ตอนที่ 6

1300 คำ
เขมิกามองไปยังหน้าประตูอีกครั้งด้วยแววตาสงบนิ่งทั้ง ๆ ที่ในใจรวดร้าวกับภาพความสนิทสนมของเขากับหญิงสาวชาวลูกครึ่ง เธอคนนั้นควงแขนชายหนุ่มอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้งยังฉีกยิ้มหวานให้เป็นรางวัลเมื่อถูกเขาเอาใจ ภาพตรงหน้าทำเอาเธอแทบรับไม่ไหวทว่าต้องทนมองให้ได้ มองให้รู้ว่าเขาไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว ไม่มีพี่ทิวของเธออีกแล้ว มีแต่พี่ทิวของคนอื่น... “ยินดีต้อนรับค่ะ/ครับคุณทิวากร” เสียงพนักงานทั้งหมดกล่าวขึ้นพร้อมกัน ฉุดรั้งสติของเขมิกาให้กลับคืน เธอมองไปที่เขาอีกครั้งเห็นว่าเขามองเธออยู่เช่นกัน แต่สายตากลับต่างกันไป “เขม! เอาดอกไม้ไปให้ท่านรองได้แล้ว” “อะ อื้ม” หญิงสาวถูกเพื่อนสะกิดจึงเดินออกไปเบื้องหน้าก่อนจะหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม สองตาสบประสานกัน หนึ่งรักและรู้สึกผิด หนึ่งเย็นชายิ่งกว่าคืนวันในฤดูหนาว เขมิกากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะถอนสายตาออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อทนเห็นสายตาเย็นชาของเขาไม่ไหว รวมทั้งต้องรักษากิริยาเมื่อหญิงสาวที่ชายหนุ่มควงมาในวันนี้มองมาที่เธอเหมือนไม่พอใจ “ยินดีต้อนรับค่ะท่านรอง” คำพูดที่ตั้งใจจะเอื้อนเอ่ยยืดยาวกลับสั้นเพียงนิดเดียว ทั้งน้ำเสียงยังสั่นอยู่กลาย ๆ มือเรียวยื่นช่อดอกไม้ที่เธอถือไปตรงหน้า หากชายหนุ่มกลับนิ่งเฉย ทำเอาใจคนยื่นกระตุกวูบ ทิวากรมองช่อดอกไม้ที่ถูกยื่นมาตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ตวัดสายตามองคนที่เขาเฝ้ารอคอยตั้งใจว่าจะแก้แค้นอีกครั้งด้วยแววตาวาวโรจน์จนหญิงสาวตกใจผงะไป แต่ก่อนที่เธอจะตื่นตกใจไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มก็รีบหันไปพูดกับหญิงสาวข้างตัวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทนว่า “แพตตี้ครับ คุณชอบดอกไม้ไม่ใช่เหรอ ช่วยรับไปหน่อยนะครับ ประเดี๋ยวคนให้เขาจะเสียหน้า เอ้ย พูดผิดน่ะ ผมหมายถึงว่าเขาจะเสียใจ ช่วยรับแทนผมทีนะครับ พอดีผมไม่ค่อยชอบดอกไม้เท่าไหร่ ถึงมันจะสวยแต่กลิ่นมันไม่ค่อยหอมน่ะ” “แน่นอนอยู่แล้ว ขอบคุณนะคะสำหรับดอกไม้” แพทริเซียรับคำพลางยื่นมือไปรับช่อดอกไม้มาถือไว้เอง “ยินดีค่ะ” เขมิกาตอบเสียงค่อยพร้อมก้มหน้าปกปิดความเสียใจเอาไว้เพราะคำพูดเมื่อครู่ของเขา “หลีกทางสิคะ ฉันกับทิวจะได้ขึ้นลิฟต์ไปยังห้องทำงาน” “ค่ะ” เขมิการับคำในลำคอหลบเลี่ยงมายืนอยู่ด้านข้างตามเดิม เพื่อหลีกทางให้คนทั้งสองไปยังที่ต้องการ “ยื่นนิ่งทำไม นำทางไปสิ” “ขอโทษค่ะ เชิญทางนี้” เสียงสั่งการห้วน ๆ ทำให้เขมิการู้ตัว เธอกล่าวขอโทษเขาพร้อมกับเป็นฝ่ายเดินนำทางไป อินทุอรมองตามหลังเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง ใจอยากเข้าไปทำแทน เพียงแต่ว่านั่นมันไม่ใช่หน้าที่ของเธอ ใจก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนจะรับมือกับความรู้สึกในวันนี้ไหว และก่อนจะคิดอะไรมากไปกว่านี้เสียงด้านหลังก็ฉุดรั้งสติเธอให้กลับมา “ตาทิวมาถึงแล้วหรือยัง” คุณทิพย์ประภาถามพร้อมกดหัวคิ้ว “มาแล้วค่ะ น้องเขมเดินนำขึ้นไปชั้นบนแล้วค่ะ” โซนุตาเลขาสาวใหญ่คนสนิทรู้ใจเอ่ยตอบเจ้านายอย่างรวดเร็ว คล้ายกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกรธหากตอบช้ากว่านี้ “ฮึ่ย! จริง ๆ เลยตาทิวนี่ บอกให้รอก็ไม่รอ ไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ” คุณทิพย์ประภาบ่นลูกชายด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักหากแววตากลับฉายความกังวลออกมา แม้จะเพียงแวบเดียวแต่อินทุอรก็สังเกตเห็น แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะเงียบ และแยกตัวไปทำงานตามคำพูดของประธานบริษัทเช่นกัน “ถึงแล้วค่ะ นี่คือห้องทำงานของท่านรองค่ะ หากมีเรื่องอะไรที่ต้องการเรียกใช้ ติดต่อดิฉันได้ค่ะ กดที่ปุ่มนี้แล้วพูดสิ่งที่ต้องการได้เลยค่ะ” เขมิกากล่าวแนะนำเสร็จก็ทำท่าจะผละไปแต่ชายหนุ่มกลับเรียกเสียก่อน “เดี๋ยว” “คะ?” “ชงกาแฟมาให้ฉันด้วยแล้วก็เอาน้ำผลไม้มาให้คนสำคัญของฉันด้วย ถ้าให้ดีเอาน้ำส้มคั้นมาดีที่สุด เพราะแพตตี้ชอบดื่มน้ำส้ม” “ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วเดินออกจากห้องมาอย่างรวดเร็ว คนสำคัญที่เขาเน้นย้ำพาให้ใจเธอเจ็บดีแท้ เขมิกาหันหน้าไปมองเจ้าของห้องทำงานที่อยู่ด้านในอย่างตัดพ้อ ขณะเดียวกันในห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเงียบ สงครามประสาทระหว่างทิวากรและแพทริเซียได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เขมิกาเดินจากไป “หยุดมองไอแบบนั้นสักทีได้ไหมแพตตี้” “เหอะ ไอก็ไม่ได้อยากมองยูสักนิด หน้านิ่งอย่างยูมีอะไรให้น่ามองกัน” “แล้วมองทำไมล่ะ?” “แค่มองให้แน่ใจว่ายูไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไป... ใช่ไหม?” “หมายความว่ายังไง” “อ้าว ก็ยูบอกไอเองไม่ใช่เหรอว่ายูอกหัก ถูกผู้หญิงคนเมื่อกี้หลอก และนอกใจ” “อืม ไม่ผิด” “ทิว ยูแน่ใจจริง ๆ ใช่ไหมว่ายูไม่ได้เข้าใจอะไรผิด ผู้หญิงน่ารักบอบบางดูใสซื่อแบบคนเมื่อครู่เนี่ยนะที่หลอกลวงและนอกใจยู พูดยังไงไอก็รู้สึกทำใจเชื่อไม่ลง” “เหอะ แพทริเซีย ยูโดนภาพลักษณ์ของผู้หญิงคนนั้นหลอกเข้าให้แล้วละ” “ไอว่าไม่น่าใช่นะ” “แพตตี้! เห็นหน้าเธอไม่ทันไรยูก็เข้าข้างเธอแล้วเหรอ ตกลงไปในภาพมายาที่เธอสร้างขึ้นมาแล้วหรือไง จำไว้นะว่าเธอแค่สร้างภาพ ซึ่งการสร้างภาพแบบนั้นใคร ๆ ก็ทำได้” “เหมือนที่ยูกำลังทำเป็นว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเมื่อได้เห็นหน้าเธออีกครั้งอะเหรอ” “แพตตี้!” “ว่าไง ไอก็แค่พูดความจริงนี่ ไม่รู้ละ ไอไม่ยุ่งด้วยแล้ว” “หมายความว่ายังไง” ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามอย่างไม่ไว้ใจ “ก็หมายความว่าไอจะกลับคอนโดน่ะสิ” “ไม่ได้! ยูจะกลับตอนนี้ไม่ได้ ลืมไปแล้วหรือไงว่ายูรับปากว่าจะช่วยไออะ” “จำได้ ไม่ลืม แต่นั่นมันก่อนที่ไอจะเจอคนรักของยูนี่” “อดีต!” ทิวากรปฏิเสธเสียงดังเกือบกร้าว จนแพทริเซียพยักหน้ารับ “นั่นแหละ ๆ บอกตามตรงนะทิว หลังจากที่ได้เห็นเธอวันนี้และได้สบตากับเธอแล้ว ทำให้ไอคิดว่าเธอไม่น่าจะทำแบบที่ยูเล่าให้ไอฟังได้” “ทำไมคิดแบบนั้น” “เพราะสายตาที่เธอใช้มองยูละมั้ง มันเป็นสายตาของคนรักที่ยังคิดถึงและเฝ้ารอ ไม่ใช่สายตาของคนที่คิดร้ายกับยูเลย” “เหอะ ตกลงยูเป็นเพื่อนไอหรือเพื่อนเธอกันแน่ ด้วยความหวังดีนะแพตตี้ อย่าหลงไปกับภาพลักษณ์แสนบริสุทธิ์ของเธอเลยดีกว่า ถ้าไม่อยากเจ็บใจภายหลัง” จบคำพูดทั้งทิวากรและแพทริเซียก็ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาอีก ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จนกระทั่งเขมิกาเอากาแฟและน้ำส้มพร้อมของว่างมาเสิร์ฟและกลับออกไปพวกเขาก็ยังไม่รู้ตัว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม