“งั้นรู้ไว้นะเสี่ยจะเอาหนูมาเป็นเมีย เอ้ย! แฟนครับ” เขาหลุดพูดตรงเกินไปอีกแล้ว ดูไอติมทำหน้าตกใจก่อนจะยิ้มแล้วส่ายหน้าเหมือนว่ากำลังพยายามไม่ขำงั้นแหละ
“แล้วนี่หนูจะไม่หลบหน้าเสี่ยแล้วใช่ไหม?” เขาไม่อยากจะถูกทรมานอีกแล้วนะ
“หนูยังไม่ต้องรีบก็ได้นะ…เรื่องของเราน่ะ เสี่ยแค่อยากให้หนูรู้เผื่อว่าเผลอทำอะไรล้ำเส้นไปเพราะ...หึงหนู!” ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนขี้หวงระดับโคม่า แล้วไอติมดันเป็นคนสวยคนดังประจำมหาลัยอีกด้วย เขารู้มาแว่วๆว่าเธอกำลังจะไปรับงานถ่ายแบบเสื้อผ้าแล้วคิดว่าคงจะต้องหวงกว่านี้แน่นอน
“จะให้มันคลุมเครือแบบนี้เหรอคะ?”
“เพื่อนเสี่ยยังไม่รู้เรื่องของเราเลยนะ เสี่ยไม่อยากให้หนูเสียหายถ้ามีคนรู้ว่าเสี่ยเคยนอนที่นี่ แต่ถ้าหนูอยากให้เปิดเสี่ยก็พร้อมนะ” เขาจะเปิดตัวแบบชุดใหญ่เอาให้คนคิดไปเลยว่านี่คือว่าที่เมียในอนาคต ใครก็ตามห้ามยุ่งเด็ดขาด!
“เสี่ยฮายอายุเท่าไรคะ?”
“หนูไม่ชอบคนแก่กว่าเหรอ? เสี่ยอายุแค่ยี่สิบเก้าปีเองนะยังไม่ถึงเลขสามเลย” แก่กว่าไอติมแค่เกือบสิบปีเองนะไม่ได้เกินไปหรอกมั้ง อีกอย่างเขามั่นใจว่าตัวเองยังแรงดีไม่มีตก พร้อมเอาใจว่าที่เมียเต็มที่ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม
“เปล่าค่ะ หนูแค่จะบอกว่าเสี่ยคิดดูตามความเหมาะสมแล้วกันค่ะ”
“หนูพูดเองนะไอติม”
“ก็เสี่ยแก่ขนาดนี้แล้วคงรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรมากกว่าหนู…จริงไหมคะ?” เธอเอียงคอถามเขาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง แล้วมันบังเอิญว่าหน้าเราห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้นเอง ตอนนี้ขนาดลมหายใจเรายังสัมผัสถึงกันได้เลย
“กำแพงหนูสูงมากเสี่ยฮายปืนไหวไหมต้องคิดดูก่อนนะคะ หนูไม่เคยมีใครมาตั้งแต่มัธยมแล้ว หนูว่าตัวหนูยังอ่อนหัดกับเรื่องความรักมากเกินไปอย่างที่พี่อาร์มบอกจริงๆ” เธออดจะเตือนเขาไม่ได้จริงๆนะ เพราะไม่ว่ากี่คนที่พยายามเข้ามาในชีวิตก็ไม่มีใครสามารถทำให้เธอใจเต้นแรงได้ขนาดนี้มากก่อนเลย
แต่อย่าลืมว่าเธอมีความกลัวที่มากกว่าทุกอย่าง!
เสี่ยฮายเข้ามาในใจช้าๆแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ จนรู้ตัวว่าชอบเขาถึงได้พยายามหลบหน้า เธอพยายามจะลืมเขาแต่ทุกอย่างก็พังลงเพราะเขารุกหนักมากขึ้น
“แค่ได้โอกาสก็พอแล้ว แล้วนี่ใครช่วยจัดห้องละ? พี่ชายเหรอ?” ห้องเปลี่ยนไปเขาก็เลยสงสัยนิดหน่อย
“ใช่ค่ะ พี่อาร์มเห็นว่าของในห้องมันเยอะเลยช่วยจัดใหม่” เธอเป็นคนประเภทแปลกรึเปล่าก็ไม่แน่ใจนะ ในห้องเธอมีกีต้าร์ที่เสี่ยฮายช่วยเลือก หนังสือวรรณกรรมต่างๆ สีหลากหลายแบบที่ใช้และกระดาษวาดรูปอีก นี่ยังไม่นับรวมกับอุปกรณ์ทำเครื่องประดับแฮนด์เมคด้วยนะ เพราะว่าเธอกำลังทำขายออนไลน์ด้วย เธอมีความสุขกับเรื่องพวกนี้มากกว่าการไปเที่ยวตามผับบาร์ที่ต้องกินเหล้าจนมึนเมาแล้วตื่นมาก็ปวดหัวอีก
ความสุขของเธอมีแค่เรื่องง่ายๆที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ
หลายคนบอกว่าสิ่งที่เธอทำมันน่าเบื่อ!
“คอนโดหนูมันเล็กไปหน่อย แต่เดี๋ยวปีหน้าว่าจะไปดูคอนโดใหม่ที่ใหญ่กว่านี้” คอนโดใหญ่ขึ้นแน่นอนว่าราคามันก็ต้องแพงขึ้นมากเลยด้วย
“ไม่สนใจหาบ้านอยู่บ้างเหรอ?” บ้านเขาว่างนะแถมมีพื้นที่ให้เธอเก็บของเหลือเฟือเลยแหละ
“บ้านของเสี่ยฮายเหรอคะ?” เธอพูดเล่นๆนะแต่ดูสิเขาทำตาลุกวาวเชียว
“ขนของวันนี้ก็ได้นะเดี๋ยวให้ลูกน้องมาจัดการ” พูดเล่นดีนักใช่ไหมห่ะหนู เจอเสี่ยเอาจริงถึงกับทำหน้าเหวอไปเลยสิครับ
“บ้า! ขืนทำแบบนั้นพี่อาร์มได้เอาลูกซองมาไล่ยิงเสี่ยฮายพอดี!” พี่ชายเธอดุนะจะบอกให้
“หนูจะยอมให้พี่ชายฆ่าเสี่ยได้ลงคอเลยเหรอ?” หน้าตาอย่างโหดแต่ส่งสายตาอ้อนอย่างหมาเลยกู! แต่เด็กมันน่ารักใครจะห้ามใจไหววะเนี่ย
“เสี่ยฮายทำไมถึงไม่มีแฟนเหรอคะ?” เธอไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัวของเขาเท่าไรนักเลยถามไว้เผื่อ
“เสี่ยถูกทิ้งไปสามปีกว่าแล้วก็ไม่เจอใครที่...ที่…”
“คนที่ใช่เหรอคะ? หน้าตาแบบหนูพอเป็นได้ไหม?”
“หนูพูดเล่นเก่งนะถึงจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เสี่ยคิดจริง” เธอน่ะเต๊าะเก่งมาก ตลอดสองเดือนกว่าเนี่ยเหมือนกับว่าไอติมจีบเขางั้นแหละ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไอติมปากหวานขี้เล่นหยอดเก่งเต๊าะเก่งแล้วชอบเล่นกับความรู้สึกคนด้วยนี่สิคือปัญหาใหญ่
“ค่ะ หนูก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
“มันคงดีกว่านี้นะถ้าหนูเป็นแบบนี้แค่กับเสี่ยคนเดียว” อยากปากว่าเธอมันน่าจูบมากเลย
“รักเสี่ยวันไหนก็บอกเสี่ยหน่อยนะ เสี่ยพร้อมดูแลหนูทุกอย่าง” เขาทำได้แค่เกลี่ยผมไปทัดหูให้แทนทั้งที่อยากจูบเธอ
เขาไม่ได้อยากจะอวดรวยหรือว่าอะไรหรอกนะแต่ว่าบ้านหลังปัจจุบันเนี่ยสร้างเสร็จด้วยงบหลายสิบล้านไม่รวมที่ดินหลายไร่เพราะเป็นแม่ยกที่ดินให้ เขามีบ้านให้เช่าอยู่อีกสิบกว่าหลังแล้วก็หมู่บ้านเล็กๆที่เป็นทาวว์เฮ้าส์ให้เช่าอีกสองแห่ง ยังไม่รวมอพาร์ทเม้นต์แล้วก็ร้านขายปลีกส่งอะไหร่รถอีกหกสาขาใหญ่ในกรุงเทพ เขามีเงินเก็บหลักร้อยล้านเพราะทั้งเล่นหุ้นทั้งเล่นทองที่ลงทุนไป แล้วที่เขาบรรยายมาขนาดนี้ไม่ได้อวดรวยนะแค่อยากให้รู้ว่า….พร้อมมีเมียแล้วนะ!
เธอควรจะทำยังไงกับผู้ชายคนนี้ดีนะถ้าถามว่าใจอ่อนไหมตอบได้เลยว่าใจอ่อนยวบกองไปอยู่แทบเท้าเขาแล้ว แต่เรื่องความรักเธออยากจะใช้เวลาศึกษาดูใจกันมากกว่านี้ ก่อนจะบอกความรู้ทั้งหมดให้เขารู้แล้วหวังว่าวันนั้นคงไม่สายเกินไป
“หนูกินอะไรไหมเดี๋ยวเสี่ยไปซื้อให้เอง”
“ไม่เป็นไรค่ะพอดีหนูสั่งไว้แล้ว เสี่ยฮายจะกินด้วยกันไหม?”
“กินสิ” ถ้าเป็นหนูชวนต่อให้เป็นข้าวคลุกน้ำปลาเสี่ยก็กิน แต่จะให้ดีได้กินไอติมด้วยคงจะดีมาก
เขาอยากจะรู้ว่าไอติมชอบกินอะไรบ้างแต่คิดว่าคงต้องใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับเธอบ่อยๆ จะได้รู้ว่าควรเอาใจยังไงดี แต่อย่างน้อยที่เขารู้ในวันนี้คือไอติมเป็นสายอาร์ตเลยแหละ สไตล์การแต่งห้องใหม่สวยมาก แล้วไหนจะรูปวาดสีน้ำที่วางไว้ตรงมุมจนเขาอยากจะซื้อมาประดับบ้านแต่ปัญหาคือเธอคงไม่ขาย
“เหมือนหนูรู้นะว่าเสี่ยจะมาถึงสั่งเยอะขนาดนี้”
“สั่งเผื่อไม่ออกจากห้องมากกว่าค่ะ”
หลังจากวันนั้นผ่านหนึ่งเดือนแล้วที่เธอมีเสี่ยฮายเข้ามาในชีวิตแบบตั้งรับแทบไม่ทัน เธอเลยได้แค่ปล่อยทุกอย่างให้เลยตามเลยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น
ดูอย่างวันนี้เพื่อนชวนเธอมากินชาบูที่ร้านไม่ไกลมาก แล้วให้เสี่ยฮายเป็นคนขับรถมารับมันเป็นเรื่องที่ไม่บังเอิญเลยสักนิดเดียว เหมือนว่าทั้งหมดนี้มีการวางแผนกันไว้งั้นแหละ
“ชาบูร้านนี้อร่อยนะ เสี่ยว่าหนูต้องชอบ” ผู้หญิงข้างๆนี่ก็สวยไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะเจอกันตอนไหน แต่เพิ่มเติมมาคือเปิดใจรับเขามากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยละ
“ไปบ่อยเหรอคะ?” เขาพูดขนาดนี้แสดงว่าต้องไปบ่อยมาก แต่ที่ไปเนี่ยกับใครเหรอ? เธอไม่กล้าถามออกไปเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ถ้าเขาจะพูดมาเองก็ไม่เป็นไร
“จะโกรธไหมถ้าบอกว่าเป็นร้านแฟนเก่า แต่ว่าเขาแต่งงานไปแล้วนะ หนูอย่าคิดมากนะเสี่ยรักหนูคนเดียวแต่ว่าอยากให้หนูได้กินอะไรอร่อยๆแค่นั้นเอง” เขาร้อนรนหนักมากพึ่งจะมาสำนึกว่าไม่ควรอย่างยิ่ง แต่ว่าร้านนั้นเขาเคยมีหุ้นส่วนอยู่แล้วรู้ดีทุกอย่าง เขากับแฟนเก่าจบกันไปแล้วไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เราเป็นแค่คนรู้จักเฉยๆไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมได้หรอก
หนูอย่าเงียบแบบนี้สิเสี่ยใจไม่ดีเลย!
หรือว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอหึงเขา?
“…!” เธอหันไปมองเขาแต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ถ้าถามว่าโกรธรึเปล่าคำตอบก็ไม่นะ แต่ว่าเธอรู้สึกแปลกๆเพราะกลัวว่าเขาจะเอาเธอไปอวดคนในอดีตรึเปล่า เสี่ยฮายหันมาจับมือเธอแล้วส่งยิ้มมาให้เธอก็ยิ้มกลับแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“เสี่ยขอโทษนะที่ลืมคิดเรื่องนี้ แต่ว่าเขาไม่น่าจะอยู่ร้านหรอก หนูไม่ต้องกังวลนะ”
“ไม่ต้องขอโทษหนูหรอกค่ะ หนูไม่เป็นอะไรเลยจริงๆ”
ปากบอกว่าไม่เป็นไรแต่ไม่ยิ้มหวานให้เขาเหมือนทุกครั้ง แล้วมือที่จับก็ชักกลับไปแบบไม่สนใจเลยสักนิดเดียว พึ่งเคยเห็นไอติมไม่พอใจเป็นครั้งแรกตั้งแรกเราเจอกัน ซึ่งทำให้รู้สึกค่อนข้างอึดอัดมากเลยเพราะเธอไม่พูดไม่เรียกร้องอะไรเลยสักนิดเลยเดาใจไม่ถูก ตอนนี้มีแต่ความเงียบเป็นคำตอบทุกอย่าง
เรามาถึงร้านชาบูไอติมก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม เขาเลยยังไม่ลงจากรถเพราะอยากปรับความเข้าใจกับเด็กปากแข็งคนนี้
“มีอะไรรึเปล่าคะ?” เธอเปิดประตูลงจากรถไม่ได้เพราะเสี่ยฮายไม่ยอม
“ไอติมถ้าโกรธเสี่ยหนูพูดมาเถอะ เสี่ยไม่ชอบที่หนูเงียบเลย” เขาหันหน้ามองแล้วขยับไปใกล้ชิดเธอมากขึ้น จนในตอนนี้เราแทบจะจูบกันได้อยู่แล้วเพราะใกล้กันมาก
“เปล่าค่ะ หนูแค่คิดอะไรเพลินๆนิดหน่อย”
“ก็ได้ แต่หนูยิ้มหวานๆให้เสี่ยก่อนสิ” เขาเห็นนะว่าเธอแอบถอนหายใจแต่ก็ยิ้มออกมาให้อยู่ดี นี่ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนนั่งรออยู่เขาคงคาดคั้นจนกว่าเธอจะยอมบอกหรือระบายออกมา แต่นั่นคงใช้เวลาเพราะว่าไอติมปากแข็งมากพอสมควรเลย
เธอเดินเข้ามาในร้านชาบูตามเสี่ยฮายเห็นเพื่อนนั่งรออยู่กับแฟนแล้วพนักงานกับกำลังเสิร์ฟน้ำอยู่ เธอยืนนิ่งเป็นรูปปั้นใจเต้นแรงไปด้วยความกลัวที่ยังคงอยู่ ก่อนจะก้าวเท้าถอยหลังไปที่ล่ะก้าวไม่อยากเจอคนที่ลุกเดินมาหา
“ไงไอติมไม่เจอกันตั้งหลายปีสวยกว่าเดิมเยอะเลยนะ”
“ใครเหรอไอติม?” ไอ้ผู้ชายคนนี้มันเป็นใครอีกวะ แล้วไอติมก็ยืนนิ่งมากก่อนจะเงยหน้ามองเขาพร้อมจับมือแน่นมาก แต่ทำไมถึงได้เย็นเชียบขนาดนี้ละ
“ผมชื่อนิคเป็นแฟนเก่าไอติมครับ แล้วคุณละเป็นอะไรกับไอติมไม่ทราบครับ?” นิคแนะนำตัวพร้อมส่งยิ้มให้กับผู้หญิงแสนสวยตรงหน้าที่เขาเคยทำผิดกับเธอไว้เกือบห้าปีที่แล้ว
“ไปกันเถอะค่ะเสี่ยฮายดิวรออยู่” เธอจับมือเขาจะเดินผ่านไปแบบไม่สนใจ แต่ว่าเสี่ยฮายยืนนิ่งปล่อยมือเธอออกแล้วมาโอบไหล่แทน เขาหันมายิ้มอย่างอบอุ่นให้กับเธอเหมือนรู้ว่านิคเป็นผู้ชายที่เกือบจะข่มขืนเธอ
ใช่! เสี่ยฮายรู้เรื่องนี้นี่น่า!!
“แฟนเก่า? อืม กูเป็นแฟนใหม่ไอติมเองแหละ แต่ว่าต่อไปต้องเสนอหน้ามาแนะนำตัวโชว์เหนือกว่าหรอก เพราะกูไม่ได้ใจกว้างพอจะรู้จักกับอะไรเก่าๆแบบมึง ไปกันเถอะที่รัก” ไอ้นี่เองเหรอตัวสร้างบาดแผลในใจไอติม ถ้าเจอกันอีกครั้งในตอนที่ไม่มีไอติมอยู่ข้างๆมันไม่รอดแน่
นิคยิ้มกว้างส่ายหน้าเล็กน้อยคว้าข้อมือเล็กของไอติมไว้ก่อนที่เธอจะเดินหนีไปพร้อมกับแฟนใหม่ เขาเคยอยู่ที่ตรงนี้มาก่อนและตอนนี้ก็อยากได้ไอติมกลับคืนมาแล้วด้วย
“คนนี้พี่ชายอนุญาตยัง?” นิดถามเสียงแข็ง
“มึงอย่ามาเสือก!” ความหวงมันแล่นพล่านไปหมดจนไม่สามารถจะทนไหวได้แล้ว เขาแกะมือมันออกแล้วจ้องหน้าถ้าไม่มันยอมจบคงมีต่อยแลกหมัดแน่นอน
“ก็แค่อยากรู้เฉยๆ พี่เคยเห็นพี่ชายไอติมยังว่ามันยอมไหมผมเตือนนะ ไอติมเชื่อพี่ชายมากถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่”
“พอได้แล้วนิค! เสี่ยฮายเราไปกันเถอะค่ะ” เธอรีบดึงมือของเสี่ยฮายออกมาก่อนจะมีเรื่องกันเพราะดูท่าว่าคงจะไม่จบง่ายๆ
“ครับไอติม ครั้งนี้จะไม่มีอะไรทั้งนั้น” แต่ครั้งหน้าไม่แน่
บรรยายกาศในร้านชาบูยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่พนักงานในร้านต่างเกร็งกันเล็กน้อยเพราะอดีตเจ้าของร้านมาพร้อมกับแฟนใหม่แล้วยังเกือบมีเรื่องกันอีกด้วย
“ยิ้มหน่อยสิคะ” ไอติมว่าพร้อมกับมองหน้าเพื่อนที่ดูอึดอัดขั้นสุด แล้วเธอจะต้องแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้น
“มันจะแย่งหนูไปจากเสี่ย!” อาจฟังดูงี่เง่าแต่ช่างมันสิ! ในเมื่อเขาหวงเธอมากแต่กลับแสดงออกมาไม่ค่อยได้เท่าที่ควร ไอติมก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะคบกับเขาสักทีมันยิ่งทำให้หวงมากยิ่งขึ้น
“ถ้าหนูไม่ยอมไปแล้วใครจะแย่งเสี่ยฮายได้ละคะ?” เธอตอบเขาไม่จริงจังมากนักแต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่เขาน่าจะรู้อยู่แล้วนะ เธอไม่ชอบอะไรที่วุ่นวายดังนั้นคงไม่หาเรื่องให้ตัวเองต้องไปเครียดกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
“แล้วที่จับมือเสี่ยตอนเจอมันนี่หมายความว่ายังไง?” ที่เขาอยากรู้เพิ่มคือเธอไม่ปฎิเสธเลยในตอนที่เขาแสดงตัวว่าเป็นแฟนและยังโอบไหล่อีก ไอติมคิดอะไรอยู่เขาไม่รู้หรอกนะแต่ว่าเขาคิดแล้วว่านี่คงจะเป็นความรักครั้งสุดท้ายของเขา
“หนูกลัวเขามากถึงเรื่องมันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม ที่จับมือเสี่ยฮายตอนนั้นก็เพราะว่ารู้สึกปลอดภัยมากค่ะ” เรียกว่าเธอไว้ใจ เชื่อใจ และมั่นใจว่าเขาจะอยู่ข้างกันแน่นอน
“ให้เสี่ยเป็นเซฟโซนของหนูคนเดียวนะ แล้วนี่อร่อยไหม?” แค่ไอติมพูดมาแบบนี้หัวใจมันก็พองโตไปหมดแล้ว
“ยิ้มได้แล้วค่ะ นี่หนูตักให้”
“ถ้าเปลี่ยนเป็นป้อนคงจะอร่อยกว่านี้แน่เลย แต่ก็ขอบคุณนะครับ”
เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับโดยที่เขาขับรถมาส่งไอติมที่คอนโด แต่ว่ามันเป็นห่วงเลยขอขึ้นไปด้วยข้ออ้างสุดเบสิคคือจะเข้าห้องน้ำแล้วก็ขอค้างที่นี่ด้วยเลยเพราะว่าตอนนี้เที่ยงคืนมันดึกมากแล้วเธอก็อนุญาต
หนูไว้ใจเสี่ยมากรู้ตัวบ้างไหม?
ไอ้แฟนเก่าของไอติมท่าทางเหมือนไม่ใช่คนเลวร้ายแต่สิ่งที่ทำนับว่าเลวร้ายสำหรับผู้หญิง แต่แววตาเต็มไปด้วยความคิดถึงและความรักแบบที่เขามองไอติมเป๊ะเลย เขามั่นใจว่าไอติมไม่คิดจะกลับไปหามันหรอกเพราะอาการที่แสดงออกมีแค่ความกลัว ความไม่ไว้ใจและไม่มีความรักหลงเหลือเลย
“หนูกำลังวาดภาพใครเหรอครับ?” ในกระดาษเป็นเพียงภาพร่างที่ยังมองไม่เห็นเค้าเลยว่าจะเป็นใคร ถ้าให้เดาคงจะเป็นดารานักร้องแบบที่เด็กวัยรุ่นกำลังกรี๊ดกันแน่นอน
“วันเกิดเสี่ยขอสักภาพได้ไหม?”
“อะไรคะ? ภาพอนาคตของเสี่ยฮายเหรอ...หนูนี่ไงคะ” เธอยิ้มอ่อนให้ก่อนจะเดินไปเข้าห้องนอนทิ้งให้เขานอนที่โซฟาเหมือนที่เคยนอนมาก่อน
อีกแล้วเหรอวะ? นี่เขาติดกับดักความปากหวานของเธอจนหัวใจมันสั่นไปหมดแล้วนะ ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเธอรักเขาบ้างรึเปล่าและเขาเดินหน้ารุกเธอเต็มที่ แต่กลับมาแพ้พ่ายให้กับคำพูดหวานชวนคิดไปไกลอีกตามเคย เขาโคตรตั้งใจทำให้เธอรักแต่ว่าเธอไม่ต้องทำอะไรเลยเขาก็รักแล้ว
“อนาคตของหนูก็เป็นเสี่ยเหมือนกันนะ” ยังไงก็จะเอาเธอมาเป็นเมียให้ได้ แล้วปรนเปรอด้วยความรักและมอบให้ด้วยความรู้สึกดีๆทั้งหมดที่มีอยู่ ถึงคนที่ใช่มันไม่ต้องพยายามแต่บางทีพยายามมากๆหน่อยก็ดี เธอจะได้เข้าใจถึงความรักที่มันล้นอกจนปิดคนรอบข้างแทบไม่มิดอยู่แล้ว
รักเธอ...รักเธอมากเหลือเกิน