นั่นคือสิ่งที่เรือร้ายจอมเจ้าเล่ห์กำลังคิดอยู่! และมันก็เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงถึงต่อให้ใจแข็งแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมาตายดับแพ้ความดีไปเสียทุกราย แต่พวกเธอก็ประมาทจนดูไม่ออกหรอกนะว่าความดีที่เห็นมันคือสิ่งที่เที่ยงแท้หรือแค่ภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นมาตบตากันแน่
และนั่นเองคือข้อได้เปรียบที่มันจะทำให้เขาได้เธอมาครองสมใจ!
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ตกใจนิดหน่อยเท่านั้น” ขวัญชีวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อยก่อนจะถอยห่างหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งโดยไม่คิดที่จะหันหลังกลับมามองใครอีกคนที่กำลังยืนยิ้มอยู่อีกเลย
หญิงสาวยกมือขึ้นหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเอาไว้แน่น หัวใจของเธอกระทั้งตอนนี้ก็ยังคงเต้นรัวเร็วไม่ยอมหยุด แค่เพียงสายตาของเขาที่มองจ้องมาก็ทำเอาใจทั้งดวงสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ และถึงแม้จะรู้สึกหวั่นเกรงต่อสายตาคมกริบที่กำลังจ้องมองของเขามากแค่ไหน แต่ลึกๆ ภายในใจเธอเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมสิ่งที่เขาทำไม่ได้อยู่ดี
เพราะถ้าหากเป็นผู้ชายคนอื่นลองได้เห็นเธอในสภาพเช่นนี้คงไม่ปล่อยให้เธอหลุดรอดมาได้ง่ายๆ แต่เขากลับไม่ทำอะไรเลยแม้ว่าจะมีโอกาสทำมันอยู่ตั้งหลายครั้งก็ตามที
เขาให้เกียรติกันและมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่ล้นเปี่ยมซึ่งมันช่างหาได้ยากเย็นเหลือเกินในโลกใบนี้ หญิงสาวคิดอยู่กับตัวเองในขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าที่ถูกซักแห้งให้เป็นอย่างดี เขาใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ให้ความสำคัญกับเธอจนเกินคำว่าพอดี และนั่นก็ใช่ว่าหญิงสาวจะไม่หลงปลื้มกับมันไปเสียทีเดียว
หลังจากนั้นไม่นานอลันทำตามทุกๆ อย่างที่พูดออกมาจริงๆ เขาขับรถคันหรูราคาแพงของตัวเองมาส่งเธอตามทางที่เธอบอก ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วทำให้ขวัญชีวานึกอยากจะเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายพูดคุยแต่ก็ไม่กล้า ไม่อยากสร้างความสนิทกับเขาเกินไปกว่านี้เพราะกลัวว่าเวลาที่ต้องจากกันเธอจะยิ้มลาให้กับเขาได้อย่างไม่เต็มที่เท่าที่ควร
“ดูคุณเงียบๆ ไป หรือว่ากำลังโกรธผมอยู่รึเปล่าครับโรส” คำถามของคนข้างกายที่ดังขึ้นทำให้ขวัญชีวาหลุดออกมาจากความคิดของตัวเองได้ในที่สุด
“เปล่านะคะ ฉะ..ฉันจะไปโกรธคุณเรื่องอะไรกันละคะ” เธอไม่รีรอที่จะเอ่ยตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว อันที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรเขาจริงๆ แค่เพียงแต่กำลังรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องจากกันเสียมากกว่าเท่านั้น
แต่มันก็ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ ที่เธอจะต้องรู้สึกแบบนั้น ก็เขาทั้งดีแสนดีเสียขนาดนี้ ผู้หญิงคนไหนในโลกได้อยู่ใกล้ก็คงไม่แคล้วต้องรู้สึกเหมือนกันกับเธออยู่แล้ว แต่ถึงแม้ว่าจะทำใจลำบากแค่ไหนเธอก็ต้องทำเพราะเรื่องระหว่างเธอกับเขามันไม่ได้มีอะไรมากเลยนอกเสียจากคนแปลกหน้าที่โชคชะตาทำให้บังเอิญมาพบเจอกันเท่านั้น
และเมื่อเขาพาเธอกลับไปส่งถึงที่พักเมื่อไหร่...เรื่องระหว่างเธอและเขาก็เป็นอันสิ้นสุดลงเมื่อนั้น!
อย่างคำพูดที่ว่า..’ความฝันดีๆ ก็มักจะอยู่กับคนเราได้ไม่นานเท่าไหร่’
“ถ้าอย่างนั้นบอกผมได้ไหมครับว่ากำลังคิดอะไรอยู่” คนถูกซักถามเงียบไปชั่วครู่เพื่อคิดหาคำตอบดีๆ ตอบกลับไปให้ และเมื่อนึกขึ้นได้ก็ส่งยิ้มกว้างให้ไปพร้อมๆ กับคำตอบ
“ฉันกำลังคิดถึงวันพรุ่งนี้อยู่ค่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกอันธพาลพวกนั้นจะเป็นยังไงแล้วบ้าง แต่ที่แน่ๆ ฉันคงกลับไปทำงานที่เดิมไม่ได้อีกแน่ๆ พวกเขาคงจะต้องไปดักรอฉันอยู่และอาจจะทำให้คนอื่นๆ ต้องมาพลอยเดือดร้อนกันไปด้วย” นั่นมันก็แค่บางส่วนที่เธอกำลังคิดอยู่เท่านั้น หากแต่ความจริงแล้วเธอกำลังคิดถึงเรื่องของคนข้างกายนี่เสียมากกว่า
“แบบนี้ก็แย่นะครับ ผมคิดว่าเราน่าจะได้เจอกันอีกสักครั้งแท้ๆ” อลันที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้นมาบ้าง แม้ว่ารู้ว่าทุกสิ่งที่เธอพูดมามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้แค่ไหน แต่อย่างไรเสียเขาก็ยังไม่คิดที่จะเลิกล้มความตั้งใจลงง่ายๆ เพราะคนอย่างอลัน เกรย์เวอร์หากได้ลองหมายตาสิ่งใดเอาไว้เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง
“ทำไมคุณถึงคิดว่าเราสองคนควรจะเจอกันอีกล่ะคะอลัน”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ! หรือว่าคุณ...ไม่อยากเจอผมอีก” น้ำเสียงและท่าทางที่เขาใช้เอ่ยขึ้นกัดเซาะหัวใจคนฟังจนต้องรีบส่ายหน้าพร้อมปฏิเสธทันควัน
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นเสียหน่อย คุณอย่าเข้าใจฉันผิดสิคะ” หญิงสาวแก้ต่างให้ตัวเองก่อนจะจ้องมองดวงตาคู่สวยไม่ยอมหลบ ใครบ้างจะไม่อยากเจอคนแบบเขาอีก คนที่เพียบพร้อมและรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ มันไม่บ่อยนักที่เธอจะเกิดความรู้สึกแบบนี้กับใครสักคน
“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณเองก็อยากเจอผมอีกเหมือนกันใช่ไหมครับโรส” ครั้งนี้หญิงสาวจำต้องรีบพยักหน้ารับอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากทำให้เขาต้องมารู้สึกแย่กับคำพูดที่ไม่เคยตรงกับหัวใจของเธอเข้าอีก
อลันไม่ได้เอ่ยถามอะไรมากนักหลังจากที่เขาได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ฃายหนุ่มตั้งหน้าตั้งตาขับรถมาตามที่คนนั่งข้างๆ คอยชี้บอกทางให้จนกระทั่งรถของเขาค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อมาถึงจุดปลายทางในเวลาต่อมา ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองไปข้างหน้าก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าต้นแขนเล็กเอาไว้ซะก่อนที่เธอจะได้ลงไปจากรถ
“ผมว่าคุณน่าจะได้คำตอบแล้วนะครับว่าไอ้พวกอันธพาลที่เล่นงานคุณเมื่อคืนมันกำลังคิดจะทำอะไรกันอยู่” หญิงสาวงุนงงต่อคำบอกเล่าของเขาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นก่อนจะเข้าใจทุกสิ่งเมื่อหันหน้าไปมองตามเรียวนิ้วของเขาที่กำลังชี้ไปตรงทางเข้าที่พักของตัวเองที่ตอนนี้นั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่าห้าคนกำลังยืนวนเวียนไปมาอยู่ไม่ห่าง
“นั่นมัน...”