ฟ้า
ฉันมองพี่แตงค์เดินออกจากห้องฉันไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ไม่รู้สิ ฉันบอกไม่ถูกเหมือนกัน บางครั้งเขาดูเหมือนจะเกลียด แต่บางครั้งเขาก็ดูเหมือนเป็นห่วง(อย่างที่พี่รหัสทำกัน) แต่ก็นั่นแหละ จะให้ฉันทำยังไง เลิกยุ่งกับพี่สกายหรอ ฉันก็คงทำไม่ได้ ไม่ใช่ว่าฉันจะแย่งพี่เขาจากแฟนเขาหรอกนะ แต่ยังไงเราก็เรียนคณะเดียวกัน ฉันทำงานร้านเขา เราก็สนิทกันในระดับหนึ่ง แล้วอยู่ๆจะให้ฉันเลิกยุ่งกับเขา ก็คงไม่ใช่
“เห้อ ทำไมมันดูวุ่นวายไปหมดแบบนี้นะ” ฉันว่าออกไป
วันต่อมา...
“เรน วันนี้มีเลี้ยงสายรหัสนะ” ฉันเดินเข้าไปบอกน้องรหัสที่น่ารักของฉันด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิคะ ว่าแต่ที่ไหนหรอ” เธอถามกลับมา
“ผับ...” ฉันบอกชื่อผับออกไป ซึ่งก็คือผับที่ฮิตกันของนักศึกษาที่นี่นั่นเอง
“อ๋อค่ะ” เรนโบว์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มน่ารัก
“แล้วเจอกันนะน้องรัก” ฉันพูดพร้อมกับยิกแก้มน้องรหัสด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะเดินออกไปเพื่อกลับห้องตัวเอง วันนี้ดีที่เป็นวันหยุดพอดี แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียนด้วย ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเลือกวันกันนะ ช่างรู้ใจฉันจริงๆ ไม่ต้องลางานให้เสียเงิน แถมยังได้ไปเที่ยวอย่างไร้กังวลว่าจะตื่นสายไปเรียนไม่ทันอีก
ผับ...
ตอนนี้ฉันอยู่ที่ผับแล้ว วันนี้ฉันก็แต่งตัวตามสไตล์ของคนเที่ยวผับนั่นแหละ ไม่ได้แรงมาก แต่ก็ไม่ได้ปกปิดจนดูผิดแปลกจากผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ในผับ ฉันเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเป็นชั้นวีไอพีที่พี่ใหญ่นัดนั่นเอง
“สวัสดีค่ะคุณลุง” ฉันเดินเข้าไปก็เห็นพี่อาวุธ พี่ใหญ่หรือมีศักดิ์เป็นลุงรหัสฉันนั่นเองนั่งอยู่คนเดียว
“อ้าวฟ้า มาเร็วจริงๆ นั่งเลยๆ” พี่อาวุธเงยหน้ามาแล้วทักกลับด้วยรอยยิ้ม ฉันเลยเดินไปนั่งโซฟาตัวข้างๆซ้ายมือพี่อาวุธ
“มาเร็วยังไงก็มาหลังพี่อาวุธนะคะ” ฉันแซวกลับ ที่รีบมานี่ไม่ใช่อะไรหรอก อย่างเดียวนั่นแหละ...
“ต้องรีบกอบโกยก่อนคนที่บ้านจะโทรตาม” พี่อาวุธตอบกลับด้วยรอยยิ้ม และนี่แหละคือเหตุผล พี่แกกลัวเมีย
“ฮ่าๆๆ ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังกลัวพี่มีกันเหมือนเดิมเลยนะคะ” ฉันแซวออกไป ชื่อสองผัวเมียนี้เค้าคล้องจองกันจริงๆนะ คนหนึ่งก็อาวุธ อีกคนก็ มีกัน ที่แปลว่าปืน
“อย่าให้พี่พูด สยอง” พี่อาวุธทำท่าทางขนลุกออกมา ทำให้ฉันหัวเราะออกมากับท่าทางของพี่เขา
“ฮ่าๆๆ ถ้าพี่มีกันมาเห็นนี่พี่อาวุธเละแน่เลย”
“หึ๋ย ฟ้าก็...” พี่อาวุธพูดขึ้นยังไม่จบ ก็มีร่างสูงเดินเข้ามานั่งข้างๆพี่อาวุธ
“สวัสดีพี่” เป็นพี่แตงค์นั่นเองที่มา ฉันหันไปมองพี่แตงค์นิดหน่อยก่อนจะยิ้มให้เขาบางๆเป็นการทักทายแล้วหันหน้าไปทางอื่น ไม่รู้สิ ตอนนี้ไม่ค่อยกล้ามองเท่าไหร่(ไม่ค่อยกล้าตลอดนั่นแหละ)
แล้วพวกเราก็สั่งเครื่องดื่มเพิ่มอีก แล้วนั่งคุยกันสักพักแล้วฉันก็กระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่ยั้ง สายตาฉันหันไปเห็นน้องรหัสสุดน่ารักของฉันขึ้นมาถึงข้างบนพอดี
“เรน!” ฉันเรียกน้องพร้อมยกมือโบกให้ เธอเลยเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ
“นี่น้องรหัสฟ้าเองค่ะชื่อเรนโบว์ แล้วเรน นี่พี่อาวุธตารหัสเรนเอง” ฉันแนะนำให้น้องกับพี่อาวุธรู้จักกัน
“สวัสดีค่ะ” เรนโบว์ยกมือไหว้พี่ๆ
“โห นี่มีหลานรหัสน่ารักขนาดนี้เลยหรอ นั่งก่อนๆ” พี่อาวุธพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เรนโบว์ก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างพี่แตงค์ เพราะว่ามันเหลือที่ว่างที่เดียว เราไม่ได้จองโต๊ะใหญ่ไง
“เรนอยากดื่มอะไร เดี๋ยวพี่สั่งให้” พี่แตงค์หันมาถามเรนโบว์ด้วยน้ำเสียงอบอุ่นตามสไตล์เขา(ที่ฉันเคยได้รับเมื่อครั้งอยู่ปีหนึ่งเทอมหนึ่ง)
“อะไรก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องแรงมาก” เรนโบว์ตอบกลับ
“วันนี้เต็มที่เลย พี่เลี้ยงเอง” พี่อาวุธพูดออกมา
“ใช่เรน วันนี้เต็มที่เลย ถ้าเมาเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ฉันพูดเสริมให้น้องสบายใจและผ่อนคลายเต็มที่ไม่ต้องกลัวว่าจะกลับห้องไม่ได้(ทั้งที่ตอนนี้ตัวเองก็มึนๆ)
“พูดเหมือนแกจะไม่เมา” พี่อาวุธหันไปแขวะใส่ฉันอย่างไม่จริงจัง
“แหมคุณลุง ถึงเมาฟ้าก็ยังมีพี่รหัสแสนดีคอยดูแลอยู่แล้ว ต้องห่วงอะไรคะ” ฉันตอบพี่อาวุธพร้อมกับอ้อนพี่แตงค์ไปอย่างลืมตัว อาจจะเพราะแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปแน่เลย ถึงทำให้ฉันกล้าทำแบบนี้ทั้งที่ไม่กล้ามานานแล้ว แต่พี่แตงค์ก็ไม่ได้ว่าหรือพูดอะไรมาก ทำให้ฉันสบายใจว่าเขาคงไม่โกรธฉัน
แล้วเราทุกคนก็นั่งดื่มกันไป คุยกันไป โดยส่วนใหญ่ก็เรื่องเรียนกับน้องเล็กอย่างเรนโบว์ และก็แลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวของกันเล็กน้อยไม่ได้เจาะลึกอะไรเพื่อจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
“แล้วเรนมีแฟนหรือยังอ่ะ” พี่อาวุธถามออกมา
“ถามทำไมคะ ฟ้าหวงนะ” ฉันแทรกขึ้นก่อน เพราะตอนนี้เริ่มมึน(หนัก)แล้ว กล้าหมดแหละ
“ไอ้บ้า พี่ก็ถามในฐานะพี่ไหมวะ ไม่ได้จะคิดอะไรแบบนั้น” พี่อาวุธตอบกลับทันที
“เรนยังไม่มีค่ะ” เรนโบว์ตอบกลับ
“น่ารักขนาดนี้ไม่มีจริงอ่ะ พวกแกสองคนดูหลานฉันให้ดีเลยนะเว้ย อย่าให้ผู้ชายที่ไหนมายุ่งเด็ดขาด” แล้วพี่อาวุธก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนเหลือเชื่อ ก่อนจะหันมาสั่งฉันกับพี่แตงค์
“ฮ่าๆ งานนี้ต้องมอบหน้าที่ให้กับพี่แตงค์เลยค่ะ เพราะว่าผู้ชายที่มายุ่งกับหลานพี่วุธ ฟ้าไม่กล้ายุ่ง” ฉันหัวเราะแล้วพูดออกมา เพราะช่วงนี้มีข่าวของเรนโบว์กับพี่สายฟ้าที่มาตามขายขนมจีบให้กับเรนโบว์ถึงคณะบ่อยๆ แน่นอน ว่าใครก็ไม่กล้ายุ่งกับพวกเขาหรอก
“ใครวะ” พี่อาวุธถาม
“ไอ้สายฟ้า” แล้วก็เป็นพี่แตงค์ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พอฉันเงยหน้าไปมองหน้าพี่แตงค์ ก็เห็นสายตาเขาแปลกๆ จะบอกว่าแปลกตั้งแต่มองที่เรนโบว์มาแล้วก็ว่าได้ หรือว่าพี่แตงค์จะ...
“โอ๊ะโอ” พี่อาวุธทำเสียงขึ้นก่อนจะกระดกเหล้าขึ้นดื่ม ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูดกัน แล้วก็เล่าถึงวีรกรรมต่างๆไปเรื่อย ยิ่งเหล้าเข้าปากมากเท่าไหร่ ก็ต่างพากันพูดคุยอย่างสนุกสนานเท่านั้น
“เป็นไงเรา เมาหรือยัง” ฉันเห็นพี่แตงค์พูดอะไรไม่รู้กับเรนโบว์ ท่าทางสนิทสนมและเป็นห่วง
“ว่าอะไรนะคะ” ก่อนเรนโบว์จะยื่นหน้าเข้าใกล้พี่แตงค์
“พี่ถามว่าเมาหรือยัง” แล้วพี่แตงค์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรนโบว์ก่อนจะอะไรไม่รู้ เพราะตอนนี้เสียงค่อนข้างดัง แล้วฉันก็ไม่ได้นั่งใกล้พวกเขาด้วย
“อ๋อ มึนๆนิดหน่อยค่ะ” เรนโบว์ตอบปากขมุบขมิบ แต่ฉันอ่านปากไม่ออก สงสัยจะเมาแล้ว
“ถ้าไม่ไหวก็หยุดนะ เมามากเดี๋ยวพรุ่งนี้จะปวดหัว” พี่แตงค์พูดขึ้น พวกเขาพูดอะไรกันสองคนนะ แล้วทำไมฉันต้องนั่งมองพวกเขาคุยกันด้วย
“ค่ะ” เรนโบว์ยิ้มให้พี่แตงค์
“งั้นเดี๋ยวเรนไปห้องน้ำก่อนนะคะ” เรนโบว์ยังคงพูดอีก พี่แตงค์ก็เหมือนกัน
“เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรนยังไหว”
“แน่ใจนะ” ฉันอยากรู้จัง ว่าพวกเขาคุยอะไรกันสองคนเป็นนานสองนาน ไม่ให้ฉันกับพี่อาวุธฟังบ้างเลย
“แน่ใจสิคะ รอให้เรนลุกแล้วล้มเมื่อไหร่ พี่แตงค์ค่อยช่วยก็พอ” แล้วอยู่ๆพี่แตงค์ยกมือขึ้นไปจับหัวเรนโบว์โยกไปมาเบาๆ นั่นทำให้ฉันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายแปลกๆ
เมื่อก่อนพี่แตงค์ก็อบอุ่นกับฉันแบบนี้แหละ แต่หลังจากตอนนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เขาเริ่มนิ่งใส่ฉันทีละนิด ทีละนิด ถึงตอนนี้จะยังไม่ถึงกับนิ่งมาก แต่ก็ถือว่าเปลี่ยนไปจากแรกมาก
แล้วเรนโบว์ก็ลุกเดินออกจากโต๊ะไป สงสัยจะไปห้องน้ำนั่นแหละ แต่ดูเหมือนน้องน่าจะไหว อีกอย่างเมื่อกี้ก็คงบอกพี่แตงค์แล้ว แล้วพี่แตงค์ไม่ไปด้วยแบบนี้ ก็แสดงว่าน้องไหวจริง อืม งั้นฉันนั่งต่อแล้วกัน
ผ่านไปสักพักใหญ่ที่เรนโบว์ไปห้องน้ำก็ไม่กลับมาสักที ฉันก็เลยลุกไปตาม และพี่ๆก็เห็นด้วย แต่พอมาในห้องน้ำ กลับไม่เห็นเรนโบว์ ฉันรีบไปบอกพี่อาวุธกับพี่แตงค์ แล้วสักพักพี่แตงค์ก็ลุกออกไป ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหนแต่ท่าทางเขารีบร้อนมาก และไม่นานเขาก็กลับมา ก่อนจะนั่งซดเหล้าเข้าปากไม่หยุดจนฉันกับพี่อาวุธมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ