สองพี่น้องนั่งพูดคุยกันด้วยความเข้าใจกับการเตรียมตัวไปทำการค้าขายเหมือนพ่อแม่ที่เคยทำมา แต่ตอนนั้นทั้งสองคนยังเด็กจึงไม่ได้มีความรู้เรื่องค้าขายต่อยอดจากสิ่งที่บิดามารดาทำเอาไว้ให้ รู้แต่ว่าพวกท่านซื้อของมาแล้วขายไปยังอำเภออื่น เดินทางไปทีละสี่ห้าวันหรือหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งสองพี่น้องมีหน้าที่เรียนหนังสือตามที่พ่อแม่ส่งเสีย จึงทำให้ลำบากกันในหมู่บ้านไผ่งามและถูกญาติทางบิดาที่เห็นแก่ตัวโกงเงินไปไม่น้อย ส่วนมารดานั้นไม่เคยเอ่ยถึงทางครอบครัวให้ทั้งสองพี่น้องรู้สักเท่าไร รู้เพียงว่ามารดามาจากเมืองปักกิ่งจึงมีเงินซื้อที่ในเมืองเอาไว้หลายที่ให้สองพี่น้องเพียงเท่านั้น
"เอาละ รออีกแค่สามเดือนนะน้องพี่ พี่จะพาน้องไปดูร้านค้ากับที่ดินที่พ่อกับแม่ของเราทิ้งเอาไว้ให้เรา ค่าเช่านั้นได้ยินว่าคนเช่านำเข้าบัญชีของพี่ชาย ที่พี่ยอมลำบากเพราะไม่อยากให้คนที่บ้านลุงใหญ่รู้ว่าพวกเราสองพี่น้องนั้นมีสมบัติในอำเภอหลายอย่าง พี่กว่าว่าพวกเขาจะมารังแกน้อง"
เพราะทั้งสองคนยังไม่สามารถป้องกันตัวเองจากคนใจร้ายทางพ่อมากนักอีกทั้งมีนิสัยไม่สู้คนของเจ้าของร่างเดิมจึงถูกหักหลังจากครอบครัวของลุงใหญ่ แต่หลิงอี้เหิงนั้นถ้าไม่มีจนหาไม่ได้เขาถึงจะถอนเงินมาใช้กับน้องสาวและยังคงปิดเป็นความลับกันมาหลายปีเช่นเดียวกันและมันก็ทำให้ความจนนั้นคัดคนที่จริงใจต่อสองพี่น้องบ้านหลินสายรอง
"ค่ะพี่ใหญ่น้องเข้าใจ วันนี้เรามาทำที่ปลูกผักกินกันที่บ้านดีไหมคะ ถ้าพี่ใหญ่ไม่ไปทำงานบ้านลุงผู้ใหญ่บ้านแล้ว ดินหลังหลังบ้านมันแคระแกรนหมดแล้ว ไม่ได้บำรุงใส่ปุ๋ยขี้วัว เราจะขึ้นแปลงใหม่เพิ่มอีกให้ครบกับผักที่ต้องการ น้องจะปลูกทุกอย่างเลย วันนี้พรวนดินตากดินสักสามวันก็พอ น้ำในบ่อก็มีไม่ต้องเดินไปไกลตักมารดผักอีกด้วย"
หลังจากที่คุยกันจบก็เตรียมตัวจะลุกไปหาจอบเสียมมาช่วยกันขุดดินก็ได้ยินเสียงเรียกที่หน้าบ้านสองพี่น้องมองหน้ากันเพราะเสียงนั้นมันคือลุงผู้ใหญ่บ้านนั้นเองที่ดินรอบพ่อแม่ล้อมรั้วเอาไว้ให้อย่างดีจึงทำให้ไม่มีคนปีนเข้ามาได้ง่ายๆรวมถึงสัตว์ป่าด้วย
"หลินอี้เหิงนี้ลุงเองนะ เปิดประตูให้หน่อย"
เสียงเรียกของคนที่หน้าบ้านดังขึ้นหลินอี้เหิงจึงเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อเปิดประตูให้คนที่มาตอนนี้
"มาแล้วครับ"
หลินอี้เหิงรีบตะโกนบอกคนที่หน้าบ้าน
พอเปิดประตูก็เจอทั้งลุงผู้ใหญ่บ้าน กู้หยวนหลงกับป้าต้วนพร้อมสองแฝดลูกชายฝาแฝดของเขาก็มาด้วย
"สวัสดีครับลุงฟาน ป้าต้วน พี่กู้หยวน"
หลินอี้เหิงทักทายทุกคนรวมถึงสองแฝดด้วย
พอทุกคนเข้ามาในบ้านแล้วก็เจอกับหลินซิงเหยียนที่นำน้ำมาให้ต้อนรับทุกคน เธอมองเห็นเค้าลางของความยุ่งยากที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว
"เอาละที่ลุงมาที่บ้านของเธอวันนี้ก็เกี่ยวกับข่าวลือของหลินซิงเหยียนกับกู้หยวนหลงที่ยายเม้าปากมากนำไปพูดในหมู่บ้านทำให้ชื่อเสียงของหลินซิงเหยียนเสียหายไปหมด ลุงจึงไปหากู้หยวนหลงเพื่อจะมารับผิดชอบต่อชื่อเสียงของนังหนูหลินซิงเหยียน เอาละอี้เหิงเจ้าเห็นเป็นเช่นไร"
หัวหน้าหมู่บ้านถามพี่ชายของหลินซิงเหยียน
"ผมก็คุยกันกับน้องเล็กแล้ว เรื่องข่าวลือในหมู่บ้านเหมือนกันครับคุณลุง แต่น้องเล็กบอกว่าไม่ได้ทำเรื่องเสียหายอะไร เพราะพี่กู้หยวนนั้นช่วยเธอขึ้นจากน้ำแถมมาส่งที่บ้านจึงทำให้เจอยายเม้ากับชาวบ้านอีกสองคนที่ลงจากเขามา จึงนำไปพูดจนเกิดข่าวลือทั้งหมู่บ้านเมื่อเย็นวานนี้ครับ"
หลินอี้เหิงตอบผู้ใหญ่บ้านตามที่น้องสาวเล่าให้ฟัง
"อือ เหมือนกับที่กู้หยวนเล่าให้ลุงฟังเลย แต่ชื่อเสียงของซิงเหยียนนั้นได้เสียหายไปแล้ว ลุงจึงไปปรึกษายายต้วนกับกู้หยวนว่ามาขอสู่ขอหลินซิงเหยียนให้แต่งกับกู้หยวนหลงเพื่อสยบข่าวที่เสียหายของซิงเหยียน เธอเห็นว่าอย่างไรละ"
สองพี่น้องมองหน้ากัน หลินซิงเหยียนนั้นตกใจมาก
"แค่ช่วยขึ้นจากน้ำถึงกับต้องแต่งงานกันเลยเหรอคะลุงผู้ใหญ่ แบบนี้ใครจะอยากช่วยเหลือคนที่จมน้ำตายต่อหน้าได้ละคะ ไม่ต้องแต่งให้ทุกคนเลยหรือคะ"
หลินซิงเหยียนถามกลับแบบไม่เข้าใจ
"ตายๆอยู่ดีๆจะมีสามีเสียแล้วสิเรา"
"ใช้แล้ว ชื่อเสียงของเธอตอนนี้ลือไปทั่วทั้งหมู่บ้านระแวกนี้แล้ว คงไม่มีใครกล้ามาสู่ขอไปทำภรรยาแล้วนอกจากแต่งให้กับกู้หยวนเท่านั้นละซิงเหยียนเอ่ย"
หัวหน้าหมู่บ้านตอบคำถามเธอ
"ใช้แล้วซิงเหยียน ตอนนี้เหมือนเธอกับกู้หยวนนั้นผิดผีกันไปแล้ว เพราะได้จับต้องเนื้อตัวกันและที่เธอตกลงไปในน้ำอีกจึงทำให้แนบชิดกับกู้หยวนไปแล้ว นี้จึงไปทางออกเดียวที่จะกู้ชื่อเสียงของเธอได้"
ป้าต้วนบออกซิงเหยียน
"ถ้าเธอไม่รังเกียจว่ากู้หยวนเป็นพ่อหม้ายลูกติดสองคน แต่ป้าขอรับรองว่ากู้หยวนหลงนั้นเป็นคนดี ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บจากการไปรับใช้ชาติมา จนต้องมารักษาตัวที่บ้าน แถมเมียหย่าแล้วหนีไปอีก สงสารก็แต่เจ้าสองแฝดที่ขาดแม่ ถ้าได้เธอมาช่วยดูแลป้าว่าจะดีเหมือนกันนะซิงเหยียน ตอนนี้คู่หมั้นของเธอก็ได้ไปแต่งให้กับลูกสาวของบ้านใหญ่ของเธอไปแล้ว"
กู้หยวนหลงมองหน้าหลินซิงเหยียนที่นั่งอีกฝั่งพลางสังเกตุท่าทางว่าเธอรังเกียจในตัวเขากับลูกทั้งสองคนไหมอายุที่ต่างกับเป็นสิบปีอีกละ เธอคงจะลำบากใจไม่น้อยที่ต้องมาตกกระไดพลอยโจนไปด้วย ถ้าเขาไม่ลงไปช่วยเธอก็คงไม่เกิดเรื่อง แต่หลินอี้เหิงเองจะเสียน้องสาวไปตลอดชีวิต
หลินซิงเหยียนมองชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตของตัวเองแล้วยังต้องมารับผิดชอบแต่งงานอีก ไม่ยุติธรรมกับชายหนุ่มเลย มองเลยไปที่เด็กสองคนที่นั่งข้างบิดาอย่างรู้ความเธอมองหน้าสองแฝดแล้วก็สงสารที่ต้องมากำพร้ามารดาเพราะรับไม่ได้ที่สามีพิการกลับมาจากการทำภารกิจ ทั้งที่จริงแล้วทหารทุกคนนั้นคือผู้มีพระคุณที่ทำให้ชาวบ้านได้ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุข แต่กับมองข้ามแค่รูปกายภายนอกของเขา แทนที่จะให้กำลังใจกับซ้ำเติมคู่ชีวิตของตัวเองอีก เธอมองตาที่สองแฝดที่จ้องมองเธอเหมือนกันแววตาที่ใสบริสุทธิ์นี้ต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ จึงยิ้มให้ทั้งสองแฝดอย่างอ่อนโยน
"ฉันไม่ได้รังเกียจพี่กู้หยวนกับลูกทั้งสองคนหรอกค่ะลุงผู้ใหญ่แต่มันจะดีหรือค่ะที่พี่เขาต้องมารับผิดชอบฉันแบบนี้มันเหมือนมัดมือชกเลยนะ แบบนี้คงไม่มีใครเสี่ยงชีวิตช่วยคนที่จมน้ำแบบฉันเมื่อวานแล้วอย่างแน่นอนเพราะถ้าต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานก็แย่นะสิค่ะคุณลุง" หลินซิงเหยียนตอบ
กู้หยวนหลงยกยิ้มมุมปากที่ได้ยินว่าสาวน้อยตรงหน้าไม่ได้รังเกียจเขากับลูกน้อยทั้งสองคน ทั้งยังยิ้มให้กับลูกชายของเขาด้วยความอ่อนโยนอีก ทำให้ใจที่ด้านชาของเขาสั่นไหว ใจที่เต้นแรงของตัวเองทั้งที่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับใครแม้กับภรรยาที่แต่งแบบไม่ได้รักกันที่เข้าหอนั้นเพราะโดนวางยาอีกด้วย