บทที่ 28ใครกันแน่

2081 คำ
“พวกเธอจะไม่รู้ก็ไม่แปลก หล่อนเรียนโรงเรียนอื่นมานี่ ได้ยินว่าถูกแฉจนอับอายลาออกจากโรงเรียนไปเลย แต่ไม่รู้ไปทำยังไงครูใหญ่ของโรงเรียนจึงอนุญาตให้สอบเทียบ” “เอ๊ะ ฟางเหลียงอวี๋เธอก็เรียนที่นี่ตั้งแต่มัธยมต้น ทำไมถึงรู้เรื่องแบบนี้ได้ล่ะ” ซ่งเวยหลานถามกลับและคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง บอกเฉินเฟิ่นอี้ลาออกเพราะถูกไล่ออกยังเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้มากกว่า และถ้ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นต้องได้ยินหรือไม่ก็ไม่สามารถสอบเทียบได้ “อี้เหม่ยเฟิ่งเพื่อนใหม่ของฉันเล่าให้ฟัง ฉันก็อยากรู้ว่าคนที่กล้าอ่อยคู่หมั้นคนอื่นหน้าตาเป็นยังไง ก็งั้นๆ แหละ” ฟางเหลียงอวี๋มองตั้งแต่หัวจรดเท้าเฉินเฟิ่นอี้ มุมปากเฉินเฟิ่นอี้กระตุกมองอี้เหม่ยเฟิ่งที่หลบสายตา คงคิดว่าเพื่อนใหม่ของหล่อนจะไม่กล้ามาหาเรื่องเธอน่ะสิ แต่จะขัดก็ขัดไม่ได้เพราะดูแล้วเพื่อนใหม่ของหล่อนมีแต่คนมีฐานะ หรือจะชุบตัวเองขึ้นสูงเหยียบเธอลงต่ำ แต่เหมือนจะดูถูกกันเกินไปแล้ว “เธอกล้าเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น ไม่กลัวพวกเขารู้ความจริงเหรอ” เฉินเฟิ่นอี้ตั้งคำถามอย่างไม่สนใจ ตอนนี้หล่อนถูกเฉินเหม่ยเย่กับเฉินจางจับตาอยู่เพราะอยู่ห้องข้างๆ กัน เธอยังไม่ต้องการให้อี้เหม่ยเฟิ่งถูกแฉตอนนี้ แต่ถ้าหล่อนไม่หยุดเธอก็จะแฉ “ความจริงอะไร อย่าไปฟังหล่อนนะ พวกเรากลับกันเถอะ หมิงหลานฮุ่ยคงรอเราแล้ว” อี้เหม่ยเฟิ่งรีบปฏิเสธทั้งยังชวนเพื่อนของหล่อนกลับไป หากเรื่องนี้รู้ถึงหูคู่หมั้นของหล่อนเมื่อไหร่หล่อนถูกเขาด่าแน่ “ไม่เห็นต้องกลัวเลยอี้เหม่ยเฟิ่ง เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง” เพื่อนของหล่อนย้ำ “ใช่ครับ เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง คนทำอะไรไว้ย่อมรู้อยู่แก่ใจใช่ไหมครับพี่อี้เหม่ยเฟิ่ง” เฉินตงที่เดินกลับมาได้ยินเรื่องราวพอดีจึงเอ่ยขึ้นพร้อมเน้นย้ำไปหาอี้เหม่ยเฟิ่งที่ตื่นตระหนก “เอ๋ ใครกันแน่ที่แย่งคู่หมั้นคนอื่น” เฉินเหม่ยเย่เอ่ยขึ้นเบาๆ ให้ได้ยินแค่ไม่กี่คนพร้อมทั้งเดินมานั่งข้างพี่สาว มองลูกพี่ลูกน้องของตนเองที่ยืนอยู่อย่างรังเกียจ คนที่พูดแต่สิ่งดีๆ เข้าตัวและโทษพี่สาวของหล่อน เฉินเหม่ยเย่ย่อมไม่ชอบ ที่ผ่านมาหล่อนได้ยินอี้เหม่ยเฟิ่งใส่ร้ายพี่สาวต่างๆ นานา แต่หล่อนไม่ได้เอ่ยแก้ไขและนำมาบอกพี่สาว “พี่หมั้นกับเขายังไม่ถึงสองเดือนเลยด้วยซ้ำ พี่สาวสามของผมก็ไม่ได้เจอคู่หมั้นพี่เลย จะพูดอะไรก็ดูดีๆ เดี๋ยวพอมันย้อนกลับเข้าตัวเองจะมาหาว่าใจร้ายไม่ได้” เฉินไห่หลิวส่ายหน้า เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้พูดอะไร เธอยกมือห้ามเพื่อนร่วมห้องที่จะเดินเข้ามารุม พวกจี้หลันก็เพิ่งเดินกลับไปนั่งโต๊ะ เธอไม่ต้องการเป็นจุดเด่น อันที่จริงก็สงสารเพื่อนใหม่ของอี้เหม่ยเฟิ่งที่เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา “ลองไปถามเพื่อนโรงเรียนเดิมของหล่อนสิ พวกเขาเรียนห้องเดียวกันตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ แค่ผู้ชายที่ทิ้งคู่หมั้นตัวเองไปหาคนอื่น ฉันไม่กล้าเอาหรอก” มองสีหน้าตกใจของอี้เหม่ยเฟิ่งเธอจึงแสยะยิ้มออกมา ทุกคนหันไปซุบซิบกันตามสิ่งที่เฉินเฟิ่นอี้พูด หมายความว่ายังไงที่คู่หมั้นของอี้เหม่ยเฟิ่งทิ้งคู่หมั้นไปหาคนอื่น ทิ้งอี้เหม่ยเฟิ่งไปหาคนอื่นหรือทิ้งคู่หมั้นมาหาอี้เหม่ยเฟิ่ง นี่คือสิ่งที่ทุกคนสงสัย ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนกลุ่มใหม่ของอี้เหม่ยเฟิ่ง “หมายความว่ายังไง” “หวังซ่งเยี่ยน เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดน่ะ พวกเราไปกันเถอะ” หวังซ่งเยี่ยนจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้! กว่าหล่อนจะเข้าร่วมกลุ่มนี้ได้ใช้เวลาไม่น้อยเลย ไหนจะที่บ้านของหวังซ่งเยี่ยนมีโรงงานเสื้อผ้าแล้ว หล่อนจะให้เพื่อนรู้ไม่ได้ “อี้เหม่ยเฟิ่งทำอะไร หมิงหลานฮุ่ยรอเธออยู่ เขาจะออกไปข้างนอกแล้ว” ซางจื้อเพื่อนสนิทของหมิงหลานฮุ่ยเอ่ยบอกคู่หมั้นของเพื่อน เขาวิ่งหาอีกฝ่ายตั้งนานก่อนตัดสินใจฝ่าคนกลุ่มใหญ่เข้ามาจึงเห็นอี้เหม่ยเฟิ่งพอดี ก่อนจะตกใจที่เห็นเฉินเฟิ่นอี้และพี่น้องบ้านเฉินที่มองมาอย่างไม่ชอบใจ ซางจื้อหันไปมองอี้เหม่ยเฟิ่งอย่างโง่งม กับผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เพื่อนของเขาหลงเสน่ห์อี้เหม่ยเฟิ่งยังไงถึงเลือกทิ้งเพชรอย่างเฉินเฟิ่นอี้ไป แม้เขาจะเอ่ยเตือนไปแล้ว สุดท้ายจึงทำได้เพียงตามน้ำไป “ซางจื้อนายก็เรียนที่นี่หรือ” “อะ…อื้อ” “นี่ไงซางจื้อเป็นเพื่อนของคู่หมั้นอี้เหม่ยเฟิ่ง นายบอกพวกเขาไปสิเฉินเฟิ่นอี้แย่งคู่หมั้นของอี้เหม่ยเฟิ่งจริงๆ ใช่ไหม” กัวลี่อิงหนึ่งในเพื่อนของอี้เหม่ยเฟิ่งถาม ซางจื้อตวัดสายตาไปมองอี้เหม่ยเฟิ่งอีกครั้งก่อนถอนหายใจออกมา หล่อนหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ตัวเองทำเรื่องที่ผิดยังไปใส่ร้ายคนอื่นอีก สุดท้ายก็ตกม้าตายจนได้ “ไม่ใช่” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกเมื่อเพื่อนสนิทของหมิงหลานฮุ่ยปฏิเสธ หากเป็นคนอื่นพวกเขาจะไม่ค่อยเชื่อ แต่นี่คือเพื่อนสนิทของหมิงหลานฮุ่ยเลยนะที่พูดออกมา “หมายความว่ายังไง” “นั่นสิ อี้เหม่ยเฟิ่ง” “อี้เหม่ยเฟิ่งเธอจะไปไหน!” เฉินเฟิ่นอี้ส่ายหน้าเมื่ออี้เหม่ยเฟิ่งปิดหน้าร้องไห้วิ่งออกจากกลุ่มคน พร้อมทั้งหันมามองเพื่อนของอีกฝ่ายที่มองอย่างไม่เข้าใจทั้งยังหัวเสียไม่น้อย “ไม่ตามหล่อนไปล่ะ” “ซางจื้อนายหมายความว่ายังไงที่เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้อ่อยคู่หมั้นอี้เหม่ยเฟิ่ง!” หวังซ่งเยี่ยนถามเพื่อนร่วมห้องของหล่อนอย่างไม่เข้าใจ ทั้งอับอายสายตาที่มองมาอย่างขบขัน “ไปถามหล่อนเอง” “กรี๊ดดด” เฉินเฟิ่นอี้และคนรอบข้างต่างยกมือขึ้นปิดหูหลังซางจื้อเดินออกไป หวังซ่งเยี่ยนก็กรีดร้องออกมาที่อับอายสายตาของผู้คน หล่อนจะมาทำให้ผู้หญิงตรงหน้าอับอายสายตาคนอื่น นอกจากเฉินเฟิ่นอี้จะไม่อับอายแล้วหล่อนยังต้องอับอายแทนอีก ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปนั่งที่และยังพูดถึงเรื่องนี้กันไม่หยุด เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้สนใจ เธอมองตามหลังกลุ่มเพื่อนของอี้เหม่ยเฟิ่งก่อนถอนหายใจ อี้เหม่ยเฟิ่งคงจะอยู่ยากขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่แน่เพราะเหมือนจะเข้ากันได้ดีมาก “หล่อนได้ทำอะไรพี่หรือเปล่า” เฉินตงถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่” เฉินเฟิ่นอี้ขยับให้ทุกคนได้นั่งลงม้านั่ง กล่องข้าวถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าพร้อมขวดน้ำ วันนี้มีถั่วงอกผัดเต้าหู้และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ เฉินเฟิ่นอี้จดตามสิ่งที่ได้ยินมาว่าการแข่งขันมีอะไรบ้าง ดูเหมือนห้องเรียนอันดับสามของพวกเธอจะถูกตัดหางปล่อยวัดจริงๆ ช่วงบ่ายมีคุณครูเข้ามาสอนทั้งที่ตอนแรกบอกไม่มีเรียน นักเรียนมัธยมปลายห้องสามของพวกเฉินเฟิ่นอี้จึงต้องนั่งเรียน ท่ามกลางบรรยากาศนอกห้องที่มีเสียงพูดคุยและปรึกษาเรื่องการแข่งขันวันพรุ่งนี้ “วันที่ต้องสอนกลับไม่สอน วันที่ไม่ต้องสอนกลับมาสอน ฉันงงจริงๆ” เหอลี่หนึ่งในผู้หญิงของห้องบ่นออกมา หล่อนค่อนข้างจะไม่ถูกกับคุณครูจึงชอบมีปากเสียงกัน “ใช่ ทำให้พวกเราต้องเสียเวลา” มีหลายคนที่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ ทั้งๆ ที่แค่เข้ามาบ่นและอวยลูกสาวของเขาแล้ว คุณครูใหญ่ของโรงเรียนก็ไม่ได้สอนอะไรที่จริงจัง มีเพียงสั่งงานที่ยังไม่เคยสอนไว้ “สงสัยลูกสาวจะไปฟ้อง” จี้หลันแค่นหัวเราะ “มาคุยกันเถอะ ฉันไปถามเพื่อนห้องหนึ่งมาแล้ว เขาบอกมีแข่งขันภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ และแก้ปัญหาวิทยาศาสตร์” จิ้นสิงกล่าวขึ้นหลังไปสอบถามเพื่อนที่อยู่คนละห้อง “ใช่ แต่การแข่งขันนี้ถูกจัดขึ้นเพราะอยู่ๆ ระบบห้องถูกปรับเปลี่ยน อันที่จริงห้องที่จะได้ทุนนี้เป็นห้องเรียนอันดับต้น” จี้หลันพยักหน้า หล่อนไปสอบถามพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมาก่อนเข้าห้องเรียนไม่นาน “เอ๊ะ ทำไมเธอรู้ล่ะ” “บ้านพี่ชายของฉันเองที่ให้ทุนการศึกษานี้ ได้ยินว่าตอนแรกทางโรงเรียนจะให้แค่ห้องอันดับต้น แต่ถูกพี่ชายของฉันที่อยู่ด้วยคัดค้านเนื่องจากการจัดแบ่งห้องไม่ยุติธรรม” จี้หลันกระซิบเสียงเบาแต่ได้ยินทั้งหมดเพราะทุกคนนั่งล้อมวงกันอยู่ เรื่องนี้มีเพียงไม่กี่คนที่รับรู้ หล่อนกลัวว่ามันจะหลุดไปถึงทางโรงเรียน แต่เพื่อนในห้องส่วนมากก็รู้จักกันดีถึงกล้าพูดและหล่อนก็ไม่ค่อยพอใจด้วย “เนื่องจากทุกระดับมีสามห้อง ห้องที่สามของพวกเราจึงต้องแข่งกับห้องที่สอง ใครชนะถึงไปแข่งห้องอันดับต้นต่อ จากนั้นค่อยแข่งรวม ใครได้คะแนนเยอะสุดห้องนั้นชนะ” ความเท่าเทียมที่ว่าไม่มีอยู่จริงในการแข่งขัน ห้องอันดับต้นได้เปรียบที่ไม่ต้องแข่งรอบแรก ขาข้างหนึ่งก็ก้าวไปจับรางวัลไว้แล้ว ต่างจากอีกสองห้องที่ต้องฟาดฟันกันเพื่อรางวัล ในโรงเรียนมีห้องเรียนทั้งหมดสิบสองห้อง แบ่งเป็นมัธยมต้นหกห้องมัธยมปลายหกห้องแต่มันจะถูกแบ่งเป็นระดับ มัธยมต้นและมัธยมปลายจะเรียนระดับละสองปี อย่างเฉินเฟิ่นอี้เป็นมัธยมปลายที่ต้องเรียนสองปี พี่ชายของจี้หลันเรียนแค่หนึ่งปีก็จะจบแล้ว “บ้าไปแล้วแน่ๆ ใครเป็นคนคิดกติกาขึ้นมา” “ใช่ พวกเราต้องแข่งขันกับห้องอื่น แต่ห้องอันดับต้นไม่ต้องแข่งขันรอบนี้นี่นะ เอาเปรียบกันเกินไป ทำไมพวกเขาไม่ต้องแข่งหลายรอบ” ถึงเขาจะไม่ได้แข่งแต่เพื่อนร่วมห้องของเขาต้องแข่งมันจึงเอาเปรียบกันเกินไป “พวกเราไม่มีทางเลือก หากต่อต้านคงถูกลงโทษ” เฉินเฟิ่นอี้ส่ายหน้าเมื่อนึกถึงผลเสียที่จะได้รับ อย่างที่บอกพวกเธออยู่ห้องอันดับสามมีปากมีเสียงน้อยที่สุด ทางโรงเรียนได้หารือกันแล้วมันก็จะเป็นไปตามนั้น “แล้วพวกเราจะส่งใครไป ผู้ชายสองคนผู้หญิงสองคนนี่” “ฉันเสนอเฉินเฟิ่นอี้ เฉินไห่หลิว และเฉินตง” จินหม่าซินเสนอขึ้นมาบ้าง คนที่จะแข่งขันได้แน่ๆ ก็สามพี่น้องบ้านเฉิน “ไม่ได้ พวกเราจะถูกห้องอื่นจับตามอง” เฉินเฟิ่นอี้ไม่เห็นด้วย แม้จะตกใจที่ถูกเสนอชื่อทั้งสามคน แค่เรื่องวันนี้ก็ถูกพูดถึงไปเยอะพอสมควร หากลงแข่งขันชิงรางวัลต้องถูกพูดถึงไม่จบไม่สิ้น “ไม่ใช่พวกเธอก็ไม่มีคนอื่นแล้ว เจียวซีก็สนิทกับเธอนี่ อีกอย่างหล่อนก็มีพื้นฐานก็ไปแข่งด้วยเลย” “ไม่เอา ฉันเรียนไม่เก่งส่งไปเป็นตัวถ่วงเปล่าๆ” “จี้หลัน ซ่งเวยหลาน หลินซวี โม่เยี่ยน เหอลี่…” “ไม่ต้องไล่! พวกเราปรึกษากันแล้ว ให้เธอ น้องชายของเธอและเจียวซีเป็นตัวแทนของห้อง” เฉินเฟิ่นอี้ยังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกจี้หลันกล่าวแทรก ที่ว่าปรึกษาก็คือทุกคนปรึกษากันแล้วจริงๆ พี่น้องบ้านเฉินน่ะเป็นคนมีความสามารถ เจียวซีก็เรียนเก่งแค่หล่อนไม่อวดและเข้ากับเฉินเฟิ่นอี้ได้ดีมาก  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม