เอาแต่ใจ
ห้องลองชุดเจ้าสาว
สตูดิโอ วันวารี
เปรมมี่ที่กำลังลองชุดไทยที่จะต้องใช้ในพิธีเช้าอยู่ในห้องแต่งตัวกับแม่ของเธอเพียง 2 คน
“นี่ก็ใกล้จะถึงวันงานแล้วเมื่อไหร่เปรมมี่จะได้ชุดสักทีคะ ดูสิคะแก้แล้วแก้อีกอยู่ได้...”
“ก็หนูไม่เลือกสักทีนี่ลูก นี่แม่พาหนูมาลองทุกวันเลยนะเมื่อไหร่หนูจะเลือกชุดได้สักที..”
“แม่ก็ดูซิ พอเปรมมี่จะเอาชุดนี้เปรมมี่ก็ใส่ไม่ได้ พอชุดนี้เปรมมี่ใส่ได้เจ้าบ่าวก็ไม่อยู่มาลองด้วยกัน แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เปรมมี่จะได้ชุดสักทีละคะ..”
เธอบ่นกับแม่ของเธออย่างอารมณ์เสียที่เจ้าบ่าวไม่เคยมาลองชุดพร้อมกับเธอเลยสักครั้ง
“พี่พีทเขาก็มาลองชุดให้แล้วแต่หนูไม่ถูกใจชุดนั่นเอง..”
“ก็ชุดที่พี่พีทจะใส่เปรมมี่ไม่ชอบนี่คะ.."
เธอพูดจบก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างเซ็งๆ
"พี่พีทเขายังอยากหมั้นกับปรมมี่อยู่จริงๆใช่ไหมคะแม่..?”
แม่ของเธอเห็นลูกสาวเริ่มอารมณ์ไม่ดี จึงเดินเข้าไปนั่งประกบข้างๆเพื่อปลอบใจเธอ
“ใจเย็นๆซิลูก พี่พีทเขาเร่งทำงานอยู่เพื่อที่จะได้หาเวลาให้หนูไง งั้นเดี่ยวแม่โทรหาพี่พีทให้นะ..”
แม่ตามใจลูกสาวมากจนทำให้เธอเป็นผู้หญิงเอาแต่ใจมาตั้งแต่เด็ก
และพอโดนขัดใจเธอก็จะโวยวายแบบนี้ทุกครั้ง และแม่ของเธอก็ต้องจัดการให้เพื่อให้เธอสบายใจ
“พีทอยู่ไหนแล้วลูก..น้องมารอที่สตูดิโอของหนูวันแล้วนะ...”
(ผมขับรถอยู่ครับ วันนี้รถติดมากเลยผมคงไปถึงช้าหน่อยนะครับคุณน้า)
“รีบมาเร็วๆนะพีท เปรมมี่ลองชุดอยู่น้องบ่นใหญ่แล้ว น้าไม่อยากให้เปรมมี่เครียด..”
(ครับ ผมจะรีบไปครับ)
“พีทยังไม่มาหรอคะคุณน้า.?”
วันวารีเจ้าของสตูดิโอซึ่งเป็นเพื่อนของพีรวัฒที่เป็นคู่หมั้นกับเปรมมี่เดินเข้ามาทักทาย
“พีทรถติดอยู่นะจ่ะ น้าต้องขอโทษหนูวันด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา เปรมมี่มาลองชุดตั้งหลายครั้งแล้วก็ยังไม่ได้สักที"
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณน้าวันเข้าใจค่ะ ผู้หญิงเราก็อยากจะสวยที่สุดในวันที่เราได้เป็นเจ้าสาวของคนที่เรารักที่สุด”
“ขอบคุณนะจ๊ะ ที่หนูวันเข้าใจ”
“แม่...พี่พีทมาหรือยังคะ นี่เปรมมี่ลองทุกชุดแล้วนะ เมื่อไหร่พี่พีทจะมาถึงซักที..?”
ทั้ง 2 คนหันไปมองเปรมสินีที่กำลังเดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง
“พี่พีทกำลังมาลูก หนูรอก่อนนะใจเย็นๆเดี๋ยวหนูนั่งรอพี่พีทไปก่อน แม่ไปเอาอะไรเย็นๆ มาให้”
“เปรมมี่ไม่อยากทานอะไรทั้งนั้นคะ เปรมมี่ไม่มีอารมณ์..”
เธอนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย
วันวารีมองหน้าของเปรมมี่อย่างเซ็งๆ เธอคิดในใจว่าถ้าเปรมมี่ไม่ใช่เจ้าสาวของเพื่อนเธอ เธอคงไม่ใส่ใจแบบนี้หรอก
“พี่วัน...”
“คะ..น้องเปรมมี่เรียกพี่หรอคะ..?”
“เปรมมี่เรียกพี่วันตั้งหลายครั้งแล้วนะคะ ยืนคิดอะไรอยู่คะทำไมถึงไม่ได้ยินที่เปรมมี่เรียก”
“เอ่อ!..พี่ก็ยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ..?”
“เปรมมี่อยากรู้ว่าเพื่อนพี่จะมางานหมั่นของเปรมมี่กับพี่พีทหรือเปล่าคะ...”
“เพื่อนพี่..?”
วันวารีพูดทวนในสิ่งที่เปรมมี่ถาม
เธอคงจะหมายถึงสาที่เป็นพี่สาวต่างแม่กับเปรมมี่และสาก็เป็นเพื่อนสนิทของวันวารี
“พี่ก็ไม่แน่ใจคะ ว่าจะมาหรือเปล่า ทำไมเปรมมี่ไม่ลองถามคุณพ่อดูละคะ”
“คุณลุงก็ไม่ทราบคะว่าลูกสาวคนโปรดของเขาจะมาหรือเปล่า ไม่รู้จะเล่นตัวทำไมบอกมาแค่ว่ามาหรือไม่มาก็แค่นี้เอง.."
วันวารีมองหน้าเปรมสินีอย่างรู้สึกไม่พอใจ ที่เธอพูดแบบนี้กับเพื่อนของเธอ
ในใจลึกๆของเปรมสินีก็กลัวเป็นที่สุดว่าพี่สาวต่างแม่ของเธอจะมาร่วมงานหมั้นครั้งนี้ด้วย
เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆว่าที่เจ้าบ่าวของเธอคงอยู่ไม่สุขแน่ๆถ้าได้เห็นมาริสาในงาน
......