ใครจะเป็นคนรู้สึกก่อน

1278 คำ
"หนูรัก ตื่นแล้วเหรอลูก" "เมื่อคืนหลับสบายไหมลูก มาเลย มานั่งตรงนี้เลย" เสียงทักทายของประมุขใหญ่พร้อมเสียงผู้เป็นภรรยาในประโยคถัดมาส่งผลให้สะใภ้สาวฉีกยิ้มกว้าง แวบหนึ่งที่เปี่ยมรักหรี่ตามองสามีที่เป็นฝ่ายเดินนำลงมาก่อน ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงความเรียบเฉยยังทำให้เขาดูดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย "หลับสบายค่ะ ขอโทษที่รักลงมาช้านะคะแม่เบญ" "ตื่นสาย เฮียกวนมากเหรอครับเจ้" ภูพิงค์แซวยิ้มๆ พลอยทำให้เบญญาผู้ที่เป็นมารดายิ้มตาม "ตื่นสายไม่เป็นไรเลยลูก ที่นี่มีแม่บ้านคอยดูแลอยู่แล้ว อ้อตาภูมิ แล้วช่วงนี้นะ แม่คุยกับพ่อแล้ว ลูกไม่ต้องไปทำงานก็ได้" "ทำไมล่ะครับ" "ก็คนแต่งงานใหม่ ช่วงข้าวใหม่ปลามัน เราน่ะ ควรมีเวลาอยู่กับเมียเยอะๆ ไง" "อ๋อ คุณแม่อยากอุ้มหลาน" ภูพิงค์สรุปด้วยรอยยิ้มกว้าง เลยกลับกลายเป็นว่าสายตาของทุกคนภายในบ้านเลื่อนมาหยุดมองที่สะใภ้สาวพร้อมกัน เบญญาและภีมพลมองหน้ากันอย่างชอบใจ วันนี้นายภูพิงค์จอมทะเล้นพูดถูกหู ภพนิพิฐยิ้มมุมปาก น้องชายคนเล็กยิ้มกว้างมากกว่าใคร "คุณแม่ใจร้อนไปแล้วนะครับ ผมว่าคุณแม่ใจเย็นๆ ให้เวลาเฮียหน่อย" "นี่เฮียภพจะบอกว่าเฮียภูมิไม่มีน้ำยาเลยต้องขอเวลาเยอะๆ งั้นเหรอครับ" ภูพิงค์โพลงดักคอพี่ชายสุดหล่อแต่หน้านิ่ง และแน่ว่า เฮียของเขาตวัดสายตามองแรงกลับมาทันที "ภูพูดอะไรผิดอ่ะเฮีย มองน้องตาเขียวเชียว เจ้ช่วยภูด้วย" ร่างสูงโปร่งหยัดตัวลุกแล้วเข้าไปหลบที่แผ่นหลังของพี่สะใภ้ ทั้งที่รู้กันทั้งบ้านว่าน้องเล็กอย่างภูพิงค์ขี้เล่นจะตาย ถึงอย่างนั้นก็แอบมีคนทำหน้าไม่พอใจ "กินข้าว คุณพ่อคุณแม่รอ" ภูมิรพีรั้งข้อมือเล็กเข้ามาหาตัว เจ้าสาวหมาดๆ หันไปยิ้มให้คนขี้เล่นที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังของตัวเองเพียงนิด พอหันกลับมาแล้วเห็นหน้าตึงๆ ของผู้ที่เป็นสามี หญิงสาวหย่อนสะโพกลงนั่งทันที น้องของเขาแต่ละคน คนหนึ่งก็ดูเรียบร้อยและสุภาพ ขณะที่อีกคนก็อารมณ์ดีและเฟรนลี่มากๆ เขาน่ะหน้าตึง รักษามาดหล่อๆ นิ่งๆ ไม่เคยเปลี่ยนเลย "ปกติอาหารเช้าที่บ้านของแม่ทานกันแบบนี้ ถ้าหนูรักอยากทานข้าวต้ม บอกแม่นะลูก เดี๋ยวแม่ให้แม่บ้านจัดการให้" "ไม่เป็นไรเลยค่ะแม่เบญ ที่บ้านของรักเองก็ทานแบบนี้เหมือนกันค่ะ รักว่าทานข้าวสวยตอนเช้าอิ่มกว่าทานข้าวต้มนะคะ ไม่หิวระหว่างวันทำให้ไม่กินจุกจิกด้วยค่ะ" "ถึงว่าหุ่นดีแบบนี้ไงลูก เห็นไหมคะภีม ลูกสะใภ้ที่ฉันคัดเองกับมือ ถูกใจฉันที่สุด" "ผมเชื่อคุณมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วไงเบญ เชื่อเมียแล้วได้ดี ผมเชื่อแบบนี้มาตลอดเลย" คำหวานจากสามีส่งผลให้เบญญายิ้มกว้าง เบญญาเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก สามีทำตัวน่ารัก หนุ่มหล่อทั้งสามที่เป็นลูกก็ช่างอ้อนและเชื่อฟังแม่ ไม่เคยทำให้ต้องรู้สึกหนักใจเลยสักครั้ง "เอาพ่อเป็นแบบอย่าง ผมว่าเข้าท่าอยู่นะเฮีย ดูสิ แม่เรามีรอยยิ้มทุกวัน" สามหนุ่มหันไปมองบิดามารดาที่พูดคุยและหยอกล้อกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่นานดวงตาคมกริบก็ตวัดมองสมาชิกใหม่ของที่บ้านแทน "มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเขาจะเหมือนคุณแม่หรือเปล่า" "หืม? หมายถึงเจ้น่ะเหรอ" คำถามของภูพิงค์ไร้คำตอบ คนกลางที่ถูกคนบ้านนี้เรียกว่าเจ้ถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ หน้านิ่ง คำพูดเฉียบคม ไม่มีความเฟรนลี่และสุขุมอ่อนโยนเหมือนน้องๆ ของเขาเลยสักนิด "...ที่พูดน่ะ หมายความว่ายังไงเหรอคะ" เปี่ยมรักตั้งคำถามในตอนที่นั่งรถเคียงคู่กับสามีออกมาจากบ้านตามลำพัง มารดาของเขาบอกให้หยุดงานเพราะพึ่งแต่งงาน แต่เขามีงานที่ยังค้าง ภรรยาอย่างเธอเลยได้ติดสอยห้อยตาม "พูดอะไร" "ก็ที่พูดตอนอยู่บนโต๊ะอาหารไงคะ เฮียพูดว่าเขาจะเหมือนคุณแม่รึเปล่า รักเข้าใจค่ะว่าเฮียหมายถึงรัก แล้วอยากให้รักเหมือนแม่เบญแบบไหนล่ะคะ" "ฉันไม่ชอบบังคับจิตใจใคร" "รักไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ แต่ที่พูด รักเข้าใจว่าเฮียชอบคนที่เหมือนกับแม่เบญ รักก็แค่อยากรู้ว่าแบบไหนที่เฮียต้องการ" "ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไม่เคยเห็นพ่อแม่ตัวเองทะเลาะกัน" "ท่านรักกันมาก ก็คงจะเข้าใจกันดีมากมั้งคะ" "เวลาพ่อฉันพูดอะไรแม่ไม่ชอบเถียงต่างหาก" ลูกตากลมโตเกลือกกลิ้งไปมา สุดท้ายก็แอบหัวเราะเบาๆ เขากะจะบอกว่าเธอไม่ควรเถียงเขาสินะ! "ที่ผ่านมา คุณแม่ไม่เคยทำอะไรให้คุณพ่อไม่พอใจ นั่นหมายความว่า อะไรที่คุณพ่อไม่ชอบ คุณแม่จะไม่ทำ" อ้อ กำลังจะบอกว่า เธอควรตามใจเขาทุกอย่าง! เปี่ยมรักทำทีเป็นพยักหน้ารับ "และที่ผ่านมา ไม่ว่าคุณพ่อจะต้องการหรือออกความคิดเห็นอะไรสักอย่าง คุณแม่เห็นดีเห็นงามด้วยมาโดยตลอด นั่นหมายความว่า สำหรับคุณแม่ คุณพ่อคือที่สุดและคือที่หนึ่งเสมอ" "อ๋อ จะให้รักมองว่าเฮียคือที่สุดและเป็นที่หนึ่งเหมือนกันอย่างนั้นเหรอคะ" "ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ชอบฝืนและบังคับจิตใจของใคร เราเดินมาข้างหน้าคนละหนึ่งก้าวกันทั้งสองฝ่าย มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่า ในมุมของเธอเธอจะทำแบบไหนเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ของตัวเธอ" "แล้วเฮียล่ะคะ จะทำยังไงเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ของตัวเอง" คนตัวเล็กหรี่ตามองเป็นเชิงตั้งคำถาม แต่แล้วก็ถึงกับรีบดันตัวกลับ เมื่อใบหน้าคมคายหันมาทิศทางของเธอ "อะไร?" ภูมิรพีหรี่ตาลง ทำทีเป็นตกใจและกลัวการใกล้ชิดกับเขา ทั้งที่เท่าที่เห็น เธอยิ้มเก่งและเข้ากับคนง่ายจะตาย กับไอ้ภู ภูพิงค์น้องชายของเขาไง เห็นกันอยู่ว่ามันขี้หยอกขี้เล่น เธอก็ยังขยันยิ้มให้มัน "ก็หันมาแบบไม่ส่งสัญญาณก่อนรักก็ตกใจสิคะ" "เป็นเมียฉัน สิ่งที่ห้ามมีเด็ดขาดคือเรื่องปิดบัง ห้ามโกหก อย่าทำให้ฉันผิดหวังในตัวเธอเด็ดขาด" เปี่ยมรักลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ถึงอย่างนั้นก็รีบตอบออกไป "ค่ะ แล้วเฮียล่ะคะ ในฐานะสามีฮะ..." "เธออยากให้ฉันเป็นแบบไหน ฉันก็จะเป็นแบบนั้น" "อะ อะไรนะคะ" คนตัวเล็กถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง มือเรียวยกขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆ ใครจะทันคิดกันว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมา "เฮียจะเป็นแบบที่รักอยากให้เป็นเหรอคะ" "อืม" "มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงคะในเมื่อเราไม่ได้รัก..." "ไม่คิดว่าเธอจะหลงรักฉันเลยรึไง" "หลงรักงั้นเหรอคะ" เปี่ยมรักทวนคำแบบที่คาดไม่ถึง ซึ่งเขาชักสีหน้ากลับมาทันที "วัดกันดูไหมล่ะ ชักอยากจะรู้ว่าใครจะรู้สึกก่อนกัน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม