ตอนที่ 7

3878 คำ
เช้าต่อมาไอติมตื่นมาพร้อมกับความงงนิดหน่อยที่มีเจลลดไข้มาติดที่หน้าผากเธอแล้วไหนจะกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งห้องอีก กระเทียมเจียวชัวร์เลย! เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำด้วยความรู้สึกดีขึ้นมากคงเพราะมีคนดูแลมั้ง เธอจำได้แค่ว่าเมื่อคืนยอมให้เสี่ยฮายนอนที่นี่ด้วยเพราะว่ามันดึกมากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขานอนตอนไหนเพราะว่าเธอเผลอหลับไปก่อน “ไอติมตื่นยังครับ?” เขาถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเพราะคิดว่าเธอยังไม่ตื่นแต่ทุกอย่างมันผิดคาด ทำไมเข้านี้มันขาวจังวะ อึ๋มอีกด้วย!! เธอหันมามองเขาตาปริบๆก่อนจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจมาก เขาได้สติก่อนรีบหันหลังทันที มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันนะเว้ย! ภาพเมื่อกี้ติดตาจนอยากจะสัมผัสเลย “เสี่ยแค่จะมาตามไปกินข้าวเฉยๆไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะไอติม” เขาพูดเร็วมากกว่าปรกติไม่แสดงพิรุธออกมาเลยใช่ไหม? แต่ว่าไอติมเงียบไป เขาได้ยินเสียงประตูปิดและไม่นานก็เปิดออกมาในขณะที่ตัวเขายังนิ่งแข็งทื่อเป็นรูปปั้นเลย กลิ่นหอมแบบนี้แสดงว่าอยู่ใกล้เขาแล้ว…ออกไปหนู! อยู่ให้ห่างก่อนจะเสียการควบคุมจับกดทำเมียเร็วกว่ากำหนด! ไอ้ฮายมึงใจเย็นๆไว้ก่อน!! เขาได้ปลอบใจตัวเองแต่แบบว่ายิ่งห้องมันเงียบมากเท่าไรยิ่งกลัวใจตัวเองมากขึ้น ที่นอนมันเรียบซะจนอยากทำให้ยับจัง! ตอนนี้เหมือนว่าด้านดีกับด้านชั่วมันกำลังต่อสู้ภายในหัวเขา แต่สาบานได้เลยว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ปรกติเจอผู้หญิงมาก็เยอะอยู่นะแต่เสียอาการขั้นนี้ไม่เคยเป็นเลยจริงๆ “เสี่ยฮายคะไปทานข้าวเช้ากันค่ะ หรือว่าจะอาบน้ำก่อน?” “…” อย่าเรียกเสี่ยตอนนี้สิหนู! “ทำไมเงียบคะเมื่อกี้หนูไม่ได้โกรธนะ” เธอเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้นแล้วจับต้นแขนที่นิ่งมากจนน่ากลัวเลย เขาเป็นอะไรไปถึงเป็นแบบนี้นะ? “…” อย่ามายั่วเสี่ยตอนนี้…ปล้ำจริงๆนะเว้ย “หรือว่าเสี่ยฮายจะติดไข้จากหนูคะ?” เธอเดินอ้อมไปยืนตรงหน้าแล้วแตะหลังมือที่หน้าผากเขาแต่ว่าตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่ ใบหน้าของเสี่ยฮายมีเหงื่อซึมแบบนี้แสดงว่าอากาศร้อนไปรึเปล่านะทั้งที่แอร์ก็เปิดยี่สิบห้าองศาตามปรกตินะ ยิ่งไอติมทำแบบนี้เขาอยากจะบ้าตายให้ได้เลย! ห้ามใจตัวเองมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!! ไอติมหนูทำอะไรห่ะรู้ตัวบ้างไหม ตอนนี้ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งอันตรายนะคนดี เสี่ยอยากจับหนูกินจนจะบ้าอยู่แล้ว! ไอติมไม่ได้แต่งหน้าดูเหมือนเด็กมาก ริมฝีปากสีชมพูน่าจูบให้บวมเจ้อแล้วแววตาคือใสมากกำลังมองเขาด้วยความเป็นห่วง แต่หารู้ไม่ว่าเขาคิดจะจับเธอทำเมียอยู่รอมร่อแล้ว ร่องอกนี้มันน่าฝากรอยจังวะ! ทรมานตัวเองแต่เช้าเลย!! “เสี่ยขออาบน้ำนะหนูกินก่อนก็ได้” ต้องหาน้ำเย็นมาดับร้อนแล้วละครับไม่อย่างนั้นต้องทำอย่างอื่นแทนแน่ “เดี๋ยวหนูจะรอคะ ใช้ห้องน้ำหนูได้นะคะ” ห้องน้ำนอกจะมีของใช้ไม่ครบไงเพราะเธออยู่คนเดียว เธอเดินไปหยิบแปรงฟันอันใหม่ให้เขาก่อนจะเดินออกไปรอที่โต๊ะอาหารด้านนอกแทน เมื่อคืนเขาก็อาบน้ำในห้องนี้แหละก่อนจะแอบหอมแก้มเธออีกฟอด คิดแล้วก็เขินจังวะ! ไอติมจะรู้บ้างไหมว่าคนแก่คนนี้มันรักเธอจนอาการหนักแล้วนะ ตลอดเวลาสองเดือนที่เราเจอกันถึงแม้ว่าจะเจอกันทุกวันหยุดก็ทำให้คลั่งไคล้จนแทบบ้า ดูสิเมื่อคืนเขาหาทางมาคอนโดเธอจนได้ถึงแม้จะให้เพื่อนช่วยก็ตาม เขาเดินออกมาก็มีชุดว่างไว้แล้วส่วนชุดตัวเองหายไป แต่นี่มันชุดใครวะ? เขาก็หยิบมาใส่แหละถึงจะสงสัยอยู่ แล้วเดินออกไปเห็นว่าไอติมเด็กดีกำลังจัดโต๊ะอาหารแล้ว “ใส่ได้ไหมคะ? เสื้อพี่ชายของไอติมเอง” หน้าเขาเหมือนมีเครื่องหมายคำถามเธอเลยต้องรีบบอกให้รู้ “อ่อ เสี่ยนึกว่าของแฟนไอติมซะอีก” โล่งใจกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ อย่างน้อยเธอก็ไม่มีใครเข้ามาแทนมี่เขา “บ้า! หนูไม่มีแฟนหรือเสี่ยจะเป็นละหนูจะได้มีกับเขาบ้าง” “เอาจริง?” “หนูล้อเล่นน่า! กินข้าวเถอะค่ะเสี่ยฮาย” “…” พูดเล่นแบบนี้อีกแล้วนะหนู เสี่ยคิดจริงจังนะโว๊ย! ใครลองมาเป็นเขาดูสิจะได้รู้ว่าไอติมคนสวยเนี่ยหยอดคำหวานเก่งมาก ได้หยอกนิดหน่อยก็เอา แล้วเขารักเธอแบบนี้ก็ไม่ต้องจินตนาการเลยว่าจะคิดไปถึงสวรรค์ขั้นไหน แต่เธอก็ดึงให้ตกลงมาตายด้วยคำว่า ล้อเล่นค่ะ! ตลอดเสมอ หน้าเสี่ยเหมือนเพื่อนเหรอหนู? “แล้วนี่เสื้อผ้าเสี่ยละ?” “เอาลงเครื่องแล้วค่ะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วรอหนูรีดให้เพิ่มอีกแป๊บหนึ่งก็ใส่ได้หล่อเหมือนเดิม” “แล้วตอนนี้เสี่ยไม่หล่อเหรอ?” เด็กบ้าอะไรวะน่ารักขนาดนี้ “หล่อค่ะ แล้วนี่เสี่ยฮายไปเที่ยวดึกๆหรือไปคุมแฟนคะ?” ก็เห็นเที่ยวดึกดื่นตลอดเลยสงสัยนิดหน่อย “แฟนเสี่ยไม่มีหรอก ถ้าช่วงนี้หนูว่างมาเป็นให้ได้นะรับรองว่าดูแลดี้ดี” แค่โปรโมทตัวเองความโสดตัวเองยังไม่พอ ต้องหยอดคำหวานให้คิดไปไกลด้วยเผื่อเด็กบ้าคนนี้จะหวั่นไหวบ้าง “เสี่ยฮายก็ชอบพูดเล่นตลอดเลยนะคะ” พูดเล่นอะไรของหนูห่ะไอติม? เสี่ยพูดจริงๆนะ ทุกคำล้วนออกมาจากใจทั้งสิ้น! หน้าตาเขาเหมือนคนชอบพูดเล่นงั้นเหรอวะ นี่พูดจริงเอาจริงนะ! ไอติมคงติดนิสัยพูดเล่นพูดหยอดจนคิดว่าเขาจะเป็นเหมือนเธอรึไงห่ะ แต่ก็ช่างเถอะอย่างน้อยตอนนี้เราก็อยู่กันแค่สองคน เราจะมีเวลาศึกษากันอีกเยอะมาก ถ้าหมาไม่คาบไปแดกก่อนนะ! ใจเย็นไม่ได้แล้ว!! “เป็นไข้ทำไมไม่บอกเสี่ยห่ะมานอนซมแบบนี้มันไม่ดีรู้ไหม?” อยากจะดุมากกว่านี้อีกนะ แต่เห็นหน้าเธอแล้วใจมันอ่อนยวบเฉยเลย ไอติมทำเขาคิดถึงแทบบ้าตั้งสองวันแต่เขากลับไม่กล้าต่อว่าอะไรเธอเลยสักคำเดียว “คิดว่าเสี่ยฮายน่าจะยุ่งค่ะเลยไม่ได้บอก แล้วเสี่ยรู้จักคอนโดหนูได้ไง?” จะให้เธอบอกในฐานะอะไรละห่ะในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย แล้วอีกอย่างตอนนี้โทรศัพท์อยู่ส่วนไหนของห้องก็ยังไม่รู้ “เสี่ยถามเพื่อน” แล้วเพื่อนไปถามเมียให้อีกทีเลยรู้ “อ่อ เดี๋ยวหนูรีดผ้าให้ดีกว่าเสี่ยฮายจะได้กลับบ้าน” เขามาเฝ้าเธอแบบนี้มันดูไม่ดีเลยนะที่เราอยู่กันตามลำพัง “ไล่เสี่ยเหรอ?” ใจหล่นวูบเลยจู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกไล่ซะงั้น “เปล่าค่ะ หนูแค่ไม่อยากให้เสี่ยฮายต้องขาดงาน” งานเขาค่อนข้างยุ่งมาก เธอรู้เพราะเคยไปออฟฟิศอยู่ไม่กี่ครั้งก็พอมองออก เสี่ยฮายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ทั้งที่เมื่อกี้ยังยิ้มให้อยู่เลย หรือว่าวันนี้มีประชุมงานอะไรรึเปล่า “วันนี้เสี่ยว่าง เสี่ยจะอยู่ดูแลหนูเอง ไอติมอย่าดื้อ” เขาต้องไม่ใจอ่อนกับเธอง่ายๆสิ “วันนี้ว่างจริงเหรอคะ?” “ว่างสิ ใครมาเหรอ?” เสียงกริ้งประตูมันดังขึ้นคงจะเป็นเพื่อนเธอละมั้ง “งั้นแป๊บนึงนะเสี่ยฮาย หนูว่าหนูไม่ได้นัดใครมานะ” เธองงนิดหน่อยแต่ก็เดินไปดูก่อนจะอ้าปากค้าง แล้วหันไปมองเสี่ยฮายที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเท่าไร พี่ชายแวะมาหา! ถ้าพี่ชายเจอเสี่ยฮายละก็เธอตายแน่เลย!! “เป็นอะไรรึเปล่าไอติม?” เขาเดินมาหาแต่เห็นสีหน้าเธอแล้วเหมือนกังวลอะไรอยู่ “พี่ชายหนูมา!! เสี่ยฮายมานี่ก่อนเร็ว!!” เธอคว้ามือเขาดึงไปห้องนอนแล้วหนักใจมากในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอไม่รู้ว่าจะเอาคนตัวใหญ่ขนาดนี้ไปซ่อนที่ไหนดี “เดี๋ยวๆนี่จะไม่อธิบายกันหน่อยเหรอ?” ลากมาเข้าห้องนอนแบบนี้คิดดีไม่ได้นะ “พี่ชายมาค่ะแล้วดูเสี่ยตอนนี้สิหนูคงโดนด่าแน่เลย ซ่อนตัวก่อนนะ…ขอร้อง!” ต่อให้เป็นคนโง่มากก็ต้องคิดแหละว่าเธอกับเขาได้กันแล้ว ทางที่ดีซ่อนเขาไว้น่ะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด “อ่อ...งั้นเสี่ยจะอยู่แต่ในห้องนอนนะหนูจะได้ไม่เดือดร้อน” ดูท่าจะกลัวพี่ชายมากนะเนี่ย เขาจะแอบฟังแล้วก็แอบดูด้วยไหนๆก็อยากได้มาเป็นเมียแล้ว “น่ารักที่สุดเลย!” เธอรีบวิ่งออกจากห้องนอนไม่ลืมจะปิดประตูเอาไว้ ก่อนจะรีบเปิดประตูให้พี่ชายที่หน้าบึ้งตึงนิดๆเดินเข้ามาแล้วกวาดสายตามอง “ช้าจังไอติม” อาร์มมองน้องสาวที่มีเจลลดไข้ติดหน้าผากอยู่ ก่อนจะลองแตะตัวก็ยังร้อนพอสมควรอยู่สงสัยจะไม่สบายหนักมากแล้วดื้อไม่ยอมไปหาหมออีกตามเคย “จะมาทำไมไม่บอกก่อนละ” เธอมองบนนิดๆนะแบบนี้ “แล้วพี่โทรมาเคยรับไหมห่ะ? แล้วนี่ไม่สบายไปหาหมอรึยัง พี่มาหาเพื่อนมันรถชนเมื่อคืนแต่แวะมาหาไอติมก่อน” อาร์มเดินมานั่งและพึ่งจะสังเกตว่ามีชามข้าวต้มถึงสองชามที่น่าจะพึ่งกินแต่ยังไม่ได้เก็บ นั่นแสดงว่าน้องสาวไม่ได้อยู่คนเดียว “ของใคร?” อาร์มหรี่ตามองพร้อมถามน้องสาว “ของเพื่อนน่ะ! พึ่งออกไปก่อนพี่อาร์มจะมาเอง” เธอควรจะเอายังไงดีละเนี่ย “เพื่อนหรือผัวห่ะ? นี่เอาผู้ชายมากกคอนโดรึเปล่าเนี่ย” ไม่ว่าเปล่าแต่มองไปรอบห้องพึ่งจะเห็นรองเท้าคู่ใหญ่ไซส์ผู้ชายแน่นอน อาร์มเดินไปดูแล้วมองหน้าน้องสาวอีกครั้ง “เพื่อนเป็นกระเทยมันลืมไว้! พี่อาร์มน่ะคิดมากนี่หนูอายุเท่าไรแล้วอย่าลืมสิ ทำเหมือนว่าหนูเป็นเด็กๆไปได้!” เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหดเล็กลงมาเพราะพี่ชาย “ถ้ามีแฟนให้บอกพี่ด้วยอย่ามาโกหกกัน แล้วมันอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” อาร์มวางรองเท้าลงแล้วเดินไปห้องนอนน้องสาว แล้วเปิดประตูเข้าไปเช็คดูแต่ว่ามันไม่มีอะไรเลยแต่ใครจะไว้ใจได้วะ เขาก้มลงมองที่ใต้เตียงแล้วมันไม่มีใคร เลยเดินไปดูห้องน้ำก็ไม่เห็นมีใครด้วย หันกลับมาอีกทีน้องสาวก็ยืนกอดอกมองแล้ว “บอกแล้วว่าของเพื่อนพี่น่ะคิดมาก แล้วหนูมีแฟนมันจะเป็นอะไรห่ะ?” “พี่แค่เป็นห่วง ผู้ชายสมัยนี้มันไว้ใจไม่ได้หรอก ถ้าจะคบใครให้บอกพี่ก่อน ถ้าพี่ให้ผ่านค่อยคบโอเคนะตามนี้ไอติม” “พี่อาร์มนี่มันเรื่องส่วนตัวหนูนะ” “ไอติมอย่าดื้อ! จำได้ไหมว่าตัวเองเกือบถูกข่มขืนมาแล้ว อย่าไว้ใจใครง่ายๆอีก พี่เป็นห่วงมากนะเข้าใจหน่อยสิ!” “หนูขอโทษ เราออกไปข้างนอกเถอะแล้วพี่อาร์มช่วยหาโทรศัพท์หน่อยขว้างทิ้งเมื่อวันก่อน” “สันดานเสียไม่เปลี่ยน! พี่บอกแล้วไงว่าถ้าหงุดหงิดอย่าทำร้ายข้าวของไปหาเร็วเผื่อมีคนติดต่อ เดี๋ยวพี่ช่วยหา” ประตูห้องปิดเสียงดังฮายถึงได้ออกมาจากตู้เสื้อผ้า เขาไม่เคยเป็นชู้ใครแต่รู้สึกว่าเป็นชู้เลย แล้วสองพี่น้องคุยกันเนี่ยเขาได้ยินหมดทุกคำโดยเฉพาะตอนที่ไอติมเกือบโดนข่มขืน! เขาอยากรู้รายละเอียดขึ้นมาทันทีว่าใครทำแบบนั้นกับเธอ คนแสนดีไม่ควรเจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น! กว่าพี่อาร์มจะกลับไปเล่นเอาเหนื่อยตกไปเยอะเลยเพราะสงสัยทุกอย่างจนเธอแถแทบโป๊ะแตกได้อยู่แล้ว ว่าแต่ตอนนี้เสี่ยฮายจะเป็นไงมั้งเนี่ย เขาอยู่ในห้องนอนก็คงจะได้ยินที่พี่อาร์มดุเธอแล้วแน่นอนเลย เธอมีปมเรื่องความรักมาก่อนแล้วนั่นทำให้ไม่กล้าพอจะเปิดใจและพยายามปิดตายคววามรู้สึกมาตลอด “ว๊าย!! เสี่ยฮายหนูตกใจหมด!” แค่เปิดประตูเข้ามาเขาก็จับมือเธอดึงลงไปนั่งบนตักแล้ว ย้ำนะว่านั่งบนตัก! เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วเงยหน้ามองคนสีหน้าเครียดชัดเจน “เล่าให้ฟังได้ไหม?” หมายถึงเรื่องอดีตของเธอน่ะ “มันนานมาแล้วตั้งแต่ป๊อปปี้เลิฟตอนมอ.ปลายนู้นน่ะค่ะ” หลายปีแล้วแหละแต่เพราะเรื่องในวันนั้นทำให้ปิดใจถึงวันนี้ ใช่ว่าเสี่ยฮายจะไม่ดีนะแต่เพราะเธอกลัวเองต่างหาก ความรักมันเคยโหดร้ายกับเธอมาก ตอนนั้นทั้งเจ็บทั้งทรมานแล้วยังเกือบเสียตัวให้กับผู้ชายที่คิดว่ารักกัน เธอกำลังจะเปิดใจให้กับเสี่ยฮายที่แสนดีมาก แต่เพราะว่าคำพูดพี่อาร์มในวันนี้เหมือนเปิดแผลนั้นอีกครั้ง เธอไม่อยากเจ็บ ไม่อยากเสียใจและไม่อยากจะร้องไห้อีกต่อไปแล้ว “ตลอดสองเดือนที่เราใกล้ชิดกันคิดอะไรบ้างรึเปล่า?” จู่ๆก็กลัวคำตอบขึ้นมาเฉยเลย “เราแค่สอนเล่นกีต้าร์กันไม่ใช่เหรอคะ?” “ถ้าเสี่ยบอกว่าไม่ใช่ละ ไอติมจะทิ้งระยะห่างกันไหม?” “…” เธอได้แต่กะพริบตาปริบๆไม่กล้าตอบอะไรที่จะทำร้ายจิตใจเขา เพราะคำตอบมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอต้องทิ้งระยะห่างมากกว่านี้แน่นอน เธอไม่อยากจะให้เสี่ยฮายต้องมาเสียเวลากับคนอย่างเธอมากกว่านี้อีกแล้ว “งั้นฟังนะ” “คะ?” “นับจากวันนี้เสี่ยจะจีบหนู” “จีบ!!” “ที่ผ่านหนูจีบเสี่ยมาเยอะแล้วตอนนี้ถึงคราวใจสั่นแบบเสี่ยบ้าง!” เขาวางหน้าลงที่บ่าเธอยิ้มกว้างชนิดที่เห็นฟันเกือบทุกซี่ ที่ผ่านมาสองเดือนกว่าไอติมหยอดคำหวานได้ดีซะจนคนแก่มันจะหัวใจวายวันไหนก็ไม่รู้ แล้วที่สำคัญในตอนนี้ลูกน้องที่ออฟฟิศคิดว่าเธอคือแฟนเขาแล้ว แต่ยังไงอนาคตก็ได้เป็นแฟนเสี่ยแน่นอน! “ก่อนอื่นปล่อยหนูลงแล้วอย่าพูดเล่นแบบนี้อีกนะ” เธอดันหน้าเขาออกแล้วขยับตัวไปนั่งข้างๆแทน เธอเริ่มง่วงขึ้นมาแล้วคงเพราะกินยาไปแล้วยังต้องมารับมือกับพี่ชายขี้หวงอีก “หน้าเสี่ยเหมือนคนชอบพูดเล่นเหรอ?” ไม่ใช่คนพูดเล่นหรือติดตลกที่พูดแล้วจะไม่น่าเชื่อถือเลย ตรงกันข้ามคือจริงจังชัดเจนมาก นี่ถ้ามองจากดาดฟ้าก็รู้ว่าเขาคิดกับเธอจริงๆ “บางทีอาจจะเหมือนเนื้อคู่หนูก็ได้…หนูพูดเล่นนะ!” “เดี๋ยวมะเหงกเลยนิ! นอนไปเลยจะนั่งเฝ้าจนกว่าจะหลับ!” นับเป็นการจีบกันที่ใกล้ชิดมากเลย แล้วไอ้การพูดเล่นทั้งที่รู้ว่าเขาคิดจริงจังมันสมควรไหมห่ะ เต๊าะเล่นๆระวังได้เป็นผัวจริงๆนะหนู! “แค่นี้ต้องดุด้วย” เธอขยับตัวเข้าไปใกล้ทำหน้างอใส่เสี่ยฮายหันมาเขกหัวเธอจริงๆ “โอ๊ย! เจ็บอ่า” “ตาจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้วอย่ามาฝืนแกล้งเสี่ย ไปนอนเลย” ดื้อเหมือนกันนะเนี่ย แต่พอบอกด้วยสีหน้าจริงจังก็ฟังกันง่ายๆ เด็กนี่อารมณ์เปลี่ยนไปมาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? เขาขยับตัวไปนั่งข้างๆหยิบโทรศัพท์มาดูงานไปพลางๆกับลูบหัวกล่อมเด็ก สาบานได้ว่าตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่แม่งเหมือนแฟนชิบหาย “เสี่ยฮายเราเป็นพี่น้องกันไม่ได้เหรอ?” “ทำไม?” “ก็หนูคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่มั่นคงกว่า” ถ้าเป็นคนรักก็อาจจะเลิกกันได้ในสักวัน แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจะมองหน้ากันติดอยู่ไหมละ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราก็จะมีมิตรภาพที่ดียาวนานได้มากกว่าอีกนะ เธออาจจะเห็นแก่ตัวนะแต่คิดมากจนหาความสุขไม่เจอ สุดท้ายเราจะห่างหายกันไปเอง! “ไอตินเสี่ยอายุยี่สิบเก้าปีกำลังจะเข้าเลขสามแล้วนะ” เธอหันมาแล้วปรือตามองเขา ช่างมีความพยายามฝืนความง่วงเหลือเกินนะหนู เขาลูบผมเธอเบาๆยังไม่ตอบอะไรจนเธอต้องถามออกมาด้วยน้ำเสียงเอือยของคนใกล้จะหลับเต็มที “แล้วยังไงคะ?” “เพื่อนฝูงเสี่ยมีเยอะแล้ว พี่น้องก็โคตรเยอะมีเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เมียที่ยังไม่มี” “หมายความว่าไง?” “เสี่ยไม่อยากได้หนูเป็นแค่น้องสาว แต่เสี่ยอยากได้หนูเป็นเมียเข้าใจไหม?” “!!” เธอจะต้องหลบหน้าเว้นระยะห่างกับเขาแล้วแหละ หลังจากผ่านวันนั้นที่พูดความจริงภายในใจออกไปทุกอย่างไอติมก็หายออกจากชีวิตเขาเลย ไม่ว่าโทรหา ส่งข้อความทั้งในแชทและไลน์ก็ไม่เคยตอบหรือแม้แต่อ่านด้วยซ้ำ เขาไปคอมเม้นทั้งในเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมเธอทุกวันก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับมาสักนิดเดียว นี่เธอเว้นระยะห่างเขาขนาดนี้เลยเหรอวะ เฮ้อ…กูจะบ้าตาย! “ไหนอาการเป็นไงเล่าให้กูฟังสิไอ้ฮาย” เอมแวะมากินข้าวเที่ยงกับเพื่อนแต่ว่ามันห่อเหี่ยวเหลือเกินจนน่าสงสารอีกแล้ว “กูอยากได้เขาเป็นเมียวะ” เขาพูดออกมาแบบไม่สนใจหน้าเพื่อนว่ามันจะออกอาการขนาดไหน “ใครวะ?” ประเด็นมันคือตรงนี้แหละ “เนี่ยหลายวันแล้วนะเว้ยที่เขาหลบหน้ากู” เป็นหลายวันที่โคตรทรมานใจแล้วยังไม่มีปัญญาจัดการความรู้สึก “ใคร?” ถามแบบเดิมเพราะมันไม่ยอมบอก “กูกินข้าวไม่อร่อย นอนก็ไม่หลับ จ้องมองแต่โทรศัพท์ ตามส่องเฟสบุ๊คอินสตาแกรมเขาทุกคืน ใครทำอะไรก็ไม่ถูกใจกูสักคนเลย แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรวะ?” อาการมันไม่ใช่อกหักเพราะเราไม่เคยคบกันมาก่อน แม้แต่รูปถ่ายไว้เป็นความทรงจำก็ไม่มี ชีวิตกูแม่งเศร้าจังวะ! “เดี๋ยวก็หายเองแหละ เชื่อกู” กูเคยผ่านมาแล้วเพื่อน แต่มึงก็เคยผ่านมาเหมือนกันนะไอ้ฮายทำไมถึงไม่รู้อาการวะ “มึงไม่…” ค้างเลยแหละคำพูดที่จะไหลออกมาจากปาก สายตาจ้องมองคนที่เดินเข้ามาในร้านอาหารเปลี่ยนบรรยากาศสีเทาให้สดใสขึ้นมาทันทีเลย ไอติมมากับพี่ชายเว้ย!! “น้องไอติมมาทานอาหารเหรอสนใจร่วมโต๊ะกับพี่ไหม?” เอมถามไม่ดังมาก “จะดีเหรอคะ?” เธอไม่กล้ามองเสี่ยฮายเลยเพราะหลังจากวันนั้นก็พยายามหลบหน้าเขาอยู่ “มากินด้วยเถอะวันนี้ไอ้ฮายมันเลี้ยง” เอมหันไปหรี่ตามองเพื่อนแล้วยิ้มกว้างออกมาแบบน่าถีบที่สุด “กูเหรอ?” ไอ้เหี้ยเอมมึงปรึกษากูบ้างก่อนจะพูดอะไรไป แต่เอาเถอะเด็กมันน่ารักให้จ่ายหมดหน้าตักก็ยอม เขานั่งเงียบไม่แสดงอาการอะไรออกมาทั้งที่คิดถึงมากจนจะบ้าอยู่แล้ว ไอติมทำนิ่งเฉยแบบนี้กับเขาได้ไงวะเจ็บฉิบหาย!! “พี่อาร์มว่าไงคะ?” “แล้วแต่ไอติมดิแต่เร็วก็ดีพี่ขึ้นเครื่องตอนบ่าย” “งั้นก็ได้ค่ะพี่เอม” เธอยังคงไม่พูดกับเสี่ยฮายเหมือนเดิม “นั่งนี่สิไอติม” เขาดึงเก้าอี้ให้เธอนั่งส่วนพี่ชายเธอก็นั่งข้างไอ้เอมแล้วทุกอย่างมันก็เลยง่ายขึ้นมาก ไอติมยังคงน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแถมยังยิ้มเก่งด้วยเพียงแต่ไม่ยิ้มให้เขา ไม่ยิ้มให้เฉพาะเขาคนเดียว! อาหารเที่ยงนำมาเสิร์ฟค่อนข้างเยอะพอสมควรเพราะเขาสั่งมาเพิ่ม แล้วก็หาจังหวะเวลาจะคุยกับเธอจนกระทั่งเห็นว่าไอ้เอมมันคุยกับพี่ชายเธอดูจะถูกคอ “โกรธเสี่ยเหรอ?” เขาถามเสียงดังกว่ากระซิบนิดเดียวแต่เธอหันหน้ามาแสดงว่าได้ยิน ไอติมมองหน้าเขาประมาณสิบวินาทีได้แล้วหันหน้าไปคุยกับคนอื่นแทน แม่งเจ็บหัวใจจังเลยวะ! ถ้าทำแบบนี้เอาปืนมายิงเสี่ยเถอะหนู!! “แล้วพี่อาร์มจะมาอีกวันไหนหนูจะได้ไปรับ?” พี่อาร์มชอบมาแบบเซอร์ไพรส์ตลอดเลย “น่าจะเดือนหน้านั่นแหละไปเที่ยวมัลดีฟส์กับเมีย” อาร์มบอกอย่างอารมณ์ดี “ฮันนีมูนรอบสองเหรอคะ?” “กลับมาเตรียมทองรับขวัญหลานเลยไอติม” “เหอะ! กว่าพี่จะมีน้ำยาหนูคงแต่งงานก่อนพอดี!” เธอแค่พูดเล่นแต่กลับเสียวสันหลังวูบเหมือนว่ามีใครจ้องอยู่งั้นแหละ “เวอร์ไปแล้ว” ฮายนั่งพยายามนิ่งฟังพลางกำมือแน่นทั้งที่ใจอยากจะกระชากตัวไอติมกลับบ้านไปซักถามเรื่องที่เธอพูดออกไป แต่งงานงั้นเหรอ...ใครมันมาจีบเธอแข่งกับเขาวะ? หลังจากกินข้าวเสร็จไอติมต้องขับรถไปส่งพี่ชายที่สนามบิน เขาได่แต่มองตามเธอเดินออกไปจนลับสายตาเลย “เป็นไรของมึงอีกเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวบึ้งตึง?” ทีตอนน้องไอติมอยู่เนี่ยจนยิ้มปากแทบจะฉีกถึงรู้หูเลยนะมึง แต่ดูตอนนี้ทำหน้าเหมือนหมาป่วยอีกแล้ว “ไอติมคุยกับใครอยู่วะกูอยากรู้” กูจะตามไปกระทืบมันต่อให้โดนด่าแพ้แล้วพาลก็ช่างเถอะ “เห็นดิวบอกว่าคุยเยอะอยู่นะ แต่มันธรรมดาของคนฮอตที่จะมีผู้ชายตามจีบไม่หยุดหย่อน มึงก็อย่าหลงรักน้องมันละคู่แข่งเยอะชิบหาย เผลอๆนะจะอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้คบด้วยซ้ำ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม