บทที่ 11

1579 คำ
“เจ้านายครับ ผมเอ่อ...รู้ว่าเจ้านายรักคุณข้าวฟ่างมาก ทำไมเจ้านายไม่บอกเธอว่าเจ้านายรักเธอ หรือแสดงออกให้คุณข้าวฟ่างเห็นว่าเจ้านายรักเธอมาก และรอเธอตลอดเวลาสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา” เอ่ยถามไปแล้วรณกรก็กลั้นหายใจรอฟังคำตอบ แต่พอเจ้านายหนุ่มหันมามองช้าๆ ด้วยสีหน้าและแววตาติดหมองเศร้าเล็กน้อย แถมยังเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เขาก็นึกเสียใจอยู่บ้างที่ตนเองหลุดปากเอ่ยถามออกไป “ผมจะทำอย่างที่คุณแนะนำได้อย่างไร ข้าวฟ่างเป็นช้างเผือกในป่าใหญ่ เป็นดาวเด่นของวงการสเก็ตไทย อนาคตของข้าวฟ่างยังไปได้อีกไกล ผมไม่ควรเข้าไปตัวถ่วงอนาคตของข้าวฟ่าง” “แต่เจ้านายครับ หากเจ้านายไม่หยิบยื่นโอกาสให้กับคุณข้าวฟ่าง...คุณข้าวฟ่างก็ไม่มีวันนี้เช่นเดียวกันนะครับ เจ้านายควรบอกคุณข้าวฟ่างนะครับว่าเจ้านายรักเธอมาก” รณกรท้วงติงออกมาเบาๆ ซึ่งเรื่องที่เขาพูดออกมานั้นล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น เมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว หลังจากกาญต์พิชชากลับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปแล้ว ในวันรุ่งขึ้นเจ้านายหนุ่มและเขาก็เดินทางไปพบกับแม่ทิพย์ เพื่อบอกนางเรื่องการขออุปการะให้กาญต์พิชชาเป็นนักกีฬาในสโมสรเดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต โดยทางสโมสรจะส่งให้กาญต์พิชชาเรียนในระดับสูงสุดเท่าที่กาญต์พิชชาจะสามารถเล่าเรียนได้ ขณะเดียวกันทางสโมสรก็จะจัดหาโค้ชเก่งที่สุด เพื่อสอนสเก็ตให้กับกาญต์พิชชาด้วย ซึ่งทางสโมสรจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โดยไม่มีการเรียกร้องสิ่งใดตอบแทนจากกาญต์พิชชาเป็นเงินแม้แต่บาทเดียว ทว่าสิ่งที่กรกฎขอกาญต์พิชชาในวันแรกที่กาญต์พิชชาเข้ามาเป็นนักกีฬาในสโมสรแห่งนี้คือ ขอให้เด็กน้อยตั้งใจเรียน ตั้งใจซ้อมกีฬา และเป็นคนดีของประเทศชาติ สิ่งที่กรกฎร้องขอมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้น กรกฎถอนหายใจลึกกับคำพูดของรณกร แม้รู้ว่าตนเองเป็นคนชุบชีวิต มอบอนาคตอันสดใสให้กับกาญต์พิชชา กระนั้นเขาก็ไม่กล้าเขาไปบอกเธอว่าเขารักเธอมาก และไม่กล้าแม้แต่จะเรียกร้องความรักกลับคืนมาจากกาญต์พิชชา “ผมไม่กล้าบอกข้าวฟ่างหรอกรณกร คุณก็รู้ว่าผมกับข้าวฟ่างอายุต่างกันมาก” “อายุมันเป็นเพียงตัวเลขนะครับเจ้านาย” “สิ่งที่คุณพูดมามันอาจจะถูกต้อง แต่ผมไม่อยากให้ใครพูดว่าผมกำลังทำตัวไม่ต่างจากตาเฒ่าเลี้ยงต้อยเด็กน้อยไว้กินเอง” กรกฎบอกถึงเหตุผลสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลแทงใจดำ ที่ทำให้เขาไม่กล้าบอกรัก ไม่กล้าเข้าใกล้กาญต์พิชชาไปมากกว่านี้ สิ่งที่เขาทำได้ตลอดสิบเอ็ดปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เขาทำได้ในขณะนี้คือการเฝ้ามองยอดดวงใจของเขามีอนาคตอันสดใส เป็นนักสเก็ตชื่อก้องตามที่กาญต์พิชชาต้องการ “โธ่...เจ้านายครับ ไม่มีใครกล้าพูดหรอกครับว่าเจ้านายเป็นตาเฒ่าเลี้ยงต้อยคุณข้าวฟ่างไว้เอ่อ...แต่งงานเอง” รณกรเลือกใช้คำว่าแต่งงานในตอนท้ายแทนคำพูดที่เจ้านายหนุ่มเอ่ยออกมาในก่อนหน้านี้ เพราะเขารู้ว่าเจ้านายรักและจริงใจกับกาญต์พิชชามาก ซึ่งหากเป็นไปได้ เจ้านายหนุ่มคงขอกาญต์พิชชาแต่งงานเป็นคู่ชีวิตของเขาตลอดไป กรกฎยกมือห้ามไม่ให้รณกรพูดต่อ ก่อนจะเอ่ยสำทับออกมาอีกครั้ง “เลิกพูดเรื่องนี้เถอะรณกร ต่อให้คุณพูดกรอกหูทุกวัน ผมก็ไม่มีทางเข้าไปบอกข้าวฟ่างหรอกว่าผมรักเธอ ผมจะคอยอยู่ดูข้าวฟ่างแบบนี้ไปเรื่อยๆ” “แล้วถ้าเกิดมีชายอื่นมาฉกคุณข้าวฟ่างไปล่ะครับ เจ้านายจะว่าอย่างไรครับ” คำถามของรณกรทำเอาดวงตาคมกล้าถึงกับไหววาบด้วยความหึงหวงซึ่งเจ้าตัวเผลอเผยออกมาให้เห็นชั่วขณะ ก่อนจะกะพริบตาถี่ๆ ให้อาการดังกล่าวลางเลือนไปจากดวงตาทั้งคู่ ทว่าความหึงหวงกลับฝั่งแน่นอยู่ในหัวใจอันแข็งแกร่งที่รณกรหรือใครๆ ไม่มีทางมองเห็นมันได้ “ข้าวฟ่างจะรักหรือชอบพอกับใครมันก็เป็นเรื่องของเธอ ผมคงไปห้ามเธอไม่ได้หรอกรณกร แต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็จะรักข้าวฟ่างตลอดไป” “เบื่อคนปากกับใจไม่ตรงกัน” รณกรงึมงำออกมาด้วยความลืมตัว แต่พอได้ยินเสียงเจ้านายหนุ่มทำเสียงฮึ่มๆ ในลำคอ แถมยังจ้องมองเขาเขม็งราวกับจะจัดการเขาด้วยสายตาคมกริบคู่นี้ ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนภัยจะมาถึงตัว “เออ เจ้านายครับ ผมเอาข่าวของคุณข้าวฟ่างมาให้เจ้านายอ่านครับ” ว่าแล้ว รณกรก็ยื่นหนังสือพิมพ์ในมือซึ่งมีทั้งหมดสามฉบับด้วยกันให้ผู้เป็นเจ้านายอ่าน และเพื่อความสะดวก เขาได้เปิดไปยังหน้าข่าวกีฬาให้กับเจ้านายอย่างพร้อมเสร็จสรรพ กรกฎรับหนังสือพิมพ์มาจากลูกน้อง แล้วกวาดสายตามองตัวหนังสือซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยมีภาพน่ารักสดใสของกาญต์พิชชาประกอบด้วย จากนั้นก็อ่านพาดหัวข้อข่าว รวมทั้งรายละเอียดของเนื้อหาข่าวออกมาดังๆ ให้รณกรได้ยินด้วย “กาญต์พิชชาหรือข้าวฟ่าง นักกีฬา [1]ฟิกเกอร์สเก็ต ดาวรุ่งของสโมรเดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต ได้รับคัดเลือกจากสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ร่วมกับเพื่อนนักกีฬาในสังกัดสโมสรอีกสองคน ให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันสเก็ตน้ำแข็งชิงแชมป์โลก 2012 (World Figure Skating Championships 2012) ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่าง 26 มีนาคมถึง 1 เมษายน ที่จะถึงนี้” เมื่ออ่านเนื้อหาของข่าวแค่เพียงบางส่วนจบแล้ว กรกฎก็พับหนังสือพิมพ์ไว้ตามรอยเดิม แล้วนำไปเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของตนเอง พอเห็นสายตาของรณกรมองตามการกระทำของเขา และล่วงรู้ด้วยว่าเขาจะตัดภาพของกาญต์พิชชาจากหน้าหนังสือพิมพ์เก็บไว้ ก็รีบขึงตามองเป็นการสั่งให้อีกฝ่ายรูดซิปปากให้สนิท ก่อนจะเอ่ยบอกรณกรต่อ “เมื่อวานท่านนายกสมาคมฯ โทรมาบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ท่านขอบคุณทางสโมสรของเราด้วยที่ยอมส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันสเก็ตน้ำแข็งชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ด้วย” รณกรทอดสายตามองไปยังลานสเก็ตที่อยู่เบื้องล่างห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม เพื่อทอดมองกาญต์พิชชาซ้อมฟิกเกอร์สเก็ตด้วยความตั้งอกตั้งใจ พร้อมกันนั้นก็เอ่ยวิเคราะห์ออกมาตามสายตาตนเองมองเห็น “ดูจากการซ้อมของคุณข้าวฟ่างแล้ว เธอน่าจะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งมาให้ประเทศไทยได้นะครับเจ้านาย” “อืม...ผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ข้าวฟ่างนอกจากจะมุ่งมั่นคว้าชัยชนะให้ได้แล้ว เธอยังมีความตั้งใจมาก และหากเธอคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งจากการแข่งขันในครั้งนี้ได้ เธอก็จะมีสิทธิ์ลุ้นไปแข่งขันใน [1]โอลิมปิกฤดูหนาว ที่จะถึงนี้ด้วย” สิ่งที่นักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตใฝ่ฝันคือการได้เข้าร่วมแข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งมีการจัดยิ่งใหญ่ไม่แพ้กีฬาโอลิมปิก กาญต์พิชชาและนักกีฬาในสโมสรอีกหลายๆ คนก็มุ่งหวังว่าตนเองจะได้ไปเหยียบสนามกีฬาในเมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย “ถ้าหากคุณข้าวฟ่างได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในโอลิมปิกฤดูหนาว เจ้านายจะเดินทางไปประเทศรัสเซียด้วยหรือเปล่าครับ” รณกรเอ่ยถามด้วยความไม่มั่นใจ เพราะเจ้านายมีหน้าที่การงานให้รับผิดชอบอีกมากมายจนล้นมือ ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าถึงเวลานั้นเจ้านายหนุ่มจะเดินทางไปประเทศรัสเซีย เพื่อร่วมเชียร์กาญต์พิชชาได้หรือไม่ ++++++++++++++ [1] โอลิมปิกฤดูหนาว (Winter Olympic Games) เป็นการแข่งขันระดับโอลิมปิกด้านกีฬาฤดูหนาว จัดขึ้นทุก 4 ปี ลักษณะของกีฬาฤดูหนาวจะจัดขึ้นในภูมิประเทศที่เป็นน้ำแข็งหรือหิมะ เช่นสเก็ตน้ำแข็งและสกี โดยคณะกรรมการโอลิมปิกของชาติต่างๆ (NOCs) บางประเทศนั้นจะเป็นคณะเดียวกันกับโอลิมปิกฤดูร้อนที่จะเป็นผู้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันกับนักกีฬาของชาติอื่น เพื่อชิงเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง สำหรับจำนวนประเทศที่มีส่วนร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวน้อยกว่าโอลิมปิกฤดูร้อน ด้วยเหตุผลชัดเจนของสภาพภูมิประเทศ และประเทศส่วนใหญ่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะเข้าถึงการฝึกกีฬาฤดูหนาวนั่นเอง ทั้งนี้ การแข่งขันครั้งแรก จัดขึ้นที่เมืองชาโมนิกซ์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) ส่วนการแข่งขันครั้งล่าสุด จัดขึ้นที่เมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย ในปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) ++++++++++ [1] ฟิกเกอร์สเก็ต เป็นคำทับศัพท์ของกีฬา สเก็ตลีลา (figure skating) เป็นกีฬาสเก็ตน้ำแข็ง ซึ่งแข่งขันโดยการแสดง การหมุน กระโดด การทำสเต็บเท้า (step sequences) และการแสดงท่าทางอื่น ๆ โดยทั่วไปมักจะเป็นการแสดงประกอบเสียงดนตรี การแข่งขันมีทั่งแบบเดี่ยว เป็นคู่ (ชายคู่หญิง) ไอซ์แดนซิ่ง (ice dancing) และประเภทหมู่คณะ (synchronized skating)
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม