บทที่ 29การแข่งขันชิงทุน

2115 คำ
[ภารกิจพิเศษ : แข่งขันชนะรับคะแนน 1,000 แต้ม] และใช่ สิ่งที่เฉินเฟิ่นอี้รอคอยที่สุดก็มาถึง ภารกิจพิเศษที่จะได้รับรางวัลที่คุ้มค่า แต่ว่าครั้งนี้มันทำให้เฉินเฟิ่นอี้กังวลมากเพราะเธอไม่ได้แข่งคนเดียว อีกอย่างยังมีห้องอื่นที่รับรู้การแข่งขันตั้งแต่แรก และคนเก่งห้องอื่นๆ ก็มีอีกมาก เช้าวันนี้เฉินเฟิ่นอี้รับทำข้าวกล่องให้แค่พวกเว่ยฟ่งและจี้หลัน เธอจำเป็นต้องทำสมาธิและพักผ่อนให้เพียงพอจึงงดรับทำให้คนอื่นด้วย แม้แต่คนที่สั่งไว้ล่วงหน้าก็ยังถูกเท อันที่จริงไม่เชิงว่าถูกเทเพราะมีหลายคนเห็นว่าวันนี้เฉินเฟิ่นอี้ไม่รับทำอาหารจึงคะยั้นคะยอให้เธอรับ เฉินเฟิ่นอี้ยังไม่รับปากแต่รับรายชื่อมา เธอบอกเพียงถ้าจะทำให้เดี๋ยวนำไปส่งที่โรงเรียนเลย “ช่วงนี้รางวัลพิเศษไม่ค่อยมีเลย” เฉินเฟิ่นอี้พึมพำเมื่อนั่งลงบนม้านั่งประจำที่พวกเธอชอบมานั่ง รอบข้างมีผู้คนประปรายเพราะวันนี้เฉินเฟิ่นอี้มาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ไหนจะมีการแข่งขันชิงทุน ทางโรงเรียนจึงอนุญาตให้นักเรียนมาสายหรือสามารถหยุดเรียนได้ ยกเว้นตัวแทนห้องที่ต้องมาแข่งขันทั้งหมดสามรอบ ช่วงเช้าจะถูกคัดออกแปดห้อง นั่นก็คือห้องอันดับสองและอันดับสามที่ต้องไปแข่งกับห้องอันดับต้น มีนักเรียนหลายคนเพิ่งจะรู้กติกาแน่นอนย่อมแสดงความไม่พอใจออกมา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ส่วนช่วงบ่ายจะเป็นการแข่งขันตอบคำถามแบบรวม ห้องไหนได้คะแนนเยอะที่สุดก็จะได้รับทุนการศึกษาไป จะว่าไปแล้วเฉินเฟิ่นอี้ก็อดสงสารเด็กในยุคนี้ไม่ได้ แม้แต่ทุนการศึกษายังต้องแข่งกันเพื่อแย่งชิงมัน ทั้งๆ ที่ทางโรงเรียนสามารถแบ่งให้นักเรียนทุกคนได้ หรืออย่างน้อยนำเงินไปซื้ออาหารมาทำแจกนักเรียนสักสองวันก็ได้แล้ว แต่นี่ไม่มีความเท่าเทียมอะไรสักอย่าง ‘นายหญิงใจเย็นๆ ได้ไหม ข้ากำลังซ่อมแซมระบบอยู่’ เสียงระบบบ่นขึ้นอย่างอดไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรระบบคำสั่งหรือระบบต่างๆ จึงรวนไปหมด อย่างระบบสุ่มรางวัลตอนนี้เธอก็สุ่มไม่ได้มาแล้วเกือบเดือน แต่ทางระบบบอกไม่ต้องห่วงมันจะสะสมไปเรื่อยๆ และขอซ่อมแซมตนเองก่อน และไม่คิดว่ามันจะนานขนาดนี้ “ซ่อมอีกกี่เดือนฉันจะได้สุ่มรางวัล” ‘บ่นอยู่ได้’ เฉินเฟิ่นอี้ชะงักเมื่อรู้สึกได้ว่าระบบปิดกั้นตนเองกับเธอ มันไม่ได้น้อยใจที่เธอบ่นแต่คงรำคาญมากกว่า ใช่สิตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอสามารถเถียงมันได้ ระบบเมื่อรู้ตัวว่าจะแพ้ก็รีบหนี “บ่นอะไรน่ะ” “เจียวซี” เจียวซีนั่งลงตรงข้ามเฉินเฟิ่นอี้ วันนี้หล่อนก็เป็นตัวแทนการแข่งขันเช่นเดียวกันจึงต้องเข้าร่วม อันที่จริงเจียวซีปฏิเสธไปแล้วหลายรอบว่าไม่ต้องการแข่ง แต่ก็นั่นแหละไม่มีใครไม่เห็นด้วย หล่อนจึงจำใจเข้าร่วม “เห็นเธอบ่นเมื่อครู่ไม่ใช่ว่าบ่นฉันนะ” “จะบ้าเหรอ ฉันก็แค่บ่นไปเรื่อยแหละ” เฉินเฟิ่นอี้ส่ายหน้า มองเจียวซีที่นั่งอยู่ตรงข้าม ตอนนี้เฉินไห่หลิวกับเฉินตงไปหาเพื่อนร่วมห้องจึงปล่อยให้เธออยู่เพียงลำพัง “อ้อ” “จริงสิ เธอยังได้ยินเรื่องที่ฉันอ่อยคู่หมั้นคนอื่นอีกไหม” “ไม่ ดูเหมือนว่าหล่อนจะทะเลาะกับเพื่อนใหม่นะ” เจียวซีส่ายหน้าเมื่อนึกถึงอี้เหม่ยเฟิ่งกับกลุ่มเพื่อนใหม่ของหล่อน ได้ยินว่าหลังจากที่อี้เหม่ยเฟิ่งมาหาเรื่องเฉินเฟิ่นอี้หล่อนก็ถูกเพื่อนกลุ่มนั้นทิ้ง และข่าวที่ว่าเฉินเฟิ่นอี้อ่อยคู่หมั้นคนอื่นยังคงถูกพูดถึง แม้นักเรียนโรงเรียนในตำบลหลายคนปฏิเสธข่าวลือนี้ แต่ยังมีคนเชื่ออี้เหม่ยเฟิ่งอยู่ เพราะเฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้ออกมาปฏิเสธและทางหมิงหลานฮุ่ยก็ไม่เคยแก้ข่าวนี้ อี้เหม่ยเฟิ่งจึงได้รับบทนางเอกแสนดีทั้งๆ ที่แย่งคู่หมั้นคนอื่นและใส่ร้ายเขา เพื่อนร่วมห้องของเฉินเฟิ่นอี้ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้และไม่เชื่อว่าเฉินเฟิ่นอี้จะทำ อย่างที่รู้กันว่าพี่น้องบ้านเฉินมักจะตัวติดกันตลอดเวลา และเฉินเฟิ่นอี้ก็เคยบอกว่าช่วงที่หยุดเรียนเธอป่วยหนัก และได้รับโอกาสจากทางโรงเรียนให้ได้สอบอีกครั้ง “อยู่ดีไม่ว่าดี” เฉินเฟิ่นอี้ถอนหายใจ หากเรื่องของอี้เหม่ยเฟิ่งและบ้านอี้ทำถูกเพร่งพรายออกไป ไม่ใช่แค่บ้านอี้จะถูกครหา คนในหมู่บ้านก็จะไม่มีใครอยากรับเป็นสะใภ้ “ฉันอยากรู้จริงๆ เธอไปทำอะไรให้หล่อนเกลียดชังขนาดนั้น” เพราะเรียนคนละห้องและเจียวซีไม่ได้สนใจใครเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หล่อนจึงรู้แค่เพียงว่าหมิงหลานฮุ่ยถอนหมั้นเฉินเฟิ่นอี้ไปหมั้นหมายกับอี้เหม่ยเฟิ่งแทน “ฉันก็อยากรู้” “อ้าว” “พี่ครับ ครูใหญ่เรียกรวมแล้ว” ยังไม่ทันได้ตอบเจียวซี เฉินตงก็วิ่งมาขัดซะก่อน เฉินเฟิ่นอี้จึงรีบเก็บของเดินตามน้องชายไป จริงๆ เธอควรฝากมันไว้กับคนอื่น แต่เฉินเหม่ยเย่กับเฉินจางก็เข้าร่วมการแข่งขันชิงทุนครั้งนี้เช่นเดียวกัน ห้องประชุมแออัดไปด้วยนักเรียนเกือบร้อยชีวิต ที่มีทั้งตัวแทนห้อง คนที่มาให้กำลังใจและต้องการดูการแข่งขันชิงทุน ยังมีผู้ใหญ่ใจดีหลายคนที่มาเข้าร่วมงานและจะมอบรางวัลให้กับคนชนะ เฉินเฟิ่นอี้เดินเข้าไปต่อแถวเพื่อนร่วมห้องก่อนถูกดันออกมาอยู่ข้างหน้าเพื่อน ไม่ต่างจากเจียวซีที่ถูกดันออกมา น่าจะเป็นเพราะตัวแทนห้อง ข้างๆ ยังมีเฉินไห่หลิวและเฉินตง “เอาล่ะครับ ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ผมในนามครูใหญ่ของโรงเรียนขอขอบคุณคุณโอวหยางที่…” เสียงครูใหญ่ของโรงเรียนเริ่มพูดก็ทำให้เฉินเฟิ่นอี้ต้องถอนหายใจ เพราะดูเหมือนจะยาวเหยียด จี้หลันเคยบอกว่าลูกพี่ลูกน้องของหล่อนเป็นลูกชายของคนที่มาให้ทุนในวันนี้ สงสัยจะรวยมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ขนของมาให้โรงเรียนมากขนาดนี้ เมื่อมีการกล่าวเปิดงานเสียงปรบมือก็ดังขึ้น ทุกคนยืนฟังกติกาการแข่งขันรวมถึงของรางวัลที่จะได้รับ นอกจากทุนการศึกษาที่จะต้องนำไปแบ่งเพื่อนร่วมห้องยังมีทุนการศึกษาส่วนตัวอีกคนละสิบหยวน สำหรับสามทีมสุดท้ายที่ชนะ เฉินเฟิ่นอี้ยื่นกระเป๋าผ้าและกระเป๋ากล่องข้าวให้กับจี้หลัน ของด้านในไม่ได้มีอะไรสำคัญเธอจึงไม่ได้กังวล พวกเธอต้องแข่งขันกับห้องอันดับสองในห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ ส่วนรอบสุดท้ายที่จัดการแข่งขันรวมจัดในห้องประชุม “เอาล่ะครับตัวแทนห้องสาม เจียวซี เฉินเฟิ่นอี้ เฉินไห่หลิว และเฉินตงรบกวนมาเตรียมความพร้อมด้านนี้ครับ” หลังจากจัดการห้องสองเสร็จครูผู้ดูแลก็หันมาเรียกนักเรียนห้องอันดับสาม “ได้ค่ะ” เฉินเฟิ่นอี้เป็นคนเดินเข้าไปตรวจสิ่งของป้องกันการโกงเป็นคนแรก ตามมาด้วยเจียวซี เฉินไห่หลิว และเฉินตง เรียกได้ว่าแม้แต่ปากกาหรือกระดาษก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พกติดตัว มีเพียงเงินและคูปองที่สามารถเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงได้ “เริ่มได้…” เมื่อได้ยินโจทย์แรกเฉินเฟิ่นอี้ก็ทำการแก้ไขปัญหาโจทย์ในกระดาษคำตอบที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้ การแข่งขันแรกเป็นคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่ถนัดของเฉินเฟิ่นอี้อยู่แล้ว ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีกระดาษคำตอบก็ถูกส่งให้ทางครูผู้ดูแล ท่ามกลางสีหน้าตกใจของคนที่เป็นตัวแทนห้องและคนอื่นๆ “ห้องสาม หนึ่งคะแนน” “ห้องสอง หนึ่งคะแนน” “ห้องสาม สองคะแนน” ตามมาด้วยตัวแทนห้องสองและเฉินตงที่ยื่นคำตอบไม่ทันตัวแทนห้องสอง เมื่อมีคนตอบครบสามคนแล้วโจทย์ต่อไปก็ถูกกล่าวออกมาใหม่ โจทย์จะมีทั้งหมดสิบข้อและสามสิบคะแนน ซึ่งจะนำไปรวมกันกับรอบแข่งสุดท้ายซึ่งจำเป็นมาก “ห้องสอง สามคะแนน” “ห้องสาม ยี่สิบหกคะแนน” เมื่อมองเห็นคะแนนแล้วนักเรียนห้องสองถึงขั้นเดินออกจากห้องไป ตัวแทนห้องสองที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็นถึงตัวท็อปของมัธยมต้นแต่กลับแพ้อย่างราบคาบ “ห้องสาม ยี่สิบเจ็ดคะแนน!” สิ้นเสียงประกาศคะแนนทุกคนถึงกับร้องออกมาอย่างโล่งอก บางคนก็ร้องไห้อย่างตัวแทนห้องอันดับสองที่ไม่มีสิทธิ์ได้แข่งต่อ สมาชิกห้องอันดับสามต่างพากันถอนหายใจ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ส่งสี่คนนี้ไป “การแข่งขันรอบแรกของห้องสอง ห้องสาม ระดับมัธยมปลายต้น ห้องสามชนะไปด้วยคะแนน ยี่สิบเจ็ดต่อสามคะแนน ต่อไปตัวแทนห้องสามเตรียมตัวด้วยนะครับ อีกครึ่งชั่วโมงจะมีการแข่งขันต่อกับห้องหนึ่ง” หลังจดคะแนนผลการแข่งขันเสร็จครูผู้ดูแลก็รีบแจ้งก่อนนักเรียนจะเดินออกไป “ขอบคุณค่ะ” “ขอบคุณครับ” หลายคนทยอยเดินออกจากห้องไปด้วยความห่อเหี่ยวยกเว้นสมาชิกห้องอันดับสามที่ยืนล้อมตัวแทนและเอ่ยชมกันอยู่ แม้เป็นการแข่งขันแรกแต่ทุกคนก็ทำคะแนนไปได้มาก เฉินเฟิ่นอี้ทำไปได้สิบสี่คะแนน เฉินไห่หลิวห้าคะแนน เฉินตงและเจียวซีทำไปได้คนละสี่คะแนน “เก่งมากเลยทุกคน!” “ใช่” “ฉันตื่นเต้นมากตอบไม่ได้เลย!” “อย่างน้อยก็ได้มาตั้งสี่คะแนน” ทุกคนหัวเราะให้กับคำตอบของเจียวซี หล่อนตื่นเต้นมากจริงๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มีเฉินเฟิ่นอี้ทุกคนอาจได้รับคะแนนที่มากกว่านี้ แต่พวกเธอตกลงกันแล้วว่าใครทำได้ให้ทำเลยไม่ต้องรอเวลาหรือให้ใครส่งก่อน ไม่อย่างนั้นจะมีโอกาสแพ้ได้ง่ายๆ “ไปพักกันเถอะ” เฉินเฟิ่นอี้บอกเพื่อนร่วมห้องที่ยังสนุกสนานกันอยู่ในห้อง ตอนนี้ห้องอันดันดับต้นเริ่มเดินเข้ามาแล้ว โชคดีที่มีที่นั่งของห้องจัดไว้อย่างชัดเจนไม่อย่างนั้นคงตีกันตาย “เฉินเฟิ่นอี้” “อี้เหม่ยเฟิ่ง” “เฉินเฟิ่นอี้เธออย่าหาเรื่องได้ไหม บอกให้ต่างคนต่างอยู่ยังสร้างเรื่องอยู่ได้” หมิงหลานฮุ่ยที่เดินตามหลังมากล่าวอย่างหงุดหงิด เวลาเดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนมองเขา หากไม่ใช่เพราะเฉินเฟิ่นอี้หักหน้าอี้เหม่ยเฟิ่งเรื่องนี้คงจะไม่มีใครพูดถึง ทั้งๆ ที่ตกลงกันเอาไว้ว่าอย่าให้คนในอำเภอรู้ แต่เฉินเฟิ่นอี้ยังนำเรื่องนี้ไปพูดจนคนรักของเขาถูกไล่ออกจากกลุ่ม ซึ่งเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก อีกไม่นานบ้านเขาก็จะทำธุรกิจร่วมกับหนึ่งในกลุ่มเพื่อนคนรัก แต่พอเกิดเรื่องขึ้นมาข้อตกลงกลับหยุดชะงัก “?” เธอนี่นะสร้างเรื่อง เฉินเฟิ่นอี้หันไปมองอี้เหม่ยเฟิ่งอีกครั้ง คงไปเป่าหูหมิงหลานฮุ่ยมาล่ะสิ อยากรู้จริงๆ อี้เหม่ยเฟิ่งมีอะไรดีกันแน่หมิงหลานฮุ่ยจึงเชื่อหล่อนทุกอย่าง “ไม่ต้องตีหน้าซื่อ เธอบอกคนอื่นว่าถูกฉันถอนหมั้นทั้งๆ ที่เราคุยกันแล้ว!” “หมิงหลานฮุ่ยคะ!” “เอ๋ ฉันเคยพูดที่ไหนนะไม่เห็นรู้เลย” เฉินเฟิ่นอี้ยักไหล่มองอี้เหม่ยเฟิ่งที่อยู่ไม่เป็นสุข หรือเธอจะจัดการหล่อนไปเลยดี ไหนๆ เพื่อนร่วมห้องของหล่อนก็มากันเยอะแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม