“นายๆ..นั่นๆ ใช่คนนั้นหรือเปล่านาย คนสวยๆคนนั้นน่ะ...” ลูกน้องคนสนิทรีบแหกปากบอกเจ้านายเสียงดังข่มไปทั้งรถ ทันทีที่มืดเห็นประตูรั้วเหล็กสีเหลืองทองเปิดอ้าออกทางฝั่งซีกขวามือ ปรากฏร่างอรชรอ่อนแอ้นของหญิงสาวนางหนึ่งเดินรอดรั้วเล็กนั้นออกมา การนั่งซุ่มแอบดูว่าที่เมียของเจ้านายนานกว่าสามชั่วโมงจึงสิ้นสุดลงเสียที...
มืดเมื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย ไม่รู้นายคิดอะไรถึงได้ชวนมืดมาทำตัวไม่ต่างจากมหาโจรพวกถ้ำมองเขาทำกัน...
คนแอบบ่นอุบในใจขยับร่างหลังพวงมาลัย สายตาก็เพ่งมองไปทางด้านหน้าตาเขม็ง...คุณพระ! นั่นคนหรือนางฟ้ากันแน่วะ ผู้หญิงอะไรสวยจนวัวตาย...มืดต้องยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองแรงๆ เพื่อให้แน่ใจ ภาพที่มันเห็นตรงหน้า นั่นคือคนจริงๆไม่ใช่นางฟ้าจำแลงแปลงกายมาจากบนฝากฟ้าไหน...
ส่วนคนเป็นนายก็รีบหันไปมองตามนิ้วที่มืดชี้บอก แววตาหลังแว่นสีชา จ้องมองหญิงสาวในชุดเรียบจนดูเชยไม่กระพริบ เพราะชุดที่เธอผู้นั้นสวมใส่อยู่ เป็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงผ้าขาบานสีดำเรียบอีกทั้งยังดูซีดเหมือนผ่านการใช้งานมานานหลายปี
เธอผู้นั้นกำลังหันซ้ายหันขวา เหมือนกำลังรอคอยอะไรสักอย่าง เพียงแวบแรกที่ชายหนุ่มเห็น น่านพยัคฆ์อยู่ในอาการที่เรียว่าตาค้างจนจังงัง หัวใจแข็งกระด้างกระตุกเต้นถี่รัวจนแทบจะกระเด็นออกมาด้านนอกอกเสียให้ได้ เขายอมรับ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปาเข้าเลขสามจะขึ้นเลขสี่อยู่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขายังไม่เคยเกิดอาการหัวใจเต้นถี่ผิดปกติแบบนี้กับสาวคนไหนสักคนมาก่อนเลย ส่วนใหญ่ มองผ่านแล้วก็ผ่านเลย ไม่เคยให้ความสนใจกับใครมากเป็นพิเศษเท่ากับผู้หญิงตรงหน้านี้...
“อู้ย!!!สวยเป็นบ้าเลยนะนายจ๋า มืดตกหลุมรักเข้าอย่างจังเลยล่ะนาย ถ้ากลับขึ้นไปเชียงใหม่คราวนี้ นายต้องไปตอบตกลงกับนายสิงห์เลยนะ บอกนายสิงห์ไปเลยว่าแต่ง มืดจะได้ไปอวดไอ้พวกคนงานไร่คุณพี นายหญิงของมืดสวยราวกับนางฟ้าเชียวนะ สวยกว่าคุณน้ำผึ้งอีก...” น้ำเสียงตื่นเต้นยินดีของมืดบวกกับเสียงพร่ำเพ้อไม่หยุดปากนั้น ไม่ได้เข้าหูของคนเป็นนายที่นั่งข้างๆเลยสักคำเดียว เมื่อน่านพยัคฆ์เองก็เอาแต่จ้องมองร่างบอบบางที่กำลังยืนชะเง้อมองอะไรสักอย่างตาไม่กระพริบตา
“นาย!” มืดเรียกนายแต่ก็ยังคงความเงียบเชียบ ไม่มีการตอบรับหรือเออออใดๆทั้งสิ้นกลับมา มืดจึงเอี้ยวใบหน้าหันไปเหล่ตามองเจ้านายอย่างนึกสะใจเล็กๆ คราวนี้ล่ะนายจ๋ายังจะปากแข็งปฏิเสธเขาอีกหรือเปล่า...
ส่วนน่านพยัคฆ์ที่ยังไม่รู้ตัวเอง กำลังตกหลุมรักสาวเจ้าแต่แรกเห็นแล้วนั้น เอาแต่นั่งหน้าเรียบนิ่งไม่พูดไม่จา รถยนต์ของชายหนุ่ม ถูกจอดเยื้องออกมาจากประตูรั้วบ้านหลังงาม ห่างออกมาประมาณสองร้อยเมตรเห็นจะได้ จึงทำให้เขาสามารถมองเห็นใบหน้าสวยหวานอย่างถนัดตา เป็นความงามที่สมบูรณ์แบบไปทุกสัดส่วน...
สวย...คือคำนิยามของหญิงสาวผู้นี้
น่านพยัคฆ์ถึงกับแอบพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สีหน้าชายหนุ่มดูผ่อนคลายลงไปมาก มุมปากบนกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นว่าที่เมียของตัวเองก็ไม่ได้หน้าตาเลวร้ายจนถึงกับรับไม่ได้ แม่นั่นออกจะสวยผุดผาดเกินไปเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ก่อนหน้านี้เจ้าหล่อนจะเคยผ่านมือใครมาบ้างแล้วก็ไม่รู้...หึ... น่านพยัคฆ์แอบคิดแบบคนพาล รู้สึกจิตใจร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างเคืองๆ ส่งผลให้ใบหน้าคมคายตึงเปรียะขึ้นมาเพราะดันคิดอะไรๆเกี่ยวกับสาวเจ้าในแง่ร้ายมากกว่าในแง่ดี
“นางฟ้าชัดๆเลยนะนาย ว่าปะ...” คนแอบเหล่นายถามเสียงระรื่นชื่นชมไม่ขาดปาก น่านพยัคฆ์ไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อหญิงสาวตรงหน้าเป็นดั่งคำชมจากปากไอ้ลูกน้องของเขาบรรยายเอาไว้ไม่มีผิด ทั้งรูปร่างของเธอช่างดูบอบบางอ้อนแอ้น ผิวพรรณนั้นก็ขาวอมชมพู ส่วนใบหน้าของเจ้าหล่อนนั้นเนียนใสราวกับก้นเด็ก ทั้งๆที่มันก็เปลือยเปล่าไร้เครื่องสำอางค์แต่งแต้ม ปากนิด จมูกโด่งเชิดรั้นขึ้นอย่างพอเหมาะพอเจาะ ยิ่งดวงตากลมโตคู่นั้นของเจ้าหล่อน ยิ่งทำให้เขาหลงใหลมากยิ่งขึ้น ยิ่งพิศดูก็ยิ่งเกิดอาการแปลกๆตรงอกด้านซ้ายนี้...
น่านพยัคฆ์ถึงกับตาค้างพูดไม่ออก สติถึงกับพร่าเลือน เสมือนเจ้าหล่อนหลุดออกมาจากวรรณคดีเรื่องใดเรื่องหนึ่งในนิยายปรัมปราก็ไม่ปาน...มือใหญ่เผลอยกขึ้นทาบลงบนทรวงอกข้างซ้ายอย่างลืมตัว
เฮ้ย! ทำไมมันถึงได้เต้นเร็วแบบนี้นะไอ้หัวใจบ้านี่ กะอีแค่เห็นผู้หญิงสวย ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้...
“สวยนะนาย...” มืดยังคงกล่าวชมจากใจไม่หยุดปาก ถึงน่านพยัคฆ์จะเห็นไม่ต่างจากไอ้ลูกน้องตัวดีนัก แต่เรื่องอะไรที่เขาจะไปยอมรับออกมาง่ายๆ ไม่มีวันเสียล่ะ...
“เดี๋ยวมืดขอตรวจสอบ ดูให้แน่ใจก่อนนะนาย ใช่คนเดียวกันกับในรูปภาพที่นายแอบขึ้นไปขโมยมาจากนายสิงห์หรือเปล่า” ท้ายประโยคมืดแทบกลั้นเสียงขำของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อนึกถึงที่มาที่ไปของรูปภาพ
“ใครแอบวะ?...” น่านพยัคฆ์หันขวับเพื่อเอ่ยแย้งปฏิเสธขึ้นเสียงดุ รู้สึกเสียหน้าอยู่ในที เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองแอบย่องขึ้นไปห้องทำงานของตาเฒ่าสิงห์ แล้วค้นหารูปถ่ายของแม่นั่น เมื่อเขาเองก็อดสงสัยไม่ได้ ผู้หญิงหน้าด้านหิวเงินจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าสวยจริงทำไมถึงได้ยอมแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่เคยรู้จักเห็นหน้ากันมาก่อนได้ แต่พอเขาเห็นรูปถ่ายของแม่ผู้หญิงหน้าเงินเท่านั้น ลมหายใจก็แทบสะดุด โลกทั้งโกลหยุดหมุนในบัดดล...
“ พ่อข้าทำหล่นพื้นเองต่างหากล่ะ...เอ็งอย่ามามั่วนะไอ้มืด ข้าไม่มีความจำเป็นจะต้องไปแอบดูรูปของใคร แล้วก็ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย เห็นแล้วก็งั้นๆแหละวะ อีโธ่เอ่ย...อีกระรอกของข้ายังสวยกว่าเป็นไหนๆ” อีกระรอกคือแม่ม้าพันธ์เยี่ยมของน่านพยัคฆ์ เป็นแม่ม้าตัวโปรดของชายหนุ่มก็ว่าได้
“เหรอนาย...” มืดลากเสียงยาวพร้อมกับเหล่ตามองผู้เป็นนายรัก จะให้มืดเชื่อนายตรงไหนได้ ในเมื่อดวงตาทั้งสองข้างของนายมันฉายชัดถึงความพึงพอใจในตัวเขาออกมาซะปานนั้น...
อืม!คำพูดของนายมันน่าเชื่อดีนักนี่ ไม่สวยไม่ชอบไม่แต่ง แต่ก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นลากมันมาแอบดูเขาถึงหน้าบ้าน แม้แต่เด็กอนุบาลก็คงจะเชื่อในคำพูดของนายหรอกนะ...
“ก็เออสิวะ...หรือเอ็งอยากโดนตีนข้าถึงจะยอมเชื่อ”
“จ้า...หล่นก็หล่น มืดไม่ได้ว่าอะไรนายพยัคฆ์เสียหน่อย...แหม่...ร้อนตัวจริง จริ้ง...” มืดขึ้นเสียงสูงล้อเลียน ว่าจบมืดก็ค้นเอารูปภาพขนาดกลาง ตรงบริเวณคอนโซลด้านหน้ารถยนต์ หยิบออกมาเพื่อเปรียบเทียบ ตรวจสอบความชัวร์ อีกครั้ง
“ชัวร์เลยนาย...คนนี่ล่ะ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ดูสินาย...” มืดยื่นรูปภาพหญิงสาวไปตรงใบหน้าหล่อคมคาย แต่คนที่ตกอยู่ในมนต์แห่งรัก กลับนิ่งเฉย เพราะประสาทหูกับตาถูกดึงดูดไปยังจุดที่ทำให้หัวใจของเขากระตุกรัวเร็วไม่ยอมหยุดสักที ยิ่งได้มองก็ยิ่งตกหลุมรักจนถลำลึกถอนตัวแทบไม่ขึ้นเข้าไปทุกที...
“นาย...นาย...นายคร้าบ...” มืดต้องเรียกเจ้านายอยู่หลายคำ กว่าชายหนุ่มจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับมา
“อะไรของเอ็งนักหนาวะไอ้นี่ เรียกข้าทำไมเสียงดัง ข้าไม่ได้หูหนวดเสียหน่อยนะโว้ย...”
“หูนายไม่หนวกหรอก มืดเชื่อ แต่สตินายนี่สิ มันหล่นหายไปไหนแล้วน่า ตั้งแต่สาวเจ้าเดินออกมาให้ยนโฉม ดวงตาทั้งสองข้างนี้ก็จ้องมองเจ้าบ่เคยคลาดเคลื่อนไปตรงไหนเลยนอกจากใบหน้างามๆนั่น ฮ่า...ฮ่า...” คนแซวนายรักถึงกับหัวเราะร่วน
“คงค้างอะไรของเอ็ง พูดจาเหลวไหลใหญ่แล้วไอ้นี่ เดี๋ยวเหอะมึง...จะเจอฝ่าเท้ากูอีกจนได้ พูดมากจริงไอ้ห่า กูใช่ให้มึงมาขับรถให้นะโว้ย ไม่ได้ใช้ให้มานั่งเห่าหอนให้กูรำคาญรูหูแบบนี้...” ร่างใหญ่ออกอาการกระฟัดกระเฟียดแดกดันลูกน้อง เพื่อเป็นการกลบเกลื่อนอาการเขินอาย ยิ่งเมื่อเขารู้สึกร้อนวูบตรงโหนกแก้ม ก็ยิ่งทำให้น่านพยัคฆ์ร้อนตัวขึ้นมากกว่าเดิม
“ตะลึงเพราะเขาสวยใช่ไหมล่ะ...” ลูกน้องไม่ได้หวั่นเกรงกับคำขู่เลยสักนิด ตั้งแต่เป็นเจ้านายลูกน้องกันมานานหลายสิบปี มืดไม่เคยเห็นนายรักของมันมีอาการ ณ จังงัง กับสาวคนไหนมาก่อนเลย ก็เห็นจะมีแต่หนนี้ นายของมืดดูมีอาการแปลกๆไป
“ก็งั้นๆแหล่ะวะ ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย สายตาของเอ็งนี่ชักจะมีปัญหาใหญ่แล้วนะไอ้มืด...” น่านพยัคฆ์ยักไหล่ตั้งท่าไร้เยื่อใย ใบหน้าคมคายบิดเบ้เมื่อปรายหางตาดันเผลอไปมองยังร่างบอบบางเข้าอีกจนได้ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาคนจ้องจับผิด ให้ต้องหลุดคำพูดกระเซ้าเย้าแหย่คนเป็นนายจอมปากแข็ง...
“ไม่สวยจริงอ่ะ!...” มืดถามย้ำอย่างไม่ยอมแพ้ คนอะไรปากแข็ง ก็มืดเห็นๆอยู่ นายมองเขาตาแทบทะลักออกมานอกเบ้าซะขนาดนั้น ยังจะมาปากแข็งบอกว่างั้นๆอีก...
“ก็เออน่ะสิวะ มึงจะซักไซ้ไล่เลียงกูทำไมนักหนา ถ้ามึงเห็นว่าแม่คนนั้นสวยนัก กูยกให้...”
“จริงๆนะนาย ยกให้แล้วห้ามมาเอาคืนทีหลังด้วย มืดไม่คืนให้เด็ดขาด” ลูกน้องถึงกับตาโต
“เออ... เอ็งก็ลองดูชุดที่แม่นั่นใส่สิ เชยบรมเลยว่ะ นี่หรือวะ สาวเมืองกรุง เขาแต่งตัวกันเชยแบบนี่เหรอ เก่าก็เก่าเชยก็เชย หึ...กูถึงว่าสิ ทำไมแม่นั่นถึงยอมตกปากรับคำ แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รู้จักง่ายดายนัก ที่แท้ก็เพราะจนแล้วไม่เจียมกระลาหัวตัวเองนี่เอง เลยต้องรีบตะครุบเหยือ ยอมตกลงแต่งงานกับพวกคนมีเงินอย่างสิ้นคิดแบบนี้ไง...” คำพูดหยามเหยียดพรั่งพรูออกจากปากร้ายๆของเจ้านายผู้ปากกับใจไม่ตรงกัน มืดต้องระบายลมหายใจออกมาเสียงดังพรืด รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดร้ายกาจของนายตัวเองเลยสักนิดเดียว
“นายก็ไม่ว่าเขาเสียๆหายๆ...” มืดส่ายหน้าเพราะไม่อาจเห็นด้วยกับความคิดในแง่ร้ายของคนเป็นนาย ถึงแม้การแต่งกายของนางฟ้าจะดูเชยตามปากของเจ้านายว่ามันก็จริงอยู่ แต่เมื่อมันอยู่บนเรือนร่างอรชร มืดก็ไม่เห็นว่ามันจะดูเชยตรงไหนเลยนี่นา สายตากับความคิดของนายมันมีแต่เรื่องอคติล้วนๆ ไม่รักไม่ชอบเขาก็ไม่น่าจะเอาเขามาพูดเสียๆหายๆ นี่ถ้าหากฝ่ายหญิงมาได้ยินเข้า แล้วเขาจะคิดยังไง
“หรือเอ็งจะเถียงข้าวะ...ไ****ด” น่านพยัคฆ์เบะปากใส่ลูกน้อง นึกหมั่นไส้มันเหลือเกิน ดีแต่เข้าข้างแม่นั่นอยู่ได้ เห็นมีดีอยู่หน่อยก็ตรงความสวย ไม่รู้ข้างในจะเละเทะเหลกเหลวจนไม่เหลือชิ้นดีหรือเปล่า คนเรามองหน้าบางทีก็ไม่รู้ถึงข้างในกันนักหรอก รูปลักษณ์ภายนอกมันปรุงแต่งกันได้ ยิ่งภายนอกดูสวยภายในก็ยิ่งเน่ามีให้เห็นอยู่ถมถืดไป ทำไมเขาจะต้องไปชื่นชมความจอมปลอมภายนอกด้วยเล่า ถ้าแม่นั่นมีดีจริง อีกหน่อยเขาคงจะได้เห็นเอง แต่ตอนนี้เขาจะขอคิดกับหล่อนเป็นอย่างที่เขามองเห็นก็แล้วกัน...
เมื่อตาที่เขามองผู้หญิงทั้งหลาย มันก็ไม่พ้นเรื่องเห็นแก่เงินทอง เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้หญิงมันก็เห็นแก่เงินกันหมดทั้งนั้นแหละวะ นี่ถ้าเขาเป็นเพียงชาวไร่จนๆธรรมดาๆคนหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าแม่นี่จะยอมแต่งงานกับเขาหรือเปล่าหรอก เพราะแม้แต่หน้าตาก็ไม่เคยได้เห็นกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ มองแค่นี้ก็รู้ไปถึงลำไส้กี่ขดต่อกี่ขดของเจ้าหล่อนแล้ว เขาก็ไม่ใช่ไก่อ่อนที่มองใครไม่ออกเสียเมื่อไหร่กัน...
“สวยหวานเหมือนนางในละคร นายยังบอกงั้นๆอีกเหรอ อ้อ...แต่นายอย่าลืมคำพูดของตัวเองเมื่อกี้ด้วยนะ นายจะยกนางฟ้าให้มืด..” คนแอบหมั่นไส้เจ้านายตัวเองเอ่ยทักท้วงพร้อมรอยยิ้มจนหน้าบานเป็นจานเชิง น่านพยัคฆ์ได้แต่กัดกรามตัวเองกรอดๆ รู้สึกไม่พอใจไอ้ลูกน้องคู่กายขึ้นมาตงิดๆอย่างไม่รู้สาเหตุ
ไม่ใช่เฉพาะปากของไ****ดที่เอ่ยชมแม่นั่น แม้แต่ดวงตาของมัน ก็ดูเยิ้มหยดย้อยจนน่านพยัคฆ์ยังอยากจะหาอะไรแข็งๆทิ่มเบ้าตาเข้าให้เสียเลย ...หึ...หมั่นไส้จริงโว้ย ชมกันเข้าไปฟังแล้วยิ่งระคายรูหูฉิบหาย คนบอกไม่สวยก็คือไม่สวย จะมองให้สวยได้ยังไงกันวะ...น่านพยัคฆ์รู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ ถึงแม้จะพยายามบังคับสายตาให้มองผู้หญิงตรงหน้าไม่สวยยังไง ไอ้ความรู้สึกบ้าบอก็ดันย้ำชัด ว่าเธอผู้นั้นสวยอย่างไม่มีที่ติ...
“หรือไม่ก็คงจะสวยแต่รูป แต่จูบไม่หอมมากกว่าล่ะมั้ง” เมื่อใจเผลอยอมรับว่าสวย น่านพยัคฆ์จึงหาเหตุผลอื่นเข้ามาขัดแย้งต่อ ริมฝีปากหยัหนาเบ้ออกเล็กน้อย แต่ก็ถึงกับนั่งไม่ติดต้องยกฝ่ามือหนาขยับแว่นสายตาขึ้น สายตาสีสนิมจ้องมองเขม็ง เมื่อเห็นหญิงสาว เดินเข้าไปหา ชายหนุ่มหน้าตาตี๋ขาวสูง ดูมีฐานะคนหนึ่ง ...
ไอ้หน้าปลาจรวดนั่นมันเป็นใครวะ?...แล้วดูๆแม่นั่นทำเข้าสิ ยังไม่ทันไรก็เดินเร่เข้าไปหาผู้ชายก่อนเสียแล้ว น่านพยัคฆ์คิดด้วยหัวใจเดือดดาล รู้สึกไม่พอใจขึ้นมากระทันหัน ใบหน้าชักเริ่มนิ่งขึงขึ้นมา ...
ร่าน...ปากก็เอาแต่พูดกระแหนะกระแหนเขาไปเรื่อย เมื่อน่านพยัคฆ์รู้สึกหงุดหงิดตรงหัวใจพิลึก รู้สึกเหม็นขี้หน้าไอ้หนุ่มนักบิดนั้นขึ้นมาครามครัน ยายนั่นก็กระไร พอเห็นเป็นผู้ชายเข้าหน่อยก็รีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหาอย่างระริกระรี้...
“สวัสดีค่ะคุณวิน...” นิดายกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มข้างบ้าน ซึ่งมีอายุแก่กว่าเธออยู่หลายปี ใบหน้าภายใต้หมวกันน๊อกระบายยิ้มกว้าง
“นิจะไปตลาดเหรอ” นาวินมองตะกร้าในมือหญิงสาวจึงทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ในทันที
“เดี๋ยวผมไปส่งให้ มา...ขึ้นมาซ้อนท้ายรถของผมได้เลย” นาวินขยับรถบิ๊กไบค์คันโตเตรียมพร้อม ขยับร่างให้นิดาขึ้นมานั่งซ้อนท้ายของตัวเอง แต่ก็ต้องผิดหวังเหมือนดั่งครั้งก่อนๆอีกตามเคย เมื่อนิดาส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธ ไม่ยอมให้เขาไปส่งอีกเช่นเคย
“อุ้ย!... ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณวิน นิไม่รบกวนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวคุณวินจะไปทำงานสายเอา นิกำลังรอมอเตอร์ไซด์รับจ้างอยู่ค่ะเชิญคุณวินไปก่อนได้เลย...” นิดาปฏิเสธเพราะความเกรงใจ เธอไม่อาจเอื้อมไปนั่งซ้อนท้าย เพราะเจียมตัวเองอยู่เสมอ เขาเป็นใคร และเธอเป็นใคร
“เมื่อไหร่นิจะเลิกเกรงใจผมสักทีฮึ...ผมเต็มใจ ไม่ได้ลำบงลำบากอะไรเลยสักนิด ถึงจะไม่ใช่ทางผ่าน แต่ก็ไม่ได้ไกลจนทำให้ผมเสียเวลาไปทำงานสายได้หรอกนะ นิดื้อเองต่างหากล่ะ หรือกลัวใครจะมาเห็นอีก...” นาวินระบายยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาว เขารู้...ทำไมนิดาถึงได้ปฏิเสธไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ ถ้าหากไม่ใช่คำสั่งจากหญิงสาวอีกคนที่มีนิสัยร้ายกาจ จนเขานึกไม่ชอบใจอย่างมาก สุดาพรรณมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามไม่ให้เขากับนิดาคุยกัน...
แต่สิ่งที่นาวินไม่เข้าใจ ทำไมสุดาพรรณต้องมากีดกันไม่ให้นิดาเข้าใกล้เขาด้วย ทั้งๆที่เขากับเจ้าหล่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันมากไปกว่าเพื่อนบ้านธรรมดาๆแค่นั้น และไม่ว่าตอนไหนๆเขาก็ไม่เคยคิดกับสุดาพรรณมากไปกว่าแค่คนรู้จักกันธรรมดาทั่วไปได้หรอก ไอ้ผู้หญิงประเภทสวยเฉพาะรูปแต่จูบไม่หอม ไม่เคยอยู่ในหัวสมองของเขาแม้แต่น้อย ถ้าหากเป็นนิดานี่สิ เขาจะไม่เสียเวลาคิดอะไรอีกเลย ถ้าเธอยอมตกลงให้เขาเป็นคนดูแลน่ะนะ ...
“น้องแพรออกไปเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ ก่อนผมขับรถออกมา ยังเห็นหลังคารถขับผ่านหน้าบ้านไปอยู่เลย”
“ค่ะคุณวิน...คุณแพรเธอออกไปเรียนแล้ว” นิดาพยักหน้ารับ ร่างน้อยค่อยๆขยับเดินเลี่ยงออกมายืนรอมอเตอร์ไซด์ รับจ้างตามเดิม ถึงแม้สุดาพรรณ จะออกไปมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ก็ยังมีปากเหยี่ยวปากกา คอยสอดส่องแอบดูพฤติกรรมของเธอเพื่อที่จะเอาไปฟ้องเจ้านายอยู่อีกคน หากบังเอิญออกมาเห็นตอนเธอกับนาวินยืนคุยกัน อาจคาบข่าวไปบอกสุดาพรรณเย็นนี้ก็ได้ และมีหวัง เย็นนี้เธอคงได้มีเรื่องให้เจ็บตัวอีกเช่นเคย
“ งั้นก็ไม่ต้องกลัวใครเห็นแล้วซิ หรือยังจะมีใครมารังแกนิอีกนอกเหนือจากน้องแพร...” นาวินถอนใจ ส่งสายตาเป็นห่วงอย่างไม่ปิดบัง
“ไม่มีค่ะ...” นิดาส่ายหน้าปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นกังวลเรื่องของเธออีก เท่าที่ผ่านมาเธอก็รู้สึกเกรงใจเขาจะแย่อยู่แล้ว
อีกอย่างเธอเองก็ไม่อยากสร้างปัญหาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เรื่องบางอย่างถ้ายอม และทนได้เธอก็จะอดทน เพราะก็ทนมาหลายปีจนเกิดอาการชินชาไปเสียแล้ว...
“ งั้นก็ขึ้นรถสิ...ผมบอกแล้วไง เต็มใจที่จะช่วยนิทุกเรื่อง ถ้าหากนิทนไม่ไหว แค่บอกผมมาคำเดียว ผมจะไม่เสียเวลาคิดอะไรเลย และจะให้ความช่วยเหลือนิด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด ขอเพียงนิพูด ผมพร้อมทำเพื่อนิได้ตลอดวเวลาอยู่แล้ว...” แววตาภายใต้หมวกกันน็อก อยากสื่ออะไรออกมาให้มากกว่าคำพูด หากนิดาจะเปิดใจยอมรับเขาเข้าไปเป็นคนคอยปกป้องและดูแลเธอ อยางที่ใจเขาปรารถนามาตลอดหลายปี...
**********************************
คนในบ้านหลังนี้ล้วนแต่จิตใจคับแคบ ชอบทำร้ายทุบตีสาวน้อยผู้นี้อยู่เป็นประจำ เขาเห็นและรับรู้มาโดยตลอด แต่การเป็นคนนอก ก็ไม่อาจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออะไรเธอได้ นอกจากคำปลอบใจและพาไปหาหมอเพื่อรักษาอาการภายนอกให้หายได้เท่านั้น...
นิดายกมือไหว้ขอบคุณนาวิน ด้วยความซึ้งใจ แต่เธอไม่อาจรับความปารถนาดีนี้ได้ การอยู่ให้ห่างสิ่งต้องห้าม นั่นเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเธอ เพื่อลดการเจ็บตัวเพิ่มนั่นเอง...
“ขอบคุณค่ะ...แต่นิไม่เป็นอะไรจริงๆ นิยังทนได้ค่ะ คุณท่านทั้งสองมีพระคุณท่วมหัวกับนิ นิจะทิ้งพวกท่านไปได้อย่างไรกันล่ะคะ” ถึงความจริงการอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ เธอแทบจะหาความสุขไม่ได้เลย ทว่าท่านทั้งสองก็มีบุญคุณกับเธออยู่ท้วมหัวเช่นกัน ถ้าหากไม่ได้คุณลุงชาติชายกับคุณหญิงเพียงใจรับเลี้ยงเธอเอาไว้ ป่านนี้เธอคงได้ไปอยู่ในการอุปถัมณ์ของบ้านเด็กกำพร้าสักแห่งหนึ่งแล้วก็ได้
ตลอดเวลานิดารับรู้ปัญหาทางการเงินของครอบครัววนาสินธ์ดี ทุกอย่างในตอนนี้หลงเหลือแค่เพียงเปลือกนอกให้สังคมจอมปลอมได้เห็นกัน การโอ้อวดว่าตัวเองนั้นมี ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเงินทองมากมาย แต่ภายในใครจะรู้ พวกเขากำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย...หากยังไม่ยอมชดใช้หนี้สินมหาศาลให้กับพ่อเลี้ยงทางเหนือ แต่อะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่ากับข้อเสนอของทางนั้น นิดาแอบถอนใจออกมาหนักหน่วงเมื่อนึกถึงข้อเสนอและสัญญาของฝ่ายนั้น เมื่อเธอบังเอิญผ่านไปได้ยินเข้า...
“นิต้องขอตัวก่อนนะคะคุณวิน...สวัสดีค่ะ” เมื่อเธอเห็นมอเตอร์ไซรับจ้างเจ้าประจำขับผ่านมา นิดาเลยกล่าวลาพร้อมยกมือไหว้ เพื่อเป็นการตัดบทไปในตัว ตอนนี้เธอเองก็ได้แต่ภาวนา ขอให้มีทางออกทางอื่น ที่ไม่ใช่ข้อเสนอบ้าๆนั่นด้วยเถิด...
ชายหนุ่มนักบิดได้แต่ถอนหายใจ เมื่อให้ถึงอย่างไรนิดาก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไปช่วยเหลือเธออยู่ดี ตาชั้นเดียวแต่แฝงไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยว มองตามร่างงามไปจนสุดลูกหูลูกตา แม้มันจะอีกนานแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะพยายามเดินไปให้ถึงหัวใจของเธอให้ได้ นาวินก็ได้แต่แอบหวังอยู่ในใจลึกๆ สักวันเขาจะต้องไปให้ถึงให้ได้...
“ตามไปไหมนาย...” พอเห็นอณาคตนายหญิงขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปแล้ว มืดจึงเอ่ยถามเจ้านาย พอหันไปดู มืดได้แต่หลุดเสียงครางฮือๆ เมื่อใบหน้าของนายนั้นดูเหี้ยมโหดอย่างน่าสยดสยอง
“ก็ตามไปสิ มึงจะรอห่าเหวอะไรอีกวะ เดี๋ยวก็ได้ตามแม่ผู้หญิงหน้าด้านนั้นไม่ทันกันพอดี...” คนอารณ์เดือดกระชากเสียงด่า น่านพยัคฆ์นั่งเข่นเขี้ยวกัดฟันตัวเองกรอดๆ ก่อนจะออกคำสั่งให้ตามนิดาไป เพียงไม่นานรถเบนซ์สีดำคันหรู ก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณรั้วหน้าบ้าน นาวินเองก็รู้สึกสะดุดตา รู้สึกไม่คุ้นกับรถคันนี้เลย ก่อนเขาจะสตาร์ทเครื่องขับออกไปอีกคัน
*****************************