ตอนที่ 5 ผู้ป่วยความจำเสื่อม

1061 คำ
คนที่ตื่นมาแล้วพูดจาผิดแปลก ถูกคุณหมอตรวจร่างกายอีกครั้งอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรของร่างกายนอกจากรอยฟกช้ำตามเนื้อตัว แต่คุณหมอก็ไม่ปฏิเสธว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ อาจมีผลต่อด้านความทรงจำที่อาจหายไป ทำเอาแพรวาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ว่าสามีที่อาศัยชายคาเดียวกันจะความจำเสื่อม “คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เดี๋ยวตาทัพก็คงจะจำได้เอง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกอย่างใจเย็น แพรวาที่ยืนอยู่ข้างเตียงเขา ขยับสายตาขึ้นมองคนป่วยด้วยความสงสารจับใจ หากเขาเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำอย่างไรดี แม้ว่าคนนอกจะไม่รู้ แต่ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้ดีว่าทั้งคู่ระหองระแหงกับชีวิตคู่แค่ไหน เมื่อเป็นแค่พันธะสัญญา พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรักกันจริง ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจก็เท่านั้น แต่หากธีร์ทัพกลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อมแบบนี้ พันธะสัญญาก็ยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าความทรงจำของเขาจะกลับคืนมา “ระหว่างนี้พ่อฝากดูแลตาทัพด้วยนะหนูแพรวา” ท่านธีระเอ่ยบอก หลังเดินออกมาพูดคุยกันที่ด้านนอกของห้อง ปล่อยให้ธีร์ทัพได้อยู่กับตัวเองสักพัก “ได้ค่ะคุณพ่อ” แพรวาค้อมศีรษะน้อมรับทันที ก่อนจะหันหน้ามองคุณหญิงลลิตาด้วยความหนักใจ “ระหว่างรอหย่า เธอก็ช่วยให้ความทรงจำตาทัพกลับมาก็แล้วกัน” “ค่ะ ฉันจะพยายามค่ะ” สาวเจ้าค้อมศีรษะอีกครั้งกับคำสั่งกำชับจากแม่ของธีร์ทัพ รวมถึงท่านธีระที่ยืนข้างกายเธอด้วย เพราะช่วงสามปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่แพรวาที่อยู่ดูแลธีร์ทัพอย่างใกล้ชิดที่สุด หากจะให้ใครสักคนช่วยฟื้นความทรงจำก็คงต้องเป็นเธอ แม้คุณหญิงลลิตาจะเฝ้ารอให้ทั้งคู่หย่ากัน แต่การได้เห็นลูกชายกลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อม ทำให้เธอต้องอ่อนใจให้แพรวาได้ดูแล ใช้เวลาสักพักแพรวาก็กลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย สายตามองเขาที่เหม่อมองอะไรสักอย่างที่ไร้จุดหมาย ก่อนเธอจะเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงเขา “คุณหิวอะไรมั้ย อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” แพรวาเอ่ยถามเสียงราบเรียบ “ไม่เป็นไร” ธีร์ทัพบอกปัด พลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น แต่นั่นไม่ได้ทำให้แพรวายอมแพ้ เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา หวังได้สบตาระหว่างพูดคุย ก่อนจะเอ่ยทักท้วงด้วยน้ำเสียงเว้าวอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “คุณ.. จำฉันไม่ได้จริงเหรอ” “.....” “ลืม.. ทุกอย่างที่ผ่านมาเลยใช่ไหมคะ” คราวนี้นัยน์ตาคู่คมขยับขึ้นมองหญิงสาว แต่ไร้ซึ่งคำตอบจากปากเขาให้ได้ยิน เขาดูไม่ไว้วางใจคนอื่นที่เข้าใกล้ หากแต่มีเพียงแค่แพรวาที่ธีร์ทัพยินยอมให้เข้าหาเท่านั้น “เธอจะทำให้ฉันจำได้ใช่มั้ย ว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน” เขาเอ่ยเสียงนิ่งเรียบ ใบหน้าดูเฉยชาขณะสบสายตาผู้เป็นภรรยาไม่ละไปไหน “แน่นอนสิคะ เราสองคนมีเรื่องสำคัญให้ต้องทำ ยังไงฉันก็ต้องทำให้คุณจำทุกอย่างให้ได้” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันเป็นสามีที่ดีหรือเปล่า” “คะ” “เธอบอกว่าเราสองคนเป็นสามีภรรยากันใช่มั้ย แล้วฉันเป็นสามีที่ดีให้หรือเปล่า” หญิงสาวขบริมฝีปากล่างกับคำถามที่ยากจะตอบ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สองมือประสานไว้บนหน้าตักกับรอยยิ้มบางเบาที่ปรากฏขึ้นบนมุมปากสวย “คุณเป็นสามีที่ดีค่ะ” แพรวายืนยันคำตอบกับเขา “งั้นเหรอ” เจ้าของใบหน้าคมคายเลิกคิ้ว คล้ายว่าไม่เชื่อในคำพูดของอีกฝ่าย “ใช่ค่ะ คุณเป็นสามีที่ดีสำหรับฉัน” “เราคงรักกันมากใช่มั้ย” “ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ” “เพราะฉันเห็นเธอร้องไห้หนัก” แต่ละคำถามที่ถูกหลุดออกมาจากปากเขา ทำเอาแพรวาไปต่อไม่เป็น ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นเล่าถึงความสัมพันธ์ของพวกเขายังไงดี เพราะมันค่อนข้างซับซ้อน.. “ระหว่างเราสองคน.. มีแต่เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้นค่ะ” ดวงหน้าหมดจดตอบกลับอย่างไม่ลังเล เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนปรนออกมาเบาๆ หลังตอบคำถามเสร็จ “อ่า งั้นสินะ” “ที่จริงเรากำลังจะหย่ากัน” ธีร์ทัพนิ่งงันไปชั่วขณะ เขาจ้องมองเธอไม่ละสายตา ตั้งใจฟังทุกประโยคที่เธอเอื้อนเอ่ย “แต่เพราะคุณประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม มันทำให้ข้อสัญญาต้องยืดออกไป” แพรวาพูดไปตามความจริง หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสติที่ไม่ครบถ้วน พันธะสัญญาจะถูกยืดเวลาออกไป จนกว่าเหตุการณ์จะกลับมาเป็นปกติ สัญญาที่ร่างไว้จะถูกดำเนินต่อตามเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง “ถ้าฉันจำทุกอย่างได้.. เราจะได้หย่ากันใช่มั้ย” “ใช่ค่ะ” สิ้นประโยคขานรับ ระหว่างทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่โหมดนิ่งเงียบ คนบนเตียงผู้ป่วยหลุบตามองต่ำ ส่วนแพรวาก็ทำได้แค่ตอบคำถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ก็เท่านั้น เธอจะไม่โกหกเพื่อให้ความสัมพันธ์นี้ยืดเยื้อออกไป แต่จะตอบทุกความจริงเพื่อดึงความทรงจำของเขากลับมา พันธะสัญญาจะได้สิ้นสุดลงสักที.. เธอไม่อยากเป็นภรรยาจอมปลอมของเขาอีกต่อไปแล้ว “แล้วเธอจะไม่อึดอัดเหรอ กับการที่ต้องดูแลผู้ป่วยความจำเสื่อมที่ต้องหย่ากัน” คนบนเตียงขยับสายตามองแพรวา ไล่สำรวจใบหน้าสวยหวานอย่างถี่ถ้วน รอยยิ้มของแพรวาเปรียบเสมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ แม้จะหวานล้ำเพียงใด แต่กลับทำให้อีกคนรู้สึกเจ็บแปลบกลางใจยังไงยังงั้น “ไม่หรอกค่ะ ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ฉันอยู่แล้ว” “อ่า งั้นหน้าที่จำให้ได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ฉันใช่มั้ย” “ไม่ต้องกดดันตัวเองมากไปหรอกค่ะ ยังไงถ้าพอจำอะไรบ้างได้แล้ว ช่วยบอกฉันทีนะคะ” ธีร์ทัพนั่งพยักหน้ารับคำ ไม่มีข้อโต้เถียงกับเธอแต่อย่างใด “ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะคะ.. คุณทัพ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม