ขณะที่หลีเจียวกำลังเล่นอยู่กับลูกๆ นางกำนัลคนสนิทก็เดินเข้ามา เสี่ยวม่านมารับตัวองค์ชายน้อยและองค์หญิงน้อยไปอาบน้ำ
ภาพเบื้องหน้าทำให้เสี่ยวม่านรู้สึกประหลาดใจ เพราะฮองเฮาไม่เคยสนใจลูกของตนเอง เอาแต่เซื่องซึมเหม่อลอย เสี่ยวม่านสงสารก็แต่องค์ชายองค์หญิง ทว่าความรู้สึกฮองเฮานั้น นางเองก็เข้าใจอยู่เช่นกัน
เมื่อเห็นภาพน่ายินดีจึงอดปลื้มปริ่มมิได้ และนานมากแล้วที่นางไม่เห็นฮองเฮาทรงมีสีหน้ายิ้มแย้มเช่นนี้
เสี่ยวม่านยอบกายลง “หม่อมฉันขออภัยเพคะ คิดว่าออกไปสั่งงานในครัวครู่เดียวจึงฝากเด็กๆ ไว้บนเตียง รบกวนฮองเฮาหรือไม่เพคะ”
ปกติเสี่ยวม่านจะอยู่กับองค์ชายและองค์หญิงแทบตลอดเวลา ทว่าเมื่อครู่มีเรื่องให้ต้องจัดการ คิดว่าไปเพียงครู่เดียวไม่คิดว่าจะทำให้ฮองเฮาทรงตื่น
หลีเจียวส่ายหน้า เอ่ยกับคนสนิทด้วยรอยยิ้ม “ไม่หรอก ข้านอนมามากแล้ว เจ้าจะพาอาจ้านกับอาจูไปอาบน้ำใช่หรือไม่”
เสี่ยวม่านเงยหน้าขึ้น นางพึมพำเสียงเบา “อาจ้าน อาจู...” เมื่อเห็นสายตาฮองเฮาทอดพระเนตรไปยังเด็กน้อยในอ้อมแขนก็เข้าใจได้ “ใช่แล้วเพคะ”
“ยกอ่างน้ำเข้ามาที่นี่ ข้าจะอาบน้ำให้พวกเขาเอง”
เสี่ยวม่านเพิ่งสังเกตเห็นว่า พระพักตร์ฮองเฮาไม่ขาวซีดแล้ว ดูมีน้ำมีนวลขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ อีกทั้งยังดูกระชับกระเชงคล่องแคล่ว ทั้งที่เมื่อก่อนแรงลุกจากเตียงแทบไม่มี
“เพคะ” เสี่ยวม่านรีบรับคำสั่งแล้วรีบออกไป
ในตำหนักเย็นมีนางกำนัลไม่กี่คน ทั้งหมดเป็นนางกำนัลที่จงรักภักดีไม่ทอดทิ้งผู้เป็นนายยามลำบาก ตอนที่หลีเจียวได้รับคำสั่งให้ย้ายมายังที่แห่งนี้ นางได้ถามความสมัครใจ หากผู้ใดไม่ต้องการติดตามนางแล้ว นางก็จะมอบเงินให้ก้อนหนึ่งและส่งตัวออกนอกวังหลวงไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะไม่รู้ว่าต้องติดอยู่ในนี้ตลอดชีวิตหรือไม่
เสี่ยวม่านและนางกำนัลอีกสามสี่คนเข้ามาช่วยอาบน้ำให้องค์ชายและองค์หญิง ชีวิตในนี้นับว่าไม่ลำบากมากเท่าไร เแต่ก็ไม่สุขสบายเหมือนตอนอยู่ตำหนักเหลียนอัน
ตอนที่หลีเจียวคลอดลูก ล้วนเป็นพวกนางกำนัลเหล่านี้ช่วยทำคลอด ดีที่พวกนางมีประสบการณ์อยู่บ้าง จึงทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นด้วยดี
“แงๆ” เซวียนจ้านแผดร้องลั่นทันทีเมื่อเนื้อตัวสัมผัสน้ำ คราแรกหลีเจียวตกใจคิดว่าน้ำร้อนไปหรือไม่ ทว่าเมื่อหันมองทางบุตรสาว เห็นนางเอาแต่นอนนิ่งอยู่บนแขนเสี่ยวม่าน ยอมให้นางกำนัลอีกคนค่อยๆ ราดน้ำบนตัวก็เลิกคิ้วขึ้น
เสี่ยวม่านเอ่ยยิ้มๆ “ทุกครั้งที่อาบน้ำให้องค์ชาย องค์ชายก็มักจะร้องจ้าเช่นนี้ตลอดเลยเพคะ ต่างจากองค์หญิงที่เอาแต่นอนนิ่งว่าง่าย”
หลีเจียวเข้าใจแล้ว นางหัวเราะขณะก้มหน้าเอ่ยกับบุตรชาย “อาจ้านเป็นผู้ชายขี้แงหรือนี่”
เซวียนจ้านสบตาเสด็จแม่ สะอื้นฮักๆ สองทีก็เงียบไป ยอมให้มารดาอาบน้ำให้แต่โดยดี
หลังอาบน้ำเสร็จจนตัวหอมกรุ่น เจ้าเด็กแฝดกำลังนั่งดูดนิ้วอยู่บนเตียงดังจุ๊บๆ หลีเจียวเองก็เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวใหม่เดินออกจากฉากกั้น คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น นางหันไปพูดกับเสี่ยวม่านว่า “อาจ้านอาจูหิวแล้วกระมัง”
เสี่ยวม่าน “หม่อมฉันจะไปนำนมแพะมาเดี๋ยวนี้เพคะ”
หลีเจียวโบกมือปฏิเสธ “ข้ามีน้ำนม ข้าจะให้นมลูกเอง เคยได้ยินมาว่าเด็กดื่มนมแม่ถึงจะดี”
เสี่ยวม่านพยักหน้าเห็นด้วย นางรู้สึกดีเหลือเกินที่ฮองเฮาทรงมีกำลังใจดีขึ้น ดูแลใส่ใจองค์ชายและองค์หญิง นางวาดหวังว่าสักวันฮ่องเต้จะทรงรับรู้ความจริง ว่าแท้จริงแล้วฮองเฮาถูกกล่าวหาว่าร้าย
เมื่อเด็กน้อยกินอิ่มย่อมนอนหลับ หลีเจียวนอนตะแคงมองพวกเขาด้วยสายตาเศร้าหมอง เมื่อรับรู้ว่าสุดท้ายนางไม่อาจอยู่กับพวกเขาจนเติบใหญ่ สิ่งที่นางต้องทำในตอนนี้คือ ลบล้างมลทินให้ตนเอง ไม่เช่นนั้นแล้วลูกน้อยทั้งสองจะพลอยมีมลทินไปด้วยกับนาง
หลีเจียวไม่กลัวหากเซวียนหยางหมดรักนาง นางแค่อยากให้เขารับรู้ว่าเซวียนจ้านและเซวียนจูเป็นสายเลือดของเขา เมื่อวันนั้นมาถึง นางจะได้ไปอย่างหมดห่วง ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนกล่าวหาว่าพวกเขาเป็นลูกชู้หรือไม่
เสี่ยวม่านยกอาหารเข้ามา “ฮองเฮาเพคะ ทรงเสวยอะไรสักหน่อยเถิด ท่านทรงซูบผอมเกินไปแล้ว”
หลีเจียวโน้มตัวไปหอมกระหม่อมบุตรแฝดก่อนลุกขึ้น นางเดินไปที่โต๊ะกลางห้อง มองอาหารมากมายตรงหน้าแล้วเอ่ย “อาหารมากมายข้าคงกินไม่หมด คราวหน้าขอเพียงอย่างสองอย่าง”
อาหารที่ส่งมาให้ย่อมมีจำกัด หลีเจียวไม่อาจอิ่มท้องแต่เพียงผู้เดียวได้ นางนั่งกินข้าวเงียบๆ กระทั่งวางตะเกียบในมือลง หยิบผ้ามาเช็ดมุมปาก
เสี่ยวม่านเห็นอาหารพร่องไปเยอะกว่าทุกวัน นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยยินดี “วันนี้ทรงเสวยเยอะเลยนะเพคะ เสวยเยอะๆ เช่นนี้ก็ดี ฮองเฮาจะได้มีน้ำนมให้องค์ชายและองค์หญิงน้อย”
หลีเจียวอมยิ้ม
หลังรับประทานอาหารเสร็จหลีเจียวก็ออกไปเดินย่อยอาหารที่ลานด้านหน้า นานแล้วที่ไม่ได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์เช่นนี้ นางเดินทอดน่องอยู่เกือบครึ่งชั่วยามค่อยกลับเข้าไปในห้อง ดูเสื้อผ้าไว้ให้ลูกทั้งสอง ตอนนี้ลมหนาวเริ่มมาเยือนแล้ว
ชุดที่เซวียนจ้านและเซวียนจูใส่ล้วนเป็นพวกเสี่ยวม่านช่วยกันตัดเย็บ ผ้าที่มีเป็นเพียงผ้าหยาบเก่าๆ หลีเจียวทอดมองแล้วอดรู้สึกเศร้าไม่ได้
หลีเจียวบ่นกับเสี่ยวม่าน “หากมีผ้าขนแกะคงดี เด็กๆ จะได้สวมเสื้อผ้าอุ่นๆ ในหน้าหนาว”
ผู้ใหญ่ยังทนหนาวได้ แต่เด็กเล็กเล่าจะทนได้อย่างไร...