“จะบ้าเหรอ ฉันยังโสดยังสด ไม่ได้กินผู้ชายคนไหนเป็นอาหารสักหน่อย แค่ฉันอยากกิน แกเถอะ หัดๆ ไว้มั่งดิ เผื่อจะได้กินผู้ชายไม่ผิดเพศ”
“ไอ้บ้านี่ แกอยากโดนใช่ไหม” ราศีทำท่าจะทะเลาะกับปาริชาติ แต่ฟ้าใสรีบปรามเอาไว้เสียก่อน
“อย่าเพิ่งทะเลาะกันจ้ะ สองคนนี้ยังไง ฟ้าขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวมา” ฟ้าใสบอกเพื่อนสาวทั้งสาม
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” ราศีเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาว
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง แต่สิบห้านาทียังไม่ออกมา อนุญาตให้ไปตาม” ฟ้าใสพูดยิ้มๆ
“จ้ะ งั้นไปเถอะ” สามสาวพยักหน้า ฟ้าใสเลยยิ้มขำเพื่อนรัก ก่อนจะเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ
“นี่ๆๆ ดูโน่นสิ อีตาเกย์ เอ๊ย! อีตาเทพประทานนี่นา” ราศีวางแก้วเครื่องดื่มแทบไม่ทันเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในผับ
“เพิ่งรู้ว่าอีตานี่มาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย นึกว่าจะไปบาร์เกย์” ปาริชาติหัวเราะกิ๊กเมื่อเหลือบไปเห็นชายหนุ่มมาดขรึมใบหน้าเรียบเฉยเดินเข้ามา
“ไปว่าเขาแบบนั้น เขาเป็นเกย์จริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ พูดแบบนี้เขาจะเสียหายนะคะ” เกศราเอ่ยเบาๆ เสียงเรียบเรื่อย
“เฮ้ย! ขัดใจยัยเกศชะมัด เวลาพูดทีตกใจนึกว่าคุณป้าที่ไหน เสียงเย็นชวนขนลุก และอีกอย่างห้ามไปเข้าข้างอีตานั่นอีก เปรี้ยวหมั่นไส้เขาเข้าใจไหม ห้ามดื้อ ห้ามเถียง เดี๋ยวตีให้ก้นแดง” ปาริชาติแกล้งขู่ เกศราก้มหน้างุดเมื่อถูกดุ
“เป็นเกย์ไม่เป็น ฉันว่าเป็นแน่เลย ดูสิ นัดเพื่อนผู้ชายเอาไว้” ราศีทำท่าขนลุก ปาริชาติตาโตตามคำพูดของเพื่อน
“ไม่รู้ว่าเป็นหรือไม่เป็น เพราะเรายังไม่ได้พิสูจน์ บางทีเขาอาจจะมาดื่มกับเพื่อนเป็นปกติก็ได้นะคะ” เกศราพูดเสียงเรียบๆ เนิบนาบ ปาริชาติตบหน้าผากตัวเอง ทำตาดุเพื่อนอีกรอบ เพื่อจะบอกว่าไม่ได้ถาม เงียบไปเลย! เกศราหน้าหงอก้มงุดลงมองมือตัวเอง
“เสียดายที่ยัยฟ้าไปเข้าห้องน้ำ อดอีกตามเคย” ปาริชาติหงุดหงิดติดหมัดที่เพื่อนคลาดกับอีตาเทพประทานอีกครั้ง
“คลาดกันทุกทีเลย แบบนี้เมื่อไหร่แผนการจะสำเร็จล่ะ หรือแกต้องไปโพสต์ข้อความศิโรราบให้ยัยลิลลี่จริงๆ” ราศีเห็นด้วยอีกคน
“คนอย่างฉันหรือจะยอม ไม่มีทางเสียหรอก พูดแล้วเจ็บใจ” ปาริชาติเบ้ปาก เมื่อมองเทพประทาน ชายหนุ่มรูปหล่อที่เดินเข้ามาในร้าน เขาเป็นจุดสนใจของทุกคนแม้แต่พวกเธอก็ไม่เว้น
“เจ็บใจอะไรนักหนา แค่เขาตาไม่ถึงต่างหาก” ราศีพูดยิ้มๆ เหล่ตามองเพื่อนที่หน้าตาบูดบึ้ง
“โห... วันนี้แกพูดจาดีมาก มากเสียจนน่าฆ่าให้ตาย” ปาริชาติหยิกเพื่อน
“โอ๊ย! ไอ้บ้า หยิกจนเนื้อแทบหลุด ซาดิสม์ชะมัด” ราศีลูบแขนป้อยๆ ปาริชาติหันไปคว้าเครื่องดื่มมาดื่มอย่างระบายอารมณ์
“นี่อย่าดื่มมากเดี๋ยวเมา” เกศราปรามปาริชาติ
“ไม่เมาหรอกจ้ะ ขอบใจที่เป็นห่วง” ปาริชาติตอบเพื่อน แต่สายตามองไปยังเป้าหมายที่เดินไปทรุดนั่งข้างชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งรออยู่
“นี่พวกแกดูโน่นสิ คิกๆ คราวนี้สนุกแน่” ปาริชาติบุ้ยใบไปยังกลุ่มสามสาวที่เพิ่งเดินเข้ามา ได้แก่ รินลดา ศรินทิพย์ อุษาวดี
“นั่นกลุ่มยัยลิลลี่นี่นา อย่าบอกนะว่าแก” ราศีตาโตใส่เพื่อน
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เห็นพวกยัยซิลิโคนชวนกันมาที่นี่คืนนี้ ฉันก็เลยชวนพวกแกมาด้วยไง พอดีมันก็เป็นวันฉลองกำไรของร้านนี่นา” ปาริชาติตอบตามตรง
“อย่าบอกว่าแกไปส่องเฟซบุ๊กยัยลิลลี่มา” ราศีพูดอย่างรู้ทัน
“เปล่าส่อง ก็ชีประกาศออกลั่นเฟซ” ปาริชาติจิบเครื่องดื่มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“แล้วที่แกบอกว่าสนุกแน่น่ะคืออะไร” ราศีถามเพื่อน
“ก็ดูโน่นสิ” ปาริชาติบุ้ยใบ้ไปยังเทพประทานที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอยู่อีกด้าน
“อ๋อ... รู้แล้ว” ราศีลากเสียงสูง
“อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยค่ะ” เกศราปรามเสียงเบา
“ไม่ยุ่งหรอก แค่บางทีอาจมีเรื่องหนุกๆ ให้ดูก็ได้” ปาริชาติจิบเครื่องดื่มเบาๆ ยักคิ้วโต้ตอบกับราศีอย่างรู้กัน
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” ฟ้าใสเอ่ยขอโทษเมื่อเดินชนกับร่างสูงของเทพประทาน “คุณ” ฟ้าใสอุทานชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
เทพประทานเองก็จำได้ทันทีว่าหญิงสาวเคยเดินชนกับเขาที่ห้างสรรพสินค้า
“นายพนักงานห้างนั่นเอง เจอตัวก็ดีแล้ว หน็อย...” ฟ้าใสจะต้องจัดการกับคนตรงหน้าให้ได้
เทพประทานล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทีสบายๆ สายตาคมกริบมองหญิงสาวนิ่ง ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับท่าทีของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“นายหลอกฉัน เสื้อชั้นในพวกนั้นลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่นายให้ฉันซื้อในราคาที่แพงกว่า”
“หือ...” เทพประทานเลิกคิ้วเข้มขึ้น แววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด แต่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้ในใจ
“อย่ามาทำเสียงแบบนี้ นายมันเจ้าเล่ห์ที่สุด จ่ายเงินค่าชุดชั้นในที่เหลือมาให้หมด นายทำให้ฉันต้องควักเงินเกินกว่าที่ควรจะเป็น”
“หึ!” เสียงหึในลำคอหนาทำให้ฟ้าใสยิ่งฉุน เขาไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนเอาเสียเลย เธออยากจะพ่นไฟใส่เขานัก ยิ่งสายตานั้นด้วยกำลังบ่งบอกอารมณ์
“คุณน่าจะพอใจกับสินค้า” เทพประทานคิดว่าราคาที่เธอซื้อไปมันก็เกินพอแล้ว เพราะตอนนั้นเขายังไม่ได้จัดราคาลด 50% เลยด้วยซ้ำ
“พอใจอย่างนั้นเหรอ... เหอะ” ฟ้าใสเงยหน้าขึ้นกลอกตาไปมา คนอะไรกวนบาทาที่สุด
เทพประทานหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า ผู้หญิงอะไรไม่เคยพบเคยเห็น ผู้หญิงเป็นเพศที่น่ารำคาญ เขาคิดเช่นนั้น มีแต่หวังอยากได้อยากมี ไม่ยอมขาดทุน จิกจุกจู้จี้ แถมบางคนขี้บ่นอีกต่างหาก และเขาก็ไม่อยากบอกว่าเหมือนใคร มันเหมือนกล่าวร้ายบุพการีเสียอย่างนั้น
“ฉันไม่พอใจหรอก มันขาดทุน”
“แล้วจะเอายังไง” เทพประทานถามกลับเสียงเคร่ง ฟ้าใสไม่สนใจ ยังไงเธอก็จะเอาเงินคืนให้จงได้ ไม่งั้นเธอจะป่าวประกาศให้คนในที่นี่รู้ว่าอีตานี่ขี้โกงหน้าด้านๆ อุตส่าห์หลงชอบ ที่แท้ก็ร้ายกาจเจ้าเล่ห์ จอมลวงโลกที่สุด
...ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น...
ผมนี่แหละ ‘เทพประทาน ประกิตบูรญานนท์’
ยังไม่ทันที่ฟ้าใสจะได้พูดอะไร เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ไม่คิดว่าพวกยัยแก๊งแมวเหมียวจะมาเที่ยวที่นี่คืนนี้ด้วย
“อุ๊ย! พี่เทพ สวัสดีค่ะ ไม่คิดว่าพี่เทพจะมาที่นี่ด้วย” รินลดารีบเข้ามาแทรกกลางระหว่างเทพประทานและฟ้าใสที่ยืนคุยกันในระยะกระชั้นชิด ก่อนจะเบะปากใส่ศัตรูตรงหน้าอย่างไม่เป็นมิตร
ฟ้าใสถึงกับส่ายหน้าในกิริยาของรินลดา ก่อนจะหรี่ตาหูผึ่งเมื่อนึกไปถึงชื่อที่เรียกขานชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไอ้หมอนี่ชื่อเทพอย่างนั้นเหรอ คุ้นๆ อ่ะ!
“เรามาด้วยเหรอ” เทพประทานเลิกคิ้วมองสาวน้อยข้างบ้านที่เกาะแขนเขาแจ แม้จะรำคาญการตามตื๊อของรินลดาเอามากๆ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นบุตรสาวของเพื่อนบิดามารดาที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขาจึงไม่อยากแสดงอาการรำคาญจนออกนอกหน้ามากนัก
ทั้งๆ ที่รินลดาเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา หากไม่จำเป็นเขาจะหลีกเลี่ยงการพบปะกับเธอ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องจำใจ หากเขาทำอะไรนิดหน่อย ขยับตัวนิดหน่อยให้เธอไม่พอใจ เธอก็จะปรี่ไปฟ้องมารดา ดังนั้นเขาไม่อยากปวดหัวกับเรื่องไร้สาระ จึงจำต้องนิ่งเอาไว้ให้มากที่สุด และหนีอย่างว่องไวไม่ให้เธอเกาะติดเหมือนปลิง
“ค่ะ ลิลลี่มากับเพื่อนค่ะ พี่เทพมากับใครเอ่ย” รินลดาถามเสียงอ่อนเสียงหวาน
“มาคนเดียว” เทพประทานตอบเสียงเรียบ รินลดาถึงกับยิ้ม แต่ต้องหุบฉับเมื่อได้ยินประโยคต่อไป “แต่พี่นัดเพื่อนเอาไว้”