บทที่ 5

1434 คำ
‘จัดการทุกอย่างเรียบร้อยหรือยัง’ ‘เรียบร้อยแล้วค่ะ’ ‘อย่าให้มีอะไรผิดพลาดล่ะ’ ‘ไม่มีแน่นอนครับ’ เสียงโต้ตอบของพนักงานศิวานันท์ดังขึ้นเป็นระยะพร้อมกับความวุ่นวายของคนที่เดินสวนกันไปมา ท่ามกลางใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขมิกา “แหม... มีความสุขจังเลยนะ” อินทุอร เพื่อนสาวคนสนิทของหญิงสาวเอ่ยล้ออย่างอดใจไม่ไหว ที่เห็นเพื่อนของเธอยิ้มกว้างกว่าครั้งไหน ๆ อันที่จริงเธอก็มีความสุขกับเพื่อนมาก เพราะรอยยิ้มสดใสเต็มใบหน้าแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมันมา 6 ปีแล้ว ขณะเดียวกันเธอก็มีความสุขแบบไม่สุด มันมีความกังวลเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาในใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จู่ ๆ ความรู้สึกแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาพร้อมกับความคิดที่ว่า ไม่อยากให้เขมิกาเจอกับทิวากรอีกครั้งเลย... แต่บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ มันคงไม่มีอะไรหรอก... มั้ง? “ปกติน่าอิน” หญิงสาวปฏิเสธทว่าทั้งปากและดวงตาก็ยิ้มพราวระยับจนหนุ่ม ๆ หลายคนที่มองมาทางนี้ระทวยกันเป็นแถบ ๆ “เฮ้อ แกนี่นะ เขม ฉันถามแกตรง ๆ นะ แกได้เผื่อใจไว้บ้างหรือเปล่า เผื่อว่าบางทีพี่ทิวเขาอาจมีคนใหม่ไปแล้ว” เขมิกาชะงักไปเสี้ยววินาทีก่อนจะยิ้มบางแล้วตอบกลับไปว่า “นิดหน่อยน่ะ แต่คุณป้าก็บอกแล้วว่าพี่ทิวยังไม่มีใคร...” “ถึงจะไม่มีใครแต่แกคิดว่าเขาจะยังเหมือนเดิมอยู่เหรอ” ใบหน้าของเขมิกาเหยเก และตอบอะไรกลับไปไม่ได้ เนื่องจากรู้ดีว่าทิวากรคงจะไม่ใช่ ‘พี่ทิวของเธอ’ อีกต่อไปแล้ว และเขาต้องไม่เหมือนเดิมแน่ ๆ เห็นชายอื่นอยู่ในห้องของเธอในสภาพสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแบบนั้น จะยังเหมือนเดิมได้อย่างไร ไหนจะคำพูดสุดท้ายที่พูดกับเธอนั่นอีก เรื่องนี้เธอทำใจยอมรับมาแล้วละ แค่ยังแอบคาดหวังเล็ก ๆ ว่าเขาจะให้อภัยกัน ไม่โกรธเกลียดเธอดังปากว่า ส่วนเรื่องความรัก... ให้มันเป็นไปตามที่ควรเป็นเถอะ เธอไม่กล้าคาดหวังขนาดนั้น แค่เขายอมรับเธอในฐานะรุ่นน้องหรือน้องสาวก็นับว่าเขาใจกว้างมากแล้ว “เอาละ ๆ ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้ ขอโทษนะที่ทำให้ไม่สบายใจ” อินทุอรรีบพูดเมื่อเห็นใบหน้าสวยของเพื่อนสนิทเศร้าสร้อย เขมิกาส่ายหน้าเบา ๆ พลางตอบ “ไม่เป็นไรเลย แกไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย ไม่ต้องขอโทษหรอก มาดูความเรียบร้อยของทุกอย่างกันดีกว่า” “ฉันละเสียดายความสวยของแกจริง ๆ เลยยัยเขม ผู้ชายรูปหล่อโปรไฟล์ดีจีบตั้งกี่คน ๆ ก็ปฏิเสธเขาหมด ไม่รู้จะปฏิเสธทำไม” “แกก็รู้เหตุผลดีนี่ยังจะถาม” “ย่ะ! แม่มั่นคงในรัก แม่รักมั่น แม่ยึดติด อวยยศ!” อินทุอรถลึงตาและพูดแกมหมั่นไส้ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยิ้มรับบาง ๆ ไม่ปฏิเสธก็ยิ่งขัดใจ เป็นเธอหน่อยไม่ได้ แม่จะใช้ความสวยให้คุ้มเชียว “ไม่ต้องมาหน้างอ ว่าแต่ฉันตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ” “อะไร เหมือนตรงไหน” “เหมือนตรงที่ใครจีบแกก็ไม่เอาไง เลือกเยอะ ติดนั่นติดนี่ เป็นไงล่ะตอนนี้ก็โสดเหมือนฉันไม่ใช่หรือไง” “ยัยเขม! ยัยคนปากร้าย! ฮึ่ย! ถ้าหนุ่ม ๆ ที่ชอบแกมาได้ยินแกพูดแบบนี้อยากรู้นักว่าพวกนั้นยังจะชอบแกอยู่ไหม” ใบหน้างอเง้าของอินทุอรประเดี๋ยวแดงประเดี๋ยวเขียวทำให้เขมิกาหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ซึ่งไม่นานเพื่อนสนิทของเธอก็ร่วมวงหัวเราะด้วย “คุยอะไรกันอยู่ครับสาว ๆ หัวเราะน่าสนุกเชียว ขอร่วมวงด้วยคนได้ไหมครับ” ดนุภพ หัวหน้าฝ่ายการเงินของศิวานันท์เข้ามาทักทายสองสาวอย่างสนิทสนมและเป็นกันเอง น้ำเสียงจึงติดหยอกล้ออยู่ในที “สวัสดีค่ะพี่ภพ กลับมาทำงานแล้วเหรอคะ ไม่สบายเป็นยังไงบ้างคะ” อินทุอรกล่าวทักทายและถามถึงสุขภาพของอีกฝ่ายที่ลางานเพราะป่วย ส่วนเขมิกาแม้ไม่ได้ถามแต่ก็ยิ้มรับคำพร้อมมองตารอฟังคำตอบของรุ่นพี่ในที่ทำงาน “หายแล้วครับ ขอบคุณมากครับที่เป็นห่วง... จริง ๆ ถ้ามีคนดูแลก็คงจะหายเร็วกว่านี้ น่าเสียดายที่พี่ไม่มีใคร” พูดแล้วมองอินทุอรอย่างสื่อความหมาย จนเจ้าหล่อนไปต่อไม่เป็น ทั้ง ๆ ที่ปกติเป็นคนพูดมาก “อื้อ นั่นสินะคะ ถ้ามีคนดูแล… พี่ภพคงหายเร็วกว่านี้” เขมิกาพูดเป็นนัยแล้วมองเพื่อนล้อ ๆ “มองอะไรยัยเขม!” เพื่อนสาวก๋ากั่นที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยยามนี้เสียอาการอีกแล้ว จึงอดไม่ได้ที่เขมิกาจะแกล้งเย้าแหย่ผสมโรงกับดนุภพต่อ “ก็ที่พี่ภพพูดไง พี่เขายังขาดคนดูแล... แกไม่สนใจบ้างเหรอ ดูสิเนี่ยทั้งหล่อทั้งดี ใครได้พี่ภพเป็นแฟนโชคดีเป็นบ้าเลยน้า” “แกสนก็เอาไปคนเดียวสิ ยัยเขม ยัยเพื่อนบ้า! ฉันไม่คุยกับแกแล้ว ไปดีกว่า ชิส์!” พูดจบก็สะบัดหน้าออกไปอย่างแง่งอน ทิ้งเขมิกาและดนุภพหัวเราะตามหลัง “ขอบคุณนะครับน้องเขม” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณรุ่นน้องสาวที่ช่วยเชียร์ตนให้กับเพื่อนสนิท “ไม่เป็นไรค่ะ นาน ๆ ทีจะเห็นยัยอินเสียอาการ... สู้ ๆ นะคะ เขมเป็นกำลังใจให้” “ขอบคุณครับ พี่จะพยายามให้เต็มที่ เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ อย่าลืมมารอรับท่านรองประธานลูกชายท่านประธานนะคะ” “ไม่ลืมแน่นอนครับ” ชายหนุ่มยิ้มแล้วเดินไปยังทิศทางที่อินทุอรเดินไปทันที เขมิกามองตามแล้วก็ยกยิ้มอย่างมีความสุข ดนุภพจีบอินทุอรมา 4 เดือนแล้ว แต่เพื่อนของเธอก็ยังไม่ยอมตกลงปลงใจสักที ทั้ง ๆ ที่ใครก็ดูออกว่าตัวเองก็ชอบชายหนุ่มไม่ต่างกัน ‘ปากแข็ง ท่ายาก ลีลาเยอะ’ เป็นนิยามที่เธอพอจะสรุปอาการเพื่อนสนิทของตัวเองได้คร่าว ๆ หญิงสาวเดินเช็กความเรียบร้อยอีกนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงมายืนร่วมกับพนักงานคนอื่น ๆ ที่มายืนรอรับท่านรองประธาน หรือลูกชายท่านประธานบริษัทศิวานันท์ ที่เข้ามารับตำแหน่งวันแรก ยิ่งใกล้ได้เวลาปกติเป็นประจำของทุกวันที่รถของคุณทิพย์ประภาจะมาจอดหน้าประตู เขมิกายิ่งกระวนกระวายใจ เริ่มทำตัวและปั้นหน้าไม่ถูก ทั้งตื่นเต้นยินดี กังวลและหวาดกลัวที่จะได้เจอผู้ชายที่เธอรักอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลยตลอด 6 ปีที่ผ่านมา “เขม แกไหวเปล่า สีหน้าแกดูไม่ดีเลยนะ” อินทุอรเห็นเพื่อนหน้าซีดจึงไต่ถามด้วยความเป็นห่วง “อื้ม ไหวสิ ฉันโอเค แกไม่ต้องเป็นห่วง” “ถ้าไม่ไหวก็บอกแล้วกัน” ในเมื่อเพื่อนบอกไหวเธอจึงไม่มากความอีก ซึ่งนั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงพนักงานบางส่วนที่มาต้อนรับรองประธานบริษัทดังขึ้นพอดี ‘นั่นใช่คุณทิว ทิวากร ลูกชายของท่านประธานหรือเปล่า เธ๊อ หล่อมากกก หล่อกว่าในรูปที่เคยเห็นตามหน้าข่าวบันเทิงอีก’ ‘ใช่ หล่ออะไรขนาดนี้อะ พ่อของลูกชัด ๆ’ ‘หล่อจริง ๆ นั่นแหละ ผมเป็นผู้ชายยังอดที่จะชมไม่ได้เลย’ เขมิกามองไปยังหน้าประตูอย่างรวดเร็ว ครั้นเห็นคนที่เป็นเจ้าของหัวใจในชุดสูทสีดำเรียบหรูก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็เต้นกระหน่ำ มุมปากกดลึกก่อนจะฉีกยิ้มออกมาบาง ๆ ทว่ายังไม่ทันได้ยิ้มอย่างเต็มใบหน้าก็ต้องชะงักกับภาพตรงหน้า ทิวากรกำลังประคับประคองใครบางคนลงมาจากรถ ใครคนนั้นเป็นผู้หญิง และไม่ใช่คุณทิพย์ประภา... เขมิกาค่อย ๆ หุบยิ้มลง นัยน์ตาหวานทอประกายความเศร้าวูบหนึ่งก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะเธอทำใจไว้แล้วว่าอาจต้องเจอกับภาพแบบนี้...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม