EP 15

1140 คำ
บีเอ็มดับบลิวของคุนสุจินต์ ขับนำฮอนด้าป้ายแดงกับวีออสผ่านประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ ในเนื้อที่สิบไร่ที่ซุกซ่อนอยู่ในกำแพงสีขาวสูงสามเมตร วีนากับพ่อแม่ดูเหมือนจะตื่นเต้นกับตึกสีครีมสวยงาม โอบล้อมด้วยสนามหญ้าเขียวชะอุ่ม ไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้จนเต็มบริเวณ ให้ความรู้สึกสดชื่นเวลาได้พบเห็น พีระเองยังอดชื่นชมไม่ได้ กับความร่ำรวยของตระกูลบวรชัยสกุล สุจินต์รีบลงจากรถ แล้วพาเดินเข้าไปในห้องรับแขก ที่ดูแล้วสวยตระการตายิ่งกว่าภายนอกในสายตาของทุกคน แต่หทัยชนกไม่ได้ปลาบปลื้มอะไรมากมายนัก หากจับจ้องอยู่กับชายหญิงสูงวัยและสาลินา ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว คุนสมควรตื่นเต้นกว่าใคร เพราะจะได้พบหลานสาวที่จากกันไปยี่สิบปี จึงลงทุนลุกจากเตียงนอน ลงมานั่งรออยู่ด้านล่าง โดยไม่สนใจกับคำห้ามปรามของเมียกับสะใภ้เลย แต่ก็มีพยาบาลประจำตัวนั่งดูแลอยู่ไม่ห่างตัว “มาถึงกันแล้วเหรอะ ไหนเข้ามาใกล้ๆ ปู่หน่อยสิยัยอ๋อ ให้ปู่ได้เห็นหน้าเราเต็มๆ ตาหน่อย” อิงอรจูงมือลูกเดินไป แล้วคุกเข่าคลานเข้าไปหาคุนสมควร มีคุนอัญชลีนั่งอยู่ข้างๆ สองมือพนมขึ้นแล้วกราบไปแทบตักคุนสมควรอย่างนอบน้อม มือที่ยกขึ้นไปลูบศีรษะของหลานสาวนั้น สั่นเทาเต็มที ด้วยเรี่ยวแรงของเจ้าของมือนั้นลดน้อยถอยลงจากเมื่อก่อนมาก อิงอรก้มกราบคุนอัญชลีด้วยท่าทีเดียวกัน หทัยชนกก็ทำตามแม่ แต่เจ้าของตัก กลับเมินหน้าไปทางอื่นอย่างไม่สนใจไยดี คุนสมควรขัดใจอยู่มากแต่ก็เบื่อที่จะบอกเมียแล้ว “เป็นยังไงบ้างเรา หนีหน้าไปซะนาน ไม่คิดจะพาลูกมากราบพ่อบ้างเลยนะ” จึงหันไปหาสะใภ้ ที่มีร่างกายซูบผอมไม่แพ้ตัวเอง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเนิบ แต่แววตานั้นส่งประกายของความเมตตากรุณาไม่เคยเปลี่ยนแปลง ในความคิดของอิงอร จึงค่อยชื้นใจขึ้นมาบ้าง ที่อย่างน้อยๆ ลูกก็คงจะมีคนคอยปกป้องคุ้มครอง แม้เมื่อยี่สิบปีมาแล้ว อิงอรจะหมดหวังหมดศัทราในตัวคุนสมควรลงไปแล้วก็ตาม เพราะขาดความยุติธรรม เชื่อในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง จนตัวเองต้องหอบลูกหนีออกจากบ้านในทันทีนับตั้งแต่เกิดเรื่องฉาวที่ไม่ได้ก่อขึ้นเลยสักนิด แต่เวลาล่วงเลยมานาน ความทิฐิ ความน้อยเนื้อต่ำใจหรือความขุ่นเคืองที่มีในใจก็ลดน้อยลงมามากแล้ว อีกทั้งเหตุการณ์วันนั้นตัวเองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าไม่น่าหุนหันพลันแล่นหนีไป โดยไม่เข้าไปขอความเห็นอกเห็นใจจากคุนสมควรก่อนเลย ชีวิตจึงต้องพลัดพรากกับคนรัก จนไม่มีโอกาสได้ร่ำลากันแม้แต่คำเดียว นี่คือเรื่องที่อิงอรเสียใจและเสียดายมาตลอดเวลายี่สิบปี “อิงมัวแต่ยุ่งค่ะคุณพ่อ แล้วไม่ทราบว่าคุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ ดูผอมลงกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะคะ” “พ่อก็เจ็บออดๆ แอดๆ ตามประสาคนแก่นั่นล่ะ พาลูกลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ก่อนเถอะ มากันเหนื่อยๆ กินน้ำกินท่าก่อน ว่าแต่พาใครมาบ้างล่ะ ทำไมเยอะแยะจัง” “นั่นน่ะสิ หอบกันมายังกับจะออกรบ หวังว่าคงจะไม่สุมหัวอยู่บ้านฉันจนหมดนี่หรอกนะ เพราะแถวนี้มีแต่ผู้รากมากดีกันทั้งนั้น ไม่ใช่สลัมหรือชุมชนแออัดที่จะได้แล่นมาอยู่จนยั้วเยี้ยไปหมด” คุนอัญชลีได้ที รีบกระแนะกระแหน พร้อมสีหน้าและแววตามองกวาดไปหาทุกคนอย่างชิงชังไม่เคยเสื่อมคลาย หทัยชนกอยากจะต่อปากต่อคำด้วยไม่น้อย แต่ติดตรงที่วันนี้เป็นวันแรก จึงไม่อยากมีเรื่อง อีกทั้งก็เกรงใจผู้เป็นปู่ ที่ดูท่าทางแล้วไม่ค่อยจะแข็งแรงเลย ถ้ามีใครพูดไม่ดีให้ได้ยินคงจะป่วยไปอีกสามวันเจ็ดวันแน่ หญิงสาวจึงเลือกที่จะนั่งนิ่งๆ “แล้วมีข้าวของอะไรมาด้วยหรือเปล่า จะได้บอกเด็กยกไปช่วยจัดให้ ความจริงไม่น่าจะต้องไปอยู่เรือนคุณทวดเลย ตึกนี้ก็กว้างขวาง ห้องว่างก็มีเยอะแยะ นอนด้วยกันที่นี่น่าจะดีกว่า” คุนสมควรเห็นเมียแผลงฤทธิ์แล้วก็เลยรีบตัดบท หทัยชนกจึงรีบออกตัวบ้าง เพราะกลัวจะถูกมัดมือชกให้ต้องขึ้นมานอนบนตึกแทน “ไม่เป็นไรคะคุณปู่ อ๋อไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ ค่ะ ถ้างั้นอ๋อขอเอาข้าวของไปเก็บก่อนนะคะ” “งั้นแม่สาก็ให้เด็กไปช่วยดูหน่อยก็แล้วกัน พ่อจะขึ้นไปพักก่อนล่ะ นั่งนานแล้วปวดหลัง มีอะไรขาดเหลือก็มาบอกปู่ตรงๆ ได้นะยัยอ๋อ ปู่จะจัดการให้” หทัยชนกยกมือไหว้คุณปู่อย่างนอบน้อม ก่อนจะพาทุกคนออกจากตึกใหญ่แล้วตรงไปหาบ้านหลังเล็กอยู่ท้ายสวน ซึ่งตัวเองคุ้นเคยเป็นอย่างดี แม้จะจากไปนานแล้วก็ตาม ข้าวของที่สองสาวนำมาด้วยมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด กับของใช้ส่วนตัวเท่านั้น เพราะมีแผนจะกลับไปนอนบ้านตั้งแต่เย็นวันศุกร์ อยู่ยาวถึงเช้าวันจันทร์แล้วเข้าออฟฟิศเลย จึงใช้เวลาจัดไม่นานนัก พีระกับอุ้ยเป็นฝ่ายเดินสำรวจตรวจตราประตูหน้าต่างรอบๆ บ้าน แล้วจัดการหาสายยูมาใส่ไว้อีกที ตามคำบอกของหทัยชนก ที่จะไม่ให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในระหว่างตัวเองออกไปทำงาน กุญแจก็จะมีคนละดอกกับวีนาเท่านั้น คุนสุจินต์ตามมาดูแลความเรียบร้อย เห็นแล้วก็ลอบถอนหายใจน้อยๆ ออกมา เพราะไม่เข้าในว่าจะกลัวอะไรนักหนา “ถ้าคุณอ๋ออยากให้เพิ่มเติมของใช้อะไรก็บอกเลยนะครับ ลุงจะไปเรียนคุณท่านให้เอง” แต่คุนสุจินต์ก็เลือกที่ยกเอาเรื่องอื่นมาคุยแทนความสงสัยนั้น หทัยชนกมองกวาดดูรอบๆ บ้านแล้วก็ไม่พบว่าอะไรขาด ยกเว้นข้าวของเครื่องครัวเท่านั้น เพราะมีแผนจะทำกับข้าวกินเอง หรือไม่ก็จะซื้อจากด้านนอกมา ที่สำคัญหญิงสาวจะไม่มีวัน ให้เด็กรับใช้จากตึกใหญ่ยกสำรับมาให้แน่นอน เพราะเห็นบทเรียนราคาแพงจากแม่ในอดีตแล้ว และยังนึกเสียใจแทนแม่มาจนถึงทุกวันนี้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม