บทที่7
แฉกลางงาน
1เดือนผ่านไป
โมจิเริ่มขยายตลาดออนไลน์โดยมีรุ่นพี่รหัสของเธอเป็นคนช่วยเหลือทำระบบหลังบ้านให้เธอจนทุกอย่างเข้าที่และเป็นไปตามความคาดหมาย
“พี่วศินช่วยหนูได้เยอะเลยค่าแรงก็ไม่คิดด้วย โมจิเกรงใจจังเลยค่ะ”
“คิดมากไปได้ เออโมจิพี่ว่าจะถามช่วงนี้เราเดือดร้อนเงินหรือเปล่ามีอะไรบอกพี่ได้นะ” วศินมองน้องรหัสด้วยความห่วงใย
“ไม่ค่ะ หนูพึ่งโอนให้แม่กับน้องไปยังพอมีเก็บอยู่ พี่วศินกลัวหนูไม่มีเงินเหรอคะ^^”
“ไม่ใช่แบบนั้นคือ....พี่แค่เป็นห่วงโมจิเป็นเด็กต่างจังหวัดต้องมาเรียนกรุงเทพฯทั้งเรียนทั้งทำงานถ้าเกิดเดือดร้อนเรื่องเงินบอกพี่ได้ตลอดไม่ต้องเกรงใจรู้เปล่า” มือหนาจับหัวเธอโยกเบาๆ จนร่างกายเธอไหวไปตามแรง
“โอเคค่ะ ถ้าโมจิมีปัญหาจะรีบบอกพี่วศินเป็นคนแรกเลย”
ทั้งสองช่วยกันทำงานอยู่นานดูเวลาอีกทีก็ปาไปสี่ทุ่ม โมจิจึงเดินลงมาส่งพี่รหัสด้านล่างพนักงานต้อนรับจึงนำบัตรเชิญมาให้เธอหลังจากที่เธอเดินกลับเข้ามาแล้ว
“อะไรคะ?”
“บัตรเชิญสำหรับผู้เช่า-ซื้อคอนโดค่ะ เป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบของที่นี่ทางคอนโดทวีสุขจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ น้อยๆ บนดาดฟ้า”
“อ๋อ มีของกินเยอะไหมคะ”
“เยอะมากค่ะ^^”
“งั้นดีลค่ะ”
ฉันกลับขึ้นมาบนห้องก็รีบเปิดอ่านบัตรเชิญรายละเอียดลงไว้ชัดเจนช่วงเช้าจะมีการทำบุญทุกคนสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่งานเลี้ยงกลางคืน (ปาร์ตี้ชุดนอน) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีไม่อั้นจุใจ งานจะเริ่มตั้งแต่1ทุ่ม-เที่ยงคืน
“ก็ดีถือว่าได้ออกไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆ บ้าง”
เมื่อถึงวันงานฉันรีบแต่งตัวด้วยชุดนอนลายกระต่ายชุดอาจจะไม่ได้เซ็กซี่มากแต่พอฉันใส่แล้วมันเซ็กซี่เหลือเกิน นมแทบล้นออกมาไหนจะสะโพกงอนๆ นี่อีก
“เกิดมาสวยใช้ชีวิตลำบากจัง”
ขึ้นมาด้านบนไม่ทันได้มองหาเพื่อนบ้าน หนุ่มๆ ก็รีบเข้ามาทำความรู้จักกับฉันไม่ขาดสาย ฉันไม่ชอบชนแก้วกับใครไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าจากที่อยากมาร่วมสนุกกลับกลายเป็นว่าฉันอยากกลับห้องเหลือเกิน
อีกด้านของงานเลี้ยง
พร้อมและเพื่อนๆ ของเขานั่งมองสาวสวยกันตาเยิ้มโดยเฉพาะโมจิ วันนี้เธอสวยมากน่ารักจนสาวๆ หลายคนอิจฉาขนาดพร้อมที่ไม่เจอหน้าเธอมาเป็นเดือนยังอดที่จะมองเธอไม่ได้ ใบหน้านวลเนียนไร้ที่ติ ผิวขาวอมชมพูจนอยากจะฟัดให้ทั่วเรือนร่าง
แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้น
“กูว่ามึงไปชวนน้องเค้ามานั่งด้วยกันเถอะไอ้พร้อม” ปริญเอ่ยปากถาม ที่เขามางานนี้ได้เพราะเขาเองก็มีคอนโดอยู่ที่นี่เหมือนกัน
“ไม่อะ กูไม่ชอบหน้ายัยนั่นเท่าไหร่”
“อะไรของมึงวะ ไอ้ก้องไปจัดการตามเด็กคนนั้นมานั่งนี่จะได้ไม่ต้องถูกแทะโลมจนเปื่อย”
“ครับ”
ก้องภพรับหน้าที่เดินไปเชิญโมจิมานั่งร่วมโต๊ะแม้เธอจะไม่อยากมาเผชิญหน้ากับพร้อมแต่ก้องภพก็เร้าหรือจนเธอยอมมานั่งอย่างน้อยก็จะได้หลุดพ้นจากพวกปากหอยปากปูพวกนั้น
“สวัสดีค่ะ” โมจิยกมือไหว้หนุ่มๆ เนื่องจากพวกเขาอายุมากกว่าเธอหลายปี
“ครับ พี่ชื่อปริญนะ”
“ค่ะ โมจิรู้จักคุณปริญค่ะ โมจิชอบดูข่าวนักธุรกิจชอบฟังความคิดและวิธีการบริหารงานมาปรับใช้”
“เขินจังเลย ฮ่าๆ ว่าแต่น้องโมจิมีธุระที่ไหนต่อหรือเปล่าครับ สนใจไปหาข้าวต้มร้อนๆ ทานด้วยหันไหม^^”
พร้อมรักนั่งเงียบเขาแทบไม่อยากมองหน้าสาวตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยแต่พอได้ยินเพื่อนรักอย่างปริญเอ่ยชวนเขากลับหันขวับมามองตาเขียวใส่เพื่อน โมจิเห็นหนุ่มๆ ด่ากันเธอจึงขอตัวลุกไปตักอาหารมาทาน
“ไอ้เหี้ยพร้อมกูกำลังจะดีลอยู่แล้วมึงแม่ง!”
“มึงเลือกบ้างเถอะฉิบหาย”
“อ้าวก็น้องโมจิเขารับงานนี่หว่า ว่าแต่มึงปิดดีลไปหรือยัง”
“ส้นตีนนี่ไง!”
โมจิไม่รู้เลยว่าตอนนี้หนุ่มๆ ในงานต่างพูดคุยกันถึงเรื่องของเธอ สายตาของผู้ชายเหล่านี้บ้างก็มองอย่างสมเพช บ้างก็โอ้อวดว่าเคยใช้บริการ เธอเริ่มรู้สึกผิดปกติก็ตอนเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
“ไอ้เต๋ามาพอดีเลย เฮ้ยทางนี้!” ปริญโบกมือเรียกเพื่อนชายเข้ามาในงาน เพียงแค่เต๋ามองมาก็แอบตกใจที่เห็นใบหน้าของโมจิ
“มองหน้าอย่างกับเห็นผี นี่น้องโมจิมึงรู้จักใช่ไหมกูจะได้ไม่ต้องแนะนำเพิ่ม” ปริญฉีกยิ้มกว้างแต่โมจิไม่เข้าใจ เธอหันไปยกมือไหว้สมาชิกใหม่ที่เข้ามา
“สวัสดีค่ะ”
“คะ ครับ เอ่ออ” เต๋ามีอาการอ้ำๆ อึ้งๆ เพราะเขาเองเคยใช้บริการโมจิอยู่บ่อยครั้งแต่เหมือนว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงว่าภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใคร
“เอาตรงๆ มึงซื้อยัยเด็กนี่เท่าไหร่กูจะได้เพิ่มให้สองเท่า” พร้อมหันมามองหน้าโมจิที่กำลังน้ำตาคลอ แก้วน้ำหวานในมือสั่นระริกทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ
“เป็นอะไรทำอย่างกับไม่เคย” พร้อมยังคงพูดจาถากถางจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง
“ไอ้พร้อมใจเย็นๆ มึงฟังกูก่อนนะ” เต๋ารีบปรามเพื่อนแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเพราะแก้วน้ำในมือของโมจิลอยข้ามฝั่งไปหาเพื่อนเขาเสียก่อน
ปัก!
เพล้ง!!
“โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรวะ!!”
“ไอ้เหี้ย!!”
โมจิด่าด้วยน้ำเสียงเน้นเขี้ยวเน้นฟัน เธอทนฟังมานานแล้วและคงทนต่อไปไม่ไหว
--------------------------
ด่ามันไปอีกลูกไอ้พร้อม ไอ้ปากหมา