เริ่มงาน

1292 คำ
"ผมโจล หากคุณต้องการอะไร เรียกผมได้ตลอดเวลา ขอโทรศัพท์ของคุณด้วยครับ" ฉันล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพาย ก่อนจะส่งต่อให้อีกคนอย่างไม่มีทางเลือก มาขนาดนี้แล้ว ไม่มีหรอกคำว่าถอนตัว มีแต่คำว่าต้องเดินหน้าต่อไป "คุณมีเบอร์ของผมในเครื่องแล้ว เชิญคุณพักผ่อนเถอะครับ" โจลโค้งศีรษะเพียงนิด ก่อนนะก้าวถอยออกไป ทิ้งความเงียบให้ปกคลุม @เช้าวันใหม่ แมทธิวยังไม่ตื่น อาจจะเป็นเพราะความสบายของเตียงนุ่ม ความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ไหนจะความเหนื่อยล้าตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้คนตัวเล็กตื่นสาย ฉันลุกจากเตียง รีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง อยู่บ้านเขาแต่นิ่งดูดาย มันอาจจะทำให้พวกเขาตำหนิฉันได้ "สวัสดีค่ะ" เสียงของฉัน เรียกสายตาของแม่บ้านสองคนที่อยู่ในห้องครัวก่อนแล้ว หันมามองที่ฉันพร้อมกัน "สวัสดีค่ะ อยากได้อะไรเหรอคะ ป้าจะได้ทำให้" ฉันคลี่ยิ้มออกมา เมื่อสัมผัสได้จากน้ำเสียงนั้น ว่าแม่บ้านที่ดูอาวุโสกว่าอีกคน ใช้น้ำเสียงคุยกับฉันอย่างเป็นมิตร "หนูชื่อแคทเธอรินค่ะ เรียกว่าแคทเฉยๆ ก็ได้ หนูไม่อยากได้อะไรค่ะ แต่หนูจะเข้ามาถามว่ามีอะไรให้หนูทำบ้าง" "ไม่มีหรอกค่ะ มีแต่สิ่งที่ต้องให้รับรู้ เรื่องความชอบและไม่ชอบของคุณนาธาร" "ค่ะ" ฉันคลี่ยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาแม่บ้าน "มื้อเช้า คุณเขาจะดื่มกาแฟดำค่ะ กาแฟดำ เติมน้ำผึ้งเล็กน้อย ไม่เอาขนมปัง ไม่เอาไส้กรอก มื้อกลางวันคุณเขาจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน ส่วนมื้อเย็น คุณเขาไม่เรื่องมากเรื่องอาหาร จะทำอะไรขึ้นโต๊ะก็ได้ ที่สำคัญ ต้องเสริฟไวน์ตอนคุณกลับเข้าบ้านทันที" ว่าไป พลางชงกาแฟในแก้วกระเบื้องอย่างดีสีขาวมุก "นอกจากคุณนาธาร มีคนอื่นร่วมรับประทานอาหารหรือเปล่าคะ" "ปกติคุณไมเคิลน้องชายเพียงคนเดียวของคุณนาธารจะกลับมากินข้าวที่บ้านบางวันค่ะ แต่เดือนหน้าจะมีงานแต่งงาน คุณไมเคิลอาจจะไปอยู่กับภรรยา" ฉันพยักหน้าเบาๆ ที่ถามเพียงแค่อยากรู้ ว่าต้องเตรียมรับมือแบบไหนแค่นั้นเอง ไมเคิลคงไม่ยอม หากรู้ว่าฉันทำแบบนี้ แต่ฉันต้องรักษาคำพูด เมื่อเลือกที่จะไม่ให้เขาลำบากด้วยการรับความช่วยเหลือจากพี่ชายของเขาแล้ว ฉันควรปล่อยให้ไมเคิลแต่งงาน ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในรูปแบบที่มันควรจะเป็น "คุณรู้ห้องทำงานของคุณนาธารแล้ว เชิญคุณเอากาแฟไปให้คุณเขาเถอะค่ะ" "เขาตื่นแล้วเหรอคะ" "ค่ะ" ฉันยิ้มออกมาอีกครั้ง บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าการที่ต้องเดินไปเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง ฉันควรวางตัวแบบไหนแสดงความรู้สึกแบบไหน มันถึงจะทำให้อีกฝ่ายพอใจ ฉันยกมือเคาะประตูที่ห้องทำงานของเจ้าของบ้าน เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงการรับอนุญาต ฉันจึงผลักประตูเข้าไป พึ่งได้มีโอกาสสำรวจห้องทำงานขนาดใหญ่แบบจริงจัง ผนังทั้งแถบ ถูกจัดเป็นชั้นหนังสือ มีหนังสือเต็มทุกชั้น ส่วนอีกด้านเป็นชั้นวางเหล่าบรรดาเครื่องดื่มอย่างดี เพียงแค่เห็นดีไซน์ของขวด ก็รู้แล้วว่าราคาแพงแค่ไหน ตรงกลางเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ มีแฟ้มเอกสารหลายแฟ้มวางอยู่บนนั้น "ฉันเอากาแฟมาให้คุณค่ะ" ใบหน้าหล่อเหลาละจากแฟ้มเอกสาร ก่อนจะปรายตามองฉันเพียงนิด เขาไม่ได้พูดอะไร ฉันจึงวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าอย่างเบามือ "ฉันจะมาถามคุณว่า สิ่งที่ฉันต้องปรนนิบัติต่อคุณ ...ฉันต้องทำเฉพาะตอนกลางคืนใช่ไหมคะ" กลั้นใจถามออกไป แม้จะไม่ได้อยากเอ่ยถึงเลยสักนิด แต่ก็จำเป็นที่จะต้องเอ่ยถึง มีอะไรหลายอย่างที่ฉันต้องทำ "ปกติเธอทำมันเวลาไหน" "คุณคะ..." คล้ายมีค้อนหนักฟาดลงมาที่ศีรษะอย่างจัง แม้น้ำเสียงของเขาจะเฉยเหมือนไม่จริงจัง แต่เขาดูถูกฉันแบบซึ่งๆ หน้า "ตอนเช้าวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ฉันต้องไปส่งหลานที่โรงเรียนค่ะ จากนั้นฉันก็ต้องทำงาน จะว่างอีกทีก็ตอนห้าโมงเย็น แต่ฉันไม่สะดวกช่วงเย็นนะคะ คงต้องรอให้หลานฉันหลับก่อน ฉันไม่อยากปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง" "ฉันไม่ได้ช่วยเธอเพื่อแลกกับเศษเวลาของเธอ!" "แต่ฉันต้องทำงานนะคะ ฉันต้องเลี้ยงหลาน เลี้ยงตัวเองเหมือนกัน" "ไปลาออกจากงานของเธอ เพราะเธอเป็นคนของฉันนับตั้งแต่วินาทีที่ฉันช่วยเธอ" "คนของคุณ ต้องอยู่กับคุณตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอคะ?" เขาปิดแฟ้มเอกสาร วางปากกา พิงหลังแกร่งกับพนักเก้าอี้โต๊ะทำงานแล้วเหลือบตามองฉัน "เงินหนึ่งล้านที่ฉันเสียมันเพราะเธอ กับการดูแลรักษาความปลอดภัยให้ทั้งตัวเธอและหลานของเธอ เธอแลกมันด้วยการขึ้นเตียงกับฉันเฉพาะกลางดึกแค่นั้นเหรอ?" "คุณ!" ฉันสบตากับดวงตาคมเข้มอย่างเจ็บใจ ความปากร้าย ความที่ใช้สายตาเย็นชาตวัดมอง เขาไม่มีอะไรเหมือนไมค์เลยสักอย่าง "เธอเคยทำงานได้วันละเท่าไหร่ ลองเอาจำนวนเงินที่เธอเคยได้ มาบวกลบคูณหารกับจำนวนเงินที่ฉันเสียเพราะเธอดูสิ เธอจะรู้ว่าควรปฏิบัติต่อฉันแบบไหน" "สรุปคุณจะไม่ให้ฉันทำงาน จะให้ฉันอยู่กับคุณ แล้วขึ้นเตียงกับคุณทุกเวลาที่คุณต้องการเหรอคะ" "ก็ฉลาดอยู่นะ มิน่าล่ะ น้องฉันถึงหลงเธอหัวปักหัวปำ หวังว่าลับหลังฉัน เธอจะไม่แอบทอดสะพานให้น้องฉันเพื่อให้หลุดพ้นจากฉันหรอกนะ" "คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันรักษาคำพูดของตัวเองอยู่แล้ว" "หึ ดี!" เขาแสยะยิ้มที่มุมปาก พลางเลื่อนมือมาคว้าแก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นไปจิบเบาๆ "เธอควรทำหน้าให้มันดีกว่านี้นะ แล้วฉันจะย้ายโรงเรียนหลานเธอให้ใหม่ จะมีคนที่ไว้ใจได้คอยดูแลไม่คลาดสายตา จะมีรถรับส่งจากบ้านไปโรงเรียนทุกวัน ถ้าความปลอดภัยของหลานคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเธอ เธอก็ควรทำหน้าให้มันดีกว่านี้" ฉันเม้มปากแน่น ก้มหน้ามองพื้นพรมตรงหน้าแทบจะทันที ฉันไม่สามารถยิ้ม ไม่สามารถทำตัวให้มีความสุขต่อหน้าเขาแบบเสแสร้งได้จริงๆ "ฉันจะขึ้นไปแต่งตัวตอนแปดโมงเช้า เธอควรจัดการหลานเธอให้เรียบร้อยก่อนแปดโมง เพราะเธอต้องมาดูแลฉันต่อ" "วันนี้ฉันไม่ให้แมทธิวไปโรงเรียนค่ะ เมื่อวานเขาเจอเรื่องแย่ๆ มา ฉันอยากให้เขาพักก่อน ส่วนเรื่องที่จะให้คนของคุณไปรับไปส่งเขาที่โรงเรียน ไว้ฉันจะลองคุยกับเขาดู ส่วนเรื่องโรงเรียนใหม่ ขอฉันศึกษาดูก่อนนะคะว่าจะไปโรงเรียนไหน ...คุณบอกสิ่งที่ฉันต้องทำตอนแปดโมงมาได้เลยค่ะ" รอยยิ้มหยันบนริมฝีปากหนา ทำใจฉันหล่นวูบ ต่อให้จะรู้สึกแบบไหน เธอก็ต้องเข้มแข็งนะแคท อยู่กับสิ่งที่เลือกให้ได้ ต่อให้เขาจะร้ายใส่ก็ไม่เป็นไร ขอแค่หลานปลอดภัย ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกัน เท่านั้นก็พอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม