อย่างไรก็ดี ครั้นถึงช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ที่วัยรุ่นต่างกาปฏิทินเฝ้ารอคอย เด็กเรียนอย่างโรสลินก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเช่นกัน
วันวาเลนไทน์เมื่อปีกลาย เธอได้เห็นว่าพี่ชายคนสนิทได้ขนมของขวัญมากมาย แม้ของเหล่านั้นจะถูกส่งต่อไปให้กลุ่มเพื่อนของเขา ทำให้ช่วงเย็นตอนที่กลับบ้านด้วยกัน ถึงไม่ได้เห็นของอื่น ๆ สักชิ้นยกเว้นสติกเกอร์รูปหัวใจบนเสื้อนักเรียน ทว่าโรสลินก็ทั้งขุ่นเคืองและหงุดหงิด เด็กหญิงรู้สึกตระหนักขึ้นมาได้ว่าเธออาจถูกแย่งพี่ชายไปในสักวัน ยิ่งไปกว่านั้น เธอกลับไม่กล้าแสดงความรู้สึกของตนออกมา เพราะกลัวว่าธาวินจะเกลียด โรสลินที่อยู่ในห้วงแห่งความวุ่นวายสับสนจึงได้แต่เบี่ยงความสนใจของตนเองไปอยู่ที่การเรียน ต่อให้พยายามทำเช่นนั้น แต่เมื่อเทศกาลเวียนมาบรรจบ ภายในใจของเด็กหญิงก็มีแต่ความกระสับกระส่าย
โรสลินนั่งอยู่ในรถยนต์คันหรูของตระกูลอรรถเศรษฐากุลพลางมองสองข้างทางก่อนถึงหน้าโรงเรียนซึ่งมีร้านขายดอกกุหลาบ สติกเกอร์รูปหัวใจ ลูกโป่ง ตุ๊กตาหมี หรือแม้กระทั่งร้านขายช็อกโกแลต ตั้งวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
เด็กหนุ่มสาวแทบทุกคนที่ผ่านสายตาเธอมานั้น ดูแช่มชื่น ในมือถือกล่องของขวัญราวกับว่าจะเตรียมไปให้คนรัก บางคนถือดอกไม้เตรียมไว้ในมือ บางคนวิ่งเอาสติกเกอร์ไล่แปะให้เพื่อน
โรสลินเหลือบสายตาลอบสังเกตเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างตัวอย่างอดไม่ได้ ธาวินยังมีท่าทีเฉกเช่นปกติ ก่อนจะนึกเสียดายที่ตนเองไม่ได้หยิบช็อกโกแลตติดมือมาด้วย เมื่อวานตอนเย็น เธอทำช็อกโกแลตวาเลนไทน์เช่นกันโดยตั้งใจเตรียมไว้ให้เขา แต่ที่ไม่ได้นำมาด้วยเพราะกลัวว่ามันจะเสียหายก่อนถึงมือผู้รับถ้านำมันใส่กระเป๋า ทว่าดูท่าจะคิดผิด เธอน่าจะให้เขาตั้งแต่ตอนที่รถของบ้านอรรถเศรษฐากุลมารับ ตนจะได้กลายเป็นคนแรกที่ให้ของขวัญวาเลนไทน์กับเขา
เด็กหญิงมุ่ยหน้า พี่ชายคนละสายเลือดเห็นเข้าพอดีจึงเอ่ยถาม “เป็นอะไร หน้าบูดเชียว”
เธอสั่นศีรษะไม่ได้เอ่ยตอบประจวบกับรถยนต์จอดสนิทหน้าโรงเรียนพอดี โรสลินจึงลงจากรถเดินไปยกมือขึ้นสวัสดีคุณครูซึ่งยืนอยู่บริเวณหน้าประตู จากนั้นก้าวเท้าฉับ ๆ เข้าโรงเรียนไปอย่างไม่สนใจความวุ่นวายรอบข้าง
ก้าวเท้าไปได้ระยะหนึ่ง เด็กหญิงก็ชะงักฝีเท้าพลางเหลียวกลับไปมองพี่ชายซึ่งเดินทางมาโรงเรียนพร้อมกัน เธอถึงได้เห็นว่าร่างสูงโปร่งสุดฮอตถูกล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยบรรดาสาว ๆ ที่ขนทั้งกุหลาบดอกเดี่ยว เป็นช่อ ขนม ของขวัญ ช็อกโกแลต รวมทั้งรุมแปะสติกเกอร์มากมายเสียจนโรสลินที่เป็นคนมองยังรู้สึกรำคาญแทน
เธอส่ายศีรษะไล่ความขุ่นเคืองและภาพความวุ่นวายนั้นออกจากสมอง พลางปลีกตัวไปนั่งในห้องสมุดจุดประจำของเธอ โรสลินมักจะมานั่งที่โต๊ะอ่านหนังสือแบบนั่งคนเดียวของห้องสมุดประจำโรงเรียน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในการพักไปกับการอ่านหนังสือล่วงบทเรียน รวมถึงทำแบบฝึกหัดที่ตนไม่เคยทำอีกด้วย
แต่วันนี้ห้องสมุดดูเปลี่ยนไปพอสมควร เพราะแม้แต่คุณครูบรรณารักษ์ก็ยังมีสติกเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่ทั่ว ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องสมุดล้วนแล้วแต่มีสติกเกอร์แปะ คนละอันสองอัน หรือบางคนก็เป็นสิบอัน ภาพของธาวินซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยเด็กนักเรียนหญิงจึงผุดขึ้นมาในสมองอีกหน ส่งผลให้เธอถึงกับต้องพ่นลมหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นเดินไปหยิบหนังสือเกี่ยวกับการเก็งข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.๒ แล้วเริ่มต้นนั่งทำข้อสอบไปเพื่อวัดศักยภาพตัวเองอย่างเงียบเชียบ คล้ายไม่ต้องการให้ความวุ่นวายเหล่านั้นรบกวนความตั้งใจอ่านหนังสือของเธอแม้แต่น้อย
ธาวินที่เพิ่งแกะตัวเองออกมาจากสาว ๆ ได้เปิดประตูเข้ามาในห้องสมุดแล้วมองไปยังที่ประจำ เมื่อได้เห็นว่ามีใครนั่งอยู่แล้วเขาก็โล่งใจ ก่อนเดินเลี่ยงไปอีกทางเมื่อจะโดนสาว ๆ ในห้องสมุดวิ่งมาติดสติกเกอร์
โรสลินละสายตาจากแบบฝึกหัดเพียงแวบเดียวแล้วหันไปมองทิศทางซึ่งเพิ่งได้ยินเสียงพูดคุยเมื่อครู่ ครั้นไม่เห็นใครจึงส่ายศีรษะเบา ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อไปกระทั่งถึงเวลาเข้าแถว
เย็นวันวาเลนไทน์คู่รักหลายคู่ต่างนั่งคุยกะหนุงกะหนิง บ้างก็คอยเฝ้าอีกฝ่ายยามเล่นฟุตบอล หรือแม้กระทั่งเล่นบาสเกตบอล โรสลินเองก็เช่นกัน ไม่สิ... เธอไม่ได้มานั่งเฝ้าคนรัก แต่มานั่งรอพี่ชายคนสนิทที่กำลังมุ่งมั่นอยู่กับการชูตลูกบาสให้ลงห่วง ท่ามกลางเสียงกรี๊ดแสบแก้วหูของสาว ๆ ข้างสนาม
เมื่อลูกไหนชูตลงห่วง เสียงกรีดร้องอวยความหล่อ ความเท่ของธาวินยิ่งมากล้น โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ยิ่งแสดงอาการออกนอกหน้าอย่างมาก
โรสลินอ้าปากหาวหวอด ๆ ไปสี่ที เกมการแข่งขันแบบเล่น ๆ หัว ๆ จึงจบลงพร้อมกับภาพนักบาสฯ สุดฮอตที่โดนรุมให้กำลังใจอย่างล้นหลามเสียจนเธอที่นั่งมองบนอัฒจันทร์ยังมองไม่เห็นคน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปธาวินจึงแกะตัวเองออกมาได้ เด็กหนุ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนสองสามเม็ด ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งขั้นถัดจากโรสลินไปขั้นหนึ่ง ปกติแล้วช่วงเช้า พวกเขาจะเดินทางมาโรงเรียนด้วยรถยนต์จากบ้านอรรถเศรษฐากุล ส่วนช่วงเย็นจะเดินทางกลับบ้านด้วยรถยนต์ของบ้านเจริญกิจธารา ซึ่งตอนนี้คนรถมารออยู่แล้ว
“รอนานมากเลยดิ” เสียงทุ้มว่าระคนหอบเหนื่อย “ขอโทษนะ วันนี้พี่ติดลมไปหน่อย” ต่อให้เขาไม่หันไปมองที่เธอ ในสายตาเขาก็มองเห็นเธอเสมอ ...น้องน้อยที่น่ารักของเขา วันนี้ดีที่ไม่มีเด็กนักเรียนชายคนไหนมาก่อกวนเธอให้รำคาญใจ เขาอยากให้เธอเป็นเด็กน่ารักแบบนี้ตลอดไป และเป็นน้องน้อยของเขาคนเดียว ที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่เกิด
“สาวกรี๊ดเต็มเลยพี่ภีม อย่างฮอตเลยอะ” โรสลินว่าขำ ๆ แล้วลุกขึ้น “กลับกันเถอะ โซ่อยากกลับแล้ว” บนเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดของเด็กหญิงไม่มีแม้กระทั่งรอยของสติกเกอร์ ทว่าอีกคนที่เดินเคียงข้างกลับมีสติกเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่เต็มไปหมด
ธาวินลอบมองอีกคนก่อนจะดึงสติกเกอร์อันหนึ่งออกมาแล้วกดลงไปบนหลังของน้องสาวคนสนิท เขาแสร้งทำทีเป็นโอบไหล่อย่างที่เคยทำ แต่ก็ฝากสติกเกอร์ไว้บนตัวอีกคนแล้ว
“เฮ้ย ไอ้ภีม ของพวกนี้จะเอาไงวะ” กลุ่มเพื่อนของธาวินที่นั่งเปิดกล่องของขวัญจนมันมือถามขึ้น ธาวินถอนหายใจแล้วโบกมือไล่
“มึงอยากได้ก็เอาไป ใครอยากได้อะไรก็หยิบ ๆ ไปเลย” เขาตะโกนตอบ ไม่คิดเอาของขวัญเหล่านั้นกลับไปสักชิ้นเช่นเดียวกับปีที่แล้ว โรสลินพลอยยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย