EP 11

1122 คำ
นอกจากลุกจากระเบียง ตรงไปหารถแล้วขับออกไปนั่งรออยู่ร้านกาแฟปากซอย เมื่อคนรถมาถึง สาลินีก็ขึ้นไปนั่งด้านหลังแล้วนำเช็คไปให้สองแม่ลูกอีกครั้ง “คุณไม่ต้องกลัวฉันจะโกงหรอกนะ ฉันเป็นคนพูดจริงทำจริง บอกว่าไปก็ไป ไม่ใช่ประเภทหน้าไหว้หลังหลอก ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ อีกอย่างก็ต้องขอบคุณคุณปู่เหมือนกันนะ ที่จู่ๆ ทำพินัยกรรมนี้ขึ้นมา มันทำให้ฉันได้เข้าไปเหยียบบ้านนั้นอีกครั้ง อย่างที่ฉันตั้งใจตั้งมั่นเอาไว้นานแล้ว โดยไม่ต้องลงแรงเลยสักนิด แถมยังได้เงินมาใช้ฟรีๆ อีกด้วย คนเรานี่พอมีความโลภเข้ามาครอบงำ ก็ทำอะไรโง่ๆ ได้เหมือนกันนะ คุณว่ามั้ย” ประโยคนี้แทบจะทำให้สาลินีกรี๊ดออกมาตรงนั้น แต่ดีที่ควบคุมอารมณ์เอาไว้แล้วเดินกลับไปหารถก่อน เสียงแหลมปี๊ดที่ดังก้องอยู่ในรถหรู จึงมีเพียงผู้ควบพวงมาลัยได้ยินคนเดียวเท่านั้น อาการตื่นตระหนกตกใจ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของคุณผู้หญิง จึงเกิดขึ้นกับคนรถ ตลอดการเดินทางจากย่านชุมชนแออัด กระทั่งถึงคฤหาสน์หรู   “เป็นยังไงบ้างคุณสา” อรปรียารีบวิ่งไปรับสาลินีถึงหน้าประตูบ้าน เพราะความอยากรู้ สาลินีส่งยิ้มน้อยๆ ให้ ขณะเดินเข้าไปหาแม่สามีในห้องรับแขก ส่วนคนที่เหลือซึ่งมารถอีกคันก็ตามมาไม่ห่าง สาริยาเป็นคนเอ่ยเล่าสิ่งที่ทุกคนได้พบเห็นมาอย่างละเอียดละออและตรงไปตรงมา แถมความรู้สึกเกลียดชัง ในตัวคนที่กำลังพูดถึงก็มีอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน ต่างจากสาลินีผู้แม่ที่ไว้เชิงคุณผู้หญิงแสนดีของบ้านไว้ได้อย่างแนบเนียน “ต๊าย!! แม่เด็กนั่นเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอตาวี” อรปรียาหันไปหาลูกชายที่นั่งนิ่งอยู่ข้างสุจินต์ ปล่อยให้สาริยาเล่าอย่างสนุกปาก บวกด้วยอารมณ์ชิงชังส่วนตัวผสมผสานเข้าไปด้วย “ก็ประมาณนี้ล่ะครับคุณแม่” เขาตอบแล้วหันไปหาสุจินต์ที่นั่งฟังเฉยๆ เช่นกัน “ทีนี้จะต้องทำยังไงล่ะพ่อทนายมือหนึ่ง อยากได้มันกลับมามากไม่ใช่เหรอ เป็นไงล่ะเห็นฤทธิ์มันหรือยัง” คุนอัญชลีหันไปใส่อารมณ์กับทนายประจำบ้านด้วยความโมโห และเหมารวมว่า สุจินต์เองก็มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ ซึ่งความเป็นจริงเขาแทบไม่ได้คิดอะไรเลย หากแต่คุณสมควรเป็นคนสั่งให้ทำเท่านั้น ครั้นจะขัดขวางคนสั่งก็มีเหตุผลจนเถียงไม่ขึ้น จึงต้องก้มหน้าฟังคำบริภาษของคุณอัญชลีนิ่งๆ เท่านั้น “อย่าไปว่าคุณลุงเลยค่ะคุณแม่ ที่คุณพ่อทำแบบนี้ก็คงจะมีเหตุผลที่บอกเราไม่ได้มั้งคะ สาว่าแทนที่จะมานั่งเสียอารมณ์กับเงินที่เสียไปแล้ว เรามาช่วยกันคิดอ่าน ว่าจะจัดการเรื่องในวันข้างหน้ายังไงไม่ดีกว่าเหรอคะ เช่นจะให้ยัยอ๋อมาพักอยู่ที่ไหน ทำงานในตำแหน่งหน้าที่อะไรในระยะเวลาสามปีนี้” แม้สาลินีจะเห็นด้วยกับคำของแม่สามีอยู่มาก แต่ก็มองไม่เห็นประโยชน์อะไร ที่จะมาคร่ำครวญหรือด่าทอคนไม่อยู่ในห้องนี้ให้บรรยากาศในบ้านเสียไปเปล่าๆ อีกทั้งก็อดห่วงเรื่องของวันข้างหน้าไม่ได้ หลังจากที่ได้เห็นท่าทีของหทัยชนกว่าไม่ธรรมดาแล้ว แผนเดิมที่จะให้หทัยชนกมาปรากฏตัวให้คุนสมควรเห็นพอเป็นพิธี แล้วกลับไปใช้ชีวิตดังเดิมนั้นอาจจะไม่เป็นไปตามที่วางไว้ก็ได้ “ผมว่าเราควรจะดูทางโน้นไปอีกสักระยะไม่ดีกว่าเหรอครับคุณน้า ออกลายหรือสร้างความยุ่งยากให้ตรงไหน เราค่อยตามแก้เป็นจุดๆ หรือป้องกันเป็นช่วงๆ เพราะถ้ามาวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ก็อาจจะเข้ารูปเดิมเหมือนที่คิดไว้ก่อนจะไปพบเขา แล้วก็ทำไม่ได้ตามที่คิดไว้ หรือคุณลุงว่ายังไงครับ” ปวีย์รีบแย้งขึ้น เพราะครั้งก่อนเขากับพ่อแม่ ก็ต้องเข้ามาข้องเกี่ยวในเรื่องการตามตัวหทัยชนกด้วย จะบอกปัดไม่เข้ามายุ่งก็ทำไม่ได้ เพราะทั้งสองครอบครัว ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมานานแล้ว ครั้นจะยุ่งมากๆ ก็ยังอยู่ในฐานะเป็นคนนอก แม้เขากับสาริยา จะถูกผู้ใหญ่ออกปากหมั้นหมายกันและกันไว้ ตั้งแต่เขาเรียนจบจากเมืองนอกแล้ว แต่ก็เป็นเพียงคำพูด ยังไม่ได้ทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว เขาจึงต้องระมัดระวังตัวไม่ให้เกินงามนัก “ผมว่าคุณวีพูดมาก็มีเหตุผลนะครับคุณท่าน รอให้เรามองเห็นปัญหาก่อน ค่อยหาทางแก้ก็ยังไม่สาย เด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวอย่างคุณอ๋อคงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เท่ากับการสรรหาคนมาช่วยงานคุณสาที่บริษัทหรอกครับ อันนี้น่าห่วงกว่าเป็นไหนๆ จะคอยพึ่งคุณวีบ่อยๆ ก็มีงานตัวเองล้นมือ” สุจินต์รีบสนับสนุนในทันที เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม ถ้าเทียบกับปัญหาภายในที่กิจการของครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือเมื่อขาดสงครามผู้เป็นทายาทเพียงคนเดียวไปแล้ว ก็เหมือนขาดเสาหลัก สาลินีแม้จะรู้ระบบงานบ้าง แต่ก็ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น จะให้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนำบริษัท ให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไปคงจะยาก เพราะเพิ่งจะเข้าไปช่วยงานได้ไม่เท่าไหร่ สาริยาลูกสาวคนโตของสาลินีก็ไม่ชอบทำธุรกิจเอาเสียเลย จะเน้นหนักไปทางด้านรักสวยรักงาม ด้านศิลปะ เรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้เจ้าตัวปวดหัวก็มักจะหันหลังให้ เพราะไม่อยากเครียดกลัวจะแก่เร็ว ส่วนสงกรานต์ลูกชายคนเล็ก และเป็นทายาทคนเดียวของสงคราม ที่ค*ยจะต้องเป็นผู้สืบสานงานต่อ ก็ทำตัวไม่เอาไหน เรียนก็ร่อแร่จะถูกรีไทม์ออกจากมหาวิทยาลัยแห่งที่สามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ได้ เรื่องจะฝากความหวังในการมาทำงานแทนพ่อก็ริบหรี่เต็มที สุจินต์จึงเข้าใจหัวอกคุนสมควรได้เป็นอย่างดี ว่าทำไมถึงต้องร่างพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมา นั่นก็เพื่อบังคับคุณอัญชลีและทุกคนให้ออกตามหาหทัยชนก จะได้มาเป็นอีกตัวเลือกสำหรับวงศ์สกุลนั่นเอง 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม