ฟ้า
“ยัยฟ้า แกไม่ได้ชอบพี่สกายจริงๆใช่ไหม” ยัยออมสินถามออกมาด้วยความอยากรู้
“นั่นสิ ถ้าแกชอบพี่เขาพวกฉันอยากให้ตัดใจนะ พี่เขามีแฟนแล้ว” ยัยไข่หวานพูดขึ้นอีกคน
“ฉันบอกพวกแกแล้วไงว่าฉันคิดกับพี่สกายเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง และถึงฉันจะชอบพี่สกายจริงๆ ฉันก็ไม่คิดจะแย่งเขาจากแฟนหรอก” ฉันตอบเพื่อนกลับไป
หลังจากพึ่งรู้ไม่นานมานี้ว่าพี่สกายมีแฟนแล้ว เพราะแฟนพี่เขาได้ทุนไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ขึ้นมหาลัย แล้วถ้าถามว่าตอนแรกที่ฉันรู้ฉันรู้สึกยังไง ฉันก็บอกไม่ถูกนะ มันไม่ได้เสียใจ แต่ก็ไม่ได้ยินดีที่เขามีแฟน หรือจะพูดง่ายๆคือฉันเฉยๆนั่นแหละ หรือว่าจริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่สกายจริงๆนอกจากพี่น้อง หรือคิด แต่อยากว่าอยากให้พี่สกายมีความสุข โอ้ย ฉันก็สับสนตัวเองเหมือนกัน
“เห้อ แต่หลายๆคนที่เห็นแกสนิทกับพี่สกายต่างก็คิดว่าแกจะเป็นมือที่สามเอาน่ะสิ” ออมสินบ่นออกมา
“หรือแกลองหาแฟนดูไหม เผื่อจะทำให้พวกนั้นเลิกพูดได้” ไข่หวานพูดขึ้น ซึ่งฉันรู้ว่าสิ่งที่สายรุ้งพูดเพราะเป็นห่วง แต่ว่าฉันไม่ได้สนใจคนอื่นหรอก
“ใครจะคิดจะพูดยังไงก็เรื่องของพวกเขาเถอะ เราห้ามปากใครไม่ได้หรอก แค่พวกแกรู้ว่าฉันเป็นแบบไหน ก็พอแล้ว” ฉันพูดกับเพื่อนออกไปเพื่อไม่ให้มันเป็นห่วงความรู้สึกฉัน
“ยังไงแกก็เพื่อนฉันไหม ถึงแม้ว่าแกจะชอบพี่สกายจริงๆฉันก็ไม่ว่าอะไรแก” ไข่หวานพูดขึ้นติดตลก ซึ่งต่างจากเมื่อกี้ที่ยังห้ามฉันอยู่เลย นี่สินะที่บอกว่า เพื่อนเราถูกเสมอ(เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ)
“เออๆ งั้นไปกันเลยไหม” ออมสินพูดขึ้นก่อนจะเก็บของเดินออกจากห้องเพื่อไปหาพี่สกาย เพราะว่าฉันทำคุกกี้มาฝากเขา
“เอ่อ พี่สกายไปไหนคะ” ฉันถามพี่ๆในกลุ่มของพี่สกายออกไป หลังจากเดินมาเห็นพวกเขาอยู่กันพร้อมสามคน แต่ขาดพี่สกายคนเดียว และหนึ่งในนั้นก็มีพี่แตงค์ พี่รหัสอยู่ด้วย
“ไอ้สกาย...” พี่โชกำลังจะตอบ แต่ก็ถูกแทรกขึ้นด้วยเสียงเข้มหน้ากลัวก่อน
“มาหามันทำไม” เสียงแข็งๆของพี่แตงค์เอ่ยถามฉันออกมา ฉันไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่บางครั้งพี่แตงค์ก็ดูเหมือนไม่ชอบฉัน ถึงแม้บางครั้งจะปกติก็ตาม ต่างจากเมื่อก่อนที่ฉันเข้ามาเรียนได้เทอมแรก เขาก็ดูเป็นคนดีและหน้าเข้าหามาก ต่างจากตอนนี้ที่เริ่มจะหน้ากลัวขึ้นทุกวัน แต่ยังไงเขาก็เป็นพี่รหัสฉันนี่ ฉันต้องเจอและพึ่งพาเขาเขาเรื่อยๆนี่ และเขาเองก็ทำหน้าที่ของพี่รหัสได้ดีด้วย
“คือว่า ฟ้าเอาคุกกี้มาให้พี่สกายค่ะ” ฉันตอบคำถามพี่แตงค์ออกไป ซึ่งปกติฉันก็ไม่ใช่คนจะกลัวอะไรง่ายๆ หรือว่าหลบตาใครเวลาพูดหรอก แต่กับพี่แตงค์ เวลาเขามองฉันนิ่งๆ ฉันก็ไม่ค่อยกล้าสบดวงตาคู่นั้น
พรึ่บ!
“อ๊ะ” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจหลังจากที่อยู่ๆพี่แตงค์ก็ลุกขึ้นมาตอนไหนไม่รู้แล้วกระชากกล่องขนมคุกกี้จากมือฉันไป
“ไอ้สกายมันเกลียดคุกกี้” ตุบ!
“พี่แตงค์!” ฉันเรียกพี่แตงค์อย่างไม่พอใจหลังจากเขาพูดจบโยนคุกกี้วางไปที่โต๊ะอย่างแรงจนคิดว่าคุกกี้ในกล่องคงจะแตกหมดนั่นแหละ
“เอ่อไอ้แตงค์ มึงบอกน้องมันดีๆก็ได้” พี่ดีนพูดขึ้น แต่พี่แตงค์ไม่ได้สนใจที่พี่ดีนพูดเลย พร้อมกับเขาหันมามองหน้าฉันแทน
“รักษาระยะห่างของตัวเองด้วย อย่าทำอะไรที่มันเกินคำว่าคนรู้จักมาก” พี่แตงค์พูดออกมานิ่งๆ
“ทำไมฟ้าต้องทำตามที่พี่บอกด้วยคะ” ฉันทำใจกล้าพูดออกไป เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย
“เธอน่าจะรู้ดีนะ ฟ้า” พี่แตงค์พูดขึ้นนิ่งเหมือนเดิม แล้วฉันกับเขาก็มองหน้ากันนิ่งอย่างไม่ยอมกัน ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากตรงนั้นไป
ก็คงไม่พ้นเรื่องที่พี่สกายมีแฟนแล้วแน่เลย คงไม่แปลกที่พี่แตงค์จะคิดแบบนั้น เพราะหลายๆคนที่เห็นฉันกับพี่สกายก็ต่างคิดและพูด หาว่าฉันเป็นมือที่สามของพี่แตงค์กับแฟนเขาในระหว่างที่แฟนเขาไปเรียนต่างประเทศ
“แกโอเคนะ” ออมสินถามออกมา
“อืม ฉันไม่เป็นหรอก” ฉันตอบกลับเพื่อนไป
“แต่พี่แตงค์นี่เข้าถึงยากจริงๆเลย บางเวลาก็เหมือนจะอบอุ่น แสนดี แต่บางเวลาก็โหดจนไม่หลงเหลือภาพความอบอุ่นเลย” ตามด้วยไข่หวานที่พูดขึ้นด้วยท่าทางกลัวๆหลังจากเห็นพี่แตงค์เมื่อกี้
“พี่เขาคงหวงเพื่อนมั้ง” ฉันพูดออกไปเพื่อตัดปัญหานี้ออก แล้วพากันแยกกลับห้องใครห้องมัน ส่วนฉันต้องไปเตรียมตัวก่อนไปทำงาน วันนี้เลิกเรียนเร็ว เลยจะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน