หลังจากที่ไพลินออกไปจากบ้าน แจ่มจันทร์ที่เพิ่งทำงานบ้านเสร็จก็รีบตามมาที่ไร่ เพื่อที่จะได้แนะนำทุกคนในไร่ให้รู้จักกับคุณหนูลูกสาวของเจ้าของไร่นี้ ทว่ากลับได้เจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด
"ตายแล้ว!!! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" แจ่มจันทร์ร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพใบหน้าและร่างกายที่ฟกช้ำของไพลิน พลางรีบวิ่งเข้ามากอดคุณหนูของตน
"ยัยจันทร์ แกรู้จักแม่หนูคนนี้ด้วยเหรอ"
"ก็นี่คือ คุณหนูไพลิน ลูกสาวคุณท่านยังไงล่ะ"
"จริงเหรอ! ตายแล้วๆ นังส้มนังชบา พวกแกตายแน่"เพ็ญนภาร้องออกมาด้วยความตกใจ
"ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงได้ตัวช้ำไปหมดแบบนี้ ใครมันทำอะไรคุณหนูคะ บอกป้ามา ป้าจะไปฟ้องคุณเสือ”
"ก็ผู้หญิงสองคนนั้นที่ชื่อชบากับส้มไงคะ จู่ๆ ก็เข้ามาหาเรื่องหนู" ไพลินกอดแจ่มจันทร์เอาไว้ก่อนจะบอกถึงต้นเหตุที่ทำให้เธออยู่ในสภาพแบบนี้
"นังสองคนนั้นอีกแล้วเหรอ นังพวกนั้นมันชอบหาเรื่องคนงานผู้หญิงที่ยังสาวในไร่บ่อยๆ มีตบตีกันบ้างแต่แม่ของมันก็ช่วยเอาไว้ได้ทุกรอบ แต่คราวนี้ป้าจะไม่ยอมให้พวกมันชูคออยู่ในไร่ได้ คุณหนูของป้าต้องได้รับความยุติธรรม" แจ่มจันทร์เอ่ยด้วยความโกรธและโมโห ก่อนจะรีบประคองคุณหนูของตัวเองไปนั่งในออฟฟิศแทน
“คุณหนูอยากกลับบ้านเลยไหมคะ”
“ยังหรอกค่ะ เจ็บแค่นี้เอง อีกอย่างหนูทำแผลแล้วด้วย ทำงานต่อได้สบายค่ะ”
“เฮ้อ ป้าไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ป้าน่าจะมาส่งคุณหนูที่นี่ด้วยตัวเองแท้ๆ” แจ่มจันทร์อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ไพลินต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น
“ไม่ใช่ความผิดของป้าแจ่มสักหน่อย สองคนนั้นต่างหากที่ผิด”
“ถ้างั้นคุณหนูอยู่ที่นี่ไปก่อนนะคะ ป้าขอกลับไปที่บ้านแป๊บหนึ่งค่ะ”
“ได้ค่ะ ป้าแจ่มไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอกค่ะ”
“ล็อกห้องไว้นะคะ เผื่อนังพวกนั้นมันจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณหนูอีก” แจ่มจันทร์เอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะรีบร้อนปั่นจักรยานกลับไปยังบ้าน เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครบางคนรู้
“ค่ะ” ไพลินหุบยิ้มลงหลังจากที่แจ่มจันทร์ออกไป
แก้มของเธอชาไปหมดทั้งสองข้าง เพียงแค่มือแตะไปโดนนิดเดียวก็เจ็บจนสะท้านไปทั้งตัว ยังดีที่หนีออกมาได้ก่อน ไม่อย่างนั้นได้เละเป็นโจ๊กแน่ เจ็บตัวก็เจ็บ แต่ถึงยังไงเธอก็จะต้องเอาคืนยัยสองคนนั้นให้ได้!
แจ่มจันทร์รีบบึ่งกลับมาที่บ้านอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อเห็นรถยนตร์ของเสือจอดอยู่ ก็รีบทิ้งจักรยานและวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
“คุณเสือคะ! คุณเสือ!” คนที่ถูกตะโกนเรียกรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนของตัวเอง หลังจากที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ วันนี้เคสผ่าตัดถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากคนไข้มีอาการแทรกซ้อนจึงต้องประเมินอาการอีกรอบ จึงจะนัดวันผ่าได้
"เกิดอะไรขึ้นครับป้าจันทร์"
"คุณหนูโดนนังชบานังส้มทำร้ายค่ะ คราวนี้คุณเสือต้องจัดการนังสองคนนั้นขั้นเด็ดขาดนะคะ ป้าไม่ยอมเด็ดขาด” เสือยืนนิ่งฟังสิ่งที่แม่บ้านคนสนิทเล่าเรื่องทั้งหมด ก่อนจะเอ่ยถามหาหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“แล้วไพลินอยู่ไหนครับ”
“คุณหนูอยู่ที่ออฟฟิศค่ะ เธอยืนยันว่าไม่ได้บาดเจ็บมาก เลยขอทำงานต่อค่ะ”
"ถ้างั้นป้าจันทร์จะไปกับผมไหมครับ"
"แน่นอนค่ะ ป้าต้องได้เห็นว่าคุณเสือจัดการนังสองคนนั้นขั้นเด็ดขาดจริงๆ" แจ่มจันทร์รีบขึ้นรถของเสือโดยไม่รีรอ
ชายหนุ่มรีบขับรถมาที่ออฟฟิศอย่างเร่งรีบ จนเกือบจะเผลอขับรถเร็วๆ เกินไป ยังดีที่มีป้าแจ่มนั่งมาด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีคนคอยปรามเขาให้ใจเย็นๆ
“เกิดอะไรขึ้น” เขาเดินเข้าไปในออฟฟิศพลางเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งดูเอกสารอยู่อย่างใจร้อน
“คุณต้องจัดการสองคนนั้นให้ฉัน กล้าดียังไง มาหาตบตีคนที่ไม่รู้จักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”
“เจ็บมากไหม แล้วนี่ใครทำแผลให้เนี่ย” เสือเริ่มปรับอารมณ์ให้เย็นลงและถามอาการของอีกฝ่าย พลางใช้มือเชยคางของเธอเพื่อดูแผล
“เจ็บสิ ป้าภาเป็นคนทำแผลให้”
“เธอเป็นลูกสาวเจ้าของไร่ อยากจะลงโทษสองคนนั้นยังไงก็สั่งได้เลย ไล่ออกดีไหม”
“ฉันต้องการให้สองคนนั้นมาฟังสิ่งที่ฉันพูดด้วยตัวเอง”
“ป้าแจ่มไปบอกคนงานให้ไปตามสองคนนั้นมาทีครับ” เสือไม่ขัดความต้องการของไพลิน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เธอควรจะได้ตามที่ต้องการ และเรื่องนี้เขาไม่มีสิทธิ์ยุ่ง
“ได้ค่ะ”
“เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้ใหม่”
“ไม่ต้อง ฉันไม่ได้เป็นอะไร แป๊บเดียวก็หายแล้ว” ไพลินแสดงความดื้อรั้นออกมา ไม่เว้นแม้แต่ตอนนี้ตอนที่เธอกำลังบาดเจ็บอยู่
“เรื่องนี้เธอปฏิเสธไม่ได้”
เสือไม่ได้สนใจที่เธอปฏิเสธพร้อมกับยื่นคำขาด จึงทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ ให้เขาทำแผลให้ใหม่เท่านั้น
ยาทาแผลแต้มลงบริเวณแก้มนิ่มที่มีรอยช้ำปรากฏอย่างเบามือ ชายหนุ่มบรรจงทายาให้เธอด้วยความทะนุถนอม ทว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไพลินได้เห็นเขาในมุมนี้เช่นกัน ครั้งล่าสุดที่เห็นเขาในมุมนี้ก็คงเมื่อตอนที่เธออายุสิบขวบและหกล้มที่สนามเด็ก ตอนนั้นเสือก็อายุสิบแปดแล้วค่อนข้างโตกว่าเธอพอสมควร