วันนี้มีเรียนแต่เช้าเลยแต่ว่าเธอเป็นคนนอนเร็วตื่นเช้าเลยไม่ลำบากเท่าไร แต่ว่าเย็นนี้จะไปเจอเสี่ยฮายจะน่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วละ เธอจะเป็นคนบอกเขาเองว่าสอนพอแล้ว
“วันหยุดแกหายไปไหนฉันไปหาไม่อยู่เลย” ดิวหันไปถามเพื่อนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างมาติวหนังสือกัน อันที่จริงไอติมก็ไม่ค่อยว่างอยู่แล้วแหละเพราะเดี๋ยวทำนู้นทำนี่ไม่หยุด
“ฉันเรียนกีต้าร์อยู่น่ะ แต่กำลังจะเรียนจบแล้วแหละ ว่าแต่แกมีอะไรรึเปล่า?”
“ไปเที่ยวกันไหมคืนนี้เลย”
“ก็ได้แต่ถ้ากลับก่อนอย่าบ่นนะ แกเข้าใจฉันนะ”
“เข้าใจ แค่แกไปเปิดหูเปิดตามั้งก็ดีใจแล้ว”
อาจารย์เข้ามาพอดีเธอเลยไม่ได้คุยรายละเอียดเท่าไรว่าใครไปบ้าง วันนี้ตอนเย็นมีนัดกับเสี่ยฮายเพื่อสอนเล่นกีต้า เธอก็เป็นคนโทรไปยกเลิกเองโดยไม่ได้บอกเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ เขาน่ะใจดีมากเลยแหละ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในตอนนี้เธอนอนอยู่บนเตียงอีกอีกนิดเดียวก็จะไปปาร์ตี้กับเพื่อนแล้ว ความจริงยังรู้สึกผิดนิดหน่อยนะที่ยกเลิกนัดกะทันหันแต่คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
ไอติม : หนูขอโทษจริงๆนะคะอย่างอนหนูนะ
ไอติม : ขอบคุณที่สอนกีต้าร์หนูตั้งสองเดือนนะคะ
ไอติม : คืนนี้หนูไปเที่ยวอาจจะไม่ได้คุยนะคะ
เสี่ยฮาย : ดูแลตัวเองด้วยนะ
เสี่ยฮาย : อย่าดื่มเยอะนะครับ
ส่งข้อความไลน์ไปบอกเขาแล้วคงจะไม่เป็นอะไรมั้ง เธอหยิบชุดเกาะอกเอวลอยมาใส่คู่กับกางเกงยีนต์ แล้วปล่อยผมตรงยาวไม่ให้ดูโป๊จนเกินไป แล้วจากนั้นก็หยิบกระเป๋าพร้อมกุญแจรถขับออกไปตามผับที่เพื่อนนัดกันไว้คืนนี้
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าๆเธอมาถึงผับดังเรียบร้อยแล้วเดินไปโต๊ะที่เพื่อนจองเอาไว้ ว่าละดิวต้องมากับแฟนอีกตามเคย
“แกมาคนเดียวพวกฉันตายเรียบ!!” เพื่อนสวยมากอยู่แล้ว คืนนี้แต่งตัวดีเซ็กซี่นิดๆใครๆก็มองกันหมดเลย
“ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า พี่เอมมานานยังคะ?”
“ไม่นานหรอก คืนนี้ไปนอนคอนโดพี่นะจะได้ไม่ขับรถดึก”
“ใช่ แกค้างคอนโดฉันนี่แหละ”
“ก็ได้ค่ะ ดีเหมือนกันขี้เกียจขับรถพอดี”
ฮายเดินออกจากห้องน้ำกำลังจะไปโต๊ะเพื่อนแต่ต้องหยุดชะงักเพราะไอติมอยู่ที่นี่ เธอสวยมากแล้วยังดูเซ็กซี่มากเกินไปจนน่าหวงอีก เขารีบเดินตรงไปอย่างรวดเร็วเลย ในใจอยากจะต่อว่าที่แต่งตัวแบบนี้แต่ก็ทำได้เพียงนิ่งเท่านั้น
ผู้ชายหลายคนแอบมองเธอมันทำให้เขาหวงมากจนไม่รู้ว่าจะอดทนได้อีกนานขนาดไหน ไอติมยังไม่เห็นเขาคงเพราะว่าเขาพึ่งมานั่งเงียบๆมั้ง เธอเต้นเบาๆแต่ดูเซ็กซี่น่ามองมากเกินไป สุดท้ายเขาทนไม่ไหวเดินเข้าไปใกล้ๆจับต้นแขนเธอเบาๆ
“เสี่ยไม่คิดว่าหนูจะมาด้วย” ตอนนี้ไม่มีคนสนใจเขาเท่าไรหรอกต่างคนต่างสนุกกันอยู่ ส่วนเด็กคนนี้ก็ทำหน้าเหว่อเลย
“เสี่ยฮายมาด้วยเหรอคะ ทำไมไม่บอกหนูเลยละ” เธอนึกว่าคืนนี้เขาไปเที่ยวที่อื่นซะอีก ปรกติเสี่ยฮายเที่ยวเก่งอยู่แล้ว แต่ที่รู้เพราะว่าเขามักจะบอกเสมอว่าอยู่ที่ไหนกับใครและทำอะไรอยู่
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้?” เขาหวงเธอเข้าใจไหมเนี่ย!
“แล้วไม่สวยเหรอคะ?” เธอหมุนตัวให้เขาดูรู้สึกได้ถึงความมึนนิดๆจนเซเล็กน้อย แต่ว่าเสี่ยฮายจับเธอเอาไว้ทันไม่งั้นล้มลงพื้นอายคนแน่เลย เขาดึงเธอเข้าชิดตัวเหมือนกับว่ากลัวใครจะมาโดนงั้นแหละ แต่ที่นี่มันผับนะไม่ใช่สวนสาธารณะที่คนจะอยู่ห่างกันได้
“หนูดื่มไปเยอะรึเปล่า?” ถ้าให้เดานะเธอต้องคออ่อนมากแน่นอน เพราะตอนนั้นที่บาร์แค่ไม่กี่แก้วเริ่มเมาแล้ว
เธอยิ้มกว้างก่อนจะชูสามนิ้วให้เขารู้ ไม่รู้สิว่าทำไมถึงรู้สึกว่าเราใกล้กันเกินไปและลมหายใจเขาตกกระทบหน้าผากเธออยู่
“หนูเมาแล้วไปนั่งกับเสี่ยดีกว่านะ” เธอไม่ได้เมามากคงจะรู้ตัวอยู่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วที่นี่ไม่ได้มีคนดีอะไรมากเลย
“แล้วเสี่ยฮายพึ่งมาเหรอคะ?” เธอมาสักพักเขายังไม่โผล่มาเลย แต่อยู่ๆก็มาอยู่ตรงหน้าและที่สำคัญคือไม่ยิ้มให้กันเหมือนทุกวันด้วย หรือว่ากำลังอารมณ์เสียอะไรมารึเปล่านะ
เขาพาไอติมมานั่งที่โต๊ะแล้วสั่งน้ำอัดลมให้เธอดื่มแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอร์เพราะความหวังดีล้วนๆเลยนะ
“ง่วงรึยังไอติม? ปรกติเวลานี้หนูต้องนอนแล้วนะ…เสี่ยจำได้” เขาจำได้ว่าเธอนอนเก่งมากแต่ก็ตื่นเช้ามากเช่นกัน
“นิดหน่อยค่ะ อีกเดี๋ยวก็กลับแล้วหนูไปค้างกับดิวเสี่ยฮายไม่ต้องเป็นห่วงนะ” แววตาเขาแสดงออกชัดว่าเป็นห่วงเธออยู่
แต่ว่าที่นี่มันมีแค่แสงสลัวทำให้เธอเห็นหน้าเขาไม่ชัดเลย แววตาเขาก็แปลกไปกว่าทุกครั้งที่เจอกันแต่คงอาจจะเพราะว่าเธอมึนหัวด้วยมั้งเลยเป็นแบบนี้ เธอสังเกตนะว่าเขามาดื่มน้ำอัดลมกับเธอแทนเครื่องดื่มแอลกอฮร์
“เสี่ยก็ว่าจะค้างกับไอ้เอมเหมือนกัน หนูขับรถมาใช่ไหม?” เธอขับรถมาแต่เขาไม่ได้ขับมา วันนี้เพื่อนไปรับถึงบ้านหลังจากที่ไอติมโทรมายกเลิกนัดเย็นนี้
เขาไปนอนค้างคอนโดเพื่อนไม่บ่อยเท่าไรนักเพราะว่ามันมีเมียแล้วเลยเกรงใจมาก แต่ถ้าคืนนี้ไอติมไปที่นั่นเขาก็จะไปด้วย แล้วช่างมันพอดีที่จะขับรถให้เธอเอง เขาอยากจะเห็นเหลือเกินว่าภายในรถจะดูดีเหมือนเจ้าของไหม
“หนาวไหม?” ความจริงมันก็ร้อนแหละแต่เขาหวงไง
“ไม่ค่ะ ดิวกับพี่เอมมาแล้ว” เธอมองไปทางเพื่อนที่นั่งโต๊ะด้วยกันแต่เพื่อนเธอท่าจะเมามากอีกแล้วนะ
“กลับกันเลยไหม?” เอมหันมาถามเพื่อนที่แม่งกินน้ำอัดลมกับน้องไอติม มันคงสร้างภาพแน่เลย แล้วเรื่องที่เขาให้เบอร์โทรกับไลน์ของไอติมไปเมื่อสองเดือนโน้นมันก็ไม่อัพเดตอะไรสักนิดเดียว สงสัยเด็กไม่เล่นด้วยมั้งเลยไม่ได้จีบต่อ
“กลับเลย คืนนี้ไอติมไปนอนคอนโดมึงเหรอ?”
“เออ มึงก็ออกมานอนโซฟาแล้วกัน”
“เออ กูไม่แย่งที่นอนน้องเขาหรอกน่า เดี๋ยวกูขับรถของเพื่อนเมียมึงเอง ส่วนมึงขับนำไปเลยนะ”
“โอเค ฝากซื้อข้าวต้มร้านเดิมด้วย”
เขาให้เพื่อนเดินนำไปก่อนเลยแล้วถึงพาไอติมเดินตามไปและด้วยความที่จอดรถคนล่ะทางทำให้แยกทางกัน แต่ยังไงจุดหมายคือคอนโดเพื่อนเหมือนเดิม เอมมันรู้จักเขาดีถึงได้กล้าไว้ใจให้พาเพื่อนสนิทเมียไปแบบนี้ เขาก็ไม่ใช่คนจะลวมลามคนเมาด้วยสิ
“ใส่เสื้อเสี่ยไว้แล้วนี่รถหนูเหรอ?” เรียนอยู่แค่ปีสองอายุแค่ยี่สิบปี แต่เธอขับ BMW 3 Series ราคามันหลักล้านเลยนะ
“ค่ะ นี่กุญแจค่ะ”
“เดี๋ยวใส่เสื้อเสี่ยไว้ด้วยเผื่อแอร์มันเย็นเกินไปแล้วจะหนาว” นี่ข้ออ้างอะไรก็ไม่รู้ แต่ไอติมยิ้มแล้วรับเสื้อก่อนจะหัวเราะเบาๆ ก็รถราคาขนาดนี้ถ้าแอร์ไม่ดีคงขายไม่ได้หรอก
“รถหนูรกหน่อยนะคะ”
“นี่รกแล้วเหรอ?” ถ้ารถเธอรกนะในรถเขาก็รังหนูดีๆนี่เอง แล้วที่สำคัญภายในรถของเธอกลิ่นหอมมาก
ไอติมเอนตัวพิงไปกับเบาะแล้วหลับตานิ่งในระหว่างที่เขาขับรถ เธอรู้สึกได้เลยว่าเขาขับไม่เร็วมากทั้งที่ตอนนี้ถนนค่อนข้างโล่ง ตอนนี้มึนหัวไม่มากเท่าไรแต่จะให้เดินตรงๆก็คงไม่ได้หรอก
“คิดยังไงมาเที่ยว?”
“ก็เปิดหูเปิดตาบ้างค่ะอีกอย่างหนูเหงา”
“คุยกันทุกวันหนูยังเหงาเหรอ?”
“ก็นิดหน่อยค่ะ เสี่ยฮายมาเที่ยวเกือบทุกคืนไม่เหนื่อยบ้างเหรอคะ?” เพราะว่าคุยกันทุกวันทำให้รู้ว่าเขาเที่ยวเก่งมากขนาดไหน และเธอกับเขานิสัยค่อนข้างต่างกันพอสมควร
“ดึกๆมันเหงา พอกินเหล้าแล้วไปนอนมันก็หลับสบายดี แต่เสี่ยก็อยากเป็นแบบหนูบ้างนะ”
“นึกว่าอยากเป็นของหนูซะอีก”
“แล้วเป็นได้ไหม…ให้เสี่ยเป็นผู้ชายของหนู”
“เสี่ยฮายนี่พูดเล่นเก่งจังเลยนะคะ แล้วนี่เราจะแวะซื้อข้าวต้มร้านไหนกันเหรอ ใช่ร้านที่เสี่ยฮายเคยชวนหนูไปไหมคะ?” เธอจำได้ว่าคืนแรกที่เจอกันก่อนจะกลับเขาชวนเธอไป แต่ตอนนั้นมันดึกมากและเราพึ่งรู้จักกันเลยไม่กล้าไป
“ครับ หนูเอาด้วยไหมร้านนี้เสี่ยกินมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว” เขาพูดจบไอติมก็หัดมามองหน้ากัน
“เสี่ยฮายอายุเท่าไรคะ?”
“อายุยี่สิบเก้าปีใกล้จะสามสิบปีแล้ว ทำไมเหรอ?” ไอ้เด็กคนนี้ก็หันมาทำหน้าตาน่าจูบใส่แล้วนับนิ้วตัวเอง นี่กำลังคิดเหรอว่าร้านข้าวต้มร้านนี้เปิดมากี่ปี แล้วอายุของเขาเนี่ยห่างกับเธอเกือบจะสิบปีได้เลยมั้ง
ไอติมพึ่งจะอายุแค่ยี่สิบปีในขณะที่อีกไม่กี่เดือนเขากำลังจะแก่ไปอีกปีแล้วนะ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าเธอแค่หว่านเสน่ห์หรือกำลังเนียนจีบเขาอยู่กันแน่ เขาอยากจะเต๊าะเธอบ้างแต่สุดท้ายกลับเป็นเขาเองที่เขินเธอมากเกินไปเสมอ
“เอาข้าวต้มไหม?”
“เอาใส่ไข่ด้วยค่ะ ให้หนูลงไปด้วยไหม?”
“นั่งอยู่ในรถนี่แหละดีแล้ว” ใครจะบ้าให้เธอลงจากรถไปละ เขาขี้หวงแค่ไม่ต้องการให้ใครเห็นหรือสนใจเธอเท่านั้นเอง
ข้าวต้มร้านนี้เขามากินบ่อยมากในช่วงหลังจากเที่ยวจนเกือบเช้า และเขามาเที่ยวผับบาร์แถวนี้บ่อยพอสมควรเลยแวะตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส
หลังจากคืนนี้ไว้เรามีสติมากกว่านี้ก่อนเขาจะต้องคุยกับไอติมอย่างจริงจังในเรื่องของเราสักที เธอไม่เคยพูดว่ารู้สึกอะไรกับเขาเลยสักครั้ง แต่คำพูดคำจากลับหวานได้ใจ และการกระทำที่ใส่ใจกันแบบที่ไม่มีใครทำเลย เขาจะไม่ยอมให้เธอไปบ่นเหงากับใครได้อีกแล้วเพราะหวงมาก!
ไอติมเป็นคนที่ผู้ชายพร้อมจะช่วยคลายเหงาเสมอเพียงแค่เธอพูดออกมาก็เท่านั้น อย่างน้อยหนึ่งในผู้ชายพวกนั้นก็เขาแหละด้วย เธอเป็นคนเฟรนลี่แต่ถือตัวเว้นระยะห่างเป็นพอดี และตลอดเวลาก็เหมือนมีบางอย่างกั้นกลางเราไว้เสมอ
เหมือนเธอตีกรอบความสัมพันธ์ของเราเอาไว้
แล้วเขาพยายามออกนอกกรอบนั้นอยู่คนเดียว!
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ใครจีบเธอบ้างแล้วเธอคุยกับใครบ้าง อันที่จริงเขาแทบไม่รู้จักอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวเธอเลยสักนิดเดียว นอกจากเรื่องหลับนอนเร็วมาก ปากหวาน และเรียนคณะอะไร
เธอเหมือนเปิดเผยนะแต่ความจริงปิดกั้นต่างหาก!
แล้วไม่ว่าตอนนี้เธอจะคิดอะไรกับเขาอยู่แต่รู้ไหมว่าเขาคิดเกินเลยไปไกลแล้ว เขาอยากจะดับเครื่องชนแต่ก็ลังเลกลัวว่าเธอจะหายไปจากชีวิต แต่จะให้อยู่แบบนี้มันก็อึดอัดมากนะ
เขาอยากได้เธอมาครอบครองเป็นเจ้าของคนเดียว
เขาต้องการเธอมากกว่าใครๆ
“ข้าวต้มได้แล้วครับ”
“จะตีหนึ่งแล้วรีบกลับเถอะค่ะ”
“หนูไม่มีคนโทรตามเลยนะ”
“หนูโสดนี่คะใครจะโทรตามละ เสี่ยฮายสนใจมาสละโสดกับหนูไหมคะ?” เธอหันไปถามเขาท่ามกลางแสงสลัวจากข้างทางทำให้ไม่สามารถอ่านแววตาที่เขามองเธอออกได้เลย เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่มีกลิ่มแอลกอฮอร์ติดมา สุดท้ายเธอเบือนหน้าออกมาเอง
“หนูล้อเล่นค่ะ หนูเห็นว่าเสี่ยฮายอายุขนาดนี้แล้วไม่น่าเชื่อว่าไม่มีใครข้างกาย”
“ความรักมันไม่ใช่ใครก็ได้นะไอติม”
“เสี่ยฮายเคยมีรักแรกพบไหมคะ หนูอยากรู้จังเป็นยังไง”
“เคยสิ แค่เราเผลอสบตาไม่กี่วินาทีเอง หรือบางครั้งอาจจะเพราะรอยยิ้มสดใสของเขาก็ได้มั้ง เสี่ยก็ไม่มั่นใจว่าเพราะอะไรทำให้ตกหลุมรัก รู้อย่างเดียวคือรักแล้วอยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากจะพูดคุยตลอดเวลา” เธอไงคือรักแรกพบของเขา เธอไงคนที่ขโมยหัวใจเขาไปด้วยรอยยิ้มสดใส เธอไงที่หลอกล่อให้เขารักด้วยคำพูดแสนหวานชวนให้คิดไปไกลเสมอ
และเธอทำเหมือนเขาเป็นของเล่น!!
“ยังมึนอยู่เหรอ?” ไอติมดื่มไปไม่เยอะแต่น่าจะคออ่อนมากก็เท่านั้น นี่ถ้าเธอเป็นแฟนเขานะรับรองว่าจะดูแลไม่ห่างเลย
“นิดหน่อยค่ะ”
ตลอดทางที่ขับรถกลับไปคอนโดเพื่อน เขาคุยกับเธอตลอดเลยมีหัวเราะหลายครั้งแล้วก็คิดไกลหลายครั้งด้วยเช่นกัน จนมาถึงที่คอนโดเพื่อนทุกอย่างถึงกลับไปเหมือนเดิม
คล้ายว่าเราไม่ได้พูดคุยหรือหัวเราะมาด้วยกัน
แย่จังเลยนะที่รู้สึกมากเกินไปขนาดนี้!
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังว่ากำลังคุยกับไอติมอยู่ทุกวัน แล้วยังหาทางจีบเธออย่างแนบเนียนที่สุด และถ้าให้เดาเธอเองก็คงไม่ได้เล่าให้เพื่อนฟังเหมือนกันว่าเขาคือครูสอนเล่นกีต้าร์ในช่วงระยะสองเดือนที่ผ่านมา
เรื่องของเราก็คงมีแค่เราที่รู้สินะ!
แต่รักหมดหัวใจไปแล้วควรจะทำยังไงต่อจากนี้ดี!?