“พี่สกาย” ฉันเรียกพี่สกายออกไปหลังจากเลิกงาน เพราะว่าตอนนี้เขานั่งรอฉันอยู่ที่ร้านอาหารที่ฉันทำงานอยู่(ร้านแม่เขา) ตั้งแต่สองทุ่ม จะว่าวันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายวันก็ได้ ที่ฉันได้เจอพี่สกาย ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหนมา แต่รู้สึกว่าหน้าเขาจะเครียดๆไปนะ
“เสร็จแล้วหรอ” พี่สกายถามออกมา
“ค่ะ” ฉันตอบพี่สกายออกไปด้วยรอยยิ้มมีความสุข อยู่กับเขาทีไรมันเหมือนกับว่าฉันไม่ใช่ตัวคนเดียวบนโลกนี้ มันเหมือนกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน เป็นเหมือนพี่ชาย เป็นเหมือนครอบครัวของฉันไปแล้ว
“งั้นกลับกัน จะได้รีบพัก” พี่สกายพูดก่อนจะเดินนำฉันออกจากร้าน
“พี่สกายไม่เห็นต้องมารอฟ้าเลยนะคะ ลำบากเปล่า” ฉันพูดออกไปด้วยความเกรงใจ และไม่อยากเห็นพี่สกายลำบากหรือว่าเหนื่อยมานั่งรอแบบนี้
“ไม่เห็นจะลำบาก แค่นั่งรอ” พี่สกายพูดนิ่งๆ
“แต่ฟ้าก็เกรงใจนี่คะ” ฉันบอกออกไปตามความคิด
“ไม่ต้องเกรงใจ เพราะว่าฉันเต็มใจ” พี่สกายพูดออกมาพร้อมกับมองหน้าฉันนิ่งๆ ซึ่งฉันก็มองเขากลับไปก่อนจะยิ้มออกมา แล้วเราสองคนก็เดินขึ้นรถเพื่อกลับห้องของฉัน
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง” ฉันบอกพี่สกายออกไปเมื่อถึงหน้าหอ
“อืม ไปพักได้แล้ว” พี่สกายพูดพร้อมกับยกมือลูบหัวฉัน
“ขับรถดีๆนะคะ” ฉันยิ้มให้พี่สกายก่อนจะลงจากรถ แล้วรอพี่สกายขับรถออกไป ฉันจึงหันตัวเพื่อเดินเข้าไปในหอ
ซึ่งพอเดินมาถึงหน้าห้อง ฉันก็หยุดไขกุญแจห้องก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นกรอบประตูห้อง...
“อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาด้วยตกใจหลังจากถูกผลักจากด้านหลังอย่างแรงเข้ามาในห้อง พร้อมทั้งปิดประตูล๊อกห้องทันที
แตงค์
“พะ...พี่แตงค์” คนตรงหน้าเรียกผมออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นและแววตาสั่นไหวที่เห็นผมอยู่ตรงหน้าเธอ
ผมตั้งใจจะมาหาไอ้สกายที่ร้านอาหารนั่นแหละ ก็หลังจากได้รู้ว่ามันอยู่ที่นี่ ก็เลยรีบออกมา แต่ก็ไม่ทัน เลยได้เห็นว่ามันที่ขับรถพาฟ้าออกจากร้านอาหารแล้วตรงมาที่หอแบบนี้ ผมก็เลยรีบลงจากรถหลังจากไอ้สกายมันขับรถออกไป แล้วตามฟ้าเข้ามาติดๆทันทีก่อนจะผลักเธอเข้าห้องหลังจากเธอเปิดประตูห้องได้ และไม่ลืมปิดประตูล๊อกห้องด้วย
*(แตงค์ สกายอยู่ไหน ทำไหมข้าวติดต่อสกายไม่ได้เลย) ข้าวปั้นโทรมาหาผมแล้วถามออกมาอย่างร้อนรน*
*“ข้าวลองโทรหามันใหม่หรือยัง” ผมถามออกไป เพราะวันนี้มันบอกว่ามีธุระรีบกลับก่อนพวกผม เลยไม่รู้ว่ามันไปไหน*
*(ข้าวโทรจนสายจะไหม้แล้วแตงค์ แต่สกายก็ไม่รับโทรศัพท์ ทั้งไลน์หา เฟสหาก็แล้ว) ข้าวปั้นพูดขึ้นอย่างร้อนใจเหมือนเดิม*
*“อืม เดี๋ยวฉันจะลองติดต่อมันให้” ผมพูดขึ้น*
*(ยังไงก็บอกข้าวด้วยนะ ข้าวเป็นห่วง) ข้าวปั้นพูดออกมาก่อนจะวางไป และผมก็ตัดสินใจโทรหาไอ้สกาย*
*“มึงอยู่ไหน” ผมถามมันออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ*
*(ร้าน) ไอ้สกายตอบกลับนิ่งๆ*
*“มึงไปทำอะไรที่นั่น แล้วข้าวปั้นโทรหามึงทำไมมึงไม่รับ” ผมถามมันออกไปด้วยความอยากรู้*
*(กูไม่ได้ยิน) มันพูดขึ้น*
*“แต่ได้ยินสายกูเนี่ยนะ” ผมถามอย่างไม่พอใจ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าระหว่างมันกับข้าวปั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะวันก่อนมันพึ่งไปหาข้าวปั้นที่ต่างประเทศมา(วันที่ฟ้าเอาคุกกี้ไปให้)*
ที่ผ่านมามันสองคนรักกันมาก ไม่มีอะไรมาแยกพวกมันได้เลยด้วยซ้ำ แม้แต่ตอนที่ข้าวปั้นไปเรียนต่างประเทศได้ถึงสองปี ความรักของพวกมันยังไม่มีปัญหาอะไรด้วยซ้ำ แต่ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่าไอ้สกายมันเปลี่ยนไป ความสนใจของมันที่มีให้ข้าวปั้นมันลดน้อยลง
*(ถ้าไม่มีอะไร แค่นี้นะ) ไอ้สกายพูดจบก็วางสายไปทันที ผมเลยรีบขึ้นรถแล้วขับตรงมาที่ร้านมันทันที*
“ทำไมพูดไม่ฟัง” ผมถามฟ้าออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“พี่แตงค์ หมายถึงอะไรคะ” ฟ้าถามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“เลิกยุ่งกับไอ้สกายสะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ผมไม่ได้จะทำอะไรเธอ แต่คนที่จะทำก็คือข้าวปั้น
ข้าวปั้นเป็นคนขี้หวง และขี้หึงมาก ถ้าเกิดเธอรู้เรื่องของไอ้สกายกับฟ้า คนที่จะซวยก็คือฟ้านี่แหละ เพราะข้าวปั้นก็ไม่ธรรมดา ไม่งั้นจะเป็นเพื่อนผมได้หรอ
“ฟ้า...” ฟ้าอึกอักไม่กล้าสบตาผม ทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังกลัวผม
“ฉันแค่เตือน แล้วเธอก็ควรทำตามที่ฉันบอก” ผมย้ำเธออีกครั้ง
“.....” ฟ้าเม้มปากแน่นก้มหน้ามองพื้นไม่เปลี่ยน
“พรุ่งนี้นัดเลี้ยงรุ่นที่ผับ อย่าลืมบอกน้องรหัสเธอด้วย” ผมบอกเธออีกเรื่องหลังจากไม่อยากพูดเรื่องไอ้สกายแล้ว แล้วก็เดินออกจากห้องเธอไป