หลายวันผ่านไปเขาไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนสนิทกลุ่มเดิม พวกเหี้ยนี่มันชอบแซวเรื่องไอติมหนักมากขึ้นทุกครั้งที่เจอกัน ที่ผ่านมาเขาก็หน้าแห้งตลอดเวลาถูกถามเพราะตอบไม่ได้ว่าเราเป็นอะไรกัน สุดท้ายก็ทำได้แค่บอกว่ายังไม่มีใครและโสดอยู่
แต่ว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งแล้ว เขาพึ่งโพสต์รูปคู่กับไอติมเมื่อเช้านี่เองซึ่งยอดคอมเมนต์เยอะพอสมควร จะเรียกว่าอวดแฟนก็ไม่ใช่เนอะเพราะแค่นี้ไม่เรียกว่าอวดหรอก เขาโทรบอกไอติมเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้มีดื่มนิดหน่อยจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกัน
“ไงมึงอัพเดตหน่อย”
“เออใช่ ไอ้ฮายสรุปไงวะ?”
“เด็กกว่ามึงตั้งสิบปีเลยนะเว้ย มึงแน่ใจว่าเอาอยู่?”
“น้องเขาสวยยังกับนางฟ้าไหงมารักคนเหี้ยอย่างมึงวะ”
“สรุปคบกันกี่เดือนแล้ว?”
คำถามกระหนำเข้ามาประหนึ่งว่าเขาคือเซเลปคนดังงั้นแหละ แต่ทำไงได้มีแฟนสวยมากนี่หว่าพวกมันก็เลยอยากรู้เป็นธรรมดา เผลอๆบางคนอาจจะแอบชอบก็ได้เพราะเคยเห็นว่ามีคนไปรัวหัวใจแถมยังคอมเมนต์แทบทุกรูปแม้ว่าจะไม่มีการตอบกลับเลยก็ตาม จนกระทั่งเมื่อตอนที่เขาหลุดปากว่ารู้จักและชอบเพื่อนบางคนถึงได้หยุด เขายิ้มกว้างหยิบเบียร์มาดื่มให้ชุ่มคอหน่อยจะได้มีแรงตอบคำถาม
“กูกับไอติมเป็นแฟนกันแล้ว” เขาพูดไปชัดๆพวกมันก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออย่างงั้นแหละ
“อาทิตย์ก่อนมึงบอกว่าไม่เป็นอะไรกัน”
“ก็กูขอเขาเป็นแฟนครั้งที่สามแล้ว” ขอสามครั้งนะครับกว่าจะได้เป็นแฟน แต่ถ้าสมมุติว่าครั้งนี้ไอติมปฏิเสธครั้งต่อไปก็มาเหมือนเดิม เขาจะตามตื้อจนกว่าจะยอมหรือไม่ก็ท้อใจไปเอง
“ไอ้เหี้ยมึงแม่งสุดวะ!”
เขานั่งกินข้าวกับเพื่อนต่อแล้วพยายามจะเบี่ยงเบนประเด็นคำถามที่เข้าเรื่องส่วนตัวมากเกินไป พวกมันชอบวกเข้ามาคำถามเกี่ยวกับแฟนแสนน่ารักมากเกินไปจนความหวงมันแล่นพล่าน ไอ้พวกมันขี้เสือก! เขาคิดถึงไอติมอยากจะโทรหาแต่ว่าไปสตูดิโอของอาชิด แล้วถ้าวาดรูปอยู่คงจะไม่รับสายเขาหรอกเพราะจะเสียสมาธิจนอาจจะทำไม่เสร็จ
คบกับเด็กอาร์ตแถมโลกส่วนตัวโคตรสูงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่แบบนี้แหละดีแล้ว!
ในขณะเดียวกันไอติมถือรูปวาดใส่กรอบเรียบร้อยมาไว้ในรถ รูปนี้จะเป็นของขวัญวันเกิดเสี่ยฮาย เธอตั้งใจวาดและลงสีน้ำให้ดูละมุนมากขึ้น แล้วยังเน้นโทนสีไปทางพาสเทลเวลามองจะได้สบายตา และหวังว่าคิดว่าเขาน่าจะชอบนะ
“อ้าว! ไอติมกลับแล้วเหรอ?” โจอี้ขับรถเข้ามาจอดถาม
“ค่ะ พี่โจอี้มีธุระอะไรรึเปล่าคะ?” ตอนนี้สองทุ่มกว่าแล้วเธอสมควรกลับคอนโด แต่ถ้าพี่โจอี้มีธุระให้ช่วยก็คงอยู่ต่อ
“ไม่มีอะไรหรอก อื้ม…ไปกินข้าวกับพี่รึเปล่า?”
“ดึกแล้วนะ”
“พี่มีเรื่องเครียดน่ะ ไปดื่มไวน์ด้วยกันนะเดี๋ยวเลี้ยงเอง”
“ก็ได้แต่ว่าดึกมากไม่ได้นะ”
“อื้ม ไปร้านอาร์มเลยพี่จองโต๊ะไว้แล้ว”
เธอขับรถไปร้านไวน์ของพี่ชายที่ไม่ค่อยได้มาเท่าไรแต่ก็ใช่ว่าพนักงานจะไม่รู้จัก พี่โจอี้จองโต๊ะมุมร้านที่ค่อนข้างปลอดคนไม่นานไวน์แดงก็ยกมาเสิร์ฟสองแก้ว แล้วเธอบอกพนักงานให้ไปดูแลลูกค้าคนอื่นได้เลย ส่วนเธอดูแลตัวเองได้ไม่ต้องกังวล
“เป็นแฟนกับเสี่ยฮายแล้วเหรอ?” โจอี้ถามลอยๆมองไวน์ในแก้วที่แกว่งไปมาเป็นวงกลม แล้วเงยหน้ามองน้องสาวคนสวย
“ค่ะ เขาขอเป็นครั้งที่สามแล้วนะ อีกอย่างคุยกันมาเกือบครึ่งปีได้เลย หนูว่าเขานิสัยดีนะ” เธอยอมรับเลยว่าอบอุ่นใจทุกครั้งที่เสี่ยฮายอยู่ใกล้แล้วก็รู้สึกปลอดภัยเสมอ ถึงพี่โจอี้รู้จักเสี่ยฮายแค่ไม่นานแต่ก็น่าจะรู้สึกได้อยู่มั้ง
“นับถือเขานะที่ทำหนูใจอ่อนได้” ถ้าเป็นคนอื่นคงจะถอดใจไปแล้วแต่นี่ไม่เลย
“ใช่ เขาเก่งมากเลย” เธอยกแก้วไวน์ดื่มอีกครั้งอดจะนึกถึงความใจร้ายของตัวเองที่ทำกับเขาไว้ ความรู้สึกผิดแทรกเข้ามาในใจแต่เหตุผลที่สมองคิดออกมาได้ทำให้รู้สึกแบบนั้นน้อยลง
สำหรับเสี่ยฮายเธอไม่เข้าใจว่าเขาไปเอาแรงใจมากจากไหนถึงได้แรงดีไม่มีตก เขาตามดูแลเอาใจแม้ว่าหลายครั้งเธอจะหลบหน้า และยอมรับเลยว่าบางครั้งก็รำคาญเวลาที่เขาโทรมาในช่วงที่กำลังเพลินกับการออกแบบเครื่องประดับ วาดรูป อ่านหนังสือ หรืองานอดิเรกอื่นๆแล้วไม่รับสาย
เธอรู้สึกนะว่าเขายอมตามใจมาก แล้วก็รักเธอมากเกินไปเลยด้วย ที่สำคัญต่อให้เธอพยายามจะหนีห่างขนาดไหนก็ยังมีเศษเสี้ยวในความรู้สึกที่คิดถึงเขา ความรักคือการใจเย็นค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้เราได้รู้จักกันมากขึ้นก่อนจะตัดสินใจอะไรไป เขาค่อยเอาใจเธอไปทีล่ะนิดจนน่าตกใจในวันที่คิดถึงเขาบ่อยจนฟุ้งซ่านไม่มีอารมณ์จะทำงานเลย
เธอรักเขานะถึงจะแสดงออกได้ไม่ดีเท่าไร
กลัวว่าเขาจะรับไม่ได้!
“แล้วนี่เขารู้เรื่องรูปวาดยัง?”
“ยังค่ะ หนูว่าจะเอาให้เขาในวันเกิด พี่โจอี้ว่าดีไหมคะ?”
“ก็ตัดสินใจไปแล้วจะถามพี่ทำไมละ?”
“ก็ถามเฉยๆค่ะ หนูไม่ค่อยมั่นใจว่าเขาจะชอบรึเปล่า หรือว่ารับไว้เพราะรักษาน้ำใจเฉยๆ”
“พี่ว่าจะเขาชอบนะ งานแฮนด์เมดมีมูลค่าในตัวเองเสมอแล้วหนูก็วาดมาเป็นเดือนกว่าจะเสร็จ มั่นใจตัวเองหน่อย”
“ขอบคุณนะคะ”
“จำไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หนูมีพี่อยู่เสมอนะ”
เวลาผ่านไปจนเกือบห้าทุ่มเธอขับรถกลับมาคอนโดด้วยความรู้สึกมึนเล็กน้อยจากไวน์ที่ดื่มกันสองคนกับพี่โจอี้ การขับรถแบบนี้มันไม่ดีเลยเธอก็รู้นะแต่คิดว่าไหวเลยไม่ได้ให้มาส่งเพราะหลายครั้งก็เป็นแบบนี้ ต่อให้เมาขนาดไหนจะรู้สึกเหมือนปรกติทุกครั้งที่ขับรถเองหรืออยู่คนเดียว แต่ถ้ากลับมาถึงที่พักอาการทุกอย่างจะย้อนกลับมาจนน่างงเลยว่าเป็นไปได้ยังไง
เธอส่ายหน้าเบาๆเพื่อสลัดความมึนเบลอที่มากขึ้นกว่าเดิมจนเผลอถอนหายใจออกมา พอถึงคอนโดแค่เดินก็เซแล้วคงจะเอารูปขึ้นไปด้วยไม่ไหว งั้นค่อนเอาขึ้นไปไว้พรุ่งนี้แล้วกัน
“โอ๊ย!! ขอโทษค่ะ!” เธอชนใครไม่รู้แค่เงยหน้ามองด้วยความตกใจ แล้วสบตาที่อบอุ่นคู่นั่นรอยยิ้มเล็กๆก็ผุดขึ้นมา
“หนูเมาเหรอ?” ดูก็รู้ว่าเมาแต่กลิ่นเหล้าไม่แรงเลยนะ แล้วดูแก้มแดงๆบวกกับตาหวานเยิ้มล็กน้อยนี่น่ารักมากเกินไป
“นิดหน่อยค่ะ เสี่ยฮายมาหาหนูเหรอคะ?” เธอขยับตัวออกมาห่างแต่ว่าเขาก็ยังช่วยประคองให้เดินดีๆซึ่งมันก็ดีจริงเพราะเธอมึนหัวมากๆเลย
“ไปดื่มกับใครมา?” น้องดิวก็ไปกินข้าวกับพวกเขาวันนี้นะแล้วเธอไปกับใครละ จากที่เราคุยกันมาครึ่งปีเนี่ยมันทำให้รู้เลยว่าไอติมไม่ใช่คนคอแข็งแล้วก็ไม่ใช่คนนอนดึกด้วย คนที่ไอติมจะไปด้วยถ้าไม่สนิทจริงก็ไม่ไปนะ เขารู้เรื่องนี้ดีเพราะกว่าจะมาได้ถึงขนาดนี้ก็ผ่านความเย็นชาของเธอมาเยอะ
“กับพี่โจอี้ค่ะ วันนี้เสี่ยฮายมาหาหนูดึกจัง แล้วแบบนี้กว่าจะขับรถถึงบ้านก็นานเลยนะคะ” เธอเงยหน้ายิ้มกว้างแล้วเอนตัวพิงหน้าอกอุ่น สัมผัสถึงกลิ่นโคโลญจน์จน์ที่หอมจนอยากดอมดมหนักๆสักที เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้งเพราะว่าถึงห้องแล้ว
“หนูเมามากแล้วนะ!” เมาทีไรอ้อนเก่งแบบนี้ตลอดเลย เพราะแบบนี้ไงเขาเลยหวงมาก แล้วที่มาหาเพราะว่าคิดถึงมากจนทนไม่ไหว วันนี้เราแทบไม่ได้คุยกันเลยแต่ถึงมาแล้วก็ยังต้องนั่งรอเกือบสองชั่วโมง เขากำลังจะโทรตามก็เห็นว่าไอติมเดินเข้ามาแล้วยังเซนิดๆเลยเป็นห่วง เด็กคนนี้ขนาดเมาก็น่ารักมาก แล้วทั้งขี้อ่อยแล้วก็ขี้อ้อนไปในตัว
“วันนี้เสี่ยฮายตัวหอมจังนะคะ” เธอหันไปสูดดมกลิ่นหอมจากตัวเขาด้วยความชอบใจ
“ถ้าหนูชอบต่อไปเสี่ยจะใช้แค่กลิ่นนี้” โคโลญจน์จน์กลิ่นนี้เขาไม่ค่อยได้ใช้ แต่ถ้าไอติมชอบก็จะใช้มันทุกวันเลย
“ชอบค่ะ คนก็ชอบด้วย” เธอบอกเบาๆแล้วมองด้วยดวงตาหวานเยิ้มและความมึนเมามันไม่หายไปสักทีเลย
“ไปอาบน้ำเสี่ยจะรอ”
“แล้วไม่กลับบ้านเหรอคะ?”
“ให้เสี่ยนอนที่นี่นะมันดึกแล้ว เสี่ยขับรถไม่ไหว”
“อื้ม แต่ห้ามมายุ่งกับตัวหนูนะ”
“ครับ ไปอาบน้ำสิจะได้มานอนพัก พรุ่งนี้จะได้ไปเรียนตอนเช้าไหว” ไอติมพยักหน้าด้วยท่าทางมึนเบลอผสมกับความเมาที่โคตรน่ารักเลย เขาไม่รู้ว่าจะทนมองเฉยๆได้นานแค่ไหนเพราะความน่ารักที่หลายคนชอบแบบนี้ทำให้หวงมากขึ้นทุกวัน
แม้แต่เพื่อนบางคนของเขายังแอบชอบเธอเลย!
ไอติมเปิดน้ำอุ่นๆในอ่างแช่ตัวพร้อมกับเปิดเพลงฟังไปด้วยเพราะว่าทำแบบนี้แล้วสบายตัวมากๆเลย เธอเอนตัวพิงแล้วหลับตาไปสักพักแต่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูขัดจังหวะ เสี่ยฮายคงจะเป็นห่วงมั้งที่เธอเข้ามานาน เธอถอนหายใจรีบล้างตัวแล้วใส่ชุดคลุมเดินออกมาเปิดประตูห้องน้ำ
“หนูอาบไปเกือบครึ่งชั่วโมงเสี่ยเลยเป็นห่วงกลัวว่าจะหลับในนั้น” ดูไอ้เด็กบ้านี่สิ! พอเมาแล้วความกลัวหายไปเกือบหมดเลยนะ มาจ้องมองกันเหมือนว่าเขาทำผิด เขาแค่เป็นห่วงกลัวว่าจะไม่สบายเอาได้ถ้าอาบน้ำนานเกินไปในเวลานี้ ไอติมอยู่ในชุดคลุมเดินผ่านเขาไปหยิบชุดนอนเข้าไปใส่ในห้องน้ำต่อ
นี่โกรธอะไรเขารึเปล่าวะ?
ตามอารมณเด็กน่ารักคนนี้ไม่ทันแล้ว…งงนะ