คนที่ตื่นมาแล้วพูดจาผิดแปลก ถูกคุณหมอตรวจร่างกายอีกครั้งอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรของร่างกายนอกจากรอยฟกช้ำตามเนื้อตัว
แต่คุณหมอก็ไม่ปฏิเสธว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ อาจมีผลต่อด้านความทรงจำที่อาจหายไป ทำเอาแพรวาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ว่าสามีที่อาศัยชายคาเดียวกันจะความจำเสื่อม
“คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เดี๋ยวตาทัพก็คงจะจำได้เอง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกอย่างใจเย็น
แพรวาที่ยืนอยู่ข้างเตียงเขา ขยับสายตาขึ้นมองคนป่วยด้วยความสงสารจับใจ หากเขาเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำอย่างไรดี
แม้ว่าคนนอกจะไม่รู้ แต่ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรู้ดีว่าทั้งคู่ระหองระแหงกับชีวิตคู่แค่ไหน
เมื่อเป็นแค่พันธะสัญญา พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรักกันจริง ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจก็เท่านั้น
แต่หากธีร์ทัพกลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อมแบบนี้ พันธะสัญญาก็ยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าความทรงจำของเขาจะกลับคืนมา
“ระหว่างนี้พ่อฝากดูแลตาทัพด้วยนะหนูแพรวา” ท่านธีระเอ่ยบอก หลังเดินออกมาพูดคุยกันที่ด้านนอกของห้อง ปล่อยให้ธีร์ทัพได้อยู่กับตัวเองสักพัก
“ได้ค่ะคุณพ่อ” แพรวาค้อมศีรษะน้อมรับทันที ก่อนจะหันหน้ามองคุณหญิงลลิตาด้วยความหนักใจ
“ระหว่างรอหย่า เธอก็ช่วยให้ความทรงจำตาทัพกลับมาก็แล้วกัน”
“ค่ะ ฉันจะพยายามค่ะ”
สาวเจ้าค้อมศีรษะอีกครั้งกับคำสั่งกำชับจากแม่ของธีร์ทัพ รวมถึงท่านธีระที่ยืนข้างกายเธอด้วย
เพราะช่วงสามปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่แพรวาที่อยู่ดูแลธีร์ทัพอย่างใกล้ชิดที่สุด หากจะให้ใครสักคนช่วยฟื้นความทรงจำก็คงต้องเป็นเธอ
แม้คุณหญิงลลิตาจะเฝ้ารอให้ทั้งคู่หย่ากัน แต่การได้เห็นลูกชายกลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อม ทำให้เธอต้องอ่อนใจให้แพรวาได้ดูแล
ใช้เวลาสักพักแพรวาก็กลับเข้าไปในห้องผู้ป่วย สายตามองเขาที่เหม่อมองอะไรสักอย่างที่ไร้จุดหมาย ก่อนเธอจะเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงเขา
“คุณหิวอะไรมั้ย อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ” แพรวาเอ่ยถามเสียงราบเรียบ
“ไม่เป็นไร” ธีร์ทัพบอกปัด พลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
แต่นั่นไม่ได้ทำให้แพรวายอมแพ้ เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา หวังได้สบตาระหว่างพูดคุย ก่อนจะเอ่ยทักท้วงด้วยน้ำเสียงเว้าวอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“คุณ.. จำฉันไม่ได้จริงเหรอ”
“.....”
“ลืม.. ทุกอย่างที่ผ่านมาเลยใช่ไหมคะ”
คราวนี้นัยน์ตาคู่คมขยับขึ้นมองหญิงสาว แต่ไร้ซึ่งคำตอบจากปากเขาให้ได้ยิน
เขาดูไม่ไว้วางใจคนอื่นที่เข้าใกล้ หากแต่มีเพียงแค่แพรวาที่ธีร์ทัพยินยอมให้เข้าหาเท่านั้น
“เธอจะทำให้ฉันจำได้ใช่มั้ย ว่าตัวเองเป็นใครมาก่อน” เขาเอ่ยเสียงนิ่งเรียบ ใบหน้าดูเฉยชาขณะสบสายตาผู้เป็นภรรยาไม่ละไปไหน
“แน่นอนสิคะ เราสองคนมีเรื่องสำคัญให้ต้องทำ ยังไงฉันก็ต้องทำให้คุณจำทุกอย่างให้ได้” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ฉันเป็นสามีที่ดีหรือเปล่า”
“คะ”
“เธอบอกว่าเราสองคนเป็นสามีภรรยากันใช่มั้ย แล้วฉันเป็นสามีที่ดีให้หรือเปล่า”
หญิงสาวขบริมฝีปากล่างกับคำถามที่ยากจะตอบ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สองมือประสานไว้บนหน้าตักกับรอยยิ้มบางเบาที่ปรากฏขึ้นบนมุมปากสวย
“คุณเป็นสามีที่ดีค่ะ” แพรวายืนยันคำตอบกับเขา
“งั้นเหรอ” เจ้าของใบหน้าคมคายเลิกคิ้ว คล้ายว่าไม่เชื่อในคำพูดของอีกฝ่าย
“ใช่ค่ะ คุณเป็นสามีที่ดีสำหรับฉัน”
“เราคงรักกันมากใช่มั้ย”
“ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ”
“เพราะฉันเห็นเธอร้องไห้หนัก”
แต่ละคำถามที่ถูกหลุดออกมาจากปากเขา ทำเอาแพรวาไปต่อไม่เป็น ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นเล่าถึงความสัมพันธ์ของพวกเขายังไงดี
เพราะมันค่อนข้างซับซ้อน..
“ระหว่างเราสองคน.. มีแต่เรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจเท่านั้นค่ะ” ดวงหน้าหมดจดตอบกลับอย่างไม่ลังเล เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนปรนออกมาเบาๆ หลังตอบคำถามเสร็จ
“อ่า งั้นสินะ”
“ที่จริงเรากำลังจะหย่ากัน”
ธีร์ทัพนิ่งงันไปชั่วขณะ เขาจ้องมองเธอไม่ละสายตา ตั้งใจฟังทุกประโยคที่เธอเอื้อนเอ่ย
“แต่เพราะคุณประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม มันทำให้ข้อสัญญาต้องยืดออกไป” แพรวาพูดไปตามความจริง
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสติที่ไม่ครบถ้วน พันธะสัญญาจะถูกยืดเวลาออกไป จนกว่าเหตุการณ์จะกลับมาเป็นปกติ สัญญาที่ร่างไว้จะถูกดำเนินต่อตามเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
“ถ้าฉันจำทุกอย่างได้.. เราจะได้หย่ากันใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ”
สิ้นประโยคขานรับ ระหว่างทั้งคู่ก็กลับเข้าสู่โหมดนิ่งเงียบ คนบนเตียงผู้ป่วยหลุบตามองต่ำ ส่วนแพรวาก็ทำได้แค่ตอบคำถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ก็เท่านั้น
เธอจะไม่โกหกเพื่อให้ความสัมพันธ์นี้ยืดเยื้อออกไป แต่จะตอบทุกความจริงเพื่อดึงความทรงจำของเขากลับมา
พันธะสัญญาจะได้สิ้นสุดลงสักที..
เธอไม่อยากเป็นภรรยาจอมปลอมของเขาอีกต่อไปแล้ว
“แล้วเธอจะไม่อึดอัดเหรอ กับการที่ต้องดูแลผู้ป่วยความจำเสื่อมที่ต้องหย่ากัน” คนบนเตียงขยับสายตามองแพรวา ไล่สำรวจใบหน้าสวยหวานอย่างถี่ถ้วน
รอยยิ้มของแพรวาเปรียบเสมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ แม้จะหวานล้ำเพียงใด แต่กลับทำให้อีกคนรู้สึกเจ็บแปลบกลางใจยังไงยังงั้น
“ไม่หรอกค่ะ ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ฉันอยู่แล้ว”
“อ่า งั้นหน้าที่จำให้ได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ฉันใช่มั้ย”
“ไม่ต้องกดดันตัวเองมากไปหรอกค่ะ ยังไงถ้าพอจำอะไรบ้างได้แล้ว ช่วยบอกฉันทีนะคะ”
ธีร์ทัพนั่งพยักหน้ารับคำ ไม่มีข้อโต้เถียงกับเธอแต่อย่างใด
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะคะ.. คุณทัพ”