วิจารณ์ราชสำนัก

1272 คำ
ทั้งหมดเก็บหญ้าเหมันต์เรียบร้อยก็ พากันเดินลงเขาไปยังถ้ำ ซ่งจื่อหรูให้เหตุผลว่าที่บริเวณนี้น่าจะเป็นรังหมาป่าเขี้ยวเงิน หรือไม่ก็ดงของหมีป่าสัตว์จำพวกนี้ชอบอากาศเย็น ส่วนตัวที่จ้าวเทียนหยางเจอนั้นเป็นเพียงหมาป่าเทา แม้จะดุร้ายแต่ไม่อันตรายเท่ากับหมาป่าเขี้ยวเงิน ทุกคนจึงต้องรีบลงเขาไปยังถ้ำด้านล่าง มีสายตาหลายคู่จับจ้องในความมืด สายตาเหล่านั้นกำลังค่อยเคลื่อนไหวเข้ามา ซ่งจื่อหรูตะโกนขึ้นให้ทุกคนรีบหลบขึ้นต้นไม้ "พวกมันมาแล้ว น่าจะมีมากกว่าสิบตัว พี่จิงอี้ท่านพาข้าขึ้นต้นไม้ที เราต้องอยู่ที่สูงพวกมันสามารถกระโดดได้ถึงสองจั้ง พวกเราวางตระกร้าลงก่อนไม่เช่นนั้นหนีไม่รอดแน่ๆ" ซ่งจื่อหรูเอ่ยเตือนทั้งหมดวางตระกร้าลง มีหมาป่ามากกกว่าสามสิบตัวล้อมพวกเขาอยู่ จ่าฝูงกระโจนใส่ซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหรงสบัดมือใส่พวกมันจนกระเด็นก่อนจะกอดเอวนางใช้เท้าเตะพื้นดีดทีเดียวก็พานางขึ้นไปยังต้นไม้ ซ่งจื่อหรูตะลึงวิชาตัวเบาของจ้าวเฟยหรงนั้นดีกว่าจิงอี้จริงๆ หมาป่าพยายามกระโดดงับพวกเขา เหล่าองครักษ์ต่างใช้กระบี่แทงพวกมัน ดูเหมือนจะมีมาเพิ่มเรื่อยๆ "ท่านอ๋อง ข้าว่ามันแปลกๆ ท่านเห็นด้วยหรือไม่" ซ่งจื่อหรูเอ่ยขึ้น จ้าวเฟยหย่งมองหน้านาง เด็กคนนี้โกรธเขาจริงๆ สรรพนามที่เรียกขานก็ผิดไปจากเดิมไม่เรียกท่านอาฮั่วเช่นแต่ก่อนเขารู้สึกปวดใจทุกครั้งที่ถูกนางหมางเมินไม่เข้าใจตนเองเช่นกัน แต่สถานการณ์ตรงหน้าเขาไม่อาจปรับความเข้าใจแก่นางได้ "อาหรู เจ้าว่าแปลกอย่างไรลองว่ามาเถอะ"จ้าวเฟยหย่งที่กำลังรับมือกับหมาป่าเอ่ยถาม "ข้าคิดว่าพวกมันเหมือนถูกคนควบคุม พวกท่านมีวรยุทธ์ไม่ได้ยินหรือ ลองเงียบสิเหมือนข้าได้ยินเสียงขลุ่ยเบาๆ สัตว์มีสัญชาตญาณที่ไวกว่าคนหูพวกมันดีกว่าเรามาก เราลองหยุดเคลื่อนไหวนั่งนิ่งๆสิ " ทั้งหมดทำตามนาง พวกเขาเพียงแค่อยู่เฉยๆ หมาป่าเหล่านั้นก็นิ่งตามแต่พวกมันยังคงเฝ้าอยู่ไม่ไปไหน องค์ชายห้าจ้าวเทียนหยางใช้เท้าเตะกิ่งไม้ จากนั้นก็ใช้วิชาตัวเบาเหินไปยังทิศทางของเสียงเพียงพริบตาก็สูงกว่ายอดไม้หายไปในความมืด "นี่มันๆ องค์ชายห้ามีวรยุทธ์ตั้งแต่เมื่อใด ฉินตงฉินลู่ เรื่องนี้พวกเจ้ารู้หรือไม่" จ้าวเฟยหย่งเอ่ยถามองครักษ์ทั้งสองของจ้าวเทียนหยาง "ทูลท่านอ๋อง เดิมทีพวกเราคือคนที่ฝึกองค์ชายเองพะย่ะค่ะเพียงแต่ตอนนี้องค์ชายเหมือนจะเก่งกว่าพวกกระหม่อมไปเสียแล้ว" จ้าวเฟยหย่งมองหน้าองค์รักษ์ของสองพี่น้อง ใครๆต่างก็เห็นเจ้าเด็กบ้านี่วันๆเอาแต่เข้าออกหอนางโลมเป็นว่าเล่น ถึงขนาดที่ขุนนางในที่ประชุม นำเรื่องเสเพลของเขามากล่าวฟ้องต่อหน้าเสด็จพี่ในท้องพระโรงเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องความประพฤติ ช่างปิดบังได้ดีนัก คาดว่าแม้แต่บุตรชายก็คงรู้เช่นกัน แสดงว่าเจ้าเด็กสามคนนี้แอบติดต่กันมาตลอดและจงใจมาเมืองกว่างผิง ไม่ได้หนีเที่ยวเช่นที่เกาฟ่านกับเกาหม่าบอกมา ฉินลู่และฉินตงเป็นคนที่เสด็จพี่ประทานให้ แต่ดูเหมือนเสด็จพี่เองก็น่าจะไม่รู้ ไม่เช่นนั้นทุกครั้งที่ขุนนางทูลฟ้องก็จะทำโทษกักบริเวณเจ้าเด็กหน้าเหม็นนี่หรือ "เสด็จพ่อ เสด็จพี่เทียนเฟยแม้จะมีวรยุทธแต่ก็บาดเจ็บสาหัส ถ้าไม่เพราะเทียนหยางมีวรยุทธ์คงหนีไม่รอดแล้วพะย่ะค่ะ อยู่ในวังหลวงทุกก้าวล้วนอันตราย อ่อนแอเกินไปล้วนเป็นเหยื่อผู้อื่น เก่งกาจเกินไปก็ถูกคนจ้องเพ่งเล็ง พระองค์ก็ทรงทราบดีเคยผ่านจุดนั้นมาก่อนมิใช่หรือพะย่ะค่ะ" จ้าวเฟยหรงกล่าวแก่บิดา ซ่งจื่อหรูที่ถูกจ้าวเฟยหรงกอดเอวได้ยินก็เอ่ยขึ้น "วังหลวงของพวกท่านล้วนเป็นถ้ำเสือ บึงมังกรสินะ คงมีพวกหน้าไหว้หลังหลอกเต็มไปหมด" "แม่นางซ่งเรื่องในวังหลวงเจ้าไม่ควรวิจารณ์ส่งเดช" องครักษ์เกาฟ่านเอ่ยตำหนิซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหรงมองเขาด้วยสายตาที่แผ่ไอสังหารออกมา เกาฟ่านรู้ตนว่าพลาดไปจึงหุบปาก "องครักษ์ท่านนี้ เก้าอี้มังกรนั้นสำคัญสำหรับคนกระหายในอำนาจเช่นพวกท่านเท่านั้น สำหรับชาวบ้านเช่นข้าหากหิมะตกลงมา ขาเก้าอี้ทองคำนั่นจะจุดไฟให้อุ่นถึงครึ่งคืนหรือเปล่า จะหุงข้าวให้สุกได้หรือไม่ สู้ฟางข้าวสักก้อนได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้" แต่ละคนหน้าแทบจะเปลี่ยนสีเด็กคนนี้วิจารณ์ไม่กลัวฟ้าดินเลย ท่านอ๋องของพวกเขาก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน หากปกติแล้วท่านอ๋องคงให้ใครสักคนลากนางไปตีแล้ว ผ่านไปสักพักจ้าวเทียนหยางก็เหวี่ยงบุรุษคนนึงลงมา หน้าตาของคนๆนั้นถูกทุบจนน่วม ส่วนตัวเขาบาดเจ็บเล็กน้อย "เป็นคนของสำนักเมฆา ได้รับว่าจ้างให้มาดักทำร้ายเสด็จอาและท่านพี่รวมถึงเสด็จพี่และข้าด้วย พวกเขาตามเรามาจากอำเภอเป่าซาน ดูท่าคนๆนี้คงถูกกว่าจ้างมาจากทางเสนาบดี ปกติคนของสำนักเมฆาไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนของราชสำนัก คนๆนี่คงใช้ชื่อสำนักเมฆามาแอบอ้างมากว่า เจ็บใจชะมัดหากไม่เพราะเมื่อเช้าต้องเสียแรงมาสู้กับไอ้หมาป่าสามตัวนั่น ข้าคงไม่พลาดท่าเสียเวลากับไอ้กระจอกคนนี้หรอก ท่านอาฉินลู่สังหารไอ้หมาป่าน่ารำคาญเหล่านี้ให้หมดเอาหนังของมันมาทำเสื้อให้ข้า" ทุกคนลงมาจากต้นไม้มาแล้ว เมื่อจ้าวเทียนหยางหันไปเจอหมาป่าที่ตอนนี้นอนตายไม่กี่ตัวหลังจากเสียงขลุ่ยสงบ ที่เหลือพวกมันก็จากไป คิดถึงท่าทีจนตรอกของตนเมื่อเช้าที่ถูกเจ้าสัตว์สี่เท้านี่ล้อมก็ยิ่งโมโห ฉินลู่เตรียมลงมือแต่ซ่งจื่อหรูห้ามเขาไว้ " องค์ชายห้า พวกมันเองก็ถูกคนอื่นควบคุม ท่านมีเหตผลหน่อยเถอะ อีกอย่างต่อให้ไม่มีผู้ใดใช้งานมัน ท่านอย่าลืมว่านี่คือบ้านของพวกมันเราต่างหากที่บุกรุก เกิดเป็นคนควรมีคุณธรรม สำนักศึกษาที่เมืองหลวงไม่สอนท่านหรอกหรือ" "เจ้าๆๆๆนังเด็กบ้าอย่าคิดว่าแค่ช่วยชีวิตข้าแล้วจะมากำเริบต่อหน้าข้าได้นะ โอ๊ะ" จ้าวเทียนหยางเอ่ยยังไม่ทันจบก็ถูกลมหอบเขาขึ้นไปอยู่บนคบไม้ จ้าวเฟยหรงสะบัดมือใส่เขาเบาๆก็ลอยขึ้นไป อันดับหนึ่งในใต้หล้าที่ผู้คนยกย่องก็คือเขาจอมยุทธฮวาเฟยหยางที่ฆ่าคนโดยที่กระบี่มิทันได้อาบเลือด ประมุขหอฮวาเซียงอันเลื่องชื่อก็คือเขา ใครจะรู้แต่เหนือฟ้ายังมีซื่อจือแห่งจวนจ้าวอ๋องพี่ชายเขาไง ปกติเขายังไม่กล้ายั่วยุ เหตุใดวันนี้พลาดท่้าเสียได้ ก่อนออกจากโรงเตี๊ยมเขาก้าวเท้าผิดหรือไงกันนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม