***
ขุน ชายหนุ่มร่างโตยืนมองไอวาที่เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่นาทีวิ่งหนีหายไปต่อหน้าต่อตาก่อนจะหันไปส่งสายตาอำมหิตใส่เพื่อนสาว
“คริสแกมาติ๊งต่างสมอ้างฉันไปเป็นแฟนแกได้ยังไง ขนลุก!”
ขุนสั่นตัวแสดงท่าทางรังเกียจ
“เออน่ะ!”
“เด็กนั่นเหมือนจะร้องไห้ด้วยนะ สรุปยังไงไหนเล่าซิ๊”
ขุนวางสัมภาระทั้งหมดวางลงกองกับพื้นและหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ตัวข้าง ๆ
“นั่งลง”
เขาดึงแขนของคริสให้นั่งลงตามด้วย
“ไม่กลับบ้านหรือไง ฟ้าก็มืดก่อนหรอกมาซะเย็นเลย”
“ช่างฟ้ามัน ฉันอยากรู้เรื่องนี้ สรุปแกดึงฉันเข้าไปมีเอี่ยวด้วยทำไมละเนี่ย หืม??”
ขุนนั่งจ้องคริสรอคำตอบที่เขาสามารถคาดเดาได้อยู่แล้วแต่อยากได้ยินชัด ๆ จากปากของเพื่อนสนิทมากกว่า
“… คือว่าเมื่อเช้าฉันไปได้ยินไอวาคุยกับมิราว่าจะบอกรักฉันวันนี้น่ะ….”
คริสเล่าพร้อมก้มหน้าก้มตา
“ตัวละครใหม่ มิราคือ?”
“พี่สาวไอวา”
“กับอีแค่น้องจะบอกรักต้องดึงฉันเข้าไปเป็นแฟนแกเลยเหรอหะ!?”
“ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงหนิ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงด้วยถ้าเกิดไอวาสารภาพแล้ว”
“ปากไม่ตรงกับใจระวังมีหมาคาบไปแดกนะ”
ขุนเบ้ปากใส่
“ก็… ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงจริง ๆ นี่”
น้ำเสียงของคริสแผ่วลงจนเพื่อนอย่างขุนส่ายหน้ากับความดื้อดึงไม่ยอมรับความจริง
“ให้ฉันบอกอะไรให้กระจ่างไหม? ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายแกก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ แต่แกน่ะชอบน้องคนเมื่อกี้คนเดียวที่หนึ่งในใจ”
“ตลก!เอาที่ไหนมาพูด แกนี่มั่ว”
คริสรีบเถียงข้าง ๆ คู ๆ
“เอากระเป๋าตังแกมาหน่อย”
ขุนแบมือขอ เขาจะขุดความจริงให้เจ้าตัวยอมรับให้จนได้
“เอาไปทำไม?ถ้าจะขอเงินไปซื้ออะไรกินฉันไม่มีเงินเหลือแล้วนะวันนี้ใช้หมดแล้ว”
คริสควักกระเป๋าสตางค์ออกมาตามคำขอแถมยังเปิดกระเป๋าโชว์ความว่างเปล่ายืนยันอีกด้วยว่าเงินนั้นใช้หมดแล้ว
“ไม่ได้จะขอเงิน แต่นี่ต่างหากจะให้ดูนี่”
ขุนหยิบกระเป๋าสตางค์ของเธอก่อนจะหันกลับไปโชว์เจ้าของพร้อมใช้นิ้วชี้วางลงที่รูปถ่ายใบเล็ก
“แกพกรูปไอวาติดตัวตลอด อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะ แล้วเวลาที่แกพูดถึงน้องตอนอยู่มหาลัยสีหน้าแววตาแกเป็นประกายมากกกกก!!ชอบก็บอกว่าชอบจะมาซึนเดเระเพื่อ!?”
“นี่แกแอบดูกระเป๋าตังฉันเหรอวะไอ้ขุน!”
คริสแยกเขี้ยวใส่รีบแย่งกระเป๋าตังกลับมาเก็บไว้ทันที
“ยัง ยังจะไหลเฉไฉปากแข็งอยู่นั่น ฉันพูดจริงนะหมาคาบน้องไปแดกแล้วอย่ามาเสียใจร้องห่มร้องไห้ขอคำปรึกษาละ”
“ใจร้าย กลับกันได้แล้วเดี๋ยวมืดค่ำไปมากกว่านี้”
“เออ ๆ ฉันก็อยากเห็นบ้านแกเหมือนกัน ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ยที่มาเที่ยวบ้านแก มีงานด้วยใช่เปล่า?พรุ่งนี้พาไปหน่อยละกัน”
“รู้น่า มีสิบบาทไหมยืมหน่อย”
“อือ”
ขุนควักเหรียญส่งให้กับคริส เมื่อเธอรับเงินแล้วก็เดินตรงเข้าไปหาป้าแจงที่กำลังเก็บของเตรียมปิดป้อมขายตั๋วโดยสาร
“ป้าเจงคะ ไอวาซื้อแค่น้ำหรือมีอย่างอื่นด้วยคะ?”
“น้ำอย่างเดียวจ้ะหนูคริส พาเพื่อนพาเที่ยวเหรอหนู”
“ใช่ค่ะป้า ส่วนนี้หนูจ่ายค่าน้ำที่ไอวาค้างนะคะ”
“ขอบใจจ้ะหนูคริส”
ขุนอมยิ้มทำหน้ากรุ้มกริ่มเอนตัวเข้าหาคริสและพูดว่า
“นี่นะเหรอไม่ชอบน้อง มีจ่ายเงินให้กันด้วย”
“มันก็เรื่องปรกติของคนสนิทกันไหมเล่า!เลิกจับผิดได้แล้ว ตามมา”
คริสแก้เผ็ดเพื่อนด้วยการพาเดินเท้าจากท่าเรือกลับมายังบ้านของตนเอง
“นี่บ้านฉัน”
“ถึงสักที หมู่บ้านแกไม่มีรถรับส่งหรือยังไง แบกของมาแบบนี้ก็เหนื่อยเอาการเหมือนกัน”
ขุนปาดเหงื่อออกลวก ๆ และมองสำรวจรอบบริเวณตัวบ้าน
“มีแต่ว่าหมดเวลาเดินรอบรถแล้ว”
ทันใดนั้นเองทั้งรถโดยสารและรถแท็กซี่ก็ต่างพากันขับผ่านราวกับเย้ยหยัน
“แล้วนั่นคืออะไร?ทั้งรถทั้งคนที่นั่งโดยสารนั่น”
ขุนอ้าปากค้างมองตามรถโดยสารที่กำลังมุ่งหน้าไปยังที่พักและกำลังบรรทุกนักท่องเที่ยวที่เพิ่งลงมาจากเรือที่เขานั่งข้ามฟากมา
“ตัวก็โตกล้ามก็ใหญ่เดินแค่นิด ๆ หน่อย ๆ ไม่เหนื่อยหรอก เข้าบ้าน ๆ”
คริสไขกุญแจเปิดประตูบ้านโดยมีขุนเดินตามเข้ามาติด ๆ
เขาวางกระเป๋าสัมภาระพิงไว้ที่กำแพงข้างชั้นวางทีวีก่อนทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา
“โดนจับได้เรื่องไอวาก็เล่นฉันเลยนะไอ้คริส แล้วไอ้บ้านข้าง ๆ หลังนั้นก็พื้นที่บ้านแกเหรอ?”
รั้วกั้นระหว่างบ้านไอวาและคริสเป็นเพียงพุ่มไม้ที่มีความสูงราวหน้าอกเท่านั้นทำให้คนนอกมองเข้ามาและคิดว่าบ้านสองหลังนี้ตั้งอยู่พื้นที่แปลงเดียวกัน
“เปล่า บ้านไอวากับมิราน่ะ”
“อ่อ อืมอยู่ติดกันแบบนี้มิน่าแกถึงหลงน้อง”
“ถ้าแกไม่เลิกพูดนะฉันจะเอาตำราเรียนอุดปสกแกนะขุน”
“โอ๊ยกลัวจังเลยค่ะ!แล้วคืนนี้ฉันนอนไหน?เตียงเดียวกับแกเลยไหม”
“ไม่!เตียงฉันมันแคบ เดี๋ยวเอาฟูกให้จะปูนอนไหนก็นอนไป”
“ครับคุณเพื่อน!ไหนเอาเอกสารที่พวกเราทำค้างไว้มาหน่อย ฉันว่าจะดูก่อนไปอาบน้ำ”
“อยู่ในกระเป๋าใบนั้นน่ะ”
***