EP 1 : จีสตริงสีแดง
“พรีม”
“พรีม!”
“พรีม!!”
“ขา~ มีอะไรคะ” ฉันรีบวิ่งแจ้นจากหน้าเตาไปตามเสียงหล่อ ๆ วิ่งผ่านห้องนั่งเล่นทะลุทะลวงผ่านทุกห้องในคอนโดที่ใหญ่กว่าบ้านฉันห้าเท่าไปที่ห้องมาสเตอร์เบสรูมเพราะเสียงหล่อมาก~กำลังเรียกหา~
ผลัก!
ไปถึงที่ที่มีเสียงหล่ออยู่ข้างในนั้นฉันก็ผลักประตูเข้าไปเต็มแรงแล้วก็ได้เจอกับพ่อหนุ่มรูปงามนามปีศาจยืนนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวสภาพจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่โชว์ซิกแพคแน่น ๆ กับไรขนอ่อน ๆ ใต้สะดือที่ยาวลงไปข้างล่างได้ชวนจั๊กจี้มาก~
“ว่าไงคะ~” ฉันยิ้มแฉ่งถามเขาที่ยืนจังก้าชูมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วปลายนิ้วเรียวยาวก็มี...จีสตริงสีแดงเพลิงอยู่ในมือ
“นี่คือ?”
“จีสตริงไงคะ” ฉันตอบเสียงสดใสเหมือนเดิม ยิ้มแฉ่งด้วยเพราะเศษผ้าในมือเขามันเป็นอะไรอย่างอื่นไม่ได้แล้วในเมื่อสภาพมันชัดเจนขนาดนั้น พอได้คำตอบเขาก็จ้องหน้าฉันแล้วยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“ของ?”
“ก็ของคู่นอนคุณเพลิงไงคะ” ฉันยังตอบชัดเจนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่เขากำลังเส้นเลือดที่ขมับกระตุก
“แล้วจะเอามาใส่ในตู้เสื้อผ้าฉันทำไมวะ!”
“เอ้า! แล้วจะให้พรีมเอาไปใส่ในตู้พรีมรึไงคะ”
“พรีรตา!”
แป๊ะ!
“คุณเพลิง!!” ฉันโวยวายบ้าง โวยวายดังกว่าเขาอีกเพราะว่าเขา...เขาปาจีสตริงตัวนั้นมาเกือบโดนหน้าฉัน ไม่ใช่สิ! มันโดนแล้ว มันเฉียดแก้มฉันหน่อยนึงแต่ถ้าหลบไม่ทันรับรองว่ามันประทับตาลงที่หน้าฉันแน่!
“คุณเพลิงทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!” ฉันจ้องเขาด้วยความเดือดดาลแต่คนทำก็จ้องหน้าฉันไม่ต่างกัน
“อย่าโวยวาย แล้วจำไว้คราวหลังอย่าเอากางเกงในผู้หญิงคนไหนมาไว้ในตู้ฉัน” เขาพูดจบก็ชี้หน้าทำท่าทางสั่งการส่วนฉันก็ยืนจ้องเพราะอยากกินเลือดกินเนื้อ
“...”
“แล้วนี่ซักรวมรึเปล่า”
“จะไปรู้เหรอ” ฉันตอบแบบขอไปทีแล้วก็เอาเท้าเขี่ยจีสตริงที่กองอยู่ที่เท้าให้พ้นทาง
“พรีม ตอบดี ๆ” น้ำเสียงดุดันกดดันออกมาฉันก็กรอกตามองบนทันที
“...พรีมไม่รู้ค่ะ” ฉันไม่รู้จริง ๆ เพราะไม่ได้มีหน้าที่ซักผ้า ฉันแค่รับเสื้อผ้าจากร้านซักรีดมาเก็บใส่ตู้ให้เขาก็แค่นั้น
“ถ้างั้นมีตัวไหนบ้างที่รับมาพร้อมกัน ไปเก็บมาทิ้งขยะเดี๋ยวนี้”
“โหคุณเพลิง จะรังเกียจอะไรขนาดนั้นคะ” ฉันเผลอใช้น้ำเสียงแขวะนิดหน่อย
“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้าที่ซักรวมกับคนอื่น ก่อนส่งซักให้เอาเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของฉันทิ้งไป เคยบอกแล้วมีสมองก็จำบ้างสิวะ”
“ถ้างั้นทำไมไม่ให้เอาผู้ปูที่นอนทิ้งทุกวันไปเลยล่ะคะ มีคนมานอนด้วยทุกคืนไม่เห็นจะรังเกียจเลย ย้อนแย้ง”
“อย่ามาเถียง!”
“...” เหอะ! ฉันหุบปากตามที่เขาสั่งว่า อย่ามาเถียง! แต่ก็ไม่วายแอบเบ้ปากจนคุณเพลิงเส้นเลือดกระตุกอีกรอบ
“เธอแม่ง...”
“...” เขาชี้หน้า ท่าทางเข่นเขี้ยวเหมือนอยากด่า ขยับมือเตรียมชี้หน้าด่าด้วยแต่สุดท้ายก็ลดมือลงแล้วยืนท้าวสะเอว
“รีบไปเก็บเสื้อผ้าออกมาทั้งหมดแล้วไปทำกับข้าวไป”
“ทำอยู่ค่ะแต่คุณเพลิงเรียกให้มะ...กรี๊ด!!!!!” ฉันนึกอะไรขึ้นได้ก็กรี๊ดออกมาลั่นห้องพร้อมกับขาของตัวเองที่วิ่งสับกลับไปที่เดิมในวินาทีแรกที่นึกอะไรขึ้นได้!
กลิ่น! ตอนแรกไม่ได้กลิ่นแต่พอนึกได้กลิ่นก็ลอยคละคลุ้งมาเลย!
ตึง ๆๆๆ
“ซวย! ซวยแน่ ๆ ซ๊วย!!!”
ฉันวิ่งไปที่ครัวหน้าตื่น วิ่งจนเกิดเสียงดังแล้วก็มีเสียงคนวิ่งตามหลังมาด้วย พอถึงครัวเท่านั้นแหละขาที่เคยวิ่งสับเหมือนนักวิ่งเคนย่าก็หยุดกึกเป็นหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซทันที!
“กรี๊ด!!!! ทำยังไงดี ๆๆๆ” ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยสภาพที่นิ่งอึ้งประมาณ 999,999 ไมโครวินาที! แล้วก็กระโดดโลดเต้นมือก็สะบัดไปสะบัดมาเพราะทำอะไรไม่ถูกแล้วโว๊ย!!!
“เชี่ย! ทำห่าอะไรของเธอวะ!” เสียงข้างหลังดังลั่นฉันเลยหันไปมอง
“ก็ทำกับข้าวไงคุณเพลิง!”
“อ่าส์! มันใช่เวลามาเถียงไหมยัยบ้านนอก!” เขาตะโกนด่าแล้วก็วิ่งผ่านหน้าฉันไปแล้วก็จัดการพุ่งไปปิดแก๊สทันที
“อ๊าส์! / กรี๊ด! คุณเพลิงระวัง!” ฉันร้องประสานเสียงกับเขา เสียงกรี๊ดที่แหลมเพราะตกใจกับเสียงทุ้มใหญ่ที่ร้องเพราะมือเขาน่าจะโดนเปลวไปดังไปลั่นห้องก่อนที่เขาจะทนความเจ็บ (มั้ง) แล้วเอื้อมมือฝ่าความร้อนไปปิดแก๊สต่อจนสำเร็จ
พรึ่บ!
“...ฟู่ว์~ แค่ก ๆๆ” ไฟจากเตาแก๊สที่กำลังลุกท่วมกระทะดับลงเหมือนถูกกลืนหายลงไปในเตาทำให้ฉันพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งแต่ควันมันก็โขมงออกมาจนสำลักควัน
“...”
“แค่ก ๆๆ อะ...อะไรคะ พรีม...พรีมไม่ได้ตั้งใจนะคุณเพลิง” ฉันสำลักเอาเป็นเอาตายแต่อีกคนไม่มีอาการเหมือนกันเลยสักนิด เขาเอาแต่จ้องมาที่ฉันทำให้อาการสำลักหายไปในบัดดลคล้ายคนโดนจี้เอวตอนสะอึก พอเห็นหน้าเขาที่น่าจะร้อนกว่าที่ลุกไหม้กระทะเมื่อกี้ฉันก็รีบหุบปากที่เอาแต่ไอเพราะสำลักแล้วก็เอ่ยอะไรออกมาบ้างทันทีเพื่อให้เขารู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจะวางเพลิงครัวของเขา...อีกแล้ว
“ไม่ได้ตั้งใจ? หึ! ก็ไม่ได้ตั้งใจตลอดนั่นแหละ...ไม่ได้ตั้งใจสร้างความฉิบหาย!”
“ก็... / หุบปาก! ฉันแม่งไม่น่าเอาเธอมาอยู่ด้วยเลยว่ะ เถียงเก่ง ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เก่งที่สุดก็คือสร้างความฉิบหาย! แม่งเอ๊ย! เมื่อไหร่จะไปให้พ้น ๆ จากฉันสักทีวะ!”