนี้ค่อยโล่งขึ้นหน่อย “ไง ล่ะเรา ช่วงนี้ฮอตนะ” “ฮอตที่ไหน แค่เค้ามาจีบ เดี๋ยวปฏิเสธบ่อยๆ ก็เหมือนคนอื่นเองแหละแม่” “แล้วถ้าเค้าไม่ไปล่ะ แกจะทำยังไง แกจะเลิกปิดกั้นตัวเองรึเปล่า แล้วถ้าคนที่แกชอบ เค้าเกิดชอบแกขึ้นมาจริงๆ แล้วมันกลับไม่ใช่แบบที่แกหวัง แกจะเสียใจรึเปล่า” ฉันนิ่งฟังที่แม่พูด “ความรักไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แม่ไม่เคยห้ามที่แกจะชอบใคร ชอบมากแค่ไหน แต่ถ้าลูกจะรักใครซักคนนึง แม่อยากเห็นลูกมีแต่ความสุข” “แล้วทำไมแม่ถึงแต่งงานกับป๊าอะคะ” เพราะพ่อฉันต้องทำงานอยู่ จีนบ้าง ฮ่องกงบ้าง ไม่สามารถกลับมาหาเราได้บ่อยๆ แต่ทำไมแม่ถึงยังรักและรอ “เพราะแม่เลือกคนที่รักไง แล้วมันก็ไม่ได้มีความสุขตลอด หนูต่างหากคือความสุขของแม่” “แม่ยังรักป๊าไหมคะ” “จะพูดว่ายังไงดีนะ คงจะจางๆมั้งลูก” “เพราะหนูใช่ไหมคะ เพราะแม่ต้องดูแลหนูตลอดใช่ไหมคะ ไม่งั้นแม่คงไปอยู่กับป๊าแล้ว” แม่ทำหน้าเศร้าลง “ไม่ใช่แค่หนูหรอก ชีวิตแม่อยู่ที่นี่ งานแม่อยู่ที่นี่ แล้วหนูก็อยู่ที่นี่” แม่ลูบผมฉันเบาๆ “เราไปรักษาโรคหลงทิศกันแบบจริงจังดีไหมแม่” แม่ทำหน้าตกใจนิดๆ เพราะเคยจะพาไปรักษาหลายครั้งแต่ฉันไม่ยอม เพราะฉันคิดว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละ ที่ไปหาจิตเวช แต่ถ้าฉันเป็นแบบนี้ แม่ก็คงต้องมาห่วงฉันแบบนี้ “เอาไว้ผ่านงาน Ulzzz ก่อนละกัน” Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrrr~* เสียงสายเข้า ทำให้ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ **[ Third Calling...... ]** “ว่าไง” [ จะมาได้รึยัง จะให้รออีกนานแค่ไหนเนี่ย ] “เฮ้ออออ เดี๋ยวนี้แหละ” [ เร็วๆ อย่าทำให้หงุดหงิดไปมากกว่านี้ ] จบการสนทนา ตัดสาย นายตัดสายใส่ฉันงั้นเหรอออออ แต่ปกติก็ตัดสายใส่อยู่แล้วนิหน่า ต้องไปหรือไม่ต้องไปดีนะ แต่รับปากไปแล้วนี่ “แม่คะ หนูไปหาเติร์ด เดี๋ยวหนูรีบกลับนะคะ” “อย่าให้ดึก ทำอะไรก็รู้จักป้องกันด้วยล่ะ” เหอะๆ แม่คิดไปถึงไหนแล้ว “หนูยังไม่ได้ทำอะไรกันค่ะ ข้าวสารยังคงเป็นข้าวสาร” ฉันหันไปยิ้มให้แม่น้อยๆ ฉันเดินไปบ้านของเติร์ดที่ห่างกันไปแค่ 2 ซอยเท่านั้น พอถึงหน้าบ้านก็เลยกดออด ไม่ถึงนาทีประตูก็เปิดออก ไวมาก ปกติต้องรอกว่าคุณชายจะย้ายตัวมาเปิดได้ “กว่าจะมา ช้ามาก” ทำไมเขาต้องโมโหขนาดนี้ด้วย “อะไรของนาย นายโทรมาเรียกฉัน แล้วฉันต้องมาเลยรึไง ก็ต้องขออนุญาตแม่ก่อนสิ” เติร์ดเปิดประตูรั้วแล้วลากฉันเข้าไปในบ้าน ทำไมต้องลากเข้าบ้านตลอดเลย เอะอะลากเข้าบ้าน รู้ไหมว่าฉันยังโกรธนายอยู่นะ “กับคุณคิมมันยังไง” “เค้ามาจีบอะ แต่ปฏิเสธไปแล้ว” ทำไมต้องทำหน้าน่ากลัวแบบนี้ “ยังเป็นแค่ฉันไหม ที่ทำให้ใจเธอเต้นแรงอะ” อารมณ์ไหนของเขาเนี่ย “ .... “ จะตอบยังไงดี แค่เต้นผิดจังหวะ คงไม่เรียกว่าเต้นแรงหรอกมั้ง “ยังไงมินิท ตอบ!!!!” เติร์ดตวาดใส่ฉันเสียงดัง สายตาของเขามันดูจริงจังจนหัวใจฉันเต้ารัวไม่เป็นจังหวะ “นายจะมาขึ้นเสียงดังทำไมเนี่ย” มันก็ต้องมีแค่นายอยู่แล้ว อันนี้ไม่ได้บอกไปนะ ก็ฉันงอนอยู่นิ “อ่อยเค้าไปทั่ว” พอสิ้นเสียง ริมฝีปากก็ถูกบดลงมาทันที ความรุนแรงต่างจากครั้งก่อนๆ ร่างเล็กๆของฉันถูกดันจนติดกำแพง มือถูกคนตรงหน้ากดไว้ทั้งสองข้าง แรงเยอะจัง !! ฉันพยายามจะดันคนข้างหน้าออก ริมฝีปากเลื่อนจากปากมาที่ใบหู ความรู้สึกที่ได้รับมันทำให้ฉันแทบจะทรุดเลย อื้มมมมมม “จุดอ่อนเธออยู่ตรงนี้” “พอเถอะเติร์ดฉันกลัว” ฉันยังคงผลักเขาออก มันไม่ใช่ว่าไม่ชอบให้เขาทำนะ แต่ฉันกลัวจริง ๆ “เซอร์วิสที่ค้างไว้ไง” แต่ฉันไม่ได้อยากได้แบบนี้ ฉันพยายามผลักเขาออก แต่ทำไมแรงของเขาถึงได้เยอะแบบนี้นะ “เติร์ดหยุด ฉันขอร้อง” ฉันพยายามผลักออกจนสุดแรง “ฉันสนองให้ไง เธอจะได้ไม่ไปอ่อยคนอื่นอีก” ริมฝีปากของเขาฝากรอยรักไว้บนคอขาว แล้วมันกำลังจะมีรอยที่สอง สาม สี่ แน่ๆ ฉันพยายามจะดิ้นให้มันหลุด “เติร์ด นายรักฉันหรือเปล่า” คำถามของฉันทำเขาชะงัก ไม่มีคำตอบใดๆเลย มีเพียงความเงียบ ความเงียบคือคำตอบ เขาทำทุกอย่างเพียงแค่ระบายความใคร่ที่ตัวเองมี ฉันเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่ เดี๋ยวก็หวง เดี๋ยวก็ห่วง เดี๋ยวก็ทำร้าย “ฉันขอโทษ” ยิ่งได้ยินคำขอโทษแบบนี้มันยิ่งชัดเจน “ฉันเหนื่อยจะเป็นตัวแทน คนในใจให้นายเต็มทนแล้ว นายอยากได้แค่ตัวฉัน แต่นายไม่ได้รักฉัน พอกันที ต่อไปนี้ฉันจะไม่มาหานายที่นี่อีกแล้ว แล้วเซอร์วิสของนาย ฉันไม่อยากได้มันอีกแล้ว” ฉันผลักเขาออกอย่างแรง มันเจ็บปวดเมื่อรักไม่เคยเป็นดั่งที่หวังเลย “ใช่ดิ เธอมีไอ้คุณคิมอะไรนั่นแล้วนิ” คำพูดที่ทำเอาน้ำตาฉันแตกพล่าน ที่ฉันทำไปทั้งหมดมันไม่ได้ส่งถึงเขาเลย เขาไม่เคยเห็นฉันด้วยซ้ำ “เออ” ฉันวิ่งออกจากบ้านของเขาด้วยน้ำตา เจ็บ เจ็บจัง สิ่งที่ฉันทำที่ผ่านมา มันไม่ได้ทำให้เขารู้อะไรเลยใช่ไหม ฉันวิ่งไปตามทางเรื่อยๆ แล้วต้องหยุดที่หน้าซอย เพราะเขาไม่ได้ตามฉันออกมา เขาไม่ได้สนใจฉันด้วยซ้ำ ของที่เขาจะไม่ง้อก็ได้ จะทิ้งก็ไม่สนใจ มีแต่ฉันที่โง่เอง โง่จริงเลยมินิท โง่ โง่ ฉันทรุดตัวนั่งลงอยู่ที่หน้าซอยแบบนั้น ทำได้แค่กอดเข่าแล้วร้องไห้ ร้องไห้ให้กับความโง่ของตัวเอง ฉันเดินกลับบ้านด้วยน้ำตาที่นองหน้า ฉันควรจะตัดใจได้รึยังนะ ตอนที่จบสัญญา 1 เดือน มันยังไม่เจ็บขนาดนี้เลย พอกันทีการคาดหวังที่ไร้ค่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม