วัยอันน้อยนิดแต่มันเป็นวัฒนธรรมของคนบนที่สูง เธอจึงต้องมีครอบครัวตามคำสั่งของพ่อและแม่ แต่กระท่อมน้อยของเธอและสามีอยู่ปากทางขึ้นไปบนหมู่บ้านชาวเขาบนยอดดอย เพราะฉะนั้นใครที่จะขึ้นไปด้านบนยอดดอยจะต้องแวะมาถามทางหรือซื้อหาอาหารแห้งๆ เพื่อพกพาไปยังชีพเสมอๆ เธอจึงมีรายได้พอเลี้ยงตัว หากมีคนสนใจจะขึ้นไปศึกษาความเป็นอยู่และการดำเนินชีวิตของคนในถิ่นห่างไกล
“อืม...ลูกหลับแล้วเหรอจ้ะนามะ”
“จ้ะคุณ มีเวลาทำกับข้าวอีกนานเลย จนกว่าอาลูจะตื่น ส่วนพ่อเขาก็ไปถากหญ้าบนสวนสตรอว์เบอร์รี ค่ำๆ ถึงจะกลับมาบ้าน”
“ลงมือเลยดีกว่านามะ จะได้แบ่งเก็บไว้ให้พ่อของอาลูด้วย น้ำค้างทำกับข้าวไม่เก่งนะ เป็นได้แค่ลูกมือหันผักหั่นหมู แต่จะให้ลงมือทำเองเลยนะไม่ได้!!”
“อิๆ คุณช่วยนามะก็พอค่ะ ที่เหลือนามะลงมือเอง ถ้าคุณเป็นสาวๆ ในหมู่บ้าน คุณคงไม่มีใครมาสู่ขอไปทำเมีย!! เพราะว่าทำกับข้าวไม่เป็น สามีคงเหนื่อยตายเลยค่ะ”
“น้ำค้างก็ยังไม่คิดจะมีครอบครัวหรอกจ้ะนามะ อายุพึ่งแค่นี้เอง”
“นามะแค่16เองค่ะ ทำไมยังแต่งงานแล้วเลยล่ะค่ะ”
“นั่นมันเป็นวัฒนธรรมของนามะนี่จ้ะ ถ้าคนในเมืองช่วงวัยแค่นี้เขายังเรียนหนังสืออยู่เลยจ้ะ”
สองสาวคุยกันขณะลงมือทำอาหารมื้อกลางวัน นามะหน้าม่อยลงเมื่อเอ่ยถึงเรื่องเรียนหนังสือ เป็นเพราะบนยอดดอยไม่มีโรงเรียน ถ้าใครอยากเรียนต้องเข้าไปเรียนในตัวเมือง แต่ความอดทนของชาวเขามีน้อย หลังจากไปเรียนร่วมกับคนเมืองได้ไม่นาน เสียงล้อเลียนกับแววตาดูถูกทำให้พวกเขาไม่เหยียบย่างกลับไปอีก ความรู้เรื่องเขียนอ่านจึงมีน้อยและตกเป็นทาสแรงงานของคนที่ฉลาดมากกว่า
“นามะอยากไปเรียนนะคุณ แต่โรงเรียนอยู่ไกล พ่อกับแม่เลยไม่ให้ไป”
“นามะอ่านออกนี่ ใครสอนจ้ะ”
“ตะหารจ้ะคุณ เขาไปสอนให้ พออ่านออกเขียนได้”
“อืม...”
อาหารพื้นเมืองลาบหมูหน้าตาจัดจ้าน ผัดผักรวมมิตรและไก่ทอดน้ำปลาจานโตๆ กลิ่นหอมฟุ้งเมื่อทุกอย่างถูกปรุงสุกใหม่ๆ รัชนิชลช่วยนามะจัดจานเตรียมของใช้ไว้คอยบริการคนที่กำลังเดินกลับมาเพื่อรับประทานมื้อกลางวัน ก่อนจะแยกย้ายไปเก็บข้อมูลต่อ ข้าวเจ้าหุงสุกใหม่ๆ โดยการนึ่งกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนระอุ ควันกรุ่นลอยฟุ้ง จนกระทั่งข้าวเหนียวทั้งหมดถูกจับยัดใส่ในกระติบข้าวเหนียวใบใหญ่ เพื่อให้ข้าวเหนียวทั้งหมดยังคงความร้อนไว้รอให้ทีมงานกลับมารับประทาน
รัชนิชลตักน้ำในโอ่งดินใบใหญ่ น้ำในนั้นเย็นเฉียบโดยที่ไม่ต้องเติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ เธอวักน้ำล้างใบหน้า ชำระคราบเหงื่อกับควันไฟ ก่อนจะควักผ้าเช็ดหน้าพื้นน้อยๆ จากย่ามสะพายซับน้ำที่ยังคงค้างอยู่ออกไปให้แห้งสนิท อากาศใกล้เที่ยงก็ยังไม่ร้อนอบอ้าวเท่าไร เมื่อรอบๆ ตัวเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้ ทำให้อากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ไฟฟ้า สายลมเย็นๆ พัดโชยเอาความสดชื่นเข้าโอบล้อมรอบตัว เธอเปิดยิ้มแต้มบนริมฝีปาก บิดกายขับไล่ความเหมื่อยขบแล้วจึงเริ่มเดินสำรวจพื้นป่ารอบๆ ตัวกระท่อม ในหัวของรัชนิชลคิดถึงคำพูดของนามะคนชาวเขา ความเหลื่อมล้ำทางสังคมทำให้คนบนดอยถูกดูหมิ่น เมื่อไร!!? เมื่อไรกันนะคนถึงจะยอมเปิดกว้าง ยอมรับคนที่ด้อยกว่า เปิดโอกาสให้พวกเขาได้ศึกษาเล่าเรียนมีความรู้ติดตัวบ้าง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนเห็นแก่ตัวบางจำพวก
โครงการนี้น่าสนใจ เมื่อมันสามารถวิจัยและตีแผ่เรื่องราวทั้งหมดออกมาให้ชาวโลกได้รับรู้ จนสามารถมองหาจุดบอดและรอยต่อของความเหลื่อมล้ำได้สำเร็จ เธอจึงคิดว่าหนุ่มเจ้าเสน่ห์แบบแคสเตอร์ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก เขายังมีหัวคิดและอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อทำสารคดีนี้ออกไปสู่สายตาชาวโลก ถึงมันจะเป็นมุมมองไม่ดีให้แก่ประเทศไทย แต่มันจะสามารถช่วยดึงสายตาของทางการให้หันกลับมาใส่ใจคนด้อยโอกาสมากขึ้น มันมีทั้งส่วนดีและส่วนแย่ๆ แต่มันก็เป็นโอกาสให้กับพวกชาวเขาคนดอย
เสียงหัวเราะลอยตามลมมา กับเสียงย่ำเท้ากรอบแกรบเดินบนพื้นที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งๆ รัชนิชลชะเง้อมองหา เธอลุกขึ้นยืนเดินไปเตรียมหาเสื่อและน้ำสะอาดไว้คอยบริการทีมงานทั้งหมด วันนี้ยอมเป็นเบ้ คอยอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน เพราะคนที่ทำหน้าที่นี้ไม่มีเธอจึงตอบอาสาทำแทนให้ จะให้แบกข้าวกล่องมาจากโรงแรม กว่าจะถึงมื้อกลางวัน อาหารอาจจะบูดเน่า เป็นอันตรายกับกระเพาะอาหาร เมื่ออยู่กลางป่าเขา ห้องน้ำห้องท่าไม่สะดวกนัก เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญ
วันพรุ่งนี้เธอเถอะ!!? วันพรุ่งนี้ที่ต้องแบกเป้สะพายกระเป๋า อุปกรณ์ยังชีพของใครของมัน เพราะวันพรุ่งนี้ทีมงานทุกคนจะแบกสัมภาระของตัวเองขึ้นไปปักหลักถ่ายทำบนยอดดอย เธอก็จะได้ใช้กล้องถ่ายรูปคู่ใจ เก็บภาพการดำเนินการกับทิวทัศน์สวยๆ กลับไปดูเล่น และยังได้ฝึกฝีมือที่ร้างราไปนาน เนื่องจากเธอนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศเป็นส่วนใหญ่ คอยดูนะ!!? พรุ่งนี้เธอจะถ่ายรูปให้ชุ่มปอด เพราะตอนที่มาสำรวจโลเคชั่น บรรยากาศข้างบนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมของคนพื้นเมือง ชาวเขายังเลี้ยงชีพด้วยการปลูกผักเลี้ยงสัตว์ ถึงจะมีนักพัฒนาขึ้นไปทำความเข้าใจบ้างแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังดำรงชีวิตเหมือนๆ เดิม เมื่อเขายังเขียนอ่านภาษาไทยไม่ได้ เนื่องจากไม่มีใครได้ร่ำเรียนจริงๆ จัง เด็กๆ เล่นสนุกไปตามประสา และมีครอบครัวเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น มีลูกหลานสืบสกุลและไม่มีใครสนใจการเรียน เท่ากับทำงานหาเลี้ยงปากท้องตัวเองและครอบครัว มันจึงเป็นโอกาสให้นายทุนเห็นแก่ตัวใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์ โดยการจ้างให้ทำงานในอัตราค่อนข้างต่ำ แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านสักคน เมื่อมันเป็นรายได้ที่เขาได้มาเพื่อยังชีพ
โอกาสอันน้อยนิดที่เธอสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ ในเมื่อยังไงทุกคนก็เป็นคนไทย เติบโตบนแผ่นดินไทย เพียงแค่ว่าความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ระบบทางการก็งานยุ่งเหยิงวุ่นวาย การดำเนินการทำได้ล่าช้า เป็นเพราะบุคลากรมีไม่เพียงพอ หรือเพราะเหตุใดก็ตามแต่ก็ยังมีชนพื้นเมืองบางกลุ่มที่ไม่ได้รับการดูแล จึงเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความเป็นอยู่แบบแร้นแค้น
“หิวมากเลย ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย!! มีอะไรให้กินบ้างล่ะ”
เสียงแจ้วๆ ของสาวๆ ทีมงาน พวกเธอส่งเสียงดังๆ และทอดกายนั่งบนพื้นดิน ไม่ห่วงความสวยอีกต่อไปแล้ว เมื่อเดินตามแคสเตอร์กับมาโกโตะจนเหนื่อยสายตัวแทบจะขาด แต่สองหนุ่มนั่นไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยสักนิดเดียว
“ล้างมือในถังน้ำนั่นก่อนนะคะ น้ำค้างจะปูเสื่อให้ จะได้กินอาหารกลางวันกันได้แบบเต็มที่”
เธอชี้มือไปที่ถังพลาสติกสีขาวขุ่น ที่ภายในบรรจุน้ำสะอาดไว้จนเต็มเปี่ยม เพื่อให้ทีมงานเกือบแปดคนได้ล้างมือ ล้างหน้า จะได้ลงมือทานอาหารกลางวันเสียที เพราะเวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะบ่ายกว่าๆ อาหารมื้อเช้าจากโรงแรมคงย่อยไปเกือบหมดเพียงแค่กาแฟหนึ่งแก้วกับขนมปังปิ้งคงอยู่ในท้องได้ไม่นาน
“ทำอะไรให้กินครับวันนี้ กลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาแต่ไกล หอมมากเลยครับ...”
หนุ่มคนหนึ่งมีหน้าที่อเนกประสงค์แล้วแต่ใครจะใช้ เอ่ยถามเธอเมื่อเขาเดินผ่านไปจัดการวักน้ำล้างใบหน้าเปื้อนฝุ่นออก
“ลาบหมูแบบฉบับชาวเขา ผัดผักรวม กับไก่ทอดสมุนไพร มีข้าวเหนียวกับข้าวสวยเลือกทานกันได้ตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวน้ำค้างให้นามะทยอยยกออกมาเสิร์ฟ”
“โห!! เมนูแต่ละอย่าง แค่ได้ยินแล้วน้ำลายสอเลยคุณ พี่แทนคิดถูกแล้วที่ให้คุณน้ำค้างมาร่วมทริปนี้ ลาภปากพวกผมเลยครับ ธรรมดานะข้าวผัดกะเพราเย็นๆ ไม่มีใครคิดทำใหม่ๆ สักคน มีแต่เอาสะดวกสบาย ไม่ได้นินทานะครับ แต่มันเป็นความจริง”
เธอยิ้มรับแต่ไม่ได้เอ่ยตอบโต้ เมื่อเธอก็เหมือนทุกคน ในเมื่อเหนื่อยกับการทำงานก็อยากจะหาอะไรกินให้สมใจ