“ทำไมไม่ถอดล่ะ หืม”
ธีร์ทัพกระตุกยิ้มมุมปาก มองคนเมาที่มุ่ยริมฝีปากใส่ ก่อนที่สายตาจะแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา ท่ามกลางใบหน้าขาวที่ขึ้นสีระเรื่อจากพิษแอลกอฮอล์
“คุณคิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ แค่ถอดเสื้อ.. อึก” แพรวาสะอึกในลำคอ พลางเปรยสายตาขึ้นมองชายหนุ่มด้วยแววตาวาบหวาม ส่งผลให้ธีร์ทัพเห็นภาพเธอเวลาอยู่บนเตียง ลีลาและการยั่วยวนมีแค่ฉากบนเตียงเท่านั้นที่เขาจะได้เห็นมัน
เธอขยับตัวเข้าใกล้เขา สองมือวางทาบบนแผงอกชายหนุ่ม
“ที่คุณบอกว่าเราไม่เคยใกล้กันระดับนี้น่ะ”
“หือ”
“ความจริงเคยใกล้กว่านี้อีกนะคะ”
สิ้นประโยคนั้นแพรวาก็จับมือเขามาแนบข้างแก้ม ใช้ใบหน้าถูไถฝ่ามือขาวอย่างออดอ้อน เล่นเอาธีร์ทัพพึงพอใจยกใหญ่ที่เห็นเธออ้อนเขาตอนเมา
“ใกล้กว่านี้ แล้วใกล้แค่ไหน”
“ก็ใกล้ขนาด..”
ไม่พูดเปล่าแพรวายังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ก่อนจะทิ้งศีรษะซบไหล่เขาด้วยอาการมึนเมา
ที่ผ่านมาทั้งคู่มักนัดเจอกันที่คอนโด แค่พิมพ์ว่าเจอกันที่คอนโดสั้น ๆ ทั้งสองก็จะมาเจอกันเพื่อเสพสวาทกันอย่างสุขสม
สำหรับธีร์ทัพเธอทำอย่างกับเขาเป็นตุ๊กตายางเพื่อระบายอารมณ์ เสร็จสมแล้วก็จากไปให้คิดถึง
พวกเขาเคยเริงสวาทบนเตียงอย่างเร่าร้อนก็จริง แต่เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแพรวาก็เปิดโหมดเย็นชาใส่เขาอยู่ดี มิหนำซ้ำยังพยายามผลักไสเขาให้ผู้หญิงคนอื่นอีกต่างหาก
เธอใจร้ายกว่าที่คิดเยอะเลย..
“ลำบากคุณแย่เลย ขอโทษนะคะ” เธอว่าด้วยน้ำเสียงอู้อี้ในลำคอ
ธีร์ทัพเพิ่งรู้เหมือนกันว่าเวลาแพรวาเมา เธอจะกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยออดอ้อนเจ้าของขนาดนี้
หลงจะแย่อยู่แล้ว..
ปกติเรื่องราวระหว่างเขาสองคนก็มีแค่เซ็กซ์ที่ทำให้ใกล้กัน เรื่องหลังจากนั้นแพรวาจะขีดเส้นตัวเองไว้ไม่ให้ถลำลึกเข้าไปมากกว่านี้
“เมาแล้วขี้อ้อนชะมัดเลย” เขาว่าพลางลูบศีรษะคนตัวเล็กไปด้วย
“แล้วอ้อนได้มั้ยคะ”
“ไหนลองอ้อนหน่อยสิ”
เธอพยักหน้ารับหงึกหงัก ก่อนจะเอาหัวถูตันแขนธีร์ทัพอยู่อย่างนั้น
คนที่มักจะแสดงออกด้วยท่าทีเฉยชา กลายเป็นแมวตัวน้อยอ้อนผู้เป็นสามีได้น่ารักเลยทีเดียว
“แพรวา”
“อื้อ”
เขาประคองใบหน้าสวยเอาไว้ให้เงยขึ้นสบตา เพียงเสี้ยววินาทีธีร์ทัพก็ยื่นหน้าเข้าไปทำท่าจะจูบ แต่กลับชะงักค้างไว้กลางอากาศเพราะไม่อยากรังแกคนเมา
หากทว่าคนตัวเล็กกลับสอดฝ่ามือประคองใบหน้าคมคาย แล้วเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปจูบเขาก่อนด้วยความมึนเมาปะปนกับอารมณ์ข้างในที่สับสน
อย่างที่เขาว่ายิ่งถอยห่างก็ยิ่งใกล้กัน ยิ่งพยายามหักห้ามใจก็มักจะแพ้ใจตัวเอง
“เธอเมามากแล้วรู้ตัวมั้ย” ธีร์ทัพเอ่ยขึ้น แต่กลับแยกยิ้มบนมุมปากคล้ายว่าพึงพอใจ
เธอยิ้มรับหลังผละออก สองมือประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังย่องเข้าหาเสือร้ายที่หิวกระหายอยู่
เพียงแค่เสี้ยววินาทีธีร์ทัพก็จับคนตัวเล็กย้ายฝั่งขึ้นมานั่งบนตัก สองมือประคองเอวคอดกิ่วด้วยสายตาที่เป็นประกายวาบหวาม
“คุณทัพ” แพรวาทำหน้าดุใส่ ก่อนจะโปรยยิ้มหวานจนดวงตาหยีลงเป็นสระอิ
“ไม่กลัวเลยเหรอ”
“กลัวอะไรคะ”
“กลัวว่าฉันจะทำอะไรเธอไง มันไม่ดีต่อตัวเธอเองรู้ตัวมั้ย” เขาเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ สายตาเป็นประกายวาววับราวกับเพชร แต่เหมือนคนบนตักจะไม่รู้ว่าเข้าเขตอันตรายเสียแล้ว
มือหนาสอดประคองพวงแก้มขาว มืออีกข้างก็เกลี่ยไรผมที่ตกลงมาปิดหน้าเธอออกอย่างนุ่มนวล
“ทำไมถึงดื่มหนักขนาดนี้” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เพราะคุณนั่นแหละค่ะ” เธอยู่ริมฝีปากเข้าหากัน ช้อนสายตามองธีร์ทัพที่ยิ้มหวานชอบใจ
“เพราะฉันเหรอ”
“อื้อ”
“ทำไมเป็นเพราะฉันล่ะ”
สิ้นประโยคคำถามหญิงสาวก็นิ่งงันไปชั่วขณะ ศีรษะโอนเอนไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
แพรวาช้อนสายตามองธีร์ทัพเชิงแง่งอน ก่อนจะพึมพำประโยคบางอย่างออกมาด้วยอาการน้อยใจ ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้เห็นเธอในมุมนี้
เธอไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกในใจให้ธีร์ทัพได้ฟัง แล้วก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องมานั่งระบายความในใจให้สามีที่ป่วยความจำเสื่อม
“เลิกทำให้ใจเต้นแรงสักที..”
“แล้วฉันทำอะไรให้ใจเธอเต้นแรง”
แพรวาส่ายหน้าไม่ตอบคำถาม “ยังไงก็ต้องหย่ากันอยู่ดี..”
ธีร์ทัพขมวดคิ้วมุ่น ในแววตาฉายชัดว่าต้องการเธอมากแค่ไหนในเวลานี้
เธอคงไม่รู้ว่าในหัวธีร์ทัพคิดไปไกลแค่ไหน เพราะแค่นั่งตักใจเขาก็อ่อนยวบยาบไปหมดแล้ว และดูเหมือนแพรวาจะพยายามกระตุ้นอารมณ์เขาเสียด้วยสิ
“เพราะงั้นอย่ามาแกล้งกันแบบนี้ได้มั้ย”
“แต่เมื่อกี้เธอเป็นคนจูบฉันก่อนนะ”
“นั่นสิ ฉันจูบคุณก่อนได้ยังไงกัน น่าอายชะมัดเลย”
คนแก้มแดงยกสองมือขึ้นปิดหน้า ก่อนจะแนบข้างแก้มที่ร้อนฉ่าด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
ภาพของแพรวาในตอนนี้กลบภาพของเธอที่เฉยชาต่อเขาไปจนหมด อีกมุมที่ธีร์ทัพเพิ่งได้เห็น ส่งผลให้เขารู้สึกชอบเธอมากกว่าเดิมเสียอีก
“หยุดน่ารักสักที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว” เขาเอ่ยเสียงงึมงำในลำคอ พลางเสยผมด้วยความเสียอาการกับคนตรงหน้า
“แล้วใครใช้ให้ทนล่ะคะ”
“แพรวา”
“ไม่อยากทน.. ก็ไม่ต้องทนสิ”