หลังจากที่คุณน้าไอวี่กลับไป คุณแม่ก็ลากดาราสาวขึ้นมาคุยที่ห้องนอนส่วนตัวทันที
"ทำไมถึงไปรับเงินมาง่ายๆแบบนั้น ทำเหมือนบ้านตัวเองไม่มีอันจะกินอย่างนั้นแหละ"
คุณหญิงไลลาเอ็ดลูกสาวยกใหญ่พร้อมหยิกต้นแขนเบาๆ อย่างเหลืออด
"โธ่~ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณแม่ ..ละอออยากช่วยคุณน้าไอวี่จริงๆนะคะ ท่าทางคุณน้าดูเครียดมากคุณแม่ก็เห็น"
ดาราสาวแสร้งให้พูดว่าอยากช่วยจริงๆ แต่คนที่เป็นผู้ให้กำเนิดมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกตัวเอง
"มั่นใจว่าไม่เกี่ยวกับเงินที่คุณน้าให้มา?"
"ไม่เกี่ยวกับเงินสิบล้านแน่นอนค่ะ"
"งั้นก็เงินเช็คมาให้แม่ แม่จะเอาไปคืนคุณน้าเขา"
ท่าทางจริงพร้อมฝ่ามือของผู้ให้กำเนิดที่ยื่นออกมารอรับเช็คจากเธอทำดาราสาวยิ้มหน้าเจื่อน
"คุณน้าไอวี่อุตสาให้มาเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆแล้ว ถ้าคืนไปจะเสียมารยาทนะคะคุณแม่"
เมื่อได้ฟังแบบนั้นจากลูกสาว คนเป็นแม่ก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะคิดว่ายังไงก็ต้องออกมาอีรอบนี้
"เฮ้ย~ แม่ล่ะหมดคำจะพูดกับเราจริงๆ"
คุณหญิงไลลาเอ่ยอย่างอ่อนใจ ก่อนเดินลงไปนั่งโซฟาในห้องนอนตามมาด้วยดาราสาวที่เข้ามาคลอเคลียตามประสาคนขี้อ้อน
"แล้วรับปากจะช่วยน้าไอวี่ คิดไว้แล้วหรอว่าจะช่วยยังไง? หน้าตา..เราก็ยังไม่เคยเจอไม่ใช่รึ?"
คุณหญิงไลลาเอ่ยอย่างเป็นกังวล
"คุณแม่ไม่เป็นต้องห่วงนะคะ ละออขอไปคิดแผนคืนนี้ก่อน รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ"
ดาราสาวพูดอย่างหมายมั่น ยิ่งได้กำลังใจจากเงินที่ได้มาแล้ว เธอยิ่งมีแรงในการคิดแผนการมากขึ้น
-วันต่อมา-
"ขอบคุณน้าไอวี่มากนะคะ ที่ช่วยละออ"
ดาราสาวเดินเข้ามาในตัวบ้านหลังใหญ่พร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่ออกมาต้อนรับเธอหน้าบ้าน
"ไม่หรอกจ้ะ น้าเองก็ลืมแนะนำให้ละออรู้จักกับลูกชายน้า เขาทำงานเป็นคุณหมอผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลXXเป็นหมอที่เก่งมากๆเลยจ้ะ อันนี้น้าไม่ได้อวยนะแต่มีคนในโรงพยาบาลบอกมาก"
หญิงวัยกลางคนเอ่ยถึงลูกชายอย่างภาคภูมิใจ เธอจึงยิ้มรับน้อยๆ
ด้วยเมื่อคืนเธอไปนอนคิดว่าจะเริ่มยังไง จนลืมไปว่าตัวเองยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าลูกชายน้าไอวี่มาก่อน ดังนั้นจึงต้องรู้จักและทำความคุ้นเคยสักหน่อย ให้มีพื้นฐานว่าเธอต้องไปเวย์ไหน
วันนี้เธอจึงขอคุณน้าช่วยแนะนำให้เธอรู้จักกับลูกชายเขาเพื่อวางแผนขั้นต่อไป
เมื่อละออเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ใหญ่พอๆกับบ้านตัวเอง ดวงตาสวยก็เริ่มสำรวจภายในบ้านด้วยความอยากรู้และเก็บข้อมูล
ก่อนจะไปสะดุดที่รูปภาพชายใส่สูทสีดำเข้ม ใบหน้าหล่อร้ายสวมแว่นตายิ่งเพิ่มเสน่ห์น่าหลงใหลให้คนในรูปไม่น้อย
"ว่าแต่หนูละออมีแฟนแล้วยังจ้ะ? มาทำอะไรแบบนี้น้ากลัวหนูจะเข้าใจผิดกับแฟนจัง"
คุณน้าไอวี่พาเธอมานั่งโซฟาหรูเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
ในขณะที่ดาราสาวได้แต่ยิ้มแห้งๆ เพราะที่ผ่านมาทำแต่งานเลยไม่ได้จริงจังเรื่องความรักสักเท่าไหร่
"ละออยังไม่มีแฟนค่ะ พอดีโฟกัสการทำงานเป็นหลักเลยไม่ได้สนใจเรื่องนี้นะคะ"
หญิงวัยกลางคนลอบยิ้มอย่างพอใจ
ต้องบอกว่าเธอถูกใจเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ทั้งสวย เก่ง มีความสามารถและน่ารัก พูดจาฉะฉาน ดูเป็นคนกล้าลุย จึงแปลกใจไม่น้อยที่ร่างบางไม่มีคนมาจีบ
แต่เธอก็ไม่คิดจะถามต่อเพราะกลัวมีพิรุธจนหญิงสาวตรงหน้าจับได้
"งั้นหนูละออรอแปบหนึ่งนะจ้ะ น้าเพิ่งทำขนมหวานเสร็จ เดียวน้าไปเอามาให้ ..หนูละออทานของหวานได้ใช่มั้ยจ้ะ?"
"ได้ค่ะ"
ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะเดินหายไปอีกทางปล่อยให้ดาราสาวอยู่คนเดียวในห้องรับรองแขกคนเดียว เธอเองก็รู้สึกเบื่อนิดหน่อย จึงขึ้นเดินดูรอบๆห้องพร้อมสำรวจภาพถ่ายครอบครัวของบ้านนี้ไปพลางๆ
"เธอเป็นใคร? มาทำอะไรที่บ้านฉัน??"
เสียงดังขึ้นจากด้านหลังทำเธอสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปมอง ก็พบกับร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาที่ออร่าความหล่อดูดีกินขาดผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอมาในชีวิต และที่สำคัญผู้ชายคนนั้นคือคนที่อยู่ในรูปถ่าย!
ใบหน้าหล่อร้ายมีความเป็นลูกครึ่งยุโรปเอเชีย แววตาคมร้ายกาจจ้องเธอตาไม่กระพริบในขณะที่ละออรู้สึกแปลกๆเมื่อถูกอีกมองมา
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อละออ เป็นลูกของคุณแม่ไลลาเพื่อนคุณน้าไอวี่ค่ะ"
ด้วยความเป็นมืออาชีพทำให้ดาราสาวรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดี เธอใช้ความนิ่งและรอยยิ้มการตลาดสยบความตื่นเต้น
ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรเพียงใช้สายเรียบเฉยมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว จนเธอแอบงงในใจว่าตัวเองดูไม่น่าไว้ใจขนาดนั้นเลย?
เธอเป็นถึงดาราดังเชียวนะ
"บาสเตียนกลับมาแล้วหรอลูก!.. มานั่งนี้ก่อนมะ แม่มีคนจะแนะนำให้รู้จัก"
เสียงคุณน้าไอวี่ทำให้สถานการณ์ระหว่างเราดีขึ้น ในขณะที่ชายหนุ่มมองหน้าเธอสลับกับแม่ตัวเอง แววตานิ่ง
ก่อนมานั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามเธอพร้อมไขว้ห้างท่าทางคุณชายเจ้าสำอาง พร้อมดวงตาคมดุยังคงจ้องเธอไม่ลดละทำเหมือนเธอเป็นโจรจะมาปล้นบ้านเขางั้นแหละ
แน่นอนว่าดาราสาวไม่ได้หลบสายตาแม้แต่อย่างใด เธอใช้โอกาสนี้สังเกตท่าทางบุคลิกของคนตรงหน้าไปในตัว ซึ่งมันมีปัจจัยหลายๆอย่างที่พอจะทำให้คนสามารถเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเกย์ได้
ด้วยท่าทางที่ดูเจ้าสำอาง สะอาดสะอ้าน ตั้งแต่การแต่งตัวยันหน้าตาที่เกลี้ยงเกลาเหมือนคนอาบน้ำวันละสิบรอบ บ่งบอกได้ว่าอีกฝ่ายดูแลตัวเองดีเป็นพิเศษ
"นี้หนูละออจันทร์ ลูกสาวเพื่อนแม่ที่ชื่อไลลาที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นตอนเด็กไงลูก"
คุณน้าไอวี่พูดถึงความหลังเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความสนิทสนมของสองครอบครัว แต่ชายหนุ่มกลับตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"จำไม่ได้ครับ"
"จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ที่สำคัญน้องเขาดังมากๆเลยนะ เป็นดาราดังมีผลงานการแสดงหลายเรื่องเลย เก่งมากๆจ้ะ"
ประโยคแรกหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับชายหนุ่ม ส่วนประโยคหลังหันชมดาราสาวพร้อมรอยยิ้มภูมิใจ ทำคนที่โดนชมรู้สึกปลื้ม ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดจากปากชายหนุ่ม
"แล้วไง"
"บาสเตียน!"
"ไม่เป็นไรค่ะคุณน้า"
ดาราสาวขัดขึ้นเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนตั้งท่าจะว่าลูกตัวเอง เธอไม่อยากให้พวกเขาต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้
ชายหนุ่มยังคงมองเธอไม่วางตา ซึ่งแววตานั้นแฝงอารมณ์ความรู้สึกชนิดหนึ่งที่เธอเป็นดารายังอ่านยากมาก
"หนูละออเป็นคนที่แม่หมายตาให้แต่งงานกับลูก!"
คำพูดที่เธอเตี๊ยมกับน้าไอวี่ตั้งแต่เช้าถูกเอ่ยออกมาให้ชายหนุ่มได้รับรู้ ร่างสูงบนโซฟายังสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับฉายแววกราดเกรี้ยวขึ้นมาหลายส่วน
"นี้แม่คิดจะจับคู่ให้ผมหรอครับ?"
"ใช่! อายุสามสิบจะสี่สิบก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วถึงเวลาต้องแต่งงานมีครอบครัวสักที จะเอาแต่ทำงานไปวันๆแบบนี้ไม่ได้"
"ผมเคยคุยเรื่องนี้ไปแล้วนะครับว่าผมไม่ยังไม่อยากแต่ง"
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบพร้อมมองแม่ตัวเองแววตานิ่ง
"ทำไม? หรือว่าลูกมีคนที่ลูกรักอยู่แล้ว?"
สิ้นคำพูดของหญิงวัยกลางคน ชายหนุ่มตวัดดวงตาคมมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนหันกลับไปทางแม่ตัวเองและไม่พูดอะไรต่อ
"คุณน้าค่ะ หนูคุยกับคุณบาสเตียนก่อนได้มั้ยคะ"
ละออเห็นว่าถึงจังหวะที่เธอต้องพูดจึงพูดแทรก หญิงวัยกลางคนที่เห็นแบบนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ ต่างจากชายหนุ่มที่มองหน้าเธอนิ่งๆ
"ต้องการอะไรกันแน่ ละออจันทร์"
ทันทีที่เราสองคนได้อยู่กันตามลำพัง ชายหนุ่มก็เปิดประเด็นถามเสียงเข้มพร้อมมองอย่างไม่ไว้ใจ
"เอาตรงๆเลยนะคะคุณบาสเตียน ...คุณแม่ของคุณสงสัยว่าคุณไม่ชอบผู้หญิง และท่านก็ขอให้ฉันมาช่วยพิสูจน์ว่าคุณเป็นอย่างนั้นจริงๆรึเปล่า"
ดาราสาวเลือกที่จะพูดตามความจริง เพราะเธอคิดไว้แล้วตั้งแต่ที่เห็นหน้าเขาครั้งแรก ว่าคนแบบนี้สามารถคุยได้ เขามีความคิดมากพอที่จะเข้าใจถึงเหตุผล และเรื่องราวต่างๆได้ ฉะนั้นจะใช้แผนหลอกเด็ก หลอกคนที่มีความรู้จบหมอแบบนี้ มันดูตลกมากในความคิดเธอ
หมอลูกครึ่งได้ยินแบบนั้นก็นิ่งไปเหมือนกำลังคิดชั่งใจอะไรสักอย่าง ทำคนที่รอแบบเธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยะ
"แล้วเธอจะเอายังไง?"
"ในเมื่อฉันจริงใจเปิดเผยกับคุณขนาดนี้ หวังว่าคุณจะจริงใจพูดความจริงกับฉันนะคะ คุณหมอบาสเตียน"
มุมปากหนาหยักยกยิ้มแต่แววตากลับมีกลิ่นอายชวนเสียวสันหลัง เมื่อเธอจงใจพูดความจริงเพื่อแลกความจริงจากปากเขา
"น่าสนใจ"
คำพูดสั้นๆจากอีกฝ่ายเกิดคำถามขึ้นบนหน้าสวย แถมท่าทางอีกฝ่ายดูผ่อนคลายกว่าตอนแรกเธอยิ่งไม่เข้าใจ
"ฉันชอบผู้หญิง"
คำพูดที่ออกมาจากปากเขาดูมีน้ำหนักมากพอที่จะไม่ใช่การพูดแบบขอไปที
"ในเมื่อแม่ฉันกังวลว่าฉันไม่ชอบผู้หญิงขนาดนั้น งั้นก็คงต้องทำให้ท่านเห็นว่าฉันไม่ได้เป็นแบบที่คิด"
"หมายความว่าไงคะ?"
---ツ---
---ツ---