ทั้งหมดยังคงพักกันอยู่ที่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ พื้นที่โดยรอบปกคลุมไปด้วยพืชใบเขียวสวยงาม น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกต รอบๆ ทะเลสาบถัดไปมีต้นดอกท้อที่ขึ้นเรียงรายเป็นทิวแถว
เนื่องจากในโลกมนุษย์ตอนนี้นั้นกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวพอดี ดอกท้อสีชมพูอ่อนกำลังบานสะพรั่งติดกับเนินเขาที่ราบสูง ทิวทัศน์สวยงามเช่นนี้ดั่งกับว่าอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน
"เหนื่อยจังเลย พอไม่ได้ใช้อิทธิฤทธิ์ก็มิต่างจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไปจริงหรือไม่จางจิ้ง?"
เทพธิดาเจียลี่หันไปพูดคุยกับจางจิ้งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นางมากที่สุดในตอนนี้
"จริงๆ แล้วนายท่านใช้พลังได้ขอรับ...แต่มิอยากทิ้งฮูหยินไว้กับคุณชายผู้นั้น"
จางจิ้งกระซิบบอกเทพธิดาเจียลี่เสียงแผ่วเบานางพยักหน้ารับรู้และยิ้มอ่อนออกมาทันทีที่ได้รู้เรื่องนี้ เพราะคราแรกนั้นเข้าใจผิดว่าเขาจะถูกห้ามมิให้ใช้พลังอิทธิฤทธิ์เช่นกันแต่ลืมไปเสียสิ้นว่าเขาคือจอมมารแห่งเผ่าวิหคผู้ยิ่งใหญ่
"งั้นคืนนี้พักกันที่นี่ก่อนเถิด เขาเฉินฉานนั้นอยู่ไกลอีกหลายลี้..ยังต้องเดินทางกันอีกนาน"
"ข้าเห็นด้วยกับนายท่าน งั้นเดี๋ยวข้าจะไปหาฟืนขอรับ"
"เจ้าล่ะว่าอย่างไรองค์ชาย?"
จ้าววิหคเฉินฟานอี้หันไปถามองค์ชายรัชทายาทเหว่ยหลี่หยางเพราะตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่กำลังสงบศึกกันอยู่
"ข้าจะไปหาปลา"
องค์ชายรัชทายาทไม่ตอบแต่เดินไปหาเสบียงนั่นแหละคือคำตอบขององค์ชายรัชทายาทเผ่าสวรรค์ สีหน้าบึ้งตึงเย็นชานั้นมิอยากกล่าววาจากับเฉินฟานอี้เพราะยังคงขุ่นเคืองอยู่มาก
"ที่นี่สวยจังเลยท่านเห็นด้วยกับข้าหรือไม่เจ้าคะจ้าววิหค?"
เทพธิดาเจียลี่หันมาถามจ้าววิหคเฉินฟานอี้ด้วยรอยยิ้มที่มีประกายความสุขสดใส เฉินฟานอี้จับจ้องไปที่ใบหน้างามอย่างหลงไหลยามที่นางมีความสุขเช่นนี้ทำให้จิตใจของเขาพลอยมีความสุขไปด้วย ช่างน่าประหลาดเสียจริง
"สวยมากจริงๆ"
กล่าวออกมาแต่ไม่ได้หมายถึงทิวทัศน์รอบๆ แม้แต่นิด หากแต่เป็นใบหน้างามปานจะหยดของนางนั่นเอง
"เจ้าหนาวหรือไม่ลี่เอ๋อร์?"
"ข้าใส่เสื้อคลุมกันหนาวอยู่อบอุ่นดีเจ้าค่ะ"
เมื่อเห็นจ้าววิหคเฉินฟานอี้ทำท่าจะถอดเสื้อกันหนาวของตนเองให้นางก็รีบบอกทันทีว่าอบอุ่น เพราะเกรงว่าเขาจะหนาวเช่นกัน
"มานั่งตรงนี้เถิด ข้าทำที่พักให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว"
เทพธิดาเจียลี่มองไปตรงที่เป็นเพิงพักพิงชั่วคราวคล้ายๆ กระโจมให้นาง ก่อนที่เขาจะเตรียมไปก่อกองไฟขึ้น เพราะตอนนี้ตะวันใกล้จะลับขอบฟ้าแล้ว
เทพธิดาเจียลี่มองไปที่ร่างแกร่งกำยำของจ้าววิหคที่ตอนนี้แต่งกายเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่ทว่า รูปงามยิ่งหนัก ทรงผมของเขาถูกเกล้าขึ้นครึ่งหัวและสวมมงกุฏสีดำครอบผมส่วนบนไว้ข้างล่างปล่อยยาวสยาย ร่างสูงโปร่งนั้นข้างในสวมชุดสีแดงและสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำข้างนอกอีกทีหนึ่งสายคาดเอวสีแดงตัดกับชุดข้างนอกสีดำ
ดวงตาคมกริบดั่งเหยี่ยวจมูกที่โด่งเรียวนั้นรับกับริมฝีปากหยักอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ เทพธิดาเจียลี่ยิ้มออกมาอย่างลืมตัวเมื่อนึกถึงรอยจูบนั้น ดวงตากลมโตงามขลับของนางยังคงเพ่งมองสำรวจจ้าววิหคเฉินฟานอี้อย่างละเอียดและหลงไหลในรูปโฉมที่งดงามของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าของของตนเอง
"เจ้ามองสำรวจข้าพอใจแล้วหรือยัง?"
เสียงทุ้มของจ้าววิหคกล่าวถามขึ้นด้วยเสียงที่ดังกังวาน จนนางถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นจากอาการเหม่อลอยดั่งอยู่ในห้วงฝันนั้นทันที
"ห๊ะ!...ข้า..ข้ามองวิวตรงโน้นต่างหากเล่า"
"แต่ที่ข้าเห็นคือเจ้ากำลังมองสำรวจข้าดั่งว่าจะกลืนกินข้าก็ไม่ปาน..ตรงนี้ป่าเขาคงไม่เหมาะที่ข้าจะหลับนอนกับเจ้ากระมัง"
"ท่านคิดอะไรช่างน่าเกลียดเสียจริงข้ามิได้อยากจะร่วมหลับนอนกับท่านเสียหน่อย..ข้าไปเดินตรงโน้นดีกว่า...จะไปช่วยจางจิ้งเก็บฟืน"
กล่าวเสร็จก็เดินผละออกไปทันที เพราะตอนนี้แก้มของนางนั้นแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกเสียอีก จ้าววิหคเฉินฟานอี้มองตามร่างเพรียวไปพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดูนางยิ่ง เวลาแบบนี้เขาช่างมีความสุขมากกว่าตอนที่ได้ฆ่าศัตรูเสียอีก ก็ไม่รู้เช่นกันว่าความรู้สึกเหล่านี้เรียกว่าอะไร เพราะตนเองนั้นแทบจะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ใด รู้แต่เพียงว่านางคือสมบัติส่วนตัวห้ามผู้ใดแตะต้องก็เพียงเท่านั้นเอง
ยามราตรีกาลอันดึกสงัด
ในขณะที่ทั้งหมดกำลังหลับใหลในทะเลสาบที่นิ่งสนิทบัดนี้มีบางสิ่งบางอย่างโผล่ขึ้นมา กลางวันนั้นเป็นเหมือนทะเลสาบที่สวยงามแต่ทว่ายามดึกสงัดเช่นนี้กลับเป็นเวลาของภูตผีปิศาจที่กำลังจะออกล่าเหยื่อเพื่อจะมาเป็นตัวตายตัวแทนเป็นภูตผีเฝ้าคุ้งน้ำแทนมัน
หวีดดดด!
เสียงร้องอย่างโหยหวลปลุกให้ทั้งสี่คนตื่นขึ้นมากะทันหัน
"เสียงอะไร?"
องค์ชายรัชทายาทเหว่ยหลี่หยางกล่าวถามขึ้น
"ปิศาจสุ่ยกุ้ย(พรายน้ำ)...ระวังตัวด้วย!"
จ้าววิหคเฉินฟานอี้กล่าวเตือนขึ้นมาเสียงดังกังวานพร้อมกับลุกขึ้นตั้งหลักในทันที
"ลี่เอ๋อร์..มาอยู่ข้างหล้งข้า"
ฉับพลัน!
ปรากฏร่างที่น่าเกลียดน่ากลัวของปิศาจสุ่ยกุ้ยผมของมันยาวถึงพื้นพร้อมกับดวงตาที่ถลนแดงก่ำ ลิ้นของมันยาวลงมาถึงกลางอก ตามลำตัวของมันช้ำเลือดช้ำหนองทั้งร่าง ปากที่แสยะออกมานั้นมีเขี้ยวที่แหลมคมยาวน่าสยดสยองยิ่ง
"อย่าทำร้ายมันเลยเจ้าค่ะ...มันคงคิดว่าพวกเราเป็นมนุษย์ธรรมดาเลยมาหลอกหลอนเพียงเท่านั้น"
"ข้าเห็นด้วยกับเจี่ยลี่ ภูตสุ่ยกุ้ยนั้นเดิมทีเป็นมนุษย์ที่ตายอย่างอนาถรอวันมีตัวตายตัวแทนมาทำหน้าที่แทนมันเพียงเท่านั้น"
"งั้นเจ้าก็ปลดปล่อยมันไปปรโลกสิองค์ชาย"
จ้าววิหคเฉินฟานอี้กล่าวขึ้นมาทันที
"ข้ามิสามารถยุ่งกับดวงชะตาบนโลกมนุษย์ได้..มันผิดกฏสวรรค์"
"อะไรๆก็มิได้ผิดกฏสวรรค์ของเจ้าไปเสียสิ้น...งั้นข้าเอง..กฏบ้าบอนี้เผ่าของข้ามิมี!"
จ้าววิหคเฉินฟานอี้ร่ายมนต์คาถา มือสองข้างนั้นประสานกันไปมาเพื่อเรียกพลังออกมาไม่นานนักก็เกิดแสงสีแดงของพลังที่ถูกเรียกออกมาปรากฎขึ้นในทันที
หวีดดด!
มันพุ่งมาหาจ้าววิหคในทันทีที่เห็นว่ากำลังจะถูกจู่โจม
"เฉินฟานอี้!ท่านระวังด้วย"
องค์ชายรัชทายาทตะโกนออกมาด้วยความตกใจและอดที่จะเป็นห่วงเป็นใยจ้าววิหคเฉินฟานอี้ขึ้นมามิได้เมื่อยามที่อยู่ในเวลาวิกฤตเช่นนี้ เดิมทีแล้วตนนั้นเข้าใจว่าจ้าววิหคเฉินฟานอี้จะเป็นมารร้ายที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่พอได้มาสัมผัสถึงตัวจริง เขาก็เป็นแค่บุคคลหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ต่างเผ่าเพียงเท่านั้นหาได้ร้ายกาจอย่างที่ตำนานกล่าวขานกันมาแม้แต่นิด
อีกตั้งยังมีรูปโฉมที่สง่างามกว่าเทพเซียนบนสวรรค์ชั้นฟ้าของตนเสียอีก หรือทว่า!ที่ผ่านมาพวกตนจะเข้าใจอะไรผิดไป แต่คำสั่งจากองค์ราชาสวรรค์ว่าจะต้องกำจัดเขา ก็คงมิสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว
ร่างของจ้าววิหคลอยขึ้นไปอยู่เหนืออากาศ ฝ่ามือข้างขวาของจ้าววิหคเฉินฟานอี้มีแสงสีแดงดั่งเปลวไฟเกิดขึ้นพร้อมกับพุ่งลำแสงใส่ร่างของมันในทันทีที่มันพุ่งเข้ามาหา ร่างของมันดิ้นไปมาพร้อมกับส่งเสียงร้อง
วี้ดดด!
อ้ากกกก!
ก่อนจะค่อยๆสลายหายไปในทันที!
แต่ทว่า!
"จ้าววิหค..ท่านระวังด้วย"
มีสุ่ยกุ้ยผุดขึ้นมาอีกประมานสี่ห้าตัว พลังสีแดงจากฝ่ามือทั้งสองข้างของเขารวบเอาไว้ได้ทันท่วงที ลำแสงสีแดงจากฝ่ามือถูกส่งออกมารัวเร็วโดนสุ่ยกุ้ยพร้อมๆกันทุกตัว
พลึ่บ!
พลึ่บ!
ปิศาจสุ่ยกุ้ยดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมๆกับสลายไปจนหมดสิ้น
พั่บ!
เขากระโดดลงมาที่พื้นดินอีกครั้งเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง
"เฮ้อ!"
จ้าววิหคเฉินฟานอี้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วกลับมายืนสงบในจุดที่ปลอดภัยข้างๆทุกคนอีกครั้งหลังจากที่จัดการปิศาจสุ่ยกุ้ยจนหมดสิ้น
"จ้าววิหค..."
"มิต้องกลัวหรอกลี่เอ๋อร์..ข้ามิได้ฆ่ามัน..แค่ส่งดวงวิญญาณของมันไปปรโลกมิให้มันทรมานอยู่ในทะเลสาบนี้อีกต่อไปแค่นั้นเอง"
"ข้ามิได้สนใจเรื่องนั้น..ข้าแค่เป็นห่วงท่าน"
เทพธิดาเจียลี่โผเข้าไปกอดร่างกำยำของจ้าววิหคทันที น้ำตาเอ่อล้นออกมาเมื่อเห็นเขาเกือบถูกปิศาจสุ่ยกุ้ยทำร้ายเอาเมื่อสักครู่ องค์รัชทายาทเหว่ยหลี่หยางกับจางจิ้งเดินออกไปจากจุดนั้นทันที เมื่อเห็นว่าทั้งคู่กำลังจะลึกซึ้งต่อกัน