ตาแก่ขี้บ่น

746 คำ
มหาวิทยาลัย ผมเดินมาเปิดประตูรถให้คุณหนูท่ามกลางสายตาของนักศึกษาและอาจารย์ที่อยู่แถวนี้ “รอฉันแถวนี้แหละ” “ไม่ได้ครับ ท่านไคบอกให้ผมอยู่กับคุณหนูตลอดเวลาห้ามปล่อยให้คาดสายตา” “เข้าห้องน้ำก็ต้องตามไปเฝ้าเหรอ” “คุณหนูครับ สถานการณ์แบบนี้อย่าดื้อนักเลยผมไม่ใช่บอดี้การ์ดโนเนม ถ้าคุณหนูไม่เชื่อฟังผม ผมจะปล่อยให้พวกมันจับคุณหนูไปเป็นหนูทดลองยา” “พูดบ้าอะไรฉันเป็นถึงคุณหนูมายูลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านไคใครจะกล้า” “นั่นแหละที่มันต้องการ คุณหนูมีเลือดของสองประเทศแถมยังเป็นลูกสาวของผู้มีอิทธิพลถึงสองประเทศ” “พอๆๆเลิกพูดอยากตามก็ตามมา แต่ห้ามเข้าใกล้เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าฉันมีแฟนเป็นตาแก่ขี้บ่น” คำก็แก่ สองคำก็แก่ผมถึงกับต้องหันไปมองกระจกรถทันที หล่อขนาดนี้มาบอกแก่เด็กบ้า! ผมเดินตามานั่งอยู่แถวห้องเรียนของเธอนี่เลือกเรียนแพทย์อย่างนั้นเหรอ จะรอดหรือร่วงกันแน่ฮ่าๆ ระหว่างที่อาจารย์หมอกำลังอธิบายเกี่ยวการปรับพื้นฐานที่ผมเคยได้เรียนมาแล้ว ดูเธอก็สนใจเรียนในระดับหนึ่งแต่สำหรับผม ผมคิดว่ามันยังไม่พอ คิดจะเรียนหมอต้องมีมานะมากกว่านี้ “มายูคุณลืมส่งงานผมหรือเปล่าครับ” “จริงด้วย นี่นายบอดี้การ์ดฉันลืมงานไว้ในรถลงไปเอาให้หน่อยสิ” ถามจริง!! ผมต้องทำขนาดนี้เลยใช่ไหม นี่เป็นบอดี้การ์ดหรือเป็นทาสรับใช้กันแน่ ประเทศนี้เขาสอนลูกหลานกันแบบนี้หรือเป็นที่ยายเด็กนี่คนเดียว “เร็วๆสิ!” “ครับ” ผมกลับขึ้นมาก็สวนกับนักศึกษาคนอื่นๆที่เดินลงมา ตอนนี้คุณหนูมายูกำลังยืนคุยกับอาจารย์หมอที่หน้าห้องเรียน เมื่อเธอเห็นผมก็รีบยื่นมือมารับงานส่งให้อาจารย์ “หนูรีบไปหน่อยเลยลืมขอโทษนะคะ” “ไม่เป็นอะไรครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า” ผมมองสายตาของคุณหนูที่มองอาจารย์หมออย่างปราบปลื้ม เหอะเด็กหนอเด็กไอ้อาจารย์ของเธอเนี่ยอายุก็พอๆกับผมเลย หล่อน้อยกว่าผมด้วยซ้ำ สวยแต่ตาต่ำจริงๆ “นายด่าฉันอยู่หรือเปล่าฮะ” “เปล่านะครับ” ทีเรื่องแบบนี้ทำเป็นรู้ดี “คุณหนูจะไปที่ไหนอีกไหมครับ” “ไปร้านดอกไม้ พาไปหน่อยได้ไหม” “ได้ครับ ว่าแต่คุณหนูจะไปทำไมเหรอครับ” คุณหนูมายูไม่ตอบแต่เธอเดินนำผมลงมาที่รถ เมื่อรถเคลื่อนตัวออกมาคุณหนูมายูก็เอาแต่นั่งเงียบ “คุณหนูเครียดเรื่องเรียนหรือเปล่าครับ” “อืม.. ก็มีส่วนเมื่อตอนเด็กๆฉันชอบไปเล่นกับลุงคิมที่แลป อยากเป็นคุณหมอตั้งแต่ตัวน้อยๆ แต่พอตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันอาจจะเป็นหมอที่ดีไม่ได้” “ทำไมล่ะครับ” “ช่วงนี้ลุงคิมไม่มีเวลาติวให้ฉัน คุณพ่อก็ต้องเดินทางตลอด ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะมีความพัฒนาต้องคอยรับแรงผลักดันอยู่ตลอด” “เหรอครับ ผมว่าคุณหนูใจเย็นๆก่อนดีกว่าปีหนึ่งมันต้องมีเรียนปรับพื้นฐานต่างๆนาๆต้องลื้อความรู้ตั้งแต่ม.ปลายมาใช้ อ่านหนังสือเยอะๆไม่เข้าใจตรงไหนก็จดไว้แล้วก็ค่อยมาอ่านใหม่” “พูดอย่างกับเคยเรียน เหอะ” แหม ยอกย้อนดีนักนะก็เคยเรียนไงถึงได้กล้าสอนปีแรกมันก็ต้องปูพื้นฐานต้องช่วยตัวเองอ่านหนังสือเยอะๆ ช่วงแรกมันก็จะหนักจนแทบอ้วกแต่ถ้ามีความพยายามยังไงก็ทำได้ ดูทรงแล้วยายคุณหนูคงไม่รอด ผมพาเธอมาร้านดอกไม้ก็ไม่รู้ว่าจะมาทำไม ผมเดินตามเข้ามาในร้านกลิ่นหอมของดอกไม้ทำเอาผมเคลิ้มไปเลย “สวัสดีค่ะมายูมารับดอกไม้ค่ะ” “สวัสดีค่ะคุณหนูมายู รอสักครูนะคะ” ช่อกุหลาบสีขาวถูกยกออกมาทำให้ผมต้องรีบเดินเข้าไปรับให้คุณหนู สวยเหมือนกันนะว่าแต่จะเอาไปให้ใครกัน “ไปกันเถอะ” “ไปไหนครับ” “เดี๋ยวฉันบอกทางเอง รีบไปเถอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม