สำหรับหลี่จงหยางที่มีระดับพลังลมปราณอยู่ที่ระดับทอง ไม่แน่อาจจะขึ้นถึง ระดับเพชร ได้ พลังและความสามารถขนาดนี้ ในเมืองฟูฟงจะมีใครเทียบเคียงได้
กล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของเม็ดยานี้ มือของเสนาบดีหลี่จงหยางสั่นเล็กน้อย พอเปิดกล่องยาออก แค่ได้สูดดมกลิ่นก็ทำให้ผู้คนสดชื่นขึ้น นับเป็นโชคดียิ่งนักที่ได้มางานเลี้ยงวันนี้ จึงได้มีโอกาสเห็นยาในตำนาน ยาอายุวัฒนะ นานแล้วที่ไม่มีผู้สามารถปรุงออกมาได้
เพราะ ยาอายุวัฒนะ ความยากไม่ใช่การหาส่วนผสมแต่หมายถึง ผู้ปรุงยา จะต้องเป็นผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ในการใช้วัตถุดิบให้พอเหมาะเหมาะสมถึงจะทำให้ ยาออกฤทธิ์ได้อยากเต็มที่
ด้วยความพิเศษของยาทำให้หลายคนเริ่มเกิดข้อกังขา ว่าตัวยาจะมีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ได้หรือไม่
เสียงกระซิบแผ่วเบา แม้จะพยายามเบาเสียงแค่ไหนแต่เสนาบดีหลี่จงหยางย่อมได้ยินแน่นอน เขาจึงอดมองลูกสาวคนโตนี้ไม่ได้ ความสามารถของบุตรสาวคนนี้ไม่ใช่เขาไม่รู้ หลายปีที่ผ่านมาเริ่มให้ความสนใจกับการปรุงยา แต่ความสามารถถึงขั้นปรุงยาอายุวัฒนะ ย่อมเหนือความคาดหมายไปมากทีเดียว
แต่ตัวยาที่มีส่วนผสมของบัวหิมะ ย่อมไม่ใช่ตัวยาที่เลว เพียงแค่คุณสมบัติอาจจะไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะได้
สำหรับฮูหยินหลี่ จะปรามาสลูกเลี้ยงต่อหน้าผู้คนย่อมไม่ใช่ นางไม่ได้โง่เขลาขนาดนั้น การเป็นแม่เลี้ยงที่ดีนางรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร
“นายท่าน ยาอายุวัฒนะ เม็ดนี้ถ้าให้คุณหนูทานไม่แน่อาจจะ …”
ไม่ทันทีฮูหยินจะกล่าวจบหลี่จงหยางก็หันหน้ามาชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
“เป็นข้าน้อย…ที่ปากมากเอง”
ฮูหยินหลี่รีบหยุดกล่าวต่อ แค่นี้ก็พอให้ผู้คนคิดต่อได้ พอคนได้ยินคำกล่าวของฮูหยินหลี่ก็ย่อมใคร่คิดได้ว่า ในเมื่อตัวยานี้ดีขนาดนี้ ถ้าให้คุณหนูหลี่จือหยาทานย่อมอาจจะทำนางสามารถฝึกพลังลมปราณได้ แน่นอนว่าหลี่จงหยางก็ย่อมคิดได้เช่นกัน แต่ถ้าทานแล้วไม่ได้ผล ไม่ใช่ยิ่งตอบย้ำความไร้ค่าลูกสาวของตนคนนี้หรอกหรือ
แม้สีหน้าของฮูหยินจะเต็มไปด้วยความเมตตา แต่ภายใจกลับสะใจยิ่งนัก อยากอวดเก่งดีหนัก เป็นการยกหินในเท้าตัวเองโดยแท้ ถ้านางไม่เสนอหน้าออกมาวันนี้เหตุการณ์วันนี้ย่อมไม่เกิดขึ้น แต่ดีเหมือนกันนางจะได้ลดแรงลงไปบ้าง ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกหลายปีก่อนที่หลี่จือหยาจะได้แต่งออกไป ช่วงนี้นางจะค่อยๆ ทำให้เสื่อมเสียจนกระทั่งถูกถอนหมั้นเอง
ในขณะที่ผู้คนมีความคิดที่หลากหลายและหลี่เจิ้น กำลังจะเอ่ยวาจา
หลี่จือหยาก้มหน้าเงียบมาตลอดเพื่อรอจังหวะจึงได้กล่าวขึ้น
“เป็นลูกที่อกตัญญู ทำให้ท่านพ่อกังวลใจ ลูกได้บัวหิมะมา 4 ดอกได้ทดลองปรุงยาอายุวัฒนะนี้ขึ้นมา ทั้งหมด 4 เม็ดเพื่อความมั่นใจลูกจึงได้ทดลองทานยาตัวนี้ด้วยตัวลูกเอง ลูกทราบรู้ตัวว่าดีว่าตัวเองช่างไร้ค่านัก จึงทานยาเม็ดนี้ไม่ได้กังวลอะไร และความพยายามของลูกก็ไม่ทำให้ลูกผิดหวัง ท่านพ่อดูสิเจ้าคะ ลูกมีรูปร่างหน้าเปลี่ยนไปหรือไม่”
จริงอย่างที่หลี่จือหยากล่าว กล่าวถึงรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณของหลี่จือหยาเปลี่ยนไปดูงดงามขึ้นจริงๆ
“และที่ทำให้ลูกดีใจกว่าทุกอย่าง หลายวันมานี้ลูกได้พยายามฝึกฝนพลังลมปราณ จนสามารถขึ้นไปถึง ระดับเงินได้แล้วเจ้าค่ะ เป็นเพราะบารมีของท่านพ่อของท่านย่า ท่านปูและของบรรพบุรุษที่ไม่ทอดทิ้งลูกหลาน ทำให้ลูกมีวันนี้ได้”
กล่าวเสร็จหลี่จือหยาก็คำนับให้กับเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเต็มพิธีการ
ฮูหยินหลี่ในใจตกตะลึงอย่างยิ่ง เป็นไปได้อย่างไร หลี่เจินเจินมือที่กุมอยู่ในแขนเสื้อเล็บจิกเข้าไปในมือจนมีเลือดออกแต่ดูเหมือนนางจะไม่รู้สึกอะไร ส่วนหลี่จงหยางดีใจเป็นที่สุด
“นี้ไม่ใช่เจ้าฝึกเพียงไม่กี่วันก็ขึ้นระดับใช่หรือไม่ ลูกพ่อเจ้าเลื่อนขั้นรวดเร็วเช่นนี้ ช่างเป็นอัจฉริยะโดยแท้”
“เพราะพวกเราเป็นลูกท่านพ่อ ความสามารถย่อมได้จากท่านพ่อถ่ายทอดมาให้”
หลี่เจิ้น กล่าวเสริมความมงคลเอาใจหลี่จงหยางมากยิ่งขึ้น
“ในเมื่อยาเม็ดนี้เป็นยาอายุวัฒนะจริงๆ เช่นนั้น การทานยาอายุวัฒนะในวันเกิดของท่านเสนาบดีหลี่จงหยาง ย่อมเป็นสิริมงคลยิ่งนัก”
แขกในงานเริ่มกล่าวเสริม เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง พวกเขาก็อยากเห็นผลของตัวยานี้เช่นกัน หากมีคนสามารถปรุงยาอายุวัฒนะได้ พวกเขาก็จะสามารถเพิ่มขั้นระดับพลังลมปราณและยืนอายุไขได้หลายสิบปีเลยทีเดียว
เมื่อทุกคนกล่าวเสริมกันและยกย่อ หลี่จงหยาง ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ จึงได้ทานยาลงไป
เมื่อแรกกลืนตัวยาลงไป หลี่จงหยาง รู้สึกได้ถึงความเบาสบาย เขาจึงรีบนั่งปรับพลังลมปราณ สักพักเริ่มมีหมอกขาวจางๆ ก่อตัวรอบตัว สิ่งเหล่านี้หลายคนย่อมรู้ดีว่าหลี่ตงกำลังทะลวงเพิ่มระดับขั้นลมปราณ
พลังลมปราณเดิมของหลี่จงที่เป็นสีทองค่อยๆ ปรับสีเปร่งประกายเป็นเพชรสว่างไสว แสบตาผู้คนยิ่งนัก หลายคนเริ่มอิจฉาหลี่ตงที่มีบุตรประเสริฐและกตัญญูยิ่งนัก
ด้วยตระกลูหลี่เป็นตระกลูที่สืบเชื้อสายจากเผ่าพันธุ์หงส์ เมื่อมีคนในตระกลูสามารถฝึกพลังลมปราณจนถึงขั้นระดับเพชรได้ หงส์ทองย่อมปรากฏกาย บินขึ้นมาจากหุบเขาตระกลูหลี่บินวนรอบบนนภาเหนือบริเวณตระกลูหลี่หลายสิบตัว มายินดีกับผู้นำของตระกูลหลี่
“เป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง”
ผู้คนต่างตกตะลึง นานแล้วที่ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตำนานมาช้านานผู้คนเริ่มคิดว่าเป็นเพียงนิทานที่เล่าขานให้แต่ลูกหลานแต่ละตระกูลฟังเท่านั้น หลายคนที่มาร่วมงานต่างดีใจที่มีโอกาสได้พบเจอเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าเรื่องราวในวันนี้ย่อมเป็นที่กล่าวขานไปอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว
เมื่อแสงสว่างเริ่มจางลงแสดงว่าเสนาบดีหลี่จงหยางพลังปราณถึงระดับเพชรเรียบร้อยแล้ว เมื่อมองเห็นเสนาบดีหลี่จงหยางชัดเจน กลับเป็นหลี่จงหยางเมื่อยังเป็นผู้เยาว์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว
“ท่านพ่อ ท่าน!! …ตอนที่ลูกเกิดท่านหล่อเหลา เช่นนี้ใช่หรือไหมเจ้าคะ”
เสียงหลี่จือหยาสิ้นลง เสียงฮื้อฮาของผู้คนก็ดังขึ้น
เสนาบดีหลี่จงหยาง ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เขามองดูมือที่เคยหยาบกระด้างเล็กน้อย ตอนนี้กลับดูเรียบเนียนคล้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ความปิติยินดีในตาปิดไม่มิด ยังไม่ทันได้ได้กล่าววาจาอะไร เขาก็มองเห็นหงส์ทองผู้นำฝูงหงส์ยืนเด่นเป็นสง่างามทรงอำนาจ ตรงกลางลาน เขาได้ยินที่หงส์ตนนั้นกล่าวเพียงผู้เดียว
“ในเมื่อเจ้าสามารถฝึกฝนตนเองได้ถึงระดับเพชรได้ ข้าจึงได้นำหงส์มาให้เจ้าเลือกเพื่อทำสัญญาเป็นสัตว์อสูรคู่กาย หงส์ตัวนี้จะอยู่ข้างกายเจ้าจนจวบ เจ้าหมดสิ้นอายุไขก็จะตายไปพร้อมกัน”
หลี่จงหยาง ค่อยๆ มองไปยังหงส์แต่ละตัว สบตาไปทีละตัวในที่สุดเขาก็ได้สบตาหงส์ตัวที่ถูกชะตา พอในใจเลือกได้ หงส์ตัวนั้นก็ลดขนาดเป็นหงส์ตัวเล็กๆ บินมาอยู่ข้างกายเขา จากนั้นฝูงหงส์เหล่านั้นก็บินกลับหุบเขาทันที
หลี่จงหยาง ยินดีอย่างเป็นที่สุดเขาหันไปคำนับไปทางศาลบรรพบุรุษและหันกลับมาคำนับฮูหยินและนายท่านผู้เฒ่า
“ยินดีกับนายท่านเสนาบดีหลี่"
เสียงกระหึ่มยินดี เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ ท่านหลี่กล่าวขอบคุณแขกในงานด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มยินดี
“ท่านพ่อเหลือยาอีก 2 เม็ด ลูกมอบให้ท่านพ่อเจ้าค่ะ”
ยังเหลืออีก 2 เม็ด !! ผู้คนเริ่มมีความคิดแตกต่างกัน ว่าหลี่จงหยางจะมอบให้ใครหรือไม่ หรือจะมอบให้ฮ่องเต้เพื่อเอาความดีความชอบ ไม่ทันให้ผู้คนได้คิดไปไกล
หลี่จงหยาง ก็กล่าว
“ยาอีก 2 เม็ดนี้ ลูกขอมอบให้ท่านพ่อกับท่านแม่ อย่างที่จือหยากล่าว เพราะบารมีของท่านพ่อของท่านแม่และของบรรพบุรุษที่ไม่ทอดทิ้งลูกหลาน ทำให้ลูกมีวันนี้ได้”
หลี่จงหยาง ย่อมไม่มอบให้ฮ่องเต้แน่นอน ตระกูลเขายิ่งใหญ่ขนาดนี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอาใจฮ่องเต้เลย
หลายคนในงานเลี้ยงวันนี้ ย่อมมีแต่ความอิจฉา แต่สำหรับคนจากตระกูลเซียว กลับยินดียิ่งนักเพราะหลี่จือหยามีสัญญาหมั้นหมายกับคุณชายเซียวหลีหยวน
ถ้าสามารถหาบัวหิมะมาใหม่ได้ ย่อมสามารถปรุงยาขึ้นมาใหม่ได้ วันเวลายังอีกยาวไกล อายุของทั้งสองยังน้อยนัก ฮูหยินเซียวคิดแผนการในใจ เมื่อตอนที่หลี่จือหยาไร้ค่าตระกลูเขาก็ไม่ได้กล่าวคำว่าถอนหมั้นแต่อย่างไร เมื่อถึงเวลานี้ ถ้าพูดถึงวันแต่งย่อมเหมาะสมเพราะไม่กี่เดือนก็จะถึงวันปักปิ่นของหลี่จือหยาแล้ว
ตงซิงหยวนย่อมได้รับเทียบเชิญงานนี้ เขาเองก็รู้สึกอิจฉาหลี่จงหยาง เช่นกัน ยาเม็ดนั้นถ้าเขาได้ทานต้องทำให้เขาหล่อเหล่ารูปงามกว่านี้แน่นอน
“คุณชายขอรับ” อู่หงองค์รักษ์ข้างกายของตงซิงหยวน กระซิบกล่าวต่อ
“วันนั้น บ่าวเห็นคุณหนูหลี่จือหยาที่หอชิงหยวน ชุดที่ใส่เป็นชุดบ่าวรับใช้เช่นเดียวกับหญิงสาวผู้นั้นขอรับ”