"ปัดยังไม่อิ่มเลย เราไปต่อที่ห้องของปัดกันดีกว่านะคะ"
"สำหรับคุณลูกปัด ได้เสมอครับ"
"น่ารักจังเลยคุณรณทีของปัด"พรรณาราได้แต่นั่งก้มหน้ามองเอกสาร บทสนทนาของทั้งคู่นั้นเธอได้ยินชัดทุกถ้อยคำแต่ทำได้แค่นั่งนิ่งทำราวกับว่าไม่ได้ยินหรือรู้สึกอะไร
เวลาผ่านไปจนถึงเลิกงานไร้วี่แววของรณทีที่จะกลับเข้ามา พรรณารายกกระเป๋าสภาพใบเก่าของตัวเองขึ้นสะพายบนบ่าใบหน้าแสดงถึงความเหนื่อยล้า สองเท้าเรียวเล็กก้าวเดินไปยังข้างหน้าอย่างเชื่องช้าผู้คนมากมายในบริษัทก้มหัวทำความเคารพให้กับเธอ สถานะภรรยาและลูกสะใภ้เจ้าของบริษัทในที่นี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
"เฮ้อ"เป็นอีกหนึ่งวันที่เธอไม่อยากจะกลับเข้าบ้านหลังนั้น แต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อเธอไม่มีทางเลือก
ปี๊ด ปี๊ด
เสียงบีบแตรรถดังขึ้นบริเวณป้ายรถเมล์ดึงดูดความสนใจจากผู้คนให้หันไปมองรวมถึงตัวพรรณาราเอง
"พรรณ จะไปไหนให้เราไปส่งไหม"กล้าตะวันยื่นหน้าออกมาทักทายจากรถสปอร์ตคันหรูของเขา พรรณาราตกเป็นที่จับตามองเพราะมีพนักงานในบริษัทของสามียืนปะปนรอรถเมล์กับเธออยู่ด้วย
"ไม่เป็นอะไรจ๊ะกล้า เดี๋ยวรถเมล์ก็จะมาแล้ว"พรรณาปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากตกเป็นขี้ปากของชาวบ้านแต่ดูเหมือนกล้าตะวันจะไม่เข้าใจความคิดของเธอ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรเปิดประตูเดินลงมาจากรถสปอร์ตสีแดงคันหรูเดินตรงมาลากแขนของเธอให้ขึ้นรถโดยไม่สนใจคำคัดค้านหรือสายตาของใคร
ปรืน
กล้าตะวันขับรถออกจากบริเวณป้ายรถเมล์มีตุ๊กตาหน้ารถอย่างพรรณารานั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ทั้งสองนั่งเงียบโดยไร้บทสนทนาจนรถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนตัวมาจอดติดไฟแดง
"เป็นถึงลูกสะใภ้บ้านบดินทร์เดชา ทำไมต้องนั่งรถเมล์กลับ ไอ้งั่งสามีของพรรณมันหายหัวไปไหน"คนถูกถามถึงกลับไปไม่เป็นได้แต่นั่งกำสายสะพายกระเป๋าใบเก่าของตัวเองเอาไว้แน่น
"หึ มันคงหายไปขลุกอยู่กับลูกสาวของนายกเทศมนตรีอะไรนั่นใช่ไหม พรรณถึงต้องมานั่งรถขึ้นรถเมล์กลับบ้าน"พรรณาราหันมองหน้ากล้าตะวันทันที เขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
"กล้าไปทานข้าวกับเพื่อนเห็นไอ้นั่นกำลังนั่งอี๊อ๋ออยู่กับลูกสาวของนายกเทศมนตรีที่เราไปร่วมงานในวันนั้น"
"อื้อ"
"พรรณทำใจได้ยังไงอะ ปล่อยให้มันไปยุ่งกับผู้หญิงกับคนอื่นได้ยังไง"กล้าตะวันอารมณ์เดือดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองถูกกระทำโดยผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี เขาลุกขึ้นขับรถออกมาจากร้านอาหารทันทีเมื่อได้รณทีพูดถึงเรื่องที่พรรณารามาทำงานที่บริษัทในตำแหน่งเลขา
"พรรณยอมปล่อยให้มันไปมีความสุขกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง นั่นมันสามีของพรรณนะ"
"คุณรณทีเขาคือสามีของพรรณก็จริง"พรรณาราหันมามองหน้าของกล้าตะวันผ่านม่านน้ำตา
"แต่พรรณไม่ใช่ภรรยาที่เขาต้องการ"น้ำตาเม็ดใส่ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างช้า ๆ กล้าตะวันไม่มีเวลาเช็ดน้ำตาให้เธอแต่เขาก็ไม่ได้ใจดำล้วงผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าสดใสก่อนจะยื่นให้เธอ
"เช็ดซะ กล้าไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง"ชายหนุ่มขับรถด้วยมือเดียวดวงตาแดงก่ำเพราะกำลังโกรธมองทางข้างหน้า พรรณาราหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาพร้อมเอ่ยกล่าวขอบคุณ
"ขอบคุณนะกล้า เดี๋ยวพรรณจะซักผ้าเช็ดหน้ามาคืนนะ"เกิดความเงียบภายในรถ พรรณาราเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างสมองของเธอกำลังคิดเรื่องต่างๆ นานา มันสับสนวุ่นวายไปเสียหมด
"อยากไปเที่ยวที่ไหนไหม กล้าจะพาไป"นี่เป็นคำถามแรกหลังจากกล้าตะวันขับรถมาได้ครึ่งทาง และทางสี่แยกอีกไม่กี่ร้อยเมตรด้านหน้าก็จะถึงทางแยกไปบ้านบดินทร์เดชา
"อยากไปหาความสุขให้กับตัวเองบ้างไหม ถ้าอยากไปพรรณก็แค่บอกมา"พรรณราหันมามองหน้ากล้าตะวันสมองของเธอคิดทบทวนอย่างหนัก นานมากแล้วสินะที่เธอไม่เคยพบเจอกับความสุข
"รบกวนหน่อยนะ"
"ได้สิ ไม่มีปัญหา"
สายลมพัดผ่านเสียงคลื่นทะเลซัดเข้าหาชายหาดช่วยทำให้พรรณารารู้สึกผ่อนคลายลงได้ ร่างเล็กเอนกายนั่งลงบนผืนทรายมองหมู่ดาวน้อยใหญ่ส่งแสงประกายวิบวับบนท้องฟ้ามืดครึ้ม
"อะ น้ำ"ขวดน้ำเปล่าถูกยื่นมาตรงหน้า พรรณารายื่นมองไปรับสายตาของเธอมองออกไปยังท้องทะเลผ่านความมืดมิดมีเพียงแสงไฟริบหรี่จากเสาร์ไฟข้างถนน
"นานมากเลยนะที่พรรณไม่ได้มาเที่ยวทะเล"
ปึก ซ่าส์
เสียงเปิดฝากระเป๋าเบียร์ดังขึ้น พรรณาราขมวดคิ้วเข้าหาเมื่อเห็นว่ากล้าตะวันกำลังยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มและข้างกายของชายหนุ่มยังมีอีกหลายกระป๋อง
"เดี๋ยวก็เมาหรอก"
"หึ แค่เบียร์ไม่กี่กระป๋องทำอะไรกล้าไม่ได้หรอก"
"อย่าประมาท"
"หึ"กล้าตะวันส่ายหน้าไปมากับความขี้กลัวของหญิงสาว เขารู้ลิมิตของตัวเองดีจึงเลือกซื้อมาเพียงแค่ดื่มไหวและสามารถพาเธอกลับไปส่งถึงบ้านได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
"โทรศัพท์บอกท่านทั้งสองแล้วหรือยัง เดี๋ยวท่านจะเป็นห่วงเอา"
"โทรไปแล้ว คุณแม่ท่านไม่ว่าอะไรส่วนคุณพ่อตอนนี้ท่านไปดูงานที่ต่างประเทศอีกสามวันถึงจะกลับ"กล้าตะวันพยักหน้ารับรู้สายตาของเขามองไปยังทิศทางเดียวกับหญิงสาว
"ดูเหมือนท่านทั้งสองจะเอ็นดูเธอมากนะ"กล้าตะวันเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ เหมือนเขากำลังคิดอะไรอยู่
"คุณท่านทั้งสองดีกับพรรณมาก มากจนบางครั้งพรรณรู้สึกเกรงใจ"ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋ารุ่นใหม่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เอ่ยปากขอแต่ท่านก็สั่งมอบให้เธอในทุก ๆ เดือน ทุกคนภายในบ้านบดินทร์เดชาดีกับเธอมากแต่จะมีเพียงแค่คนคนหนึ่งที่เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ
"ดีเนอะที่มีพ่อแม่สามีคอยรักคอยเป็นห่วงเอาใจใส่"น้ำสีอำพันในกระป๋องถูกยกขึ้นดื่มอึดใหญ่ ใบหน้าเรียบตึงยามเมื่อเขาหวนคิดถึงภาพของสองชายหญิงภายในร้านอาหาร
"ทำไมถึงยอมแต่งงานกับไอ้หมอนั่น ไม่ได้รักกันไม่ใช่หรือไง"ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่า พรรณาราหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นเปิดฝายกขึ้นดื่ม
"บริษัทของครอบครัวกำลังเจอปัญญา คุณพ่อของพรรณไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร คุณพ่อเอกราชท่านอาสายื่นมือเข้ามาช่วย"
"แต่มีข้อแม้ เธอต้องแต่งงานกับไอ้หมอนั่นใช่ไหม"
"อื้อ พรรณต้องยอมแต่งงานกับคุณรณทีเพราะช่วยพยุงบริษัทที่คุณแม่สร้างมา"พรรณารายอมเล่าถึงสาเหตุที่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายใจร้ายให้กล้าตะวันได้ฟัง
กล้าตะวันนั่งเงียบฟังในสิ่งที่พรรณาราเล่า ถ้าหากตอนนั้นเขาอยู่เมืองไทยพรรณาราก็คงไม่ต้องไปแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น
"พรรณอยากทำงานหาเงิน อยากเอาเงินค่าสินสอดไปคืนท่านทั้งสอง"เธอไม่อยากถูกมองว่าเป็นผู้หญิงหิวเงินแต่งงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังเกาะผู้ชายกิน
"อยากได้เงินเท่าไหร่"
"กล้าว่าอะไรนะ"
"อยากได้เงินเท่าไหร่จะให้ กี่สิบล้านว่ามาเธอจะได้หลุดพ้นจากไอ้เวรรณทีนั่นเสียที"