Soulmate 6 : ไม่เสร็จ Nc 20+

2589 คำ
ฉันโดนแม่ลากขึ้นรถ เพราะการรับปากส่งๆ วันนี้เลยต้องไปพบลูกค้าที่เอเจนซี่ของแม่หางานไว้ให้ แต่มันไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว มันมีผู้หญิงที่มาแคสงานนี้อีกหลายคน “แม่ค้าาา หนูเตี้ยแบบนี้เค้าไม่เอาหรอก” นางแบบแต่ละคนที่มา หุ่นดี สูงเพรียว แต่ฉันสิแคระซะไม่มี ฉันสูงแค่ไม่ถึง 160 ซม ด้วยซ้ำ “ลองดูก่อน แกทำงาน อาจจะเลิกฟุ้งซ่าน” ไม่นานก็มีพนังงานออกมาบอกลำดับคิว “น้อง ๆ เตรียมตัวนะคะ วันนี้เจ้าของแบรนด์ จะมาเลือกนางแบบด้วยตัวเองนะคะ” พอพูดจบพนักงานก็เรียกคนแรกเข้าไป ฉันนั่งดูคนแล้วคนเล่าที่เดินคอตกออกมา มันทำให้ฉันใจแป้ว พอถึงคิวฉัน ฉันก็เปิดประตูเข้าไปช้าๆพร้อมกับแม่ มีคนประมาณ 4 คน นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกฝั่ง แต่ต้องตกใจว่าหนึ่งในนั้นคือ...... แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ ถึงอยากจะกลับตอนนี้แม่ไม่ยอมแน่ “ดีใจนะครับ ที่คุณมิล่าพาลูกสาวมาแคสงานเล็กๆแบบแบรนด์เราด้วย” “ไม่เล็กนะคะ Ulzzz ไม่ใช่แบรนด์เล็กเลย” แม่ฉันยิ้มอย่างมีมารยาท “มีประสบการณ์มาไหมคะ” หญิงสาวคนเดียวบนโต๊ะเอ่ยถาม “ไม่ค่ะ” “แต่ผมชอบคนนี้” เติร์ดพูดหน้านิ่งๆ ก่อนจะเอนตัวเองพิงพนักพิงของเก้าอี้ “ถอดชุดดูรูปร่างหน่อยค่ะ มีส่วนเกินหรือรอยสักไหม” เดี๋ยวๆทำไมต้องถอดชุด ทำไมต้องดูรูปร่าง ไม่น่าละแม่ถึงให้ใส่เดรสเข้ารูปมา “ชุดแนบเนื้ออยู่แล้ว คงไม่ต้องถอดหรอก” เสียงทุ้มๆของคนเป็นเจ้าของแบรนด์พูดขึ้นมา ทำให้พนักงานหญิงคนนั้นไม่กล้าทักท้วงอะไรอีก “ค่ะคุณเติร์ด” แม่หันมองหน้าฉัน ทันทีที่ได้ยินชื่อ ฉันพยักหน้ารับ เพื่อบอกว่าใช่คนนี้แหละแม่ ที่มันหักอกหนู แต่ทำได้แค่ พยักหน้าเบาๆ “ผมเลือกคนนี้ มีใครคัดค้านไหม” เสียงเรียบๆทำให้คนอื่นไม่กล้าคัดค้านออกมา เอาแต่ใจแม้กระทั่งตอนทำงาน แต่ตอนทำงานนี่ขรึมจริงๆเลยนะ “นี่ค่ะคุณมิล่า ระเบียบงานของเรา เป็นคอลเลคชั่นของซัมเมอร์นี้ งานจะออก 4 Set งานอาจจะมีออกต่างจังหวัด มีค้างคืน คุณมิล่ามีปัญหาติดขัดอะไรตรงไหนไหมคะ” แม่รับเอกสารมาเปิดดูแนวเสื้อผ้าคร่าวๆ “ฉันไปกับลูกได้ใช่ไหมคะ” “ได้ค่ะ ทางเราจะจัดการเรื่องที่อยู่ อาหาร การเดินทางให้” การทำงานมันกดดันขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ทุกคนมองฉันแปลกๆ เพราะฉันได้ตำแหน่งนี้มาง่ายๆสินะ “โอเคค่ะ ขออนุญาตอ่านสัญญาให้ละเอียดนะคะ” แม่พลิกกระดาษสัญญา อ่านทุกหน้า “ไม่อนุญาตให้ถ่ายเสื้อผ้าของแบรนด์อื่นด้วยหรอคะ” “ครับ ผมอยากให้ลูกค้าที่เห็นนางแบบ แล้วนึกถึงแบรนด์ของเราทันที” คนขี้เก๊กยังคงเก๊กหน้า แล้วตอบแม่ของฉันด้วยหน้าเรียบเฉย บ่งบอกถึงการทำงานที่จริงจัง ในช่วงเวลาที่แม่กำลังก้มอ่านสัญญา ฉันก็แอบมองเขาเป็นระยะ ครั้งนี้จะมาไม้ไหนอีกหะ แอบดีใจที่เขาเลือกฉันนะ เพราะเท่ากับฉันมีเวลาอยู่กับเขามากขึ้นอีก โดยที่เขาจะไล่ฉันไปไหนไม่ได้ แม่เซ็นสัญญาการทำงาน แล้วเลื่อนมาให้ฉันเซ็น เพื่อเป็นอันเสร็จสิ้นการรับงานนี้ “ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ ผมหวังว่าทางเราจะทำให้คุณรู้สึกดีกับการทำงาน” เรายื่นมือมาจับตามมารยาท แต่ฉันกลับโดนคนตรงหน้าบีบมือจนเจ็บ กะแกล้งฉันใช่ไหม ฉันเลยฉีกยิ้มกว้างแล้วบีบมือเขากลับ “อีก 3 วันเจอกันที่สตูดิโอ” เติร์ดพูดพร้อมปล่อยมือฉันเป็นอิสระ แล้วเดินออกไปพร้อมๆกับคนอื่นๆ “เอาไงล่ะ ยิ่งหนียิ่งเจอ” แม่เหล่ตามองฉัน “หนูจะตั้งใจทำงาน ไม่งอแงเลย” ฉันหันไปยิ้มให้คนเป็นแม่ Third Say........ “กินข้าวเสร็จแล้ว เราทำอะไรกันดีอะ” ฝนนั่งที่โซฟาแล้วมองมาที่ผม คำถามที่เหมือนการเชิญชวน ทำไมผมจะดูไม่ออกว่าเธอต้องการอะไร ผมนั่งลงข้างๆเธอบนโซฟา สายตาที่ซุกซนของเธอเหมือนมันกำลังเรียกร้องให้ผมสัมผัสเธอ ผมค่อยๆโน้มเข้าไปหาเพื่อจะจูบเธอ ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีท่าทีขัดเขิน แต่แวปนึงมันกลับเห็นภาพผู้หญิงอีกคนซ้อนขึ้นมา “เป็นอะไรหรอ” “เปล่า แค่ฝนสวยจังวันนี้” คำชมของผมทำให้ฝนยิ้มออกมา ผมเลยประกบปากของเธออย่างแผ่วเบา ทำไมมันไม่รสชาติ อะไรที่มันเคยอร่อยวันนี้มันไม่อร่อย ผมเลยเลือกจะข้ามมันไป เพื่อไปหาอะไรที่หอมหวานกว่า “เติร์ด ทำไมรีบจัง” เสียงใสๆแหบพร่า “เพราะวันนี้ฝนสวยกว่าปกติ” ที่จริงแล้ว เพราะผมอยากลบภาพหลอนออกจากหัวตัวเอง ภาพหลอนของสาวตากลมโตขี้ตื้อ อยากรู้ว่ามันจะตามหลอนผมเหมือนครั้งที่แล้วไหม กลิ่นของมินิท กลิ่นหอมที่ไม่ปรุงแต่งแต่ชวนจดจำ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มีแค่เธอที่มี ผมค่อยๆซุกไซร้ที่คอขาวๆของฝนอย่างตั้งใจ ก่อนจะเลื่อนไปที่ใบหูดูดเม้มติ่งหู ดูเธอจะชอบให้เล่นตรงนี้เอาซะมากๆ กลิ่นจางๆมันมาอีกแล้ว “อ่าาา” เสียงหวานของเธอช่วยกระตุ้นผมได้ดี “เสียงน่ารักจัง” ผมโน้มตัวลง เพื่อให้เธอนอนราบกับโซฟาตัวยาวของผม ผมใช้มือลูบจากขาผ่านใต้กระโปรงของเธอขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงขาอ่อน แล้วดูเธอจะไม่ว่าอะไร “ฝน เราขอนะ” “เรายอมขนาดนี้แล้ว ยังต้องถามอีกหรอ” หน้าเธอแดงกล่ำด้วยความเขินอาย เมื่อได้รับการอนุญาติจากเธอ ผมเลยเริ่มลูบไล้ไปทั่วขา ทั้งด้านนอกแล้วด้านในของขาอ่อน ก่อนจะใช้ปลายนิ้วปาดตรงส่วนนั้นให้เธอสะดุ้งเบาๆ “อื้อออออ” ผมใช้มืออีกข้างลูบขึ้นจนไปถึงเอว ไล้ไปตามสีข้างแล้วค่อยเลื่อนมาด้านหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆบีบเค้นที่หน้าอกเธอ ผมไม่รอช้าจับเธอถอดเสื้อผ้าทันที ใส่เอาไว้ก็เกะกะ ผมมองดูร่างกายที่เปลือยเปล่า ก่อนจะลงไปกินกับอาหารจานหลักตรงหน้า มือที่ตอนนี้อยากสัมผัสกับปลายยอดสีน้ำตาลอ่อนๆของเธอ ผมใช้นิ้วเขี่ยมันไปมาจนมันแข็งชูชันสู้นิ้ว ถึงจะครอบปากลงไปชิ้มสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เจ้าหนูของผมมันกำลังปวดหนึบอยู่ในกางเกง กลิ่นจางๆตามมาหลอนผมอีกแล้ว ผมพยายามสลัดหัวเพื่อสลัดสลัดความคิดทั้งหมดออก ก่อนจะใช้นิ้วกรีดร่องรักที่มีน้ำช่ำของเธอ เมื่อดูว่าเธอพร้อม ผมก็สวมถุงยางแล้วกดลงไปในร่องทันที “ อื้ออออ “ ค่อยยังชั่ว ฟิตกว่ารอบที่แล้ว ผมสาวเอวใส่อย่างเนิบๆ ก่อนจะค่อยเร่งจังหวะ “ อ่าาาา เติร์ดดด “ . พั๊บๆๆๆ พั๊บๆๆๆๆๆ พ๊าบบบบบบๆๆ พั๊บบบบบบๆๆ . “ อ๊า อ๊าาา อ๊ะ อ๊ะ. เร็วแบบนี้เราจะเสร็จ “ มันเอาอีกแล้ว เพื่อผมแตะแพดานคำว่าเสร็จ กลับต้องถูกดึงให้กลับมา แม้ของสาวข้างหน้าจะตอดของผมมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนเหมือนมันจะไม่เพียงพออีกแล้ว ฝนผวาจิกหลังผมไว้แน่น ของเธอยิ่งตอดผมยิบ ผมเลยใช้จังหวะนี้เร่งจังหวะสะโพกเต็มแรง “ อ่าาา เติร์ดเบาหน่อยที่รัก เขาเจ็บ “ ผมไม่สนใจที่เธอพูดอีกแล้ว มันเป็นความหงุดหงิด ผมจับเธอพลิกคว่ำแล้วดึงสะโพกเธอในท่าโก้งโค้ง ก่อนจะเสียบเข้าไปทีเดียวมิดด้าม ผมพยายามจะทำยังไง มันก็ไม่เสร็จ “ ให้ฝนใช้วิธีอื่นให้ไหมที่รัก “ “ไม่เป็นไร เราขอสงบสติอารมณ์ตัวเองแป๊ปนะ” ไม่ใช่ฝนไม่ดี เธอน่ารัก แต่มันรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ ที่ทำไปมันเสียว เสียวมาก แต่มันดันไม่เสร็จ ตอนแรกผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะผู้หญิง แต่ตอนนี้ผมคิดว่า เป็นเพราะผมเองที่ไม่ปกติแล้วล่ะ โอ้ยยยย หงุดหงิด หลังจากนั้นผมไปส่งฝนที่บ้านทันที ไม่ใช่ว่าผมได้เธอแล้วไม่รับผิดชอบนะ แต่ตอนนี้ผมหงุดหงิดเกินไป นี่มัน 2 ไฟท์แล้วนะ กลิ่นของยัยนั่นยังหลอกหลอนผมอยู่เลย คือผมต้องได้เธอใช่ไหม ไอ้อาการบ้านี่ถึงจะหายไป ================== 3 วันต่อมา....... มินิท Say :: เมื่อถึงวันที่ฉันต้องทำงาน แม่พาฉันมาที่สตูดิโอที่แบรนด์ Ulzzz จัดเตรียมไว้ให้ พอเรามาถึงทีมงานก็มาพาเราไปแต่งหน้าทำผมทันที “เดี๋ยวขอบรีฟงานนะคะ ทางเราอยากได้สไตล์สดใส ชุดที่ใส่ไปเที่ยวกับคนรัก ชุดที่ใส่ไปเที่ยวสบายได้ทุกที่ อ่อ คุณมิล่าคะ วันนี้บอสจะเข้ามาดูงานด้วยตัวเองนะคะ” “ขอโทษนะคะน้อง บอสของน้องเขามาตามดูงานแบบนี้ทุกครั้งเลยหรอ” แม่ฉันถามด้วยความสงสัย “ไม่ค่ะ แต่อาจจะเพราะน้องยังใหม่ คงอยากจะมาเช็คงาน” “อ๋อค่ะ” แม่หันมาส่งสายตาให้ฉันเบาๆ หึหึ ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลย แต่ทำไมถึงคิดว่าเขาก็อยากอยู่ใกล้ฉันเหมือนกัน รู้ว่าตัวเองเพ้อเจ้อนะ แต่ขอนิดนึง ให้ฉันได้อยู่ในโลกมโนของตัวเองบ้าง เพราะมันเป็นงานแรกแม่เลยมาคุมเข้มฉันอยู่หน้าเซท ทั้งทำท่าให้ดู อายคอนแทคควรทำยังไง “ดีครับ มองที่กล้องเหมือนมองคนรักครับ” ฉันพยักหน้ารับทราบ ให้พี่ตากล้องที่กำลัง สั่งให้ฉันทำสิ่งต่างๆอยู่หลังกล้อง “ยังไม่โอเคนะครับ พอมองแบบคนรัก ความสดใสมันหายไป” อะไรวะ จะเอาอะไรแน่พี่ตากล้อง คนรักหรือสดใส ใครบอกทำงานไม่เหนื่อย เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย แม่ลากฉันไปด้านข้างฉาก แล้วกระซิบบอกฉันเบาๆ “ลูกรัก มองไปที่เค้า แล้วนึกว่าคบกันแล้วกำลังจะไปเดท นึกภาพในหัวเอา เพราะถ้าแกทำดี เค้าอาจจะตามแกไปถ่ายที่ต่างจังหวัดด้วยก็ได้” แม่ใช้ความบ้าผู้ชายของฉันเป็นแรงผลัก แล้วมันก็ได้ผล งานที่ออกมามันดีจนไม่น่าเชื่อ พี่ตากล้องชมว่าฉันเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้น แต่เขาจะรู้ไหม ที่ทำได้เนี่ยยย แม่ฉันบิ้วอะไรไว้บ้าง “น้ำครับ คุณมิล่า คุณมินิท” เติร์ดถือขวดน้ำเปล่ามาส่งให้ตัวเอง “วันหลังโทรหาบ้างซี้” ฉันพูดขึ้นมาลอยๆ โดยที่ตัวเองยังก้มหน้ากินน้ำอยู่ “โทรอะไร” เสียบเรียบๆ ทำเอาฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง “คิดถึงฉันใช่ม่า มาตามดูขนาดนี้1 “หลงตัวเอง ฉันกลัวเธอทำงานฉันพัง” “ฉันปฏิเสธพี่แบงค์ไปแล้วนะ บอกเค้าไปแล้ว ว่าฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” ฉันยิ้มให้คนตรงหน้า “ขอโทษนะครับคุณมิล่า ผมคงต้องขอตัวก่อน” เติร์ดหลบตาฉัน ก่อนจะเดินออกไปทันที ฉันมองตามคนขี้เก๊ก ที่เดินออกไปแบบนิ่งๆ อิอิ คนอะไรน่ารักอะ “ผู้ชายแอบเขินมันน่ารักดีเนอะ” แม่หันมาแซว “นั่นสิคะ ไม่รู้ว่าเขินเพราะหนู หรือ อายแม่” เมื่อมาถึงบ้านฉันทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลีย การทำงานมันไม่ง่ายเลยจริงๆ แถมพรุ่งนี้ยังมีถ่ายนอกสถานที่อีก เขาจะตามมาดูแบบนี้อีกไหมนะ “ยังไง คิดถึงเค้าอยู่รึไง” แม่ถามแซวๆฉันที่กำลังนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว “น่ารักเนอะแม่” “ถามแม่ แม่ว่าพ่อแบงค์น่ารักกว่า แต่ก็นะ กรรมการของเกมแห่งความรัก มันไม่เคยยุติธรรม” “หนูไปละ” ฉันลุกพรวดขึ้นมาโซฟาทันที “ไปไหนอะ!! ไหนบอกเหนื่อย” “ทนความคิดถึงไม่ไหวละ ไม่ได้เจอก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอได้เจอแล้วไม่ได้คุยมันอึดอัดอะค่ะแม่ ขอไปโดนเค้าด่า แล้วจะรีบกลับค่ะ” อย่างน้อยอยากได้ยินเสียงบ่นๆของเขาซักนิดนึงก็ยังดี ตอนนี้ 6 โมงเย็นแล้ว คงไม่ไปสนามแล้วล่ะ ไปหาที่บ้านดีกว่า รถจอดอยู่แสดงว่าอยู่บ้านสินะ คงจะมาถึงหลังเราไม่นาน คนชื่อฝนจะอยู่ในบ้านไหมนะ อยากจะรู้ให้ชัดเจนไปเลย ว่าตัวจริงของเขารึป่าว ฉันยืนกดออดอยู่หน้าบ้าน ไม่นานเขาก็เปิดประตูออกมาดู “มีอะไร” “คิดถึง” เขาไม่ยอมเปิดประตูเพียงแค่คุยกับฉันที่หน้าบ้านเท่านั้น พอฉันจะเปิดประตู เขากลับกระชับประตูเอาไว้ไม่ให้ฉันเปิดได้ อะไร เข้าบ้านไม่ได้เหรอ “มาก็ดี กำลังหงุดหงิดอยู่พอดีเลย” คำพูดของเขา ทำให้ฉันรู้สึกงง ว่าฉันไปทำอะไรให้ก็เพิ่งมาถึงเนี่ย เขาเปิดประตูแล้วลากแขนฉันเข้าไปในบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เข้ามาในบ้านนี้ มันเลยไม่ทำให้ฉันไม่กลัว หรือตกใจเท่าไหร่ เพราะเขาไม่เคยทำอะไรฉันเลย มันเลยแค่รู้สึกว่าเขาจะไม่ทำมันแน่ๆ “เด็กนายไม่อยู่รึไง” ฉันเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวยาว “เลิกไปละ1 “นี่หรือเปล่า ที่ทำให้นายหงุดหงิด” คำถามของฉัน ทำให้เขาเอาแขนมาคร่อมฉันไว้จับโซฟาทันที มันทำให้ฉันตกใจจนต้องหลับตาปี๋ “มองหน้าฉันเดี๋ยวนี้!” เขาตะคอกใส่จนฉันต้องรีบลืมตาขึ้นมามองคนตรงหน้า ฉันไปทำอะไรให้เขาโกรธขนาดนี้ เขาไม่เคยตะคอกใส่ฉันแบบนี้เลย อาจจะมีเสียงดังบ้าง แต่แบบนี้น่ากลัวเกินไปละ “นายโกรธฉันเรื่องอะไร” “ฉันเกลียดตาเธอ ฉันเกลียดปากของเธอ ฉันเกลียดหน้าจืดๆของเธอ” อะไรเนี่ยมาเป็นชุด “เกลียดกันนัก จะให้เข้ามาทำไม นายมันต้องเป็นไบโพล่าแน่ๆเลย” ฉันพยายามจะผลัดคนตรงหน้าออก แต่ผลักยังไงก็ไม่ขยับเลย “เกลียด เพราะมันทำให้ฉันลืมมันไม่ได้เลย” ริมฝีปากของเขาประกบลงบนปากฉันทันทีที่พูดจบ อะไรวะ ตามอารมณ์อีตานี่ไม่ทันเลย มือที่ผลักเขาออกตอนนี้มันหยุดทำงานเอาดื้อๆ ริมฝีปากพยายามขยับตามเขาที่ตอนนี้เป็นคนนำทาง “ฉันกินอะไรไม่อร่อยมาเป็นอาทิตย์แล้ว เพราะเธอ เธอต้องรับผิดชอบ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม