หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เจ้านายกับลูกน้องก็รีบขึ้นไปทำงาน กัปตันซึ่งเป็นเลขาอีกคนของอาเรสมีสีหน้าเครียด ๆ ขนมหวานเห็นเพื่อนร่วมงานนิ่งผิดปกติ ต่างไปจากทุกวันจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“พี่ตันทำไมหน้าดูเครียด ๆ มีอะไรบอกขนมได้นะคะ” หญิงสาวขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้กัปตันก่อนจะกระซิบถาม หนุ่มรุ่นพี่จึงหันมามองหน้ารุ่นน้องสาวด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
งานก็อยากไปทำครอบครัวก็อยากดูแล แฟนจะกลับมาวันนี้โดยไม่บอกล่วงหน้า บังเอิญเย็นนี้เขามีงานต้องไปกับอาเรสจึงไม่รู้จะต้องแก้ปัญหาอย่างไร
“เฮ้อ ก็เย็นนี้สิพี่ต้องไปงานกับบอส แต่แฟนพี่จะบินกลับมาจากเมืองนอก” เขาถอนหายใจไม่รู้จะเอายังไง แฟนก็สำคัญ เจ้านายก็สำคัญ
“อ้าว ไหนว่ากลับมาช่วงสิ้นเดือน” ขนมหวานขมวดคิ้วถาม เธอได้ยินกัปตันเคยบอกว่าคนรักจะกลับมาช่วงสิ้นเดือน แล้วทำไมถึงกลับมาวันนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ชายหนุ่มจึงตอบตามตรงและแอบยิ้มเล็กน้อยยามที่คิดถึงน้ำเสียงอ้อน ๆ ของคนรักซึ่งมีอายุมากกว่าตนเอง
“เขากลับก่อนกำหนด บอกว่าทนคิดถึงพี่ไม่ไหว”
“ปากหวานนนนน มีแฟนอายุมากกว่าก็ดีเหมือนกันนะคะ”
“ดีมากเลย เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเรา คอยดูแล คอยเอาใจใส่”
“แล้วพี่ตันจะทำยังไงคะ หรือให้ขนมไปแทนดี ขนมไปได้นะถ้าบอสอนุญาต”
“เดี๋ยวพี่เข้าไปคุยกับบอสก่อน ถ้าบอสตกลง พี่ฝากด้วยนะขนม”
“ได้เลยค่ะ ยินดีรับฝาก”
กัปตันมีสีหน้าดีขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเคาะประตูแล้วหายเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายอยู่นานสองนาน สักพักใหญ่เขาก็ออกมาบอกว่า อาเรสตกลงแต่ขนมหวานต้องเปลี่ยนชุด ถ้าให้ใส่ชุดทำงานของวันนี้ไปเกรงว่ามันจะไม่เหมาะสม เพราะงานนี้ค่อนข้างมีระดับคนส่วนใหญ่จัดเต็มกันหมด ขนมหวานจึงตอบตกลงเอาเป็นว่าเดี๋ยวช่วงบ่ายเธอจะลองไปหาซื้อชุดมาใส่ไปงาน
“ไม่ต้องไปเองหรอกน้องขนม” กัปตันเอ่ยห้าม
“ทำไมคะ พี่ตันเตรียมชุดมาแล้วเหรอ”
เธอถามด้วยความสงสัย แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อกัปตันเพิ่งจะตัดสินใจให้เธอไปทำงานแทน
“เปล่าครับ บอสบอกว่าเดี๋ยวช่วงบ่าย บอสจะเป็นคนพาไปเอง” เพราะเหตุนี้อย่างไรเล่ากัปตันถึงได้ห้ามขนมหวาน อาเรสบอกเองว่าบ่ายนี้จะเป็นคนพาขนมหวานไปหาชุดราตรีออกงาน
เขาไม่ไว้ใจเธอถ้าให้ไปซื้อเองเดี๋ยวก็ได้ชุดแม่ชีมาอีก เลขาก็ต้องแต่งตัวดูดีไม่ต่างจากเจ้านาย
“ดีเลยพี่ตัน ถ้าบอสไปด้วย ขนมจะได้ไม่ต้องจ่ายเงิน” หญิงสาวมีหรือจะปฏิเสธ หน้าขาวใสของขนมหวานจึงบานยิ่งกว่าดอกไม้แรกแย้ม การไปซื้อของกับเจ้านายเท่ากับว่าเธอไม่ต้องเสียเงินเอง ชุดสวยไม่พอแถมยังฟรีอีกต่างหากใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว
“จัดเต็มเลยนะน้องสาว เงินบอสทั้งทีเอาให้สวยปังไปเลย”
กัปตันเชียร์ขาดใจ
“จัดไปค่ะคุณพี่ แล้วงานนี้เขาเลิกกันกี่โมง” เธอยกนิ้วขึ้นมาทำเป็นรูปโอเค ก่อนจะขมวดคิ้วกังวลเรื่องรถกลับบ้าน เพราะเธอไม่มีรถส่วนตัวเหมือนกัปตัน ถ้าออกจากงานช้าอาจจะไม่ทันรถสาธารณะ อีกอย่างเธอกลัวด้วยหากต้องโดยสารรถแท็กซี่ในเวลากลางคืน
“เลิกไม่ดึก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเสร็จงานพี่จะส่งแกร็บไปรับ”
“โอเคค่ะ พี่ตันวางใจขนมได้เลย งานนี้ขนมจะไม่ทำให้บอสกับพี่ตันเสียชื่อเสียงแน่นอน”
“ขอบใจนะน้องขนม พี่ดีใจจริง ๆ ที่ได้ทำงานกับเรา”
“ขนมก็ดีใจที่มีเพื่อนร่วมงานดี ๆ อย่างพี่ตัน”
หญิงสาวเอ่ยจากใจจริง การมีเพื่อนร่วมงานที่ดีคือบุญอย่างหนึ่งของชีวิตคนทำงาน อย่างที่เขาว่าคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก นับตั้งแต่เธอมาทำงานที่บริษัทของอาเรสยังไม่เคยรู้สึกคับข้องใจเลย แม้ช่วงแรก ๆ จะไม่กินเส้นกับเจ้านายแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
อาเรสไม่ใช่เจ้านายใจร้ายออกจะใจดีกับลูกน้อง ติดที่เป็นคนพูดตรงเลยดูเหมือนเป็นคนปากปีจอซึ่งเธอก็ชินแล้ว
เวลาเที่ยงตรงเป๊ะอาเรสก็เดินออกมาจากห้องทำงานแล้วสั่งให้ขนมหวานปิดคอมพิวเตอร์และเก็บกระเป๋า แต่หญิงสาวยังมีงานค้างอีกนิดจึงบอกให้เจ้านายรอก่อน ไม่เกินสิบนาที อาเรสจึงดึงเก้าอี้ของกัปตันมานั่งข้าง ๆ เธอส่วนเจ้าของเก้าอี้ถูกเจ้านายไล่ให้ไปกินข้าวเที่ยงเรียบร้อย
“ผมว่าโต๊ะคุณรกไปนะขนมหวาน ปกติคุณไม่ใช่คนรกแบบนี้” เอาแล้วเขาหาเรื่องบ่นเธออีกแล้ว ขนมหวานคิดในใจในขณะง่วนอยู่กับงานตรงหน้า เจ้านายไม่เห็นหรือไงว่าเธอยุ่งมาก แล้วเธอจะเอาเวลาที่ไหนไปเก็บโต๊ะค่อยทำทีเดียวถึงจะไม่เสียเวลา
“บอสขา อย่ากวนสมาธิสิคะ ฉันกำลังยุ่ง” ถึงปากจะบ่นแต่ตายังจ้องคอมพิวเตอร์ไม่กะพริบ
“ผมไม่ได้กวนคุณเลย แค่ชวนคุยเท่านั้นเอง” เขาเอ่ยเสียงอ่อยก่อนจะมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วหยุดตรงใบหน้าของขนมหวานที่ไม่ได้เป็นคนสวยจัดหรือขี้เหร่ออกทางน่ารักมากกว่า และคิดว่าอีกไม่นานเธอต้องลดความอ้วนแน่
“แกมคุณเหมือนซาลาเปาเลย กล๊ม กลม”
“บอสสสสส”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้ว แต่โต๊ะคุณรกจริง ๆ ผมเห็นแล้วขัดตามากเลย”
“สองสามวันนี้ฉันกับพี่ตันงานยุ่งมาก บอสเองก็รู้ โต๊ะจะเรียบร้อยได้ยังไง”
“ผมรู้ แต่โต๊ะของผมยังเรียบร้อยเลยนะ”
“เฮ้อ คุณบอสขา คุณบอสช่วยนั่งเงียบ ๆ สักแป๊บได้ไหมคะ ขนมหวานขอ”
“ก็ได้ ๆ เร็ว ๆ ด้วย ผมหิวข้าวแล้ว”
“รับทราบค่ะ”
หญิงสาวรับทราบแบบไม่หันมามองหน้าเจ้านายแม้แต่นิดเดียวก่อนจะตั้งใจทำงานที่ค้างให้เสร็จ
อาเรสจึงนั่งนิ่งจ้องเลขาได้ไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มขมวดคิ้ว คิดหนักควรให้เธอไปงานด้วยดีไหม ในขณะที่เจ้านายกำลังใช้ความคิดทางฝั่งลูกน้องก็ต้องเอาเอกสารไปถ่ายจึงลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วทำให้เกิดอาการหน้ามืดหงายหลังเกือบล้มดีที่อาเรสรับตัวไว้ได้ทัน
“คุณเป็นอะไรขนมหวานทำไมหน้าซีด”
“ฉันลุกขึ้นไวไปหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“นั่งก่อน ๆ เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม”
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ฉันขอไปถ่ายเอกสารก่อน”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณนั่งเถอะ”
“แต่ว่า...” / “เจ้านายสั่งห้ามเถียง นั่งนิ่ง ๆ”
ชายหนุ่มออกคำสั่งก่อนจะคว้าเอกสารในมือของหญิงสาวไปถ่ายเอกสารไม่นานเขาก็กลับมา ขนมหวานจึงจัดการต่อครู่เดียวก็เสร็จเรียบร้อยแล้วรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า