บทที่11
มาเป็นผู้หญิงของฉันสิ
ผมซื้อรถใหม่อีกสองคันเพราะผมอยากให้เธอเอาไว้ใช้ผมสังเกตมานานไม่ว่าเธอจะไปไหนก็มักจะไปกับเพื่อนหรือไม่ก็เรียกรถโดยสารเอา ไปกับคนอื่นจะสู้ไปด้วยตัวเองได้ยังไง
“เจ้านายนี่มันอะไรกันครับ ชื่อเจ้าของรถคันนี้คือน้องโมจิของผม อย่าบอกนะว่าเจ้านาย!”
“หยุดเลย! มึงหยุดคิด กูแค่สนับสนุนเด็กเรียนดีมีมานะรู้จักทำมาหากินเฉยๆ”
“เรื่องค่าเทอมล่ะนายจะแก้ตัวยังไง”
“ถือว่าเป็นทุนการศึกษาไป แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วยไอ้ก้องนี่มันหน้าที่มึงหรือไง
“นายแม่งชั่วร้าย เหอะ!” ก้องภพรวบเอกสารตรงหน้าเพื่อออกจากห้องไปจัดการตามมอบหมาย ถึงเขาจะชื่นชอบโมจิแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งตอนนี้เจ้านายเขาเริ่มแสดงออกชัดเจนแต่ยังคงปากแข็ง อยากรู้นักว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
เมื่อเอกสารทุกอย่างเสร็จแล้วอีกสองวันรถเบนซ์รุ่นใหม่ถึงจะมาส่งวันนี้ผมเลยต้องลงมาบอกเธอให้รู้ตัวว่าเธอต้องอยู่รับรถที่ผมซื้อให้ ผมกดกริ่งห้องเธออยู่นานจนประตูห้องเปิดออกช้าๆ ยัยตัวเปี๊ยกของผมหน้าซีดเหมือนคนป่วย เธอมองผมตาละห้อยจนน่าสงสาร
“คุณพร้อม....แครกๆ” เสียงไอดังตามมาจนคนตรงหน้าตกใจ
“ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองป่วยยัยเปี๊ยก ไหนจับตัวหน่อยมีไข้หรือเปล่า”
“โมจิทำงานหนัก คุณพร้อมเข้ามาก่อนค่ะ แครกๆๆ”
ผมเดินตามเข้ามาในห้องจนเห็นกองพัสดุมากมายวางอยู่ บนโต๊ะมียาลดไข้กับมาม่าต้มที่ทานไม่หมด ทำไมเธอต้องทำงานหนักขนาดนี้ด้วย
“รกหน่อยนะคะ คุณพร้อมนั่งรอก่อนค่ะเดี๋ยวโมจิไปเอาน้ำมาให้”
“ไม่ต้องมานั่งนี่มาฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมดึงแขนเธอมานั่งบนโซฟา คนตัวเล็กเริ่มหนาวสั่นผมจึงหยิบผ้ามาห่มให้เธอ “ไปหาหมอเถอะเดี๋ยวฉันพาไป”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ เฮ้อโมจิกินยาไปแล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้น ว่าแต่คุณพร้อมมีธุระอะไรกับโมจิคะ”
“ฉันซื้อรถให้เธอแทนคำขอโทษอีกสองวันอยู่รับรถด้วยล่ะ”
โมจิทำตาโตใส่คนตรงหน้า นี่เขายังไถ่โทษไม่หมดอีกหรือไงลำพังแค่หุ้นร้านโมจิก็มากพอแล้วนี่เขาจะซื้อรถให้เธอหรือว่าเขามีอะไรแอบแฝง
“โมจิขอไม่รับนะคะมันมากเกินไปแล้วค่ะ โมจิเกรงใจ”
“แค่เศษเงิน ช่างเถอะฉันซื้อให้ก็รับๆ ไปอย่าให้ฉันรู้สึกเสียกำลังใจได้ไหม อีกเรื่องหนึ่งเรื่องค่าเทอมฉันจัดการจ่ายให้เธอจนจบปริญญาตรีแล้วนะ”
“คุณพร้อม มะ มันมากเกินไปจริงๆ ค่ะ”
“ไม่มากไปหรอก”
ทั้งสองนั่งมองหน้ากันจนโมจิเริ่มตาปรือ ฤทธิ์ยาที่เธอทานไปเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้คนตัวเล็กขยับผ้าห่มให้กระชับขึ้น ดวงตาของเธอค่อยๆ ปิดลงช้าๆ ร่างกายเอนลงมานอนหนุนตักชายหนุ่มด้วยความลืมตัว
ผมปล่อยให้เธอนอนหนุนตักอยู่แบบนั้นมือนึงก็ลูบหัวเธอเบาๆ อีกมือก็ไถหน้าจอสมาร์ตโฟนเช็กข่าวสารต่างๆ นานา ตอนนี้ผมควรรู้สึกกับเธอแบบไหนกัน
“ยัยตัวเปี๊ยกไข้ไม่ลดเลย” ผมจับเธอนอนราบลงบนโซฟาเพื่อลุกไปจัดการเตรียมผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอ “ถ้าไข้ไม่ลดฉันต้องบังคับเธอไปหาหมอนะยัยเปี๊ยก”
1ชั่วโมงผ่านไป
โมจิลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงการสนทนาของใครบางคน เธอพยายามตั้งสติฟังเจ้าของเสียงซึ่งเธอจำได้ดีว่านี้คือเสียงของคุณพร้อม เขาสั่งงานลูกน้องและเลื่อนการประชุมออกไปเป็นพรุ่งนี้
เมื่อพร้อมวางสายโทรศัพท์เขาก็รีบเดินเข้ามาจับหน้าผากของคนตัวเล็กเมื่อเห็นว่าไข้ลดแล้วเขาจึงรีบเดินไปดูข้าวต้มในหม้อที่เขาทำเอาไว้ให้เธอทาน
โมจิค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งเธอมองไปรอบๆ ห้องก็เห็นถึงความผิดปกติ ข้าวของที่เธอไม่ได้จัดถูกเขาจัดการเก็บให้และจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
“เป็นยังไงบ้างยังปวดหัวอยู่ไหม” พร้อมรักยกถ้วยข้าวต้มออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“ดีขึ้นแล้วค่ะ นี่คุณทำความสะอาดห้องโมจิด้วยเหรอคะ”
“อืม ไม่ต้องถามอะไรแล้วกินข้าวจะได้กินยา เดี๋ยวฉันต้องขึ้นไปเซ็นเอกสารเสร็จแล้วจะลงมาหา กินให้หมดด้วยล่ะ”
“ค่ะ”
เมื่อประตูห้องปิดลงฉันก็รีบวางช้อนลงแล้ววิ่งมาดูหน้าตัวเองที่กระจก หน้าฉันแดงมากแดงจนฉันต้องยกมือขึ้นปิดแก้มตัวเอง
“วาสนาของโมจิเองค่ะ^^”
หลังจากที่คุณพร้อมกลับขึ้นไปทำงานฉันก็เดินมานั่งแพ็กของต่ออีกหน่อยพอยาออกฤทธิ์คุณพร้อมเขาก็กลับมาพอดี เขาชูคีย์การ์ดให้ดูก่อนจะเสียบมันไว้ที่เดิม
“รอนานไหม”
“ไม่ค่ะ ว่าแต่คุณพร้อมไม่มีงานที่ไหนเหรอคะ”
“ไม่มีฉันเลื่อนไปหมดแล้วเห็นเธองานยุ่งเลยมาหาเรื่องช่วย”
“คุณพร้อมเอ่อ....โมจิเกรงใจคุณจริงๆ นะคะ เราดูใกล้ชิดกันเกินไปหรือเปล่าโมจิเป็นเด็กกลัวคนจะมองว่าคุณพร้อมเลี้ยงต้อยค่ะ ไหนจะหุ้นส่วนไหนจะซื้อรถแถมค่าเทอมของโมจิคุณพร้อมก็จ่ายให้ด้วย โมจิเกรงใจค่ะ”
“ถ้างั้นก็ตัดปัญหา เธอมาเป็นผู้หญิงของฉันทุกอย่างก็จบ”
0.0
-----------------------------------------------
กรี๊ดดดดดด อะไรกันเนี้ยยยย คุณพร้อมไม่ควรมีคนเดียวบนโลกค่ะ