ตอนที่ 13 ยิ่งใกล้ก็ยิ่งไกล

1359 คำ
คนที่ถูกตอกหน้าว่าใจร้าย แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนให้เขาอยู่ดี อีกหนึ่งเหตุผลก็เพราะเธอจำไม่ได้แล้วว่าดูหนังครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ชีวิตทั้งหมดที่ผ่านมาแพรวาถวายให้การทำงานแทบทั้งหมด ทำให้คนรอบข้างเริ่มหายไปทีละคน จนรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เหลือตัวเธอแค่คนเดียว “เสร็จแล้วครับ” คนที่อยากดูหนังกลับมาพร้อมตั๋วหนังในมือ “คุณจะนั่งดูหนังกับคนที่ใจร้ายลงเหรอคะ” คนที่ถูกต่อว่าก่อนหน้านี้เอ่ยขึ้นแกมประชด หลังซื้อตั๋วหนังเข้าชมแล้วเรียบร้อย “ยังติดใจกับคำพูดฉันอยู่หรือไง” “แล้วอะไรที่คุณคิดว่าฉันใจร้ายล่ะคะ” “ฉันไม่ได้หมายถึงว่าเธอใจร้ายใจดำแบบนั้น” ธีร์ทัพกล่าวเชิงอธิบายอย่างใจเย็น “ฉันแค่หมายถึงการโต้ตอบของเธอที่ดูไร้เยื่อใยต่างหาก.. ที่ดูใจร้าย” ไม่พูดเปล่าเขายังมุ่ยปากประกอบท่าทางให้น่าเอ็นดู จนแพรวาเกือบหลุดยิ้มออกมาให้เห็น “งั้นเหรอคะ” “ถ้าเกิดว่ามีรอยยิ้มสักนิดคงจะดีเหมือนกัน” แพรวากะพริบตาสองสามที ในหัวนึกย้อนถึงการกระทำของตัวเอง แล้วได้แต่ปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ถ้ามีรอยยิ้มสักนิดคงไม่กลายเป็นคนใจร้ายแล้วสินะ.. “งั้นฉันก็เป็นคนใจร้ายในสายตาคุณใช่มั้ย เพราะฉันไม่ชอบยิ้มเอาซะเลย” “คนเราก็คงมีเหตุผลให้ใจร้ายทั้งนั้น ฉันจะไม่ถามเหตุผลของเธอก็แล้วกัน.. ถึงจะอยากรู้ก็ตาม” สิ้นประโยคนั้นคนฟังก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะ สำหรับแพรวาแล้วถ้าไม่เย็นชาก็จะอ่อนไหว เมื่อไหร่ที่อารมณ์อ่อนไหว เธอก็จะเผลอใจถลำลึกลงไปมากกว่านี้ “แต่อย่าใจร้ายกับฉันเลยนะ หัวใจฉันไม่ค่อยแข็งแรง” ธีร์ทัพเอ่ยแล้วยกมือขึ้นทาบกลางอก ส่งผลให้หญิงสาวหลุดยิ้มออกมา แต่ก็ยังทำขรึมเวลาอยู่ต่อหน้าเขา “พี่ทัพ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากที่ไกล ๆ พอหันไปมองต้นตอของเสียงก็พบเข้ากับหญิงสาวใบหน้าสะสวยกำลังยืนโบกไม้โบกมือให้ทั้งคู่อยู่ “คุณลินดา..” ริมฝีปากสีระเรื่อพึมพำเจ้าของชื่อที่เรียกธีร์ทัพเมื่อครู่ แพรวามองคนตรงหน้าพร้อมระบายยิ้มบาง ๆ สลับกับมองธีร์ทัพที่ตีหน้านิ่งเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายคล้ายว่าไม่คุ้นเคย “สวัสดีค่ะคุณแพรวา” ลินดาที่รีบวิ่งมาหาหอบหายใจเหนื่อย ก่อนจะหันมองเจ้าของใบหน้าคมคายด้วยสายตาที่สั่นไหวไปมา “นี่ใครครับ” เขาแสร้งเล่นละครผู้ป่วยความจำเสื่อมต่อเนื่อง “พี่ทัพ..” ลินดามองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ธีร์ทัพส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากแพรวา ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันอีกครั้ง “นี่คุณลินดาค่ะ เป็นลูกสาวคุณหญิงฉัตรเพชร คนที่..” แพรวาเอ่ยขึ้นเสียงค่อย ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “คนที่สนิทกับครอบครัวคุณ” “พี่ทัพจำลินดาได้ไหมคะ” เธอถามขณะที่จับมือเขา ก่อนยกมือขึ้นป้องปากที่เห็นปฏิกิริยาของธีร์ทัพเปลี่ยนไป “จำไม่ได้ครับ” “พี่ทัพ” ภรรยาในนามได้แต่ยืนมองทั้งคู่คุยกัน พร้อมกับรอยยิ้มเจื่อน ๆ ที่ส่งไปให้ลินดา ว่าตอนนี้ธีร์ทัพไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขากลายเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อมเสียแล้ว.. “คุณแม่บอกลินว่าพี่ทัพประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมจริงเหรอคะคุณแพรวา” “จริงค่ะ” ลินดาตั้งท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เล่นเอาธีร์ทัพไปต่อไม่ถูก ได้แต่ขอความช่วยเหลือผ่านสายตาไปยังแพรวาที่ยืนข้างกาย “ว่าแต่คุณลินมาทำอะไรแถวนี้คะ” “ลินมาทำธุระให้คุณแม่น่ะค่ะ แล้วก็คิดว่าจะแวะไปหาพี่ทัพที่บ้านด้วย ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่” พอได้ยินดังนั้น แพรวาก็นึกแผนบางอย่างออก โดยที่ไม่ได้ถามความสมัครใจของอีกคนก่อนด้วยซ้ำ “ถ้างั้นเราสามคนมาดูหนังด้วยกันมั้ยคะ คุณลินอาจจะทำให้คุณทัพจำอะไรขึ้นมาได้บ้างก็ได้” แพรวาออกความเห็นพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าลินช่วยได้ ลินก็อยากช่วยค่ะ” “ดีเลยค่ะ” หลังจากพูดจบประโยคใบหน้าของธีร์ทัพก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบ แต่ภายในอกร้อนรุ่มจนเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่ จนสุดท้ายทั้งสามคนก็เข้ามานั่งในโรงหนัง โดยที่มีธีร์ทัพนั่งตรงกลาง ทางขวาคือแพรวาและทางด้านซ้ายคือลินดาที่นั่งอยู่ด้วย ทุกอย่างเข้าสู่โหมดเงียบสงบ ผลจากหนังที่เริ่มฉายแล้ว แต่ธีร์ทัพกลับอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องนั่งกลางระหว่างเธอทั้งสองคน โดยเฉพาะแพรวา.. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพยายามจับคู่เขากับลินดา แต่จะให้โหวกเหวกโวยวายไปตอนนี้ แผนที่วางไว้ทั้งหมดก็คงจะล่มไม่เป็นท่า เพราะงั้นเขาจะตามน้ำไปก่อนก็แล้วกัน.. “คุณทัพ” แพรวากระซิบข้างใบหู ก่อนจะหลุบตามองมือหนาที่คว้ามือเธอไปจับเอาไว้ เจ้าของใบหน้าสวยลอบมองซ้ายมองขวา ก่อนมองธีร์ทัพที่ตีหน้านิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว ครั้นพอจะสลัดมือออกคนมือไวก็ยิ่งออกแรงบีบแน่น สุดท้ายก็กลับกลายเป็นว่าทั้งคู่นั่งจับมือกันดูหนังตั้งแต่ต้นยันจบ แม้เหงื่อจะออกมือแต่ธีร์ทัพก็ไม่ยอมปล่อยมือออก นี่เขากำลังลงโทษเธออยู่เหรอ.. หลังเดินออกมาจากโรงหนัง ธีร์ทัพถึงได้ยอมปล่อยมือออก ไม่วายหันมาแยกยิ้มใส่แพรวาที่หน้าบึ้งตึง “ฉันว่าเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า ดีมั้ย” เขาเสนอความเห็นขึ้น เพราะอยากอยู่กับแพรวาแค่สองคน แต่ดูเหมือนอีกคนจะตามติดเขาแจ “ลินขอเลี้ยงข้าวพี่ทัพก่อนได้มั้ยคะ” “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ พี่.. ไม่อยากรบกวน” “ถ้างั้น..” “ถ้างั้นเรากลับกันดีกว่า ฉันรู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยสบายด้วย” ไม่รอให้แพรวาได้เอ่ยขัดขวาง ธีร์ทัพก็เป็นฝ่ายพูดแทรก พร้อมกับคว้าแขนคนตัวเล็กให้มายืนหลบอยู่ด้านหลังแทน “ยังไงพี่ขอตัวก่อนนะครับ” “แต่ว่าพี่ทัพคะ..” “ไว้เจอกันนะครับน้องลิน” พูดจบธีร์ทัพก็คว้ามือแพรวาให้เดินตาม ก่อนที่เขาจะอดทนต่อการจับคู่นี้ไม่ไหวแล้วระเบิดอารมณ์ออกมาเสียก่อน กระทั่งทั้งคู่พากันมายังลานจอดรถ ธีร์ทัพที่ความอดทนต่ำลงก็หันมาต่อว่าแพรวาทันที “เมื่อกี้คืออะไร” “อะไรคะ” “เธอพยายามจับคู่ให้ฉันกับน้องลินเหรอ” แพรวาส่ายหน้าปฏิเสธการกระทำ ทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่แก่ใจ แม้กระทั่งในตอนที่แสร้งเป็นผู้ป่วยความจำเสื่อม ธีร์ทัพก็ยังถูกผลักไสให้เข้าหาคนอื่น แบบนี้จะไม่ให้เขาชักสีหน้าไม่พอใจได้ยังไงกัน “ฉันทำแบบนั้นเพราะคุณลินสนิทกับคุณต่างหากค่ะ” “เธอก็เลยคิดว่าฉันจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้างงั้นใช่มั้ย” “ใช่สิคะ ไม่งั้นฉันจะทำแบบนั้นไปทำไม” ธีร์ทัพไม่กล้าปริปากเถียงกลับ ได้แต่กล้ำกลืนทุกคำพูดลงไปในลำคอ แล้วแสร้งเล่นละครตบตาเธอต่อไป “บางทีฉันอาจคิดไปเอง” “คุณคิดไปเองทั้งนั้นค่ะ ฉันทำเพราะอยากให้คุณจำได้เร็วๆ ต่างหาก” ธีร์ทัพเอียงคอเพียงเล็กน้อย ก่อนจะนิ่งเงียบไปด้วยอาการแง่งอน “งอนเหรอคะ” “เปล่า” “งอนจริงด้วย” “บอกว่าเปล่า” “งอนตุ๊บป่องไปแล้ว” “บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม