“ถ้าผมจะไล่คุณออก ผมทำไปนานแล้ว ไม่อดทนทำงานกับคุณมาหลายปีแบบนี้หรอก” คนตัวโตมองคนตัวเล็กกว่าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมก่อนตอบคำถาม ขนมหวานคิดได้อย่างไร ตอนนี้ในหัวของเขาไม่มีคำว่าไล่ออกแล้ว ทำงานมาด้วยกันนานขนาดนี้ก็ต้องทำกันต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเธอไม่อยากจะทำงานหรือมีเหตุให้เขาต้องไล่เธอออก
“ก็จริง แล้วบอสถามเรื่องนี้ทำไม ฉันระแวงนะคะ” หญิงสาวเงยหน้าถามเจ้านายอีกครั้ง ความสงสัยเต็มไปหมดในหัวของเธอ และมันก็เผยออกมาทางดวงตาคู่งามด้วย
แววตาหวาดระแวงของขนมหวานทำให้อาเรสจำเป็นต้องเฉลยในสิ่งที่คิดเพื่อให้เลขาคู่กัดสบายใจ
“ผมแค่รู้สึกว่า คุณเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายดี ดูการแต่งตัวของคุณสิ วันแรกที่เจอกันกับวันนี้ คุณยังแต่งตัวเหมือนเดิม” เหมือนจะชมและด่าลูกน้องไปในตัว หญิงสาวรู้สึกอย่างนั้นแต่ไม่แคร์เพราะนี่คือความชอบส่วนบุคคล
“มันคือรสนิยมค่ะบอส ฉันชอบแต่งตัวมิดชิดใครจะทำไม อีกอย่างฉันทำแต่งานในออฟฟิศ ไม่ต้องออกไปข้างนอกเหมือนพี่ตัน แต่งแบบนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เอาไว้วันไหนฉันต้องไปทำงานแทนพี่ตัน ฉันจะแต่งตัวสวย ๆ ก็แล้วกัน เอาให้เหมือนวันแต่งงานของคุณอลิซกับคุณอิน ดีไหมคะบอส”
“แบบนั้นดีแล้วเหรอ”
“ไม่ดีตรงไหนคะ เกาะอกเชียวนะ”
เขายังไม่ทันให้คำตอบประตูลิฟต์ก็เปิดออก สองหนุ่มสาวจึงเดินเคียงคู่กันเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารที่มีพนักงานนั่งกันเป็นกลุ่ม ๆ เหล่าพนักงานเมื่อเห็นเจ้านายมาจึงรีบยกมือขึ้นมาไหว้ทันที
อาเรสสืบทอดกิจการต่อจากบิดาซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นทุกปี
ส่วนพนักงานเก่าหลายคนก็ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม จำนวนพนักงานบ่งบอกถึงการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ไม่แน่ในอนาคตบริษัทของอาเรสอาจจะก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นไปได้
“คุณกินข้าวอะไร ทำไมหน้าตามันดูแปลก ๆ ไข่เจียวเหรอ” เขาเอ่ยถามเธอด้วยความประหลาดใจ ข้าวของขนมหวานไม่น่ากินเอาเสียเลย
“ค่ะ ไข่เจียวราคาประหยัดไม่เกินยี่สิบบาท แล้วบอสกินอะไรคะ”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะมองข้าวของเจ้านายที่ดูดีเหมือนหน้าตาคนกิน ต่างจากข้าวของเธอราวนรกกับสวรรค์ นี่แหละคุณภาพชีวิตของคนรวยกับคนจนไม่ต้องไปมองไกล มองเธอกับอีตาบอสก็เห็นเต็มสองตา
“แม่บ้านทำให้ เมื่อวานผมกลับไปนอนที่บ้าน” เจ้านายตอบกลับอย่างภาคภูมิใจ
“น่ากินมากเลยค่ะ” เธอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก รู้สึกอยากชิมอาหารของเขาขึ้นมา
“กินไหม ตักเลย ผมอนุญาต” เขาเห็นแววตาของเธอก็รู้ทันทีจึงอนุญาต
“ขอบคุณค่ะบอส แล้วคุณเอริคเป็นไงบ้างคะ ฉันไม่เจอท่านมานานมาก”
“ตามประสาคนแก่ สามวันดีสี่วันไข้ พี่รีน่าก็ไป ๆ มา ๆ แต่ไม่มีอะไรหรอก คุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“ก็ดีค่ะ ฉันมาทำงานที่นี่ได้ก็เพราะท่าน สำหรับฉันท่านคือผู้มีพระคุณ” ขนมหวานนึกย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นเธอตกงานพอดีชีวิตมืดแปดด้านไม่รู้จะมองไปทางไหน แต่บังเอิญได้เข้าไปช่วยเหลือคุณเอริคจากการถูกวิ่งราวจนจับโจรได้ในที่สุด
ท่านตอบแทนความดีของเธอด้วยการให้มาทำงานเป็นเลขาของลูกชายที่กำลังต้องการคนเพิ่มพอดี เพราะเลขาอีกคนทำงานไม่ทัน ใจจริงอาเรสไม่อยากรับขนมหวานมาเป็นเลขาแต่ไม่อยากขัดใจพ่อจึงตอบตกลง
“ถ้าผมไม่เกรงใจคุณพ่อ คุณไม่มีทางมาทำงานในตำแหน่งนี้ได้หรอก”
“เชื่อค่ะ ฉันโดนบอสด่าอยู่ทุกวัน จนตอนนี้ชินไปแล้ว”
“ผมไม่ได้ด่าคุณ ผมแค่บ่น ดูคุณแต่งตัวสิ ไม่เหมือนแม่ชีตรงไหนเอาปากกามาวง” อาเรสมองขนมหวานตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนส่ายหน้า ขนมหวานจึงส่งค้อนวงโตให้อาเรสที่กำลังหัวเราะน้อย ๆ หลังจากได้แหย่อารมณ์เลขาของตัวเองสำเร็จ
เขาเป็นโรคจิตหรืออย่างไรก็ไม่รู้ วันไหนที่ไม่พูดกวนอารมณ์ขนมหวานวันนั้นจะรู้สึกไม่มีความสุข
“อย่าให้ฉันแต่งตัวเซ็กซี่นะคะบอส ผู้ชายทั้งบริษัทมีเหลียวหลังมอง บอกเลย”
“ยกเว้นผมแล้วหนึ่ง คุณเอาความมั่นใจจากไหน เท่าที่ผมดู ไม่มีตรงไหนของคุณที่จะทำให้ผู้ชายเหลียวหลังมองเลย”
“บอสสสสส ดูดี ๆ สิคะ เอว 23 อก 36 นี่มันนางงามชัด ๆ ถึงฉันจะสูงแค่ 160 ก็เถอะ”
“คุณแน่ใจเหรอ อกแบน ๆ ของคุณ 36 เข้าใจผิดไหม”
“บอสสสสส อย่ามาจ้องหน้าอกของคนอื่นแบบนี้สิ แบนตรงไหน”
“เอาเป็นว่าผมจะเชื่อก็ต่อเมื่อ ผมได้เห็นกับตา”
“บอสโรคจิต อยากมาดูหน้าอกของคนอื่นได้ยังไง”
“เฮ้ย! ไม่ใช่หน้าอก ผมหมายถึง ผู้ชายเหลียวหลังมอง”
“หึ สักวันบอสต้องได้เห็นค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังนักก่อนจะตักข้าวใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ หาได้สนใจสีหน้ายียวนกวนประสาทของคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
อาเรสอดจะส่ายหัวไม่ได้จริง ๆ กี่ปีแล้วที่ขนมหวานพูดแบบนี้
อยู่ ๆ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อคิดถึงวันแต่งงานของผู้หญิงที่ตนเองเคยแอบรัก วันนั้นขนมหวานสวยมากและเขาก็ยังจำติดตาจนถึงทุกวันนี้
“คุณ ที่ผมบ่นเรื่องการแต่งตัว ไม่ใช่ผมจะบุลลีอะไรหรอกนะ แต่การแต่งตัวดี ๆ มันช่วยให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้น”
“ฉันก็อยากแต่งสวย ๆ เหมือนกันค่ะ แต่ฉันแต่งไม่เป็น ฉันซื้อเสื้อผ้าไม่เก่ง แค่แต่งหน้ามาทำงานได้ก็บุญแล้วนะคะบอส”
“เอาไว้ว่าง ๆ ผมจะพาคุณไปซื้อเสื้อผ้าก็แล้วกัน”
“ฟรีไหมคะ ถ้าฟรีไป ถ้าไม่ฟรีไม่ไป”
“ผมจ่ายเอง”
“ทำไมบอสใจดีจัง”
“พูดตรง ๆ นะครับคุณเลขา”
“จัดมาเลยค่ะคุณบอส”
“ผมเบื่อชุดแม่ชีของคุณมาก เปลี่ยนเถอะ ผมขอร้อง”
“เห็นแก่บอส ฉันเปลี่ยนก็ได้ แล้วบอสจะตะลึง คอยดู”
“แล้วผมจะคอยดู แม่ชีอย่างคุณจะทำให้ผมตะลึงได้แค่ไหนเชียว”
“เตรียมตัวตะลึงได้เลยค่ะ คุณบอส”