Chapter 10
ห้องพักคอนโดมิเนียมดังแบบสตูดิโอหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปสำหรับสาวโสด แต่มันไม่ใหญ่พอที่จะให้เด็กคนหนึ่งได้วิ่งเล่น
ตฤณภพมีความคิดมากมายหลายอย่าง เขายังเจ็บปวดกับสิ่งที่หล่อนทำ แต่อาหมวยของเขาดูยังไงก็น่าสงสาร
คนท้องก็คือคนไข้ดี ๆ ดำรงชีวิตประจำวันยากลำบากกว่าคนปกติหลายเท่า แม้ความคลางแคลงใจตามคำบอกผ่านมาว่าไม่ชัวร์ว่าหล่อนท้องหรือเปล่า แค่ตรวจสอบจากทามไลน์ หลอกถามแม่ค้าปากมากกับพวกคนช่างนินทาเอา
เขาแน่ใจว่าไม่ได้เข้าใจผิดไปจากท่าทีหวาดกลัวตัวสั่นทรงตัวยืนแทบไม่ไหว ขนาดกุญแจห้องยังต้องส่งให้เขาเปิด
การคำนวณก็พอนับได้อยู่ว่าเป็นเมื่อไรของการปฏิสัมพันธ์จนมีเด็กคนหนึ่งในท้อง ตัวหล่อนยังไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับใครไปทั่ว
“เมย์ท้องกี่เดือนแล้วครับ?”
“สิบสามสัปดาห์... ค่ะ” อึกอักตอบ พลันก้มหน้าหยิบช้อนตักข้าวผัดคลุกผักเข้าปากด้วยความหิวจากคุณลูก
ผู้หญิงตัวเล็กอย่างเมษารับประทานข้าวกล่องเดียวคงอิ่ม ขณะที่โต๊ะกลมกระจกสีดำเคลือบเงา บริเวณริมระเบียงแทบไม่พอวางอาหารหลายอย่างทั้งขนมปัง ข้าวผัด ข้าวต้ม ขนม น้ำผลไม้ แม้เก็บบางส่วนเข้าตู้เย็นไปบ้างแล้ว ลมเย็น ๆ พัดผ่านพร้อมสีหน้าเย็นยะเยือกของเขา
“ทำไมเมย์ไม่กินยา? ทำไมปล่อยให้ตัวเองท้อง...”
คำถามนั้นพาใบหน้าหวานซีดแสดงอาการตื่นตระหนก มือเรียวเล็กสั่นเทาพร้อมความเสียใจระลอกหนึ่ง หากพอได้ยิน...
“พี่เมา... ไม่ควรจะถามแบบนั้นเลยใช่ไหม? พี่ไม่ป้องกันเอง พี่ขอโทษละกัน พี่เต็มใจจะรับผิดชอบเมย์กับลูกของเรา... ทั้งแม่และลูกต้องอยู่กับพี่”
ความกังวลใจตลอดหลายเดือนหายไปราวกับว่าฮอร์โมนร้ายของคุณแม่ไม่ทำงานอีก เมษารู้ว่าเขาเป็นพวกพูดเองถามเองได้ ชอบแกล้งคนอื่นเหมือนตัวหล่อน
ภาพความทรงจำเลือนรางปรากฏขึ้นเป็นฉากราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน หล่อนนั่งรับประทานอาหารกับเขาบนดาดฟ้าโรงแรมหรู พูดคุยอย่างถูกปากถูกคอ จิบชิมไวน์รสชาติดีเคล้าเสียงหัวเราะ
ไม่มีวันไหนที่จะไม่คิดถึง...
แววตาคู่หวานระรื้นสบมองเขาตรง ๆ หล่อนไม่อยากจะเชื่อเขายังมองไม่เห็นอนาคตอะไรเลย
“นอนด้วยกันครั้งเดียว ไม่คิดบ้างเหรอคะว่าอาจจะไม่ใช่ลูกหมอ...”
“ยังไม่เคยคิด...”
“ถ้าไม่ใช่ล่ะคะ?”
“พี่ยินดีตรวจ DNA แต่ถ้าเป็นลูกพี่... พี่ขอลูกไปนะ ถ้าเมย์ไม่ให้ พี่จะฟ้องจนกว่าจะได้เด็กคนนี้ ถ้าเมย์ไม่ยอม พี่จะมาขโมยลูกไปอยู่เมืองนอก พี่ไม่มีทางคืนลูกให้เมย์จนกว่าเขาจะโตแล้วนั่งรถไปหาแม่เอง โอเคไหม?”
หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างหวาด ๆ เมื่อคนดื้อรั้นอย่างเมษาเจอคนดื้อกว่า ตลอดระยะเวลาที่พูดคุยกัน ได้รู้จักกันพอสมควร ไม่ควรอย่างยิ่งคือมีเรื่องกับหมอตฤณ!
ระดับกำลังทรัพย์ ฐานะทางสังคม ลำพังหล่อนคนเดียวไม่มีโอกาสต่อรอง
“แล้วพี่... จะรับผิดชอบเมย์ยังไงคะ?”
“แต่งงาน... อยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกแบบที่ครอบครัวอื่นเขาอยู่กัน พี่อยากให้ลูกมีทั้งพ่อและแม่”
ทุกถ้อยคำออกมาจากใจของคนอยากเป็นพ่อมานานแล้ว สีหน้าของคนในฝั่งตรงข้ามกันกลับไร้ความมั่นใจในตัวเขาโดยสิ้นเชิง หล่อนก้มหน้าถอนหายใจ
“เมย์ว่าเมย์หนีไปอยู่ที่อื่นสักพักยังง่ายกว่า อาม่าเมย์ ป๊าเมย์ไม่ยอมหรอก”
“พี่ไม่ดีตรงไหนล่ะ? เขาถึงต้องไม่ยอม...”
“คนบ้านเมย์ไม่สนใจหมอ เขาอยากได้คนสืบทอดตระกูล คนช่วยงาน คนรับใช้... ทองคำแท่งเดียวกับต้นไม้ที่งอกทองคำออกมาได้ เป็นหมอ หมอจะเลือกอันไหน? ที่สำคัญคืออาม่าไม่ต้อนรับลูกเขยคนไทย”
“เมย์เลยต้องทิ้งพี่ใช่ไหม?” แววตาคู่คมแปรเปลี่ยนเป็นตัดพ้อและสิ้นหวัง มองออกไปข้างนอกระเบียงแทนที่จะมองหน้าหล่อน มือกำมันแน่นบนหน้าตัก
“ไม่ว่ามีเหตุผลอะไร เมย์ไม่ควรหนีไปอย่างนั้น ผู้หญิงหยาบคาย น่ารังเกียจที่สุด”
หญิงสาวเหลือกตามองฉงน เพราะไม่เคยเห็นเขาโกรธ กระทั่งใบหน้าแดงก่ำอย่างหมดสิ้นความอดทน
“เกิดมาไม่เคยมีคนมาฟันพี่แล้วทิ้ง ทิ้งไปแบบนั้นได้ยังไง? ผัวคนแรกหล่อนไม่เสียดายสักนิดเลยเหรอ? แล้วมาพรากพ่อพรากลูก ไม่ให้เรียกอีนางยักษ์จะให้เรียกว่าอะไร? มีสติ มีสมองไว้ไตร่ตรองเรื่องราวชีวิตสักหน่อยไหม? จบ mt แล็บมาซะเปล่า ทำไมถึงอยากให้ลูกไม่มีพ่อ?”
เขาบริภาษคำด่าทออย่างเกรี้ยวกราดเรียกหล่อน... ว่าหล่อน! หยาดน้ำใสไหลคลอขึ้นดวงตาคู่สวยคราสบมองดวงหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ
“พี่ตื่นมาไม่เจอเมย์... เคยคิดไหมว่าคนถูกทิ้งมันรู้สึกยังไง? เคยแช็ตคุยกันทุกวัน ทำไมเป็นคนเอาแต่ได้ เห็นแก่ตัวขนาดนี้ คิดอะไรเผื่อลูกบ้าง เป็นสาวยุคสองพันที่มีมั่นใจมากเลยนะครับ?”
เขาสบถกร่นด่าราวพ่นไฟออกจากปากได้ ไม่มีทางที่เมษาจะหาช่องทางแทรกทัน หล่อนก้มลงมองจานข้าวด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อลูกและพ่อของลูก กล้ำกลืนก้อนจุกตันลงคอเพื่อบอก
“เมย์... ขอโทษค่ะ แต่เมย์ไม่รู้ว่าเมย์ท้อง... เมย์เพิ่งตรวจมา เมย์... ตั้งใจจะติดต่อพี่ตฤณนะคะ เมย์แค่ยังไม่สะดวก”
“ช่างมันเถอะ ค่อยว่ากัน กินข้าวให้อิ่ม กินให้ลูกพี่...” คนตัดบทได้เอาเรื่องจนพอใจแล้วเขาคงไม่อยากรังแกคนท้องให้ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์
ลำพังเมษาคนเดียวต้องแบกรับปัญหา อุ้มท้องมาคนเดียวไม่ปริปากบอกใคร นักหนาสาหัสมากพอแล้วกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะเป็นคุณแม่
ลมพัดโชยมาจากนอกระเบียงดีสักหน่อยที่ความสูงของชั้นสิบสองไม่มียุง แววตาคู่หวานคมมองคนตัวเล็กอย่างห่วง ๆ หล่อนรับประทานอาหารต่อเล็กน้อยเหมือนฝืนกลืนลงคอ ดื่มน้ำผลไม้ตามจนหมดแก้ว เขาตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหา
“พี่จะลงไปเอาเสื้อที่รถ เอากุญแจมาหน่อย”
หญิงสาวมีท่าทีอึกอัก “เมย์ว่ามันไม่ค่อยเหมาะ... บางทีคนที่บ้านเมย์โผล่มา...”
“งั้นกลับห้องพี่...” ซุ่มเสียงเด็ดขาด ชายหนุ่มรู้ดีว่ามันกะทันหันเกินไปกับการที่เขาจะกลับมาดูแลลูกเมีย หล่อนยังดูงุนงงตกใจจับต้นจับปลายไม่ถูก
“คือเรา... จะอยู่...”
“พี่ไม่กลับ ถ้าจะให้กลับ พี่ต้องเอาลูกไปด้วย”
คนอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิตขมวดคิ้วเรียวผูกกันตรงหว่างกลางหน้าผาก
“ไปไงคะ... ให้เมย์เก็บของไปอยู่กับพี่เลยเหรอ? แล้วพี่จะเอาลูกไปจากเมย์ได้ยังไง?”
“เอามดลูกหล่อนมาสิ ผ่ามาใส่ท้องพี่เลย แล้วจะยอมไป”
“คะ?” คำถามเต็มวงหน้าหวานตื่นตระหนกกับคำพูดประหลาด ๆ ของเขา ไม่ต่างจากเก็บกระเป๋าเสื้อผ้ามาอยู่กับผมเดี๋ยวนี้! ทางวิทยาศาสตร์มันยังเป็นไปไม่ได้เลยกับเรื่องผู้ชายอุ้มท้อง
“ในเมื่อทำไม่ได้ เพราะพี่ไม่มีมดลูก เราสามคนต้องอยู่ด้วยกัน” คำประกาศแน่วแน่บอกว่าเขารั้นแค่ไหน ตฤณภพไม่ได้มาเพื่อความรับผิดชอบแต่มาด้วยใจ
ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องมาขออาศัยหล่อนอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมาขอร้องอ้อนวอนให้หล่อนไปกับเขา หากต้องการดูแลแค่ลูกในท้องที่เกิดจากความตั้งใจ!
วงหน้าหล่อเหลาเย็นชาดุจน้ำแข็ง หลุบตามองต่ำจ้องหล่อนอย่างเอาเรื่อง ท้ายที่สุดแล้วไม่ยอมก็ต้องยอมลุกจากเก้าอี้ หยิบกุญแจส่งให้เขารับไป
“วันนี้พี่จะนอนที่นี่ พรุ่งนี้หยุด สาย ๆ พี่ค่อยกลับ...”
“เอ่อ... ค่ะ” ตอบรับไปอย่างไม่เต็มใจนัก หล่อนแอบกลัวว่าคนที่บ้านจะมาพบคุณหมอเข้าโดยบังเอิญ แต่จนเขากลับมาพร้อมกระเป๋าและเสื้อผ้ารีดเนี้ยบไร้รอยยับบนท่อนแขน ปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ ถอดแมสก์แบบใช้แล้วทิ้ง ล้างมืออีกครั้งก่อนเข้าห้องมาวางเสื้อผ้ากระเป๋าลงบนชั้นวางของเรียบร้อย
ยังคงไร้วี่แววของแขกไม่รับเชิญ ที่คงจะเลิกราไปแล้วและไม่มายุ่งกับหล่อน เมษากำลังภาวนาให้เป็นเช่นนั้น
หมอตฤณก็คงไม่มาอยู่ที่นี่นาน บ้านของเขาก็มี ใหญ่กว่าห้องราคาล้านต้น ๆ ของหล่อนไม่รู้กี่เท่า
“ห้องเมย์... มันอาจจะเล็กไปนะคะ คือ... เมย์ว่าเราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ช่วยกันเลี้ยงลูก ไว้เมย์คลอดแล้วหมออยากมาเจอเมื่อไรค่อยมาแบบนี้ดีกว่าไหม? เรื่องเงินค่าเลี้ยงดูก็ตามสมควร”
เมษาจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างผู้ใหญ่ แต่คนเป็นผู้ใหญ่กว่าหล่อนถึงหนึ่งรอบ 12 ปีกลับไม่เข้าใจเลยสักอย่างเดียว
“เอางั้นเหรอ? เมย์ไม่อยากให้ลูก... มีครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่ลูก?”
หญิงสาวกลอกตาไปมาอย่างเป็นกังวลใจ เรื่องของหล่อนและเขามันเกิดจากความผิดพลาด
“คือเมย์... ไม่ได้เจอพี่ตฤณมาตั้งสามเดือน... แล้วเราเมา... เราไม่ได้ตั้งใจ...”
“แล้วไง? แหกตาดูสิว่าพี่ยังเหมือนเดิมไหม พี่จะเสียเงินวิ่งเต้นตามหาเมย์เพื่ออะไร? เลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ใช่ง่าย ๆ พี่บอกได้เต็มปากเลยว่าเมย์จะลำบากมาก”
ลำบาก... เป็นคำที่ไม่เคยทำร้ายเมษาได้ ตอนอยู่บ้านอาม่าอาป๊า หล่อนก็ทำทุกอย่างในบ้านยังเรียนหนังสืออย่างหนัก ทว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแตกต่างกัน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบแววตาคู่คมกร้าว ลึกลงไปมีเปลวไฟลุกโชติ ขณะเดียวกันนั้นกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“เป็นผู้ชายคนอื่นเขาแค่โยนเงินมาแล้วเอาลูกอย่างเดียวด้วยซ้ำ แต่พี่อยากดูแลทั้งสองคน ลดอีโก้ตัวเองลงแล้วคิดถึงลูกบ้างเถอะ ทำไมเมย์ต้องให้ลูกเป็นลูกไม่มีพ่อ ในเมื่อพ่อของลูกก็อยากอยู่...”
สีหน้าสิ้นหวังของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งตามหาหล่อนมาหลานเดือน ตอกย้ำความไร้วุฒิภาวะของแม่...
ไม่ว่ามันจะเป็นแค่วันไนต์สแตนด์หรืออะไรก็ตามแต่ หล่อนไม่ควรวางความรู้สึกของตัวเองเป็นหนึ่ง เหนือความสุขของลูก
หยาดน้ำใสไหลลงจากหางตา พลันวงหน้าหวานงามแดงก่ำ อย่างว่าหล่อนยังเห็นแก่ตัวจริง ๆ
“เมย์... ขอโทษ... ฮึก...” เสียงสะอื้นไห้ดัง ความโมโหหงุดหงิดของเขาจึงหายไปทันที
ที่จริงแล้วหากคุณแม่ไม่ดื้อขนาดนี้หมอตฤณคงไม่ยืนด่าคนท้องฉอด ๆ จนร้องไห้ตัวสั่นเป็นลูกนก! ตัวเขาเป็นหมอต้องรู้อยู่แล้วว่าฮอร์โมนคนท้องเป็นยังไง
ชายหนุ่มจึงโน้มตัวลงดึงข้อมือเล็กให้ซุกซบลงบนอกของเขา ร่างบางสะอึกสะอื้นจนหัวไหล่สั่น เพราะความหวาดกลัว สิ้นหวัง ท้อแท้มาตลอดต้นเหตุเพราะลูกในท้อง
ขณะวงแขนแข็งแรงกระชับกอดแน่น อย่างระวังไม่ให้คุณแม่ท้องอ่อนรู้สึกอึดอัด กลิ่นหอมอ่อนคุ้นเคยของร่างนุ่มนี้เขาโหยหามาตลอด มือหนายกขึ้นลูบศีรษะน้อย ในน้ำเสียงปลอบประโลม
“เราคุยกันแบบเดิมได้ไหม? พี่ขอโทษ... เรื่องคืนนั้นพี่ผิดเอง... พี่ใจร้อน พี่เมา... เมย์เลิกโกรธคุณพ่อให้ลูกของเรานะ พี่อยากอยู่กับเมย์กับลูก... ให้พี่อยู่แบบพ่อแม่ลูก อยู่ด้วยกันสามคนนะครับ”
คำพูดเท่านั้นของเขาทำให้หญิงสาวปล่อยโฮ เปล่งเสียงสั่นดังที่กักกลั้นมาตลอดจากลำคอแห้งผาก จิกกำเสื้อสีขาวของเขาไว้แน่นในอุ้งมือ เมษาคงได้แต่หวังว่าแม่ที่เห็นแก่ตัวอย่างหล่อนจะร้องไห้เป็นครั้งสุดท้าย