"ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงด้วยวะ ก็แค่ยัยผู้หญิงขี้เมาที่ไม่รู้จักโต"เหมราชยังคงพูดออกมาด้วยความแปลกใจในความรู้สึกของตัวเอง พร้อมกับเดินอ้อมไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที เมื่อเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องรู้สึกแบบนี้กับเธอด้วย เพราะพิ้งค์พลอยคือผู้หญิงคนแรกที่เขาเข้าใกล้แล้วใจเต้นแรง จนมันจะกระเด็นออกมาจากอกข้างซ้ายให้ได้อยู่แล้ว
สักพักรถยนต์คันหรูสีดำวาววับได้แล่นเข้ามาจอดที่หน้าคอนโด เมื่อชายหนุ่มนั้นไม่รู้ว่าจะควรพาเธอกลับบ้านดีไหม สุดท้ายเขาจึงได้ตัดสินใจพาเธอมาค้างที่นี่ดีกว่า เพราะไม่อยากให้เสี่ยเพชรกล้าเห็นลูกสาวในสภาพนี้ ซึ่งเหมราชเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้เป็นนั่งดื่มจนเมามายแบบนั้นคนเดียวได้ และถ้าหากวันนี้เขาไม่แวะไปที่นั่น อะไรจะเกิดขึ้นกับเธอ แน่นอนต้นคงไม่ปล่อยให้พิ้งค์พลอยลอยนวล เพราะผู้หญิงร้อยทั้งร้อยที่ถูกต้นหิ้วกลับไปสุดท้ายก็ต้องยอมพลีกายให้กับเขาทุกราย
ภายในห้องนอนของคอนโดหรู ที่ถูกจัดแต่งเอาไว้แบบเรียบง่าย เพราะนานๆ ทีเขาถึงจะมาค้างที่นี่ หลังจากที่ผู้เป็นบิดาจากไปเหมราชก็กลับไปอยู่ที่บ้าน เพราะไม่อยากให้มารดาอยู่เพียงลำพัง กับบรรดาแม่บ้านและคนสวน เมื่อเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล จึงจำเป็นต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนมารดา เพื่อให้นางนั้นคลายเหงาลงได้บ้าง
ชายหนุ่มอุ้มพิ้งค์พลอยเข้ามาในห้อง พร้อมกับค่อยๆ วางเธอลงไปยังเตียงนอนอย่างเบามือ แม้ว่าเขานั้นจะรู้สึกหมั่นไส้ที่เธอทำตัวเหลวไหลก็ตามที แต่ก็ยังอยากทะนุถนอมเธออยู่ดี โดยหาเหตุผลขึ้นมาแย้งในความรู้สึกของตัวเองไม่ได้
“อ้วก! อ๊วกกก! อื้ม”
"บรรลัยแล้ว ยัยป้าเอ๊ย! แหวะ! กลิ่นโชยไปทั้งห้องแล้วเนี่ย! โคตรเหม็นเลย แล้วเสื้อผ้าก็เลอะไปหมด โอ๊ย! รู้อย่างนี้ปล่อยให้ไอ้ต้นลากไปที่คอนโดมันก็ดี ทำไมผมต้องทำคุณบูชาโทษด้วยเนี่ย" เหมราชพูดออกมาขณะที่พิงค์พลอยนั้น ยังคงเมาไม่ได้สติ หญิงสาวอ้วกออกมาแล้วหลับตานอนต่อราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"กลิ่นอ้วกตังเองหอมรัญจวนมากเลยหรือไง ถึงได้หลับลงได้แบบนี้ โอ๊ย! จะบ้าตายทำไมกูต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยวะ"
เหมราชพูดออกมาอย่างหัวเสีย พร้อมกับกำลังใช้ความพยายามในการแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกทีละเม็ด ก่อนจะทิ้งลงไปในตะกร้า เพราะมันได้เลอะอ้วกของพิ้งค์พลอย ก่อนจะหันมามองร่างอรชรที่นอนหลับเหยียดยาวอย่างสบายใจ โดยที่เสื้อผ้าของเธอนั้นก็เปื้อนอ้วกเลอะไปหมดเช่นกัน
"ตื่นมาโวยวายโทษผมไม่ได้นะครับ เพราะคุณเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดเอง ถ้าขืนปล่อยให้คุณนอนในสภาพแบบนี้ คนที่แย่คือผมไม่ใช่คุณ กลิ่นอ้วกของคุณชวนให้ผมปวดหัวมากเลยทีเดียว" ชายหนุ่มพูดออกมา พร้อมกับค่อยๆ ม้วนชายเสื้อของพิ้งพลอยพับขึ้นทีละนิดอย่างช้าๆ เมื่อเขากำลังกลัวว่าเสื้อรัดรูป ที่เผยแผ่นหลังดูเซ็กซี่ชวนให้หลงใหลแต่ชายหนุ่มก็พยายามหักห้ามใจ แล้วค่อยๆ ดึงชายเสื้อขึ้นอย่างช้าๆ เพราะอาจทำให้อ้วกเลอะเปรอะเปื้อนใบหน้าของเธอได้
"อย่ายุ่ง ฉานจานอน" พิ้งค์พลอยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ยาน เพราะความเมา ขณะที่ดวงตาของเธอยังคงหลับ แต่มือเรียวกลับพยายามปัด และผลักเหมราชออกห่างจากตัวของเธอ
"นอนนิ่งๆ ไปเลยนะยัยป้าขี้เมา เดี๋ยวจัดการให้สิ้นฤทธิ์เลยดีไหมเนี่ย" เหมราชพูดออกมา พร้อมกับหลับตาเล็กตาน้อย เมื่อเขานั้นได้ถอดเสื้อของพิ้งค์พลอยออกมาได้สำเร็จ ขณะที่ห้วงจังหวะการเต้นของหัวใจเขานั้นมันดังตึกตั๊ก เพราะสาเหตุมาจากบราเซียสีฉูดฉาด ซึ่งมันห่อหุ้มเต้ากลมโตของเธอเอาไว้แทบไม่มิด ภายในใจของเขากำลังคิดว่าเธอนั้นช่างเป็นผู้หญิงซ่อนรูป แม้จะพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเตลิดไปไกล แต่ความใกล้ชิด กำลังทำให้เขานั้นอดที่จะคิดไปถึงวันแต่งงานไม่ได้
เหมราชพยายามสลัดความคิดให้ออกไปจากหัวของเขา เพราะการแต่งงานไม่ได้เกิดจากความรัก ที่สำคัญเธอนั้นมีแฟนอยู่แล้ว ส่วนเขาเองก็ไม่ได้คิดจริงจังกับงานแต่งครั้งนี้สักเท่าไหร่นัก ที่ตกลงรับปากเสี่ยเพชรกล้าออกไปก็เพราะต้องการให้ธุรกิจที่บิดาสร้างมาอยู่รอด และสามารถบริหาร ให้การเงินของบริษัทกลับมาคล่องตัวเหมือนเดิมได้ แล้วทำไมเขาต้องคิดไปไกลด้วย
"หึ! สงสัยจะเมาแล้วอ่อยจนเคยตัว ผมละกลุ้มใจแทนพ่อของคุณเลยจริงๆ นี่คุณเช็ดตัวก่อนสิ! จะนอนกลิ้งไปไหนเดี๋ยวก็ตกเตียงคอหักตายหรอก" เหมราชพูดออกมาเสียงแข็ง แต่ดูเหมือนว่าปากกับใจของเขาจะไม่ตรงกัน เพราะชายหนุ่มกำลังดันร่างอรชรให้มานอนที่กลางเตียง ก่อนจะค่อยๆ เอาผ้าชุบลงไปในกะละมัง ที่เขานั้นได้ผสมน้ำอุ่นเอาไว้ แล้วบิดพอหมาดๆ มาเช็ดตัวให้กับเธอ โดยที่กายท่อนล่างของหญิงสาวมีผ้าห่มคลุมเอาไว้ เพราะเขานั้นได้ถอดชุดของเธอออก เนื่องจากมันเลอะอ้วก
"จานอน...อย่ายุ่ง" หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับพยายามปัดมือของเหมราชออก ส่วนเท้าของเธอนั้นก็อยู่ไม่เป็นสุข เพราะเวลานี้พิ้งค์พลอยได้ถีบผ้าห่มลงไปกองไว้กับพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เฮ้ย! บรรลัยแล้ว เอาวะ! เป็นไงเป็นกันคุณเป็นคนถีบผ้าห่มนั่นออกเองนะพิงค์พลอย" ชายหนุ่มไม่คิดที่จะหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมเรือนร่างให้กับเธอ แต่เขากลับบรรจงเช็ดตัวให้หญิงสาวแทน แม้จะพยายามข่มใจแค่ไหนก็ตาม แต่หัวใจของเหมราชก็เต้นแรงไม่หยุดเลยสักครั้ง เวลาที่อยู่ใกล้พิงค์พลอยแบบนี้ โดยเฉพาะในเวลานี้ที่เธอนั้นมีเพียงแค่บรา และกางเกงชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มเรือนกายเอาไว้
"อยู่นิ่งๆ ไม่อย่างนั้นถูกจับกดแน่ ผมเห็นแก่พ่อของคุณหรอกนะ ที่อุตส่าห์ยื่นมือเข้ามาช่วยบริษัทของผม วันนี้คุณจะอ่อยอะไรก็เชิญตามสบายผมยกให้หนึ่งวัน" ขณะที่พูดกับคนเมา มือของเขาก็ไม่ได้หยุดนิ่งยังคงเช็ดตัวให้เธอ วนไปวนมาจนเสร็จ
"หนาว...หนาวจัง" พิ้งค์พลอยพูดออกมา ขณะที่ดวงตาของเธอก็ยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม เหมราชรีบเอากะละมังและผ้าผืนเล็กเข้าไปเก็บในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาหยิบผ้าห่มสีน้ำเงินสไตล์ผู้ชายสุขุมมั่นคงมาห่มให้กับเธอ ซึ่งชายหนุ่มชื่นชอบสีโทนนี้เป็นชีวิตจิตใจ รวมทั้งผ้าปูเตียงปลอกหมอนทุกอย่างในที่นอนล้วนมีแต่สีน้ำเงินทั้งนั้น
เมื่อเขาได้ห่มผ้าให้พิ้งค์พลอยเสร็จ เหมราชได้หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำ ขณะที่อาบน้ำจิตใจของเขานั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิด เมื่อมันฟุ้งซ่าน มองไปทางไหนก็เจอแต่ใบหน้าของพิ้งค์พลอย เขาเองก็ยังสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้มีอิทธิพลกับหัวใจของเขานัก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เหมราชได้เดินออกมา เพื่อเลือกชุดนอนมาสวมใส่ให้กับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจหยิบขึ้นมาอีกชุด เพื่อสวมให้กับพิ้งค์พลอย แม้ว่าอุณหภูมิในห้องจะเย็นสบายกำลังพอดี แต่เขาก็คิดว่าควรจะหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้เธออยู่ดี เพราะไม่อย่างนั้นแล้วล่ะก็พรุ่งนี้เช้า เธออาจจะโวยวายมากกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ก็เป็นได้
"อืม...จา...นอน" พิ้งค์พลอยพูดออกมาพร้อมกับพยายามเอามือผลักเหมราชออกให้พ้นจากตัวของเธอ ขณะที่ชายหนุ่มนั้นพยายามสวมเสื้อให้กับหญิงสาวอย่างทุลักทุเลกว่าจะสวมใส่ได้สำเร็จก็ปาเข้าไปหลายนาที
"ขนาดเมานะเนี่ย ฤทธิ์เดชของคุณไม่เบาเลยนะพิ้งค์พลอย คุณเป็นคนแบบไหนกันแน่ ทำไมต้องทำตัวให้พ่อเป็นห่วงได้ทุกวี่ทุกวัน ผู้ชายคนนั้นมีดีอะไรนักหนาทำไมคุณถึงรักเขาจัง ทั้งที่นายมาร์คอะไรนั่น ทำร้ายจิตใจของคุณครั้งแล้วครั้งเล่า" เหมราชพูดออกมา พร้อมกับล้มตัวลงนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาหญิงสาว ชายหนุ่มจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก เมื่อหัวใจของเขานั้นกำลังทรยศสมอง เพราะเหมราชพยายามบอกกับตัวเองท่องจำให้ขึ้นใจ การแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจของเขาเท่านั้น เธอเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่เขาจะใช้เป็นสะพานให้เดินข้ามไปอีกฟาก เพื่อหวังที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้