Chapter 9
วงหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองสาวเทคนิคการแพทย์ในชุดกาวน์ยาวประเข่าแทบมองไม่ออกว่าเป็นคนท้อง ยิ่งเป็นคนตัวเล็กไม่อ้วนลงแขนขา
หากไม่ใช่คนวงการแพทย์คงเข้าใจว่าหล่อนเป็นหมอ...
“เอามือถือมา” เสียงเข้มสั่งพลันผายมือออกกว้าง หญิงสาวล้วงหยิบของในกระเป๋าส่งให้เขารับไป
“เอ่อ... เมย์ไม่มีเบอร์ใครเลย นอกจากเพื่อนเมย์สองสามคน” เรื่องนี้เมษาคงไม่ได้โกหก ตฤณภพมีสีหน้าแปลกใจ แต่เขาไม่ได้โกรธน้อยลงเลย
“เครื่องใหม่...? จงใจเปลี่ยนหนีให้เนียน ๆ หรือว่ามันหล่นน้ำจริงก็ไม่รู้นะ”
“เมย์... ไม่ได้หนีค่ะ เมย์ไม่มีเบอร์พี่... แช็ตก็หายหมด”
“ไม่แปลกที่จะไม่มี ลูกสาวเจ้าของบริษัทจัดหาคู่นี่ครับ ผู้จัดการบริษัทคงยอมให้เบอร์น้องเมย์กับผู้ชายคนอื่นง่าย ๆ หรอก”
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาส่งอีเมลติดต่อกลับไปที่บริษัทแล้วข้อมูลของหล่อนถูกลบไปทั้งหมด ทุกช่องทางการติดต่อ! ทางบริษัทก็แค่ยื่นข้อเสนอให้ข้อมูลคู่ครองดี ๆ ใหม่ ดีกรีเหมาะสมกับตัวเขา
งานในมือของตฤณภพเสร็จพอดี หลังจากที่กดเบอร์โทรของเขาใส่ลงเครื่องยังถือวิสาสะเปิดโซเชียลขึ้นมาแอดเพื่อนอีกช่องทางเพื่อความชัวร์
ในวันที่เขาเพิ่งเห็นว่าเทคโนโลยีสำคัญมากแค่ไหน จากการแช็ตกันโดยไม่มีช่องทางสำรองเผื่อไว้ เขาเรียกหล่อนแต่อาหมวย ๆ น้องหมวย น้องเมย์ เกือบลืมไปแล้วว่าชื่อเมษา
พอส่งมือถือให้หญิงสาวรับไป ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืนด้วยสีหน้าเป็นกังวล ความรู้สึกสับสนประหลาดปนเปกันไปหมด
“ไปกินข้าวก่อนแล้วกันครับ ค่อยคุย...”
ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำใต้ตึกคอนโดมิเนียมของเมษาสะดวกและใกล้ที่สุด พอตกลงกันว่ารับประทานร้านนี้ จึงพากันไปซื้ออาหารใส่กล่องกลับบ้าน ด้วยความที่บางร้านยังงดนั่งรับประทานหลังมีประกาศเรื่อง COVID-19
“กินเยอะ ๆ นะจ้ะหมอ... น้องมาเมื่อไรป้าให้สองกล่อง... ตัวเล็กกินฟรี”
“ขอบคุณ... ค่ะ... คุณป้า” หล่อนรับกล่องข้าวในถุงพลาสติกหิ้วมาด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ เผลอสบตาคนข้างกายอย่างลืมตัว ชายหนุ่มก็รีบควักเงินจากกระเป๋าสตางค์ส่งให้คุณป้า ไม่รอให้เป็นหน้าที่ของผู้หญิง
“ขอบคุณจ้ะ วันหลังมาทานอีกนะ ป้าไม่ได้ใส่กระเทียมเจียวให้ ไม่ลืมแน่นอน...”
“ขอบคุณครับ แหม... คุณป้าร้านนี้ใจดีจัง สวยด้วยเนอะ”
คุณป้ายิ้มเขินไปพอถูกชมก่อนกลับไปทำอาหารต่อทางหน้าร้านดูสะอาดตา เมษาได้จังหวะแก้ตัวในทันที
“ป้าแกพูดไปงั้นน่ะค่ะ... คนสนิทกัน แกคงเห็นว่าเมย์อ้วนขึ้น”
“ครับ พี่เข้าใจ ปากคนก็แบบนี้แหละ” เขาพูดแล้วโน้มตัวลงหยิบแย่งกล่องในมือเรียวมาถือเอาไว้แทนด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ไปซื้ออย่างอื่นกันต่อเถอะ แค่นี้กินคนเดียวไม่อิ่ม... ของพี่ข้าวผัด ของเมย์ข้าวต้มไม่ใส่กระเทียมเจียวใช่ไหม? มันไม่น่าจะพอ...”
คำถามย้ำผ่านใบหน้าหล่อเหลาที่ปกปิดไว้ด้วยแมสก์สีเขียว พาร่างบางสะดุ้งก่อนที่หล่อนจะปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“อ้อ... นั่นสิคะ... พี่ตฤณตัวโต น่าจะทานเยอะ”
เมษาเดินตามเขาไปแม้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังแต่เป็นเพราะว่ามันไม่ใช่สถานที่เหมาะสมกับการพูดคุยเรื่องลูก ยังเกิดอาการน้ำท่วมปากขึ้นมา
ผ่านร้านค้าสะดวกซื้อหลายร้าน ใต้อาคารคอนโดมิเนียมชื่อดังย่านกลางเมืองเรียกได้ว่ามีอาหารพร้อมรับประทานทุกอย่าง มีร้านสะดวกซื้อเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ที่นี่มีตึกแยก A B C D มีสวนหย่อม สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำของโครงการ ลานจอดรถยนต์กว้างขวางแม้ผู้เข้าพักมีสิทธิ์จอดได้หนึ่งคันต่อหนึ่งห้อง เว้นแต่ว่าจะจ่ายค่าที่จอดรถยนต์เพิ่ม
หญิงสาวไม่เคยพาใครมาค้างอ้างแรมนอกจากอรฤดี ด้วยความเกรงใจเพราะส่วนหนึ่งของเงินดาวน์เป็นเงินอาอี๊ ‘มรกต’ หลังมารดาเสียชีวิตไปตัวหล่อนนับได้ว่าเป็นลูกบุญธรรมของน้าสาวเต็มตัว กลับไม่กล้าพูดถามจากเจ้าตัวว่าจะอยู่รับประทานอาหารด้วยกันแล้วกลับบ้านตอนไหนยังไง
ยิ่งรังสีอำมหิตของคนข้างกายดูไม่พอใจอะไรสักอย่าง ตฤณภพดึงรถเข็นผลักมันไปข้างหน้าจึงถาม
“แล้ว... ทำไมมีคนทักว่าท้อง เมย์ก็ไม่ได้อ้วนขึ้นเท่าไรนะ พี่ว่า...”
“ออ... เมย์ทานแต่อาหารอ่อน ๆ ติดกันหลายวันน่ะค่ะ ช่วงนี้ท้องไม่ค่อยจะดี กระเทียมเจียวเมย์ไม่ชอบ เมย์เหม็นมาตั้งนานแล้ว คุณป้าแกเลยว่าเมย์ท้อง”
“เป็นไปได้นะครับ ถ้าคุณป้าเขาจะคิดไปเองเพราะอย่างนั้น” เขาแกล้งเออออตามหล่อน ตาหลุบมองหน้าท้องผ่านเสื้อตัวโต
ในซูเปอร์มาร์เก็ตแอร์เย็นฉ่ำ หมอแล็บคนสวยคงรู้สึกหนาวเสียจนต้องใส่เสื้อกาวน์ออกมาข้างนอก ล้วงมือไว้ข้างในทั้งสองข้าง ขนาดหมอแท้ ๆ ยังไม่คิดใส่มันออกไปเดินที่ไหน ด้วยความเป็นคนสำรวมและไม่อยากให้ใครมาสนใจว่าเขาเป็นหมออะไร
เว้นเสียแต่ว่าหล่อนกำลังปิดบังบางอย่าง... ตามที่คุณนักสืบหน้าเลือดว่า
“อืม... แล้วอันนี้ทานได้ไหมนะ? ทูน่า...”
คิ้วเข้มหนาเรียบเฉียงรับดวงตาคู่หวานคมเพ่งมองกล่องอาหารที่เพิ่งหยิบมันมาจากชั้นวางด้วยสีหน้าครุ่นคิด ดวงตาคู่สวยเลิ่กลั่กมองตามเขาก็พูดขึ้นก่อน
“ปลาทูน่าจัดอยู่ในปลาที่มีสารปรอทสูง ปลาที่มีสารปรอทตามธรรมชาติไม่เหมาะกับคุณแม่เท่าไร เอ๊ะ... เมื่อกี้เมย์บอกว่าไม่ได้ท้องนี่นา”
หญิงสาวเบิกตาถลนพอเขาเลือกอาหารใส่ตะกร้ารถเข็นไป ถามตัวเองตอบตัวเองยังกับว่ากำลังทำฟันให้หล่อนที่รูดซิบปากแน่นโดยไม่ต้องมีเครื่องมือแพทย์มาง้างปาก
เรื่องแปลกประหลาดยังไม่จบแค่เขาเลือกอาหารทุกอย่างอย่างระวัง เมนูผัก ซื้อผลไม้ และของมีประโยชน์เยอะแยะเหมือนจะกินกันสักสิบคน หอบใส่ถุงหิ้วพะรุงพะรัง พอเข้าลิฟต์แล้วเขากดจิ้มไปที่ชั้น 12
จากที่สั่นกลัวอยู่ก่อนหน้านี้ เมษาแทบล้มทั้งยืน!
“พะ... พี่... ทำไมรู้จักห้อง... เมย์?”
“ถ้าไม่ตั้งใจทุ่มเงินหาตัวสักหน่อยคงไม่เจอตัว... คิดจะหนีกันไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม? อีนางยักษ์”
ตฤณภพไม่รู้จะด่าหล่อนว่าอะไรดี มันคงเบาที่สุดจากปากของเขา
ผู้ชายที่มีจิตสำนึกดีได้รับการอบรมและเติบโตมาจากพื้นฐานครอบครัวที่ดี ใครบ้างล่ะไม่โกรธ
เมษารู้สึกเหมือนตัวลีบเล็กลงเรื่อย ๆ ในลิฟต์ที่มีแค่หล่อนและดวงตาคู่คมจ้องถมึงทึงยิ่งเสียกว่ายักษ์!
“คือ... เมย์ไม่ได้จะตั้งใจจะหนีหน้าพี่นะ เมย์ไม่ได้ท้องด้วย คุณป้าเข้าใจผิดไปเอง แล้วเมย์... เอ่อ.. ทำไมพี่ตฤณมาว่าเมย์อีนางยักษ์คะ?” ปลายเสียงทำสงสัยทั้งที่โกหกเขามาเต็มประโยค ชายหนุ่มกลับไม่พูดอะไร รอจนประตูลิฟต์เปิดอ้าออกกว้าง จากนั้นเขาก็เดินนำหน้าไป
ในความหวาดกลัวของคุณแม่ที่ก้าวขาไม่ออกจนเขาต้องกลับมาประคอง
ใบหน้าหวานซีดขาวราวกระดาษเชยมองร่างกำยำใต้แมสก์ปิดปาก ความเกรี้ยวโกรธของเขายังสะท้อนผ่านแววตาคู่คมกริบประหนึ่งว่าจะเข้ามาบีบคอหล่อนเสียให้ได้
“พี่เสียเงินไปเยอะกับไอ้นักสืบหน้าเลือดนะเมย์... ถ้าจะต้องเสียค่าทนาย ฟ้องเอาลูกด้วยอีกคน แม่พี่อยากมีหลานจนตัวสั่น บอกเลยว่าเท่าไรพี่ก็ยอมจ่าย”
น้ำเสียงข่มขู่ทำหญิงสาวใจเสีย ความคิดมากมายปรี่ประดังเข้ามาในหัวหล่อนที่ไม่อยากเสียลูกให้ใคร หล่อนไม่ได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามีใครตาม
“พะ... พี่ตฤณไปจ้างนักสืบ?”
“หน้าเลือด... มันรีดไถพี่ไปเยอะ เพื่อตามหาแม่สาววันไนต์สแตนด์นะครับเมย์ ไป... ทานข้าวกันแล้วคุยกับพี่ดี ๆ อย่าโกหก...” ในน้ำเสียงอ่อนลงเพราะเกิดสงสารขึ้นมา สองมือจับต้นแขนให้คุณแม่ยืนทรงตัวได้ พาหล่อนเดินตรงเข้าห้องพัก