ตอนที่ 8
เย็นนั้นพรานอ่องกับนายกล้าผู้นำหมู่บ้าน ที่ออกไปล่าสัตว์ด้วยกันเมื่อตอนกลางวัน ทั้งสองก็ได้หมูป่ามากันคนละหนึ่งตัว ก่อนจะนำมันมาให้กลุ่มสตรีในหมู่บ้านที่เป็นแม่ครัว ช่วยกันปรุงเป็นอาหารมื้อค่ำ และถือโอกาสชวนราเชนทร์กับพรรคพวกให้มานั่งทานด้วยกัน
“ถือว่าเป็นการเลี้ยงต้อนรับก็แล้วกันนะ หมู่บ้านของข้า ก็หาของดีที่สุดได้เท่านี้แหละ” นายกล้าผู้นำหมู่บ้านเอ่ยขึ้น เมื่อทั้งสามมานั่งร่วมโต๊ะอาหาร
“ขอบคุณครับท่านผู้นำ ที่มีน้ำใจกับพวกผมนะครับ” ราเชนทร์เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณ ก่อนที่ทั้งสามคนจะยกมือไหว้เป็นการขอบคุณการต้อนรับเป็นอย่างดีจากผู้ใหญ่บ้าน หรือที่พรานอ่องชอบบอกกับพวกตนว่า นายกล้าคือผู้นำหมู่บ้าน
นาน ๆ ที่หมู่บ้านแห่งนี้จะมีการเลี้ยงฉลองต้อนรับที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้สักครั้ง และในหมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังมีการต้มเหล้ากินกันเองอีกด้วย นายกล้าสั่งให้กลุ่มผู้หญิงในหมู่บ้านหลายคน มาช่วยกันทำอาหารและยกมาเสิร์ฟให้แขกทั้งสามคน
ปุณญาดานั่งติดกับไตรทศ ถัดมาเป็นราเชนทร์ ส่วนฝั่งตรงกันข้ามเป็นนายกล้าและพรานอ่อง ทั้งหมดมานั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะซึ่งทำมาจากท่อนไม้ใหญ่ผ่าครึ่งตามแนวยาวทรงครึ่งวงกลม ขาด้านล่างเป็นไม้ 4 ขา บริเวณแห่งนี้นายกล้าบอกว่าเป็นที่ประชุมและเอาไว้จัดงานตามประเพณีในหมู่บ้าน นายกล้าเอ่ยขอโทษไตรทศที่ไม่สามารถให้เขาอยู่บ้านหลังเดียวกับแฟนสาวได้ โดยอ้างว่าจะเกิดอาเพศ ซึ่งราเชนทร์ที่ฟังอยู่ก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าไหร่ จึงเอ่ยถามนายกล้าตรง ๆ
“ผมขอถามท่านผู้นำ สักข้อได้มั้ยครับ”
“ได้สิ ถามมาเลย ถ้าข้าตอบได้ข้าก็จะตอบ” เขายิ้มกว้าง ก่อนจะยิงคำถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ทำไมที่หมู่บ้านนี้ถึงไม่มีผู้ชายเลยละครับ” นายกล้าถอนหายใจออกมา และทำท่าทีไม่พอใจที่ถูกถามเรื่องนี้ ก่อนจะยอมเอ่ยปากเล่า
“อื้ม...อันที่จริงมันก็เคยมีอยู่แล้วล่ะ แต่บังเอิญว่าเมื่อสองปีก่อน หมู่บ้านของข้าเกิดโรคระบาดขึ้นมา พวกผู้ชายในหมู่บ้านไหลตายกันหมด ก็อย่างที่ข้าบอกนั่นแหละ เป็นเพราะมันเกิดอาเพศ ในตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่..แล้วมาทำบัดสีกันกลางวันแสก ๆ” นายกล้าอ้างถึงความเชื่อ และพรานอ่องก็พูดเสริมด้วยว่ามันเป็นกฎของที่นี่ ผู้ชายที่จะนอนกับผู้หญิงต้องทำพิธีส่งตัวเสียก่อน ราเชนทร์ไม่ลบหลู่ ก่อนจะถามถึงแนวทางการรักษา
“แล้วไม่มีใครไปตามหมอเข้ามารักษาหรือพิสูจน์การตายเลยเหรอครับ” ราเชนทร์ถามต่อไปอีก
“บ้านป่าอย่างนี้จะไปมีหมอ มีตำรวจที่ไหนเข้ามากันล่ะครับ...คุณราเชนทร์” พร่านอ่องช่วยตอบ เพราะเห็นพี่ชายเริ่มไม่พอใจที่ราเชนทร์ถามซอกแซกและกลัวจะทำเสียแผนขึ้นมา
“ถ้าจะไปโรงพยาบาลก็ต้องหามกันไปที่อำเภอนู่น” พรานอ่องเหมือนตอบได้ดี ราเชนทร์จึงจะถามเขาแทน แต่บังเอิญว่ากระแตเดินเอาอาหารเข้ามาเสิร์ฟพอดี ก่อนที่เด็กสาวจะส่งสายตาเหมือนเป็นการห้ามราเชนทร์ เขาจึงไม่กล้าถามต่อ ไตรทศจึงถือโอกาสพูดขึ้นบ้าง
“เอ่อ ญาดา คุณถามพ่อผู้ใหญ่ไปสิ ว่าไอ้กล้วยไม้ที่คุณอยากได้น่ะ มันอยู่ตรงไหนของหมู่บ้านหินศิลากันแน่”
“กล้วยไม้อะไรเหรอครับ คุณญาดา” พรานอ่องถามขึ้น
“กล้วยไม้มณีแดงค่ะ พอดีญาดาต้องการเอาไปสกัดเป็นตัวยา” หลังจากทุกคนทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว แก้วเหล้าไม้ไผ่ก็ถูกเทเหล้าลงไปแล้วนำมาเสิร์ฟทันที ไตรทศกำลังจะยกขึ้นดื่มแต่ก็ไม่กล้า...เพราะกลิ่นมันฉุนกึก!