3
เรื่องดี ๆ ของธารินันท์
“มึงก็ลองทายดูสิ...ว่ากูคือใคร?”
ณธายุลืมตาพรึบทันทีที่ได้ยิน ตามด้วยหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ หลังได้ยินบทสวดแปลก ๆ ในเวลาถัดมา ไม่ต้องเดาก็รู้ ว่าธารินันท์คงโดนผีในหนังเรื่องที่ดูเมื่อตอนหัวค่ำ คลานเข้าไปเล่นงานถึงในความฝันเป็นแน่
“อื้อ” เสียงครางในลำคอดังขึ้น ตามด้วยการกอดรัดตัวเขาเอาไว้แน่น ท่าทางกระสับกระส่ายคล้ายคนเหนื่อยหอบ จากการวิ่งหนีตัวอะไรสักอย่างในความฝันอยู่
“ยะ...อย่า”
“ไม่เป็นไร ๆ ผมอยู่นี่ไม่ต้องกลัวนะ” ณธายุยกฝ่ามือลูบต้นแขนหญิงสาวเบา ๆ กระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่ยอมตื่นจากฝันร้ายเสียที
“โอ๊ะ” ชายหนุ่มถึงกับเจ็บจนจุก จากเข่าที่กระแทกลงใจกลางร่างอย่างจัง แม่เจ้าประคุณเล่นคร่อมมาจังหวะเดียว แล้วทิ้งดิ่งลงตรง ๆ เขาเจ็บจนต้องห่อปากแล้วเป่าลมระบายออกเบา ๆ
“คุณนะ...นันท์” ลองเรียกชื่อคนหลับเบา ๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร จะปลุกให้ลุกขึ้นมาแล้วบอกว่า ช่วยขยับขาของคุณออกไปจาก...ของผมหน่อยครับ ก็ดูจะเป็นสถานการณ์ที่ชวนอึดอัดใจ และคงมองหน้ากันไม่ติดในวันข้างหน้า
“แจ่บ ๆ ๆ” นอกจากจะละเมอเป็นผีอีมิ้งแล้ว สงสัยกำลังฝันว่าได้กินของอร่อย ๆ อยู่แน่ ปกติธารินันท์ไม่ได้ละเมอหนักขนาดนี้ มีส่งเสียงออกมาบ้างก็เพียงเล็กน้อย แต่คืนนี้หญิงสาวละเมอออกมา แบบผิดปกติไปจากที่เคยเป็น เพราะฤทธิ์ของผีอีมิ้งแน่นอน เขาได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ ค่อย ๆ ดันต้นขาของหญิงสาวลง แต่เจ้าตัวก็คร่อมทับขึ้นมาใหม่ คราวนี้เขาเอามือรองรับไว้ทัน ก่อนที่มันจะสร้างความรวดร้าวให้น้องชายเขาอีก ดันให้พาดตรงที่ปลอดภัยที่สุดแทน และกว่าจะหลับลงไปได้อีกรอบ ก็เล่นเอาเกือบเช้าเลยทีเดียว
“อ้าย ! คุณยุ ทำไมคุณมานอนกอดฉันได้ล่ะคะเนี่ย คุณยุตื่นมาคุยกันเดี๋ยวนี้เลยนะคะ คุณยุ ๆ” เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าตัวแรง ๆ ทำให้ณธายุค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองเจ้าของเสียงแหลมบาดหู ธารินันท์กำลังนั่งทำหน้าตื่นตกใจอยู่บนเตียง ยกผ้าห่มปิดอกตัวเองเอาไว้แน่น สายตาจ้องเขาประหนึ่งว่าเขาได้ทำเรื่องร้ายแรงมา
“มีอะไรเหรอคุณนันท์ เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด” เขายันตัวลุกขึ้นนั่ง ยกมือขึ้นสางเส้นผมแบบลวก ๆ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูก็พบว่ายังเช้าอยู่ เขายังต้องการเวลาหลับพักผ่อนต่อ
“ฉันถามว่าทำไมคุณถึงมานอนกอดฉันได้ล่ะคะ ก็เราตกลงกันแล้วไง ว่าต่างคนต่างนอนไงคะ” ธารินันท์จ้องเขาแบบหาเรื่องแต่เช้า อีกคนถึงกันพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ส่ายหน้าใส่ภรรยาอย่างเอือม ๆ ก่อนจะบุ้ยปากไปที่ด้านหลังของหญิงสาวแทนคำตอบ
ธารินันท์หันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง ก่อนจะสำเหนียกได้ถึงความจริงที่อยู่ตรงหน้าของเธอ พื้นที่ด้านหลังนั้นโล่งมาเกินครึ่งหนึ่งของเตียง นั่นแปลว่าเธอเป็นฝ่ายนอนดิ้นมากอดเขาเอง
‘เพล้ง ! เลยไหมล่ะยัยนันท์’
“คือว่าฉันเป็นคนติดหมอนข้างค่ะคุณยุ” คนอายหันมายิ้มแหะ ๆ ใส่เขา พร้อมกับหาเหตุผลมาอ้าง เผื่อจะได้รู้สึกอายน้อยลง
“ครับผมรู้” เขาตอบเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ สีหน้าออกอาการเอือมระอาด้วยซ้ำ
“แล้วทำไมคุณถึงรู้ล่ะคะ” หญิงสาวนิ่วหน้าเหมือนไม่เข้าใจ สามีของเธอเม้มปากนิดหนึ่ง ก่อนจะมองหน้าเธอแล้วตอบคำถามออกมา
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณนอนกอดผม”
‘ฉิบหายไหมล่ะ’
“ไม่จริงมั้งคะ ฉันไม่เคยจำได้ว่า...ไปกอดคุณตอนไหน” เริ่มคิดไม่ตกว่าอะไรคือเรื่องจริงกันแน่ ก่อนจะอยากเอาหัวโหม่งผนังห้องให้รู้แล้วรู้รอด เพราะว่าตั้งแต่แต่งงานกันมา เธอไม่เคยตื่นนอนก่อนเขาเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก
“ผมไม่ได้โกหกครับคุณนันท์” เสียงเขาเหมือนคนหงุดหงิด ผลมาจากการนอนไม่อิ่ม
“แต่ก่อนหน้านี้ฉันตื่นมาก็อยู่ที่นอนของตัวเองนะคะ” ไม่วายหันไปแย้งเขา มีแค่วันนี้ที่เธอตื่นนอนแล้วพบว่าตัวเองข้ามฝั่งมานอนกับเขา
“นั่นเพราะว่าทุก ๆ เช้า ผมเป็นคนดันคุณกลับไปนอนที่เดิมเองครับ แล้วก็เอาหมอนของผมไปให้คุณนอนกอดแทน” เขาพูดแล้วก็ถอนหายใจไปด้วย
“อ้อ” เข้าใจแจ่มแจ้งก็ตอนนี้ ว่าทำไมเธอถึงนอนกอดหมอนของเขาเป็นประจำทุกเช้า แต่ว่ามันก็หลายเดือนมาแล้ว ทำไมเขาถึงไม่บอกเธอล่ะ เก็บเงียบเอาไว้ทำไม แค่บอกเธอก็พร้อมจะช่วยหาทางแก้ไข
‘ถูกฉันนอนกอดมาตั้งหลายเดือน นี่คุณไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอคุณยุ หรือว่าคุณจะตายด้านจริง ๆ ไม่ใช่หรอก คุณก็คงแค่ไม่มีอารมณ์กับฉันแค่นั้นเอง’
“มีอะไรเหรอครับคุณนันท์ จ้องหน้าผมแล้วเงียบแบบนี้ แอบคิดอะไรร้าย ๆ กับผมอยู่หรือเปล่าครับ”
“ฉันจะไปคิดอะไรร้าย ๆ กับคุณทำไมคะ ฉันแค่แปลกใจว่าทำไมคุณถึงไม่บอกฉัน ปล่อยให้ฉันนอนดิ้นไปกอดคุณอยู่ได้ตั้งหลายเดือน” หญิงสาวต่อว่าเขาเบา ๆ
“บอกแล้วคุณจะทำยังไงล่ะครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองคนพูด ดวงตาก็ยังปรือ ๆ เหมือนลืมไม่เต็มดวง
“ก็จะได้หาหมอนข้างมานอนกอดแทนไงคะ” ธารินันท์อ้อมแอ้มตอบกลับ
“มันเกะกะเตียงเปล่า ๆ อีกอย่างผมก็เป็นสามีคุณ จะนอนกอดกันบ้างจะเป็นไรไป อย่าคิดมากไปสิครับ นี่มันเรื่องปกติจะตายไป” เขาพูดจบก็สะบัดผ้าห่มออก แล้วลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินเข้าห้องน้ำไป
ธารินันท์ยังงง ๆ กับคำพูดของเขา ได้แต่มองตามหลังเขาไปอย่างไม่เข้าใจ เขาเป็นคนไม่ต้องการร่วมเรียงเคียงหมอนกับเธอเองไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมวันนี้ถึงได้พูดเหมือนมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป
‘แค่นอนกอดกันคงไม่มีอะไรมั้งยัยนันท์’
พยายามคิดในแง่ดีอย่างที่เขาบอกเข้าไว้ เธอตื่นขึ้นมาในสภาพเสื้อผ้าครบทุกชิ้นตลอด ณธายุคงไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริง ๆ นั่นแหละ
‘คิดมากไปเองน่ะยัยนันท์ คุณยุเขาไม่ได้พิศวาสเธอสักหน่อย เขายังมีหวานใจแฟนเก่าอยู่นะอย่าลืมสิ’