bc

ยากจะหวนคืน

book_age16+
22
ติดตาม
1K
อ่าน
เกรียน
หวาน
โลกอื่น
like
intro-logo
คำนิยม

ตัดใจแล้วหลี่หมิ่นถังคนนี้ย่อมไม่คิดจะหวนคืนถึงเคยรักมากเพียงใด แต่ยาวนานเกือบ4ปีที่ทุ่มเทมันมากเกินไปชีวิตคนเราแสนสั้นนางจะไม่หวนคืนไปจมอยู่ในกองทุกข์และสามีที่เห็นนางเป็นเพียงเงาของสตรีอื่นเด็ดขาด

“ใจแคบเช่นนั้นหรือ? ฐานะภรรยาเอกเช่นนั้นหรือ? แล้วยังจะมีอำนาจที่สุดในจวน นั่นอีก เย่จื่อเฉิน ท่านเคยถามข้าสักคำหรือไม่ว่าตลอดมาร่วมสี่ปีข้า หลี่หมิ่นถังผู้นี้ต้องการหรือไม่ ข้าไม่เคยต้องการ!”

เป็นครั้งแรกที่เย่จื่อเฉินถูกภรรยาตะโกนใส่หน้า เขาพลันใบหน้าชาหนึบ โกรธนางขึ้นมาจนลืมตัว

ผลัวะ!

“!!!” หลี่หมิ่นถัง

“!!!” หลี่เหม่ยหลิน

“!!!” เย่จื่อเฉิน

ทั้งสามคนต่างตกใจ แต่ที่ทั้งตกใจและเจ็บปวดจนแทบกระอักโลหิตออกกลับมีเพียงหลี่หมิ่นถัง ใครไม่มาเป็นนางคงไม่กระจ่างว่านางเจ็บปวดและโกรธแค้นเพียงใด เคยเอ่ยปากถามว่าตนเองผิดตรงไหนบกพร่องอย่างไรสามีจึงไม่ยอมแตะต้องนาง คำตอบคือเจ้าดีเกินไป

ดีเกินไปแล้วได้รับการตอบแทนเช่นนี้หรือ? ...

อดีตเขาเคยรักมั่นคงอยู่กับพี่สาวของนาง แต่พอพี่สาวของนางแต่งงานออกไปเย่จื่อเฉินกลับสู่ขอนางแทน ร่วมสี่ปีปีผ่านไป หลี่หมิ่นถังจึงได้รู้แจ้งถึงตัวของเขาอยู่กับนางเป็นสามีนาง แต่หัวใจของเขาไม่เคยลืมพี่สาวของนางเลย สารเลวเอ๊ย ไอ้คนสารเลวจิตใจเขาทำด้วยอันใดจึงทำร้ายนางเช่นนี้?!

หากหลี่หมิ่นถังอยู่นิ่งเฉยคงไม่ใช่ตัวจริงแล้ว นางต้องถามความจริงให้กระจ่าง หากเขารักนาง หลี่หมิ่นถังผู้นี้ก็จะหลับหูหลับตายอมเป็นคนโง่ แต่หากเขาตอบว่าตลอดมาเห็นนางเป็นเพียงตัวแทนของพี่สาวเท่านั้นนางก็จะยอมหลีกทางจากไปเอง สามีไม่รักนางยังจะหน้าด้านอยู่ได้อย่างไร แผ่นดินกว้างใหญ่คงไม่สิ้นบุรุษดี ที่อาจรักนางอย่างจริงใจ และยอมรับสตรีมีตำหนิผ่านการแต่งงานและหย่างร้างได้สักคนกระมัง

"พี่จื่อเฉินแท้จริงท่านเคยรักข้าบ้างหรือไม่"

หลี่หมิ่นถังถามเขาออกไปจากใจ นางอยากรู้ร่วมสี่ปีที่ผ่านมา เขารักนาง หรือแท้จริงเห็นนางเป็นเพียงตัวแทนของพี่สาวเท่านั้น ฝ่ายของเย่จื่อเฉินนั้นหลังจากผ่านมาจนถึงวันนี้ที่ร่วมจะสี่ปีผ่านไป จากที่คิดว่าตนเองคงอาจจะรักหลี่หมิ่นถังที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหลี่เหม่ยหลินได้ แต่จนถึงวันนี้เขายังมิอาจทำใจแตะต้องหลี่หมิ่นถังเช่นสามีภรรยาปกติทั่วไปได้ ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกนางป้อนคำถาม

"……"

ดังนั้นที่หลี่หมิ่นถังได้รับจึงมีเพียงความเงียบเท่านั้น แต่มันเป็นความเงียบที่เจ็บปวด เจ็บกว่าการถูกสามีตบหน้านับหมื่นนับล้านเท่า!

"เข้าใจแล้ว หากท่านรักข้าก็คงไม่คิดจะตบแต่งเหม่ยหลินมาเป็นฮูหยินรองเช่นนี้ ได้!"

ถึงเจ็บปวดหัวใจเจียนจะขาดแต่หลี่หมิ่นถังก็ยังมีศักดิ์ศรี ร่วมสี่ปีนางทำเต็มที่แล้ว ดีกับเขา ดีกับมารดาของเขา หรือน้องสาวจอมเอาแต่ใจ แม้แต่อี้เหนียงทั้งสามนางก็ใส่ใจอย่างดี ทว่าคนเขาไม่รัก ให้ทำดีจนตายเขาย่อมมิอาจรักได้ พอแล้ว พอกันที เกือบสี่ปีมันนานเกินไปแล้ว

"ข้ายินดีหลีกทางให้ ในเมื่อท่านกับเหม่ยหลินรักกันมั่นคงถึงเพียงนี้ ข้าก็จะหย่าให้ เช่นนี้เหม่ยหลินของท่านก็จะได้ไม่ต้องฝืนทนเป็นภรรยารองอีกต่อไป"

ลาก่อน ลาตลอดไป ความรักที่ทุ่มเทเพียงฝ่ายเดียวหลี่หมิ่นถังพอแล้ว…

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
บทนำ ต้นเดือนหกเวียนมาบรรจบยังอาณาจักรต้าเซี่ยอีกครั้งหนึ่งแล้ว ท้องฟ้านั้นดูอึมครึมยิ่ง ยังไม่ทันถึงยามเฉินสายฝนก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว ขบวนเจ้าสาวพลันวุ่นวาย หลี่หมิ่นถัง บุตรสาวคนรองของท่านเสนาบดีกลาโหม หลี่ถงเปียว ที่นั่งอยู่ภายในเกี้ยวเจ้าสาวรู้สึกตกใจอยู่มากเมื่อขบวนจำต้องหยุดมิอาจเคลื่อนต่อไปได้เพราะสายฝนตกหนักเกินไป เนื่องจากจวนฝ่ายเจ้าสาวกับจวนของฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นอยู่หากจากกันคนละเมือง จวนติ้งอันโหวนั้นอยู่เมืองเทียนตูที่ห่างจากมหานครเสียงหยางที่เป็นบ้านเดิมของเจ้าสาวอยู่ถึงร้อยห้าสิบลี้ นี่นับว่าเป็นลางร้ายหรือไม่นะ เจ้าสาววัยสิบห้าปีนั้นตกใจและคิดมากจนใบหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือดในยามที่ขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวของตนเองได้หยุดลง บรรยากาศด้านนอกเกี้ยวนั้นฝนตกหนักจนหนาวสะท้านกันทั่วหน้า หากแต่ภายในใจของสาวน้อยเช่นหลี่หมิ่นถังนั้นกลับร้อนรนไปหมดแล้ว ร้อนรนว่าจะไม่ทันฤกษ์มงคลกราบไหว้ฟ้าดินนั่นเอง แต่งงานใครเล่าจะพบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันโดยเฉพาะเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวจะทำให้เลยฤกษ์มงคลเข้าประตูจวนบ้านสามี แต่จะร้อนรนเพียงใดก็ต้องรอจนกว่าฝนจะหยุดหรือเบาบางลง จึงเคลื่อนขบวนไปยังจวนของเจ้าบ่าวได้ เย่จื่อเฉิน หรือติ้งอันโหวซื่อจื่อคือเจ้าบ่าวของนางในวันนี้ เจ้าบ่าวที่นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นไปได้ มือเรียวของเด็กสาวแหวกผ้าม่านไปแอบมองแผ่นหลังกว้างของผู้เป็นเจ้าบ่าว วัยยี่สิบเอ็ดปีของตนเองพลันก็นึกย้อนไปถึงอดีต นางพบหน้าเขาครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีก่อน หลังจากไปศึกษาบนเขาไถ่ซานตั้งแต่อายุสี่ขวบ จากบ้านจากครอบครัวไปนานถึงสิบปีเต็มนางก็ได้เวลาลงจากเขากลับเขาในวัยใกล้ปักปิ่นพอดี หลี่หมิ่นถังจำวันนั้นได้ไม่เคยลืม ยามพบเย่จื่อเฉินครั้งแรก จวนหลี่จัดการปักปิ่นบุตรสาวคนโตเช่น หลี่เหม่ยหลิน พี่สาวที่อายุมากกว่านางอยู่หนึ่งปีกับอีกสองเดือนซึ่งก็พอเหมาะกับหมิ่นถังจบการศึกษาลงจากเขาไถ่ซานพอดีปีนั้นบิดากับมารดาจึงได้ให้สองพี่น้องทำพิธีปักปิ่นไปพร้อมกัน นางที่เป็นเด็กสาวในวัยสิบสี่ปีที่เพิ่งลงจากเขาในคราวนั้นไม่ใช่บนสำนักศึกษานางจะไม่เคยพบชายหนุ่มแต่นั่นกลับเป็นครั้งแรกที่เด็กสาวเช่นหลี่หมิ่นถังคนนี้ได้รู้จักกับคำว่าตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบหน้า แต่ผ่านไปไม่ถึงสองเค่อดี หลี่หมิ่นถังก็ต้องเรียนรู้กับคำว่าอกหักและผิดหวังอย่างแรงตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มสานต่อความสัมพันธ์ เพราะเย่จื่อเฉินถูกพี่สาวแท้ๆ เช่นเหม่ยหลินที่อายุมากกว่านางหนึ่งปีเศษแนะนำกับว่าเขาคือคนรักที่กำลังคบหาดูใจจะหมั้นหมายกันในเร็ววันนี้ แต่ความเที่ยงแท้ของโลกมนุษย์ก็คือความไม่เที่ยงแท้นั่นเอง ผ่านไปไปอีกไม่กี่วันเย่จื่อเฉินกลับต้องติดตามบิดาไปช่วยภัยแล้งที่ต่างเมืองเป็นเวลาร่วมครึ่งปี ใครจะคาดระหว่างนั้นเหม่ยหลินก็เกิดได้พบรักใหม่กับหนานไห่กั๋วกงซื่อจื่อเซิ่งเหยียนอันจากแคว้นอิ๋งโจว พบรักใหม่ไม่พอ หลังจากนั้นอีกเพียงหนึ่งเดือนหลี่เหม่ยหลินก็ตอบตกลงแต่งงานออกไปกับบุรุษต่างเมือง ไม่ได้บอกลาจบความสัมพันธ์กับเย่จื่อเฉินในฐานะคนรักแม้เพียงครึ่งคำ วันที่เกี้ยวจากจวนหนานไห่กั๋วกง มารับตัวเจ้าสาวใครจะคิด ดันเป็นวันเดียวกับที่เย่จื่อเฉินที่ติดตามบิดาซึ่งติ้งอันโหวนั้นเป็นผู้แทนพระองค์นำเสบียงไปช่วยชาวบ้านจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเพื่อถวายรายงานกับฉางตี้ฮ่องเต้ในวันนั้นเช่นกัน ขบวนหนึ่งกำลังจะเข้าประตูเมืองเสียนหยางอีกขบวนกำลังจะออกจากเมืองหลวงมุ่งหน้าไปแคว้นอิ๋งโจว ตอนนั้นหมิ่นถังไม่ได้อยู่รวมเหตุการณ์แต่สาวใช้ก็มาเล่าให้นางฟัง พวกเขาเพียงมองกันคนหนึ่งอยู่บนรถม้า อีกคนอยู่บนหลังอาชา แล้วก็เคลื่อนผ่านจากกัน จบสิ้นวาสนาที่มีระหว่างเย่จื่อเฉินกับคุณหนูใหญ่หลี่เหม่ยหลินนับตั้งแต่เพียงวันนั้นเป็นต้นมา แต่ที่หลี่หมิ่นถังเองคาดไม่ถึงก็คืออีกสิบห้าวันต่อมาจวนติ้งอันโหวก็ส่งแม่สื่อมาทาบทามสู่ขอนางที่เป็นบุตรสาวคนรองของเสนาบดีหลี่ ใช่แน่นอนว่าต้องสู่ขอนางให้กับซื่อจื่อติ้งอันโหวอยู่แล้วเนื่องจากบุตรสาวคนโตของใต้เท้าหลี่เพิ่งจะออกเรือนไปบุตรสาวอีกสองคนก็เกิดจากอี้เหนียงแต่อายุเพิ่งเจ็ดปีกับแปดปีเท่านั้น ส่วนจวนติ้งอันโหวแน่นอนว่าต้องเป็นพี่ชายคนโตที่ออกเรือนก่อน ส่วนน้องชายคนรองนั้นต้องรอไปก่อน ซึ่งพอทราบมีหรือที่หลี่หมิ่นถังจะไม่ตอบตกลงออกไปในเมื่อนับจากแรกพบหน้าผ่านมาหนึ่งหลายเดือนนางยังปักใจรักอยู่แต่กับบุรุษนามเย่จื่อเฉินเท่านั้น และบัดนี้ก็เป็นวันแต่งงานที่หลี่หมิ่นถังเฝ้ารอคอยมาร่วมครึ่งปี "ฝนหยุดแล้วเคลื่อนขบวนได้" เสียงแม่สื่อเอ่ยสั่งการ นั่นแหละเจ้าสาวเช่นหลี่หมิ่นถังจึงพรั่งพรูลมหายใจออกมาเต็มที่ด้วยความโล่งใจ แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใดนางรู้สึกใจคอไม่ดีนักในวันนี้ ทั้งที่ได้แต่งงานกับบุรุษที่เป็นรักแรกแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่รู้สึกยินดีเอาเสียเลย นอกจากไม่ยินดีหลี่หมิ่นถังยังรู้สึกใจหายแปลกๆ ทั้งที่ไม่สมควรจะรู้สึกเช่นนี้เลย "คิดมากไปแล้วหมิ่นถัง มันไม่มีอันใดหรอกก็แค่ฝนตก มันจะเป็นลางร้ายไปได้อย่างไร คิดมากๆ เจ้าแค่คิดมากไปเท่านั้น" เด็กสาวยกมือลูบลงบนหน้าอกตนเอง ก่อนจะพึมพำปลอบใจซ้ำอีกด้วย ถึงเย่จื่อเฉินจะไม่เคยบอกว่ารักนางแม้ครึ่งคำ ทว่าตลอดสามเดือนที่เตรียมงานแต่ง เขาก็ดูใส่ใจนางอย่างมาก ไม่มีอันใดหลอก มันคงไม่มีอันใด… ไม่มีเสียเมื่อใด! "นี่มันเรื่องอันใดกันเจ้าค่ะพี่จื่อเฉิน" หลังเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆ ยังไม่ทันถูกส่งตัวเข้าห้องหอพระราชโองการกลับส่งตรงมาจากวังหลวงให้ติ้งอันโหวเร่งนำทหารไปสนับสนุนกองทัพหลวงที่ไปปราบกบฏยังแคว้นเป่ยฉีที่มีชินอ๋องซ่างกวนไท่เป็นแม่ทัพใหญ่บัญชาการรบอยู่ที่ชายแดนก่อนแล้ว สถานการณ์ทางชายแดนเป่ยฉีไม่ดีฉางตี้ฮ่องเต้จึงได้มีพระราชโองการให้ติ้งอันโหวนำกองทัพห้าหมื่นนายไปสมทบ แน่นอนว่าเจ้าบ่าวเช่นเย่จื่อเฉินที่เป็นติ้งอันโหวซื่อจื่อกับคุณชายรองเย่ต้องติดตามผู้เป็นบิดาไปออกรบในครั้งนี้ด้วยเช่นนี้เขาจึงมิอาจเข้าหอกับเจ้าสาวเช่นหลี่หมิ่นถังได้ เพราะพระราชโองการในครั้งนี้ฉางตี้ฮ่องเต้นั้นมีคำสั่งเด็ดขาดว่าต้องออกเดินทัพไปในทันทีซึ่งก็ย่อมต้องเป็นค่ำคืนนี้อยู่แล้ว เดินทัพโดยที่เจ้าสาวเช่นนางเพิ่งได้รับรู้เอาในยามที่พระราชโองการมาถึงจวนติ้งอันโหว แต่ความจริงแล้วหลี่หมิ่นถังย่อมรู้ทั้งเจ้าบ่าวกับครอบครัวของเขาต้องรู้แจ้งมาก่อน ทว่ากลับไม่ยอมแจ้งให้นางหรือครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวทราบแต่แรก เพราะโดยปกติแล้ว หากจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องแจ้งให้ฝ่ายเจ้าสาวได้ทราบอย่างเร่งด่วน ทางเจ้าสาวจะได้มีสิทธิ์เลือกหนทางว่าจะแต่งงานจนเสร็จสิ้นแล้วรอสามีกลับจากไปทำศึกอย่างสงบที่บ้านสามี กับเลือกจะยุติงานแต่งงานเอาไว้ก่อน รอให้เจ้าบ่าวรอดปลอดภัยกลับมาจากชายแดน เพราะทหารไปทำศึกอาจตายมากกว่าอยู่ ฝ่ายสตรีจะไม่ได้ต้องกลายเป็นหญิงหม้ายสามีตายตั้งแต่ยังไม่ทันได้ร่วมห้องหอ แต่นี่... "เหตุใดพี่จื่อเฉินจึงไม่บอกกับหมิ่นถังหรือท่านพ่อและท่านแม่ว่าวันนี้พระราชโองการจากฝ่าบาทจะมาถึงจวนติ้งอันโหวของท่าน เหตุใดครึ่งคำท่านก็ไม่พูดเล่าเจ้าค่ะ" หลี่หมิ่นถังถามออกไปด้วยน้ำเสียงและใบหน้าแสนจะร้าวราน หากเขาพูดออกมานางมีหรือจะยอมรับไม่ได้ นางรักเขาออกปานนี้ให้รอนางก็จะรอ แต่การไม่ยอมปริปากบอกเล่ากันมันหมายถึงว่าเขาไม่เห็นนางกับครอบครัวสำคัญมิใช่หรอกหรือ คนจะเป็นสามีภรรยากันเรื่องจะเล็กหรือใหญ่สมควรต้องเปิดเผย หากแต่นี่เย่จื่อเฉินกลับไม่พูดออกมาทั้งที่การไปออกศึกนั้นเป็นเรื่องทั้งใหญ่และสำคัญ "ขอโทษนะหมิ่นถัง พี่จื่อเฉินผิดต่อเจ้าแล้ว แต่สัญญาว่าหลังเสร็จศึกนี้จะรีบกลับมาชดเชยให้เจ้าแน่นอน" แล้วหมิ่นถังยังจะกล่าวอันใดได้อีกเล่า ในเมื่อเคลื่อนทัพไปแคว้นเป่ยฉีคราวนี้มีติ้งอันโหวผู้เป็นพ่อสามีของนางเป็นแม่ทัพใหญ่ซื่อจื่อเช่นจื่อเฉินจะไม่ติดตามบิดาได้อย่างไรยิ่งเย่จื่อเฉินนั้นไม่บอกไม่กล่าวอะไรนางล่วงหน้าด้วยแล้วหลี่หมิ่นถังยังจะแก้ไขอันใดได้อีกหรือ? ทุกข์ใจและเศร้าโศกเพียงใดกลับไม่มีโอกาสแม้แต่จะตัดพ้อกับสามี สามีที่เพิ่งกราบไหว้บรรพชนฟ้าดินและบิดามารดาทั้งสองฝ่ายได้ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น ดีจริงๆ ประเสริฐแท้หลี่หมิ่นถง!... แทนที่จะได้เข้าหอ หลี่หมิ่นถังกลับต้องสวมชุดแต่งงานออกมาส่งสามีไปออกรบ ใบหน้างามจึงมีแค่รอยเศร้าโศกกับน้ำตาเต็มแก้มเท่านั้น แต่งงานทั้งทีแต่เหตุใดจึงต้องพบเจออุปสรรคใหญ่เช่นนี้ "เจ้ารอข้านะหมิ่นถัง จงรอช้าอย่าเป็นเช่น…" ถึงเขาไม่พูดหมิ่นถังย่อมทราบว่าจื่อเฉินต้องการจะสื่อถึงผู้ใด เขาคงหวาดกลัวว่านางจะเป็นเช่นหลี่เหม่ยหลินกระมัง แต่นางก็คือนาง หลี่เหม่ยหลินก็คือหลี่เหม่ยหลินวูบหนึ่งที่นางรู้สึกโกรธขึ้นมา เนื่องจากเริ่มกระจ่างที่เย่จื่อเฉินไม่ยอมปริปากบอกกับนางแม้เพียงครึ่งคำว่าเขากำลังจะไปชายแดนล้วนเป็นเพราะเขาหวาดกลัวว่านางจะยกเลิกงานแต่งไปก่อนกระมัง ไม่พูดไม่ถามกลับตัดสินนางไปเสียแล้วน่าปวดใจเสียจริง "พี่จื่อเฉินวางใจได้ หมิ่นถังจะรอท่าน จะกี่ปีก็จะรอเจ้าค่ะ" แต่สุดท้ายเพราะหัวใจรักหลี่หมิ่นถังก็ยังรับปากเขาออกไปแทนที่จะเอ่ยปากตัดพ้อต่อว่าให้ขุ่นเคืองต่อกัน ด้วยจากกันไปในครั้งนี้ไม่รู้ยามใดจะได้กลับมาศึกปราบกบฏคราวนี้ไม่ใช่จะง่ายยิ่งแผ่นดินต้าเซี่ยเพิ่งจะผลัดเปลี่ยนฮ่องเต้จากคราวนี้ กว่าจะได้พบหน้าใครเลยจะล่วงรู้จะพบกันด้วยร่างกายมีชีวิตหรืออาจจะกลับมาเพียงป้ายวิญญาณก็ยากจะคาดเดานางจึงเลือกจะปล่อยวางความขุ่นเคืองไปเสีย น้ำตาเม็ดโตกลิ้งออกจากสองตางดงาม ภาพแผ่นหลังกว้างของสามีห่างออกไปทุกขณะ แต่งงานยังไม่ทันข้ามคืนสามีกลับจากไกลไปนับพันลี้ เด็กสาวเช่นนางเจ็บปวดใจเหลือเกิน "หยุดร้องไห้ได้แล้ว มันเป็นลางร้ายบิดามารดาของเจ้าไม่สั่งสอนหรือหมิ่นถังว่ายามที่มาส่งทหารไปชายแดนห้ามมีน้ำตา ช่างไม่ได้ความเอาเสียเลยเด็กคนนี้นี่!" เย่ฮูหยินผู้เป็นมารดาสามีตำหนิด้วยถ้อยคำแสนหยาบคายเกิดมาถึงสิบห้าปีหลี่หมิ่นถังล้วนไม่เคยได้ยิน แต่บัดนี้นางแต่งงานเข้าจวนติ้งอันโหวแล้วไม่ชอบใจเพียงใดก็คงมีแต่ก้มหน้าฝืนทนกล้ำกลืนเอาไว้ไม่โต้เถียง…

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

My Mate and Brother's Betrayal

read
456.4K
bc

The Pack's Doctor

read
110.6K
bc

The Triplets' Fighter Luna

read
181.7K
bc

Claimed by my Brother’s Best Friends

read
162.8K
bc

Her Triplet Alphas

read
7.0M
bc

La traición de mi compañero destinado y mi hermano

read
148.2K
bc

Ex-Fiancé's Regret Upon Discovering I'm a Billionaire

read
124.2K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook